娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 103 เมาเหล้า
ฟังจากในโทรศัพท์แล้วก็รู้ได้ว่าน้ำเสียงของเจียงเซ่อเริ่มไม่ปกติเสียแล้ว ที่จริงเผยอี้ตัดสินใจว่าจะรอเธออยู่ข้างนอก แต่เห็นท่าแบบนี้แล้วเข้าไปหาเธอเลยจะดีกว่า
ตอนที่เขาเข้าไป ทั้งพนักงานของจิ่วหลงถางและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยต่างก็จำเขาได้ทั้งนั้น
คนอย่างเผยอี้น่ะ แค่อยากรู้ว่าเจียงเซ่อกับเพื่อนๆ ของเธออยู่ห้องไหน เรื่องแค่นี้ก็เหมือนกับปลอกกล้วยเข้าปาก ตอนที่เขาเดินมาถึงห้องที่เจียงเซ่ออยู่ พนักงานก็รีบเปิดประตูห้องให้เขาอย่างนอบน้อม เด็กสาวสองสามคนที่กำลังร้องเล่นเต้นรำอยู่บนโซฟา ส่วนเจียงเซ่อกลับนั่งคุกเข่าอยู่อีกมุมของเก้าอี้ เหมือนกับกำลังหาอะไรบางอย่าง
ตอนที่เผยอี้เข้าไป เด็กสาวที่อยู่ข้างในต่างพากันชะงักนิ่ง พอเห็นว่าจู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามามากมายก็รีบหยุดทุกอย่างลงทันที
ขวดเหล้าที่อยู่บนโต๊ะถูกเปิดไปไม่น้อยเลย และเค้กอีกก้อนหนึ่งที่ถูกตัดกินไปแล้วครึ่งหนึ่ง ทันทีที่เผยอี้เห็นเจียงเซ่อ สายตาของเขาก็ไม่หันไปมองทางไหนอีกเลย
เขาเดินเข้าไปหาเจียงเซ่อโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยด้วยซ้ำ กระเป๋าของเธอหล่นตกอยู่บนพื้น เผยอี้ก้มตัวลงหยิบกระเป๋าขึ้นมาก็เห็นเธอกำลังคลำหาบางอย่างด้วยความมึนงง ท่าทางแบบนั้นมันน่ารักน้อยเสียที่ไหนกัน เขายื่นมือไปโอบเธอเข้ามาติดกับแผ่นอกตัวเอง
ร่างกายเธอแทบไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นอ้อมแขนเพียงข้างเดียวที่กำลังโอบเอวของเธอก็ต้องรองรับน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้
ที่จริงยวี๋เสี่ยวโจวกับคนอื่นๆ ก็ดื่มไปไม่น้อยแล้ว แต่ก็ยังมีสภาพที่ดีกว่าเจียงเซ่อแน่นอน พอได้เห็นภาพแบบนั้นตรงหน้า เด็กสาวสองสามคนก็พากันมองหน้าด้วยความช็อคและประหลาดใจ
ช่วงนี้ข่าวลือเกี่ยวกับที่เจียงเซ่อว่ากำลังคุยอยู่กับเผยอี้รุ่นพี่ปีสองในมหาลัยก็ได้ยินมาไม่น้อย แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลย ตอนอยู่ในหอเจียงเซ่อก็ไม่เคยบอกว่ามีแฟนแล้ว
พอตอนนี้ได้มาเห็นเผยอี้โอบเจียงเซ่อขึ้นมา ยวี๋เสี่ยวโจวก็ได้แต่จ้องตาโต ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรเผยอี้ก็พูดขึ้นมา
“ให้พวกเธอสนุกกันไปก่อน แล้วมาเก็บเงินกับฉันแทน ถ้ามันดึกเกินไปก็หาคนไปส่งพวกเธอที่หอในมหา’ลัยอันดับหนึ่งก็พอ”
พนักงานจิ่วหลงถางพากันก้มหัวรับคำ
ที่จริงเฉินยวี่เวยและคนอื่นๆ ก็คิดว่ามันคงเหลือเวลาไม่มากแล้ว แต่พอได้ยินเผยอี้พูดแบบนั้นขึ้นมา เด็กสาวสามคนก็พากันยิ้มชอบใจกันใหญ่
“ขอบคุณมากเลยค่ะพี่เขย!”
เอาจริงๆ ในหอพัก เจียงเซ่ออายุน้อยที่สุด
แต่ตั้งแต่ที่เข้าเรียนมา ทั้งเฉิยยวี่เวยและคนอื่นๆ ต่างก็เคยได้ยินข้อมูลฐานะของเผยอี้มาไม่น้อยแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่เผยอี้กำลังตามจีบเจียงเซ่อ ในเน็ตก็มีคนเริ่มคาดเดาเกี่ยวกับเขาแล้ว สาวๆ ในหอรู้กันทั้งนั้นแหละ ว่าเผยอี้น่ะเกิดมาในพื้นฐานตระกูลที่เพียบพร้อม แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าไปเรียกเขาว่า ‘พี่เขย’ หรอก
เผยอี้พยักหน้า ท่ามกลางห้องที่มีแสงไฟสลัว เขาสังเกตเห็นว่าบนใบหน้าของเธอมีครีมเค้กติดอยู่ เลยยกนิ้วขึ้นเช็ดให้เธอ
“เซ่อเซ่อ พวกเรากลับกันเถอะ”
แววตาของเธอพร่าเลือน คางได้รูปสวยยังมีครีมติดอยู่เลยเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอที่เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลยมันน่ารักมากๆ
“กระเป๋าฉัน” แต่ก็ยังจำได้ว่ามีกระเป๋าด้วย มืออีกข้างของเผยอี้ที่ถือกระเป๋าอยู่ยกขึ้นมาให้ดู
“ฉันเอามาแล้วล่ะ”
เธอตอบกลับเสียงงึมงำ เผยอี้เองก็ก้มลงอุ้มเธอที่นั่งอยู่บนโซฟาขึ้นมา พนักงานจิ่วหลงถางก็รีบเปิดประตูให้เขาได้เดินออกสะดวกอย่างรู้งาน
ตอนที่ไปถึงที่รถ เจียงเซ่อก็เอียงศีรษะนอนพิงกับเบาะรถ คืนนี้ดูท่าว่าจะไม่เป็นไปอย่างที่เผยอี้คิดเอาไว้เสียแล้ว ที่จริงเขาได้จัดเตรียมที่จะฉลองวันเกิดกับเจียงเซ่อ เขาวางแผนเอาไว้ตั้งนาน แต่พอรับคนที่หวังจะเซอร์ไพร์มาแล้ว เธอกลับเมาจนหลับไม่รู้เรื่องเสียได้
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรขนาดนั้น
เขาลดเบาะที่นั่งลง เพื่อที่จะให้เธอได้นอนสบายขึ้นมาหน่อย ในรถที่มีพื้นที่น้อยแต่กลับอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าอ่อนๆ และกลิ่นหอมๆ จากตัวเธออีกด้วย สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เผยอี้รู้สึกเหมือนกำลังโดนชักจูงให้ใจไม่สงบ
เขาไม่ได้รีบร้อนขับรถออกไป แค่นั่งจ้องมองเธอไปเรื่อยๆ แบบนั้น แต่ก่อนเฝิงหนานมีสติและเป็นตัวของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อนที่คบๆ กันส่วนมากก็เป็นพวกผู้หญิงที่มีชาติตระกูล เรื่องแตะแอลกอฮอล์นี่น้อยมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมาเลยด้วยซ้ำ เขาไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะคออ่อนแบบนี้ พอเมาก็กลายเป็นคนนิ่งๆ และเชื่อฟังแบบนี้
ที่จริงตอนนี้เขาควรจะส่งเธอกลับหอ แต่ว่าตอนนี้เจียงเซ่อเมานี่ ดังนั้นเผยอี้จึงทำได้แค่พาเธอกลับไปที่บ้านของตัวเอง
เขาขับรถค่อนข้างเร็ว กลับไปถึงบ้านของเขาก็ประมาณตีสองครึ่งได้
เธอครึ่งหลับครึ่งตื่น แถมยังรู้ด้วยว่าเผยอี้พามาที่บ้านของเขาเอง เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“มาผิดแล้ว……”
เผยอี้ไม่เคยเห็นมีท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นขึ้นมา เลยอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ถ้างั้นต้องไปที่ไหนล่ะ?”
เธอยกมือขึ้น แล้วชี้ไปที่ บ้านพักตากอกาศของ ‘เฝิงหนาน’ “ตรงนั้นไง……”
เผยเลยถือโอกาสเอื้อมมือไปดึงมือเธอมากุมไว้
ตอนนี้ ณ ที่ตรงนั้นคงไปไม่ได้แล้ว เขาเลยจัดการจอดรถให้เรียบร้อย แล้วรีบไปอุ้มเจียงเซ่อลงจากรถ และในรถก็ยังมีเค้กวันเกิดที่เขาเตรียมเอาไว้ให้เธอด้วยซ้ำ แต่เจียงเซ่อเป็นแบบนี้แล้ว คงจะกินมันไม่ได้อีก
เขาอุ้มหญิงสาวขึ้นไปไว้บนเตียงห้องนอนตนเอง เผยอี้เองก็นั่งลงข้างเธอๆ แล้วจับมือเธอเอาไว้
แต่ก่อนเคยจิตนาการถึงภาพแบบนี้ตั้งหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเป็นความจริงแบบนี้
แต่ความรู้สึกแบบนี้มันดีกว่าที่จิตนาการตั้งเยอะ เธอนอนตะแคงอยู่บนเตียง ผมของเธอโดนทับเอาไว้อยู่ครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งก็ตกลงที่ขอบเตียง
เจียงเซ่อดูนอนไม่สบายเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเสื้อคลุมไหมพรมที่เธอสวมอยู่ก็ได้ คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน ขาทั้งสองข้างก็พับเข้ามา ร่างทั้งร่างแทบจะตกเตียงอยู่แล้ว
แต่โชคดีที่เผยอี้ก็อยู่ข้างๆ นี่เอง สองมือของเขาจึงช่วยจับเธอให้นอนดีๆ
ก่อนหน้านี้ที่พาหญิงสาวกลับมาก็ไม่ทันได้รู้สึก แต่พอมาถึงตรงนี้แล้ว ก็เพิ่งนึกได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอก เนื้อตัวของเธอนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกตามประสาผู้หญิง และถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้ากั้นเอาไว้ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความหอมความนุ่มที่ติดมือมา
เขาไม่กล้าที่หันไปมอง ยิ่งกว่านั้นคือไม่กล้าถอดเสื้อผ้าของเธอออก
ความร้อนผะผ่าววิ่งไหลวนอยู่ในร่างกายไปทั่ว เขารู้สึกปากคอแห้งผากไปหมด และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว กระแอมไอออกมาสองทีก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
เขารีบดันร่างบางเข้าไปกลางเตียงอีกหน่อย และก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าบนใบหน้าของเธอยังมีครีมเค้กเลอะเปรอะเปื้อน เขารีบผละออกมาจากตรงนั้น วิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็วักเอาน้ำเย็นขึ้นล้างหน้าตัวเอง ต้องทำแบบนี้เท่านั้นจิตใจถึงจะสงบลงได้
ในตอนที่เผยอี้ถือผ้าหมาดออกมาจากห้องน้ำ เจียงเซ่อก็เริ่มยันตัวเองขึ้นอย่างทุลักทุเล สองขายาวคุกเข่าอยู่บนเตียง ถึงในห้องจะมีแค่แสงไฟสลัวแต่ก็สามารถเห็นผิวขาวราวกับหยกของเธอได้อย่างชัดเจน
ในห้องเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ และคงเพราะร้อนหญิงสาวถึงได้ถอดเสื้อคลุมออกจนเหลือแค่เสื้อไหมพรมตัวในและกางเกงยีนส์ที่ยังอยู่ พอเห็นว่าเป็นเผยอี้ก็ถามขึ้นมา
“เสื้อผ้าของฉันล่ะ?”
เสื้อคลุมของเธอถูกเธอถอดออกและวางไว้บนหัวเตียงอย่างเรียร้อย แต่เธอก็ยังอุตส่าห์หันไปหันมาเพื่อหามัน พอเผยอี้เห็นอย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอยังไม่ได้สติดีด้วยซ้ำ พอกำลังจะพูดอะไร เธอก็ขมวดคิ้วคิดจะลงจากเตียงแล้ว
ร่างทั้งร่างเซไปเซมา เพราะไม่มีแรงพอที่จะยืนให้มั่นคง ถึงแม้ว่าพื้นจะถูกปูด้วยพรมหนาแต่ถ้าล้มลงไปก็คงจะเจ็บเหมือนกัน
เผยอี้รีบเข้าไปหวังจะพยุง แต่เธอก็ดันนั่งลงข้างเตียงแล้วยื่นมือจะถอดกางเกงออกเสียงอย่างนั้น
“อ่า……เซ่อเซ่อ อย่าทำแบบนี้สิ…”
เขารีบเข้าไปห้ามเอาไว้ แต่ตอนนี้เธอกำลังเมา ถ้าพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาเขาก็จะต้องโดนด่าว่าเป็นคนเลวแน่ๆ
แต่คนเมาฟังคำห้ามของเผยอี้เสียที่ไหน พอกระดุมถูกเธอปลดออกก็รูดลงทันที เผยให้เห็นขาอ่อนทั้งสองข้างที่ขาวและดูอ่อนนุ่ม ภายใต้แสงไฟสลัวทำให้ผิวเธอดูเงาวาว