webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

102

บทที่ 102 วันเกิด

 

 

“มีนัดแล้วหรอ?” พอเผยอี้ได้รู้ว่าเจียงเซ่อนัดกับเพื่อนในหอว่าจะทานข้าวด้วยกันในวันเกิดของเธอแล้ว น้ำเสียงของเขาก็หงอยลงทันที “งั้นให้ฉันไปกับพวกเธอได้ไหม?”

“ไม่ได้” เจียงเซ่อตอบแบบไม่คิดด้วยซ้ำ “เพื่อนๆ ของฉันยังไม่มีแฟนกันทั้งนั้น……”

พอเธอพูดจบก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ เผยอี้ก็ไม่ใช่แฟนของเธอเสียหน่อย พอเธอจะอธิบาย เผยอี้ก็กลับเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายในประโยคนั้นของเธอ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ เหมือนว่ากำลังระงับความลิงโลดของตัวเองอยู่

“ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันพาอาต้านกับพวกหรูหนิงไปด้วยไหมล่ะ?”

รูมเมทของเธอทั้งสามต่างก็ยังเป็นเด็กสาวแสนบริสุทธิ์ทั้งนั้น จะไปเหมาะกับพวกเนี่ยต้านพวกเฉิงหรูหนิงได้ยังไงกัน? เจียงเซ่อกำมือถือแล้วตอบปฏิเสธออกไป “ไม่ต้อง นายอย่ามาคิดอะไรเพ้อเจ้อนะ”

“ก็ได้” แล้วเขาก็หงอยลงไปอีก แต่ก็ยังถามต่อ

“แล้วพวกเธอเสร็จกันกี่โมง? ให้ฉันไปรับเธอดีไหม?”

เจียงเซ่อขบริมฝีปากตัวเอง ไม่พูดอะไรออกไป

ถ้ายึดตามวันเกิดของเฉาซวงในวันนั้น เธอก็นัดเอาไว้ตอนวันศุกร์ดึกๆ กว่าสาวๆ จะออกจากหอไปถึงที่จิ่วหลงถางก็ปาเข้าไปประมานห้าทุ่มแล้ว จากนั้นก็สังสรรค์นั่งเล่นกันจนถึงตีหนึ่งตีสอง

ตอนนั้นก็ถือว่าใกล้เช้ามืดแล้ว ถ้าเผยอี้มารับเธอ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแค่มารับเธอกลับหอแน่ๆ

แล้วเวลาดึกๆ แบบนั้น ทั้งสองคนจะไปไหนกันล่ะ?

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ตอนที่เผยอี้ยังไม่ได้เปิดเผยความในใจของตัวเองออกมา เจียงเซ่อก็คงไม่ยิ่งคิดเยอะแบบนี้หรอก ถ้าเขาบอกว่าจะออกมารับเธอ ก็ควรจะเป็นไปได้ที่จะตอบตกลง

แต่ตอนนี้ความในใจของเขามันแสดงออกผ่านสีหน้าเสียจนมองออกหมดแล้ว ไม่มีท่าทีที่จะปกปิดกันสักนิด เจียงเซ่อก็เลยต้องมาลังเลแบบนี้ไง

“ไว้ตอนกลางวันไม่ได้เหรอ?” เธอถามออกไป แต่เผยอี้ก็กลับตอบเธอกลับมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

“เซ่อเซ่อ เธอจะไปฉลองวันเกิดกับรูมเมทก็ได้ ฉันก็แค่หวังว่า ฉันจะเป็นคนแรกที่ได้อวยพรวันเกิดให้เธอ นอกจากเพื่อนรูมเมทของเธอนะ”

เธอคิดว่าเผยอี้นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย หลังจากก่อนหน้านี้โดนปฏิเสธข้อเสนอไปถึงสองข้อ ตอนนี้เขาก็มาทำเป็นร้องขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วแบบนี้เธอจะกล้าปฏิเสธเขาได้ไงกัน?

“งั้นก็ได้” เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ตอนนี้มันคิดหาข้ออ้างไม่ได้เลย สุดท้ายก็ได้แต่จำใจตอบตกลงไป

พอวางสายไปเธอก็เกิดรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ แต่เผยอี้นี่สิ หลังจากที่ได้ยินเสียงตัดสายไปก็เอาแต่จูบลงบนมือถือหลายทีและเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง

ในวันศุกร์ที่เธอไปเรียน เจียงเซ่อก็พบว่าบนโต๊ะเรียนที่ประจำของเธอในตอนนี้ เต็มไปด้วยกล่องของขวัญมากมายที่ตั้งกองกันเอาไว้

ความรู้สึกแบบนี้มันช่างแปลกประหลาดจริงๆ บนกล่องของขวัญเหล่านั้นยังเขียนเอาไว้อีกด้วยว่าสุขสันต์วันเกิด

เพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกันเป็นเด็กสาวสวมแว่นและไว้หน้าม้าคนหนึ่ง หล่อนค่อยๆ หันหน้ามาหา แล้วพูดทักทายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดกังวล

“เจียงเซ่อ จะถึงวันเกิดเธอแล้วใช่ไหม?”

ถึงแม้ว่าจะเปิดเรียนมาได้สักระยะแล้ว แต่เวลาที่เจียงเซ่อเข้าเรียนเธอก็ตั้งใจมากๆ ไม่ค่อยจะเห็นเธอใจลอยไปไหนเลย อีกทั้งเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบสุงสิงกับใคร เลยทำให้เด็กสาวที่นั่งโต๊ะเดียวกันไม่ค่อยกล้าทักทายปราศรัยกับเธอนัก

เจียงเซ่อหันไปพยักหน้าให้หล่อน แล้วยิ้มขึ้น

“ทำไมทุกคนถึงได้รู้กันหมดล่ะ?”

การตอบรับของเธอถือเป็นการปลอบขวัญเด็กสาวที่กำลังตื่นเต้นไม่น้อย เด็กสาวคนนั้นโล่งอก และพูดต่ออย่างเขินอาย

“เห็นในเว็บบอร์ดบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธอไม่ได้เข้าไปดูในเว็บบอร์ดเหรอ?”

ดีที่ท่าทีของเจียงเซ่อไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เด็กสาวคิดเอาไว้ ความกล้าของเธอก็เลยค่อยๆ เผยออกมา จึงถามขึ้นอีก

เจียงเซ่อส่ายหน้าแล้วยกมือถือขึ้นมาโบก

“มือถือของฉันมันเป็นรุ่นเก่า ความสามารถของมันก็ธรรมดาๆ ทำได้แค่โทรเข้าโทรออกรับส่งข้อความสั้นๆ เท่านั้นเอง เปิดอินเทอร์เน็ตไม่ได้หรอก”

นักศึกษาที่อยู่รอบๆ เองก็แอบฟังทั้งสองคนคุยกัน พอเห็นว่าเด็กสาวคนนั้นเริ่มพูดคุยกับเจียงเซ่อแล้ว ก็เริ่มพากันเดินเข้ามาล้อมกัน

“ถึงว่าทำไมเคยเห็นเธอในเว็บบอร์ดเลยเนอะ”

“เพราะในมหา’ลัยก็ไม่มีคอมพิวเตอร์ด้วย”

หลายคนเริ่มเห็นแล้วว่าเจียงเซ่อไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างที่พวกแฟนคลับของโจวหยิงพูดเอาไว้ในเว็บบอร์ด ถึงแม้ว่าเธอจะดูเป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ดูนิ่งๆ แบบนั้น แต่เธอก็เป็นคนที่มีมารยาทมากๆ พอแต่ละคนเข้าไปพูด ‘สุขสันต์วันเกิด’ เธอก็ไล่ก้มขอบคุณทุกคนเลยด้วยซ้ำ

นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คน เลยทำให้มีคนล้อมเข้าไปเยอะกว่าเดิมอีก

ในตอนที่ศาสตราจารย์เดินกอดเอกสารการเรียนการสอนเข้ามา นักศึกษาส่วนมากก็ยังพากันยืนล้อมเจียงเซ่ออยู่แบบนั้น และพากันพูดว่า ‘สุขสันต์วันครอบรอบอายุสิบแปดปีนะ’

ศาสตราจารย์เคาะโต๊ะรอบแรก นักศึกษาบางคนก็ยังไม่ได้ทันรู้สึกตัว จนกระทั่งเคาะลงอีกรอบ และรอบนี้ศาสตราจารย์ก็เคาะดังขึ้นด้วย ทุกคนถึงได้ค่อยๆ กลับที่ตัวเองไป

“สุขสันต์วันเกิดนะเจียงเซ่อ” พอเห็นว่านักศึกษาพากันกลับไปนั่งที่หมดแล้ว ศาสตราจารย์ก็ดันแว่นที่หล่นลงมาอยู่ตรงปลายจมูกขึ้น พร้อมกับพูดต่อด้วยอารมณ์ขัน

“ฉันเองก็ตามกระแสพวกนักเรียนเหมือนกันน่า”

ศาสตราจารย์เพิ่งจะพูดจบไป เด็กสาวคนหนึ่งก็หันหน้ามามองเจียงเซ่อ ปากหล่อนขยับพูดออกมาเสียงดัง

“หนูคิดว่าการที่กระแสแบบนี้ในมหา’ลัยแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ”

คำพูดของหล่อนดึงดูดคนทั้งห้องให้ไปมอง เจียงเซ่อเองก็เงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่ามีเด็กสาวสวมเสื้อตัวโคร่งสีดำที่นั่งอยู่ทางด้านเยื้องไปทางขวาของห้องจ้องมาที่เธออยู่

“เพราะตอนนี้ทุกคนจำวันเกิดของนักศึกษาคนหนึ่งได้ดีกว่าวันเกิดของศาสตราจารย์เสียอีก”

แค่ประโยคนั้นประโยคเดียวก็ทำเอาเกือบทั้งห้องมีสีหน้าอึดอัดใจ ศาสตราจารย์ที่ยืนอยู่กลางห้องเรียนเองก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

สายตาของเด็กสาวคนนั้นแฝงไว้ซึ่งเจตนาร้าย เจียงเซ่อเองก็มองไปที่เธอ หล่อนจ้องเธอเขม็ง แสดงสีหน้ายั่วยุเธอ เจียงเซ่อจึงจ้องเธอกลับพร้อมกับรอยยิ้ม

“ในทุกๆ ปีก็มีวันครูบัญญัติไว้ตามกฎหมาย แล้วนั่นไม่ใช่วันเกิดของคุณครูหรือ?”

บรรยากาศที่แสนอึดอัดเมื่อครู่ แค่อึดใจเดียวก็โดนคำพูดของเจียงเซ่อทำลายมันลงไปได้มากเลยทีเดียว คนอื่นๆ ที่โดนเด็กสาวคนนั้นว่าเข้าให้ก็รีบปรบมือขึ้นมาทันที

ศาสตราจารย์ที่ยืนขมวดคิ้วก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้น เด็กสาวคนนั้นกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ในสถานการณ์แบบนี้ตัวหล่อนเองก็รู้แล้วว่าไม่ควรจะพูดอะไรออกไปอีก

เหตุการณ์เล็กๆ นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวิชาการเรียนเลยสักนิด หลังจากที่หมดคาบแล้ว เด็กสาวที่นั่งเรียนโต๊ะเดียวกับเธอก็พูดขึ้นเบาๆ

“คนที่พูดเมื่อกี้คือหานเจียอี๋ ว่ากันว่าเป็นรูมเมทของของโจวหยิงที่อยู่คณะศิลปะศาสตร์ ความสัมพันธ์ของพวกเธอค่อยข้างดีเชียวล่ะ”

คำบอกเล่าของหล่อนทำเอาเจียงเซ่อจะอยากหัวเราะแต่ก็ไม่ได้หัวเราะออกมา

ที่จริงยวี๋เสี่ยวโจวเองก็เคยบอกเธอเอาไว้ตั้งหลายครั้งแล้ว ว่ามีคนชอบเอาเธอไปเปรียบเทียบกับโจวหยิงที่อยู่คณะศิลปะศาสตร์อะไรนั่น แต่ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ได้สนใจมาโดยตลอด เปิดเรียนมาก็นานแล้ว เอาจริงๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือโจวหยิง

หลังจากที่กล่าวขอบคุณกับเพื่อนร่วมโต๊ะไปเรียบร้อย เพราะคืนนี้เธอยังต้องออกไปเที่ยวข้างนอกกับพวกยวี๋เสี่ยวโจว เธอเลยกลับไปนอนเอาแรงเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย

เป็นเพราะว่าการไปจิ่วหลงถางรอบนี้เธอเป็นคนเอ่ยปากว่าจะเลี้ยง รูมเมททั้งสามก็เลยตัดสินใจหารเงินซื้อเค้กมาให้เธอแทนเสียเลย เมื่อตอนเย็นที่เฉินยวี่เวยกับเฉาซวงถือเค้กกลับมาให้เธอนั้น บนโต๊ะหนังสือมันก็แทบจะไม่มีที่วางแล้ว

และเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเจียงเซ่อ แน่นอนว่าคงจะมานั่งเฉยๆ เหมือนตอนวันเกิดเฉาซวงไม่ได้ เธอเลยโดนเด็กสาวสามคนนั้นรินเบียร์ให้ดื่มจนหมดไปเสียหนึ่งขวด และในตอนที่เผยอี้โทรเข้ามาหา ตัวเธอเองก็เริ่มที่จะมึนมึนแล้ว