娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 101 โปรโมต
พอยวี๋เสี่ยวโจวพูดจบก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก หล่อนลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับมองเจียงเซ่ออย่างพิจารณา
“แต่ถ้าเป็นเจียงเซ่อแสดง ก็ดูใกล้เคียงอยู่นะ” พอหล่อนพูดจบก็ดูเริ่มสนใจขึ้นมา “ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง เธอน่ะ เหนือจูพ่านทั้งหมดเลยนะ เทียบกับยัยที่เล่นเป็นผู้หญิงในฝันแล้ว เธอดูดีกว่าตั้งเยอะแน่ะ ถ้าพี่ต้าซิ่งของฉันได้เห็นเธอแล้วรู้สึกหลงใหลล่ะก็ มันก็ยังพอรับได้อยู่”
เจียงเซ่อไม่ได้ตอบอะไรหล่อน ส่วนมือถือเธอก็ยังเปิดหน้าเวยป๋อไว้
ทีมงานได้ลงภาพปกหนังไว้ และภาพแผ่นหลังของเธอก็ค่อนข้างที่จะเด่นออกมาอย่างชัดเจน
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ยวี๋เสี่ยวโจวคิด ทีมงานไม่ได้ทำเพื่อให้ภาพแผ่นหลังของเธอดูสวยขึ้น แต่ในทางกลับกัน เพราะต้องเบลอรูปต่างหาก ที่จริงตอนที่เธอถ่ายหนังก็ถือว่าถ่ายออกมาได้สวยมากๆ แล้ว จากนั้นก็คงใส่เอฟเฟคอะไรอีกนิดหน่อย ก็คงเพื่อที่จะให้ดูเด่นออกมาจากนางเอกพระเอก
แต่ก็แบบนั้นละนะ พวกชาวเน็ตทั้งหลายก็ยังหวังว่าทางทีมงานจะลงรูปอีกหลายๆ รูป
กระต่ายน้อยฟันเหยิน : รูปที่พี่ซิ่งกับพ่านพ่านมองตากันมันทั้งหวานทั้งเศร้าเลยอ่ะ ทีมงาน ’99 Love Letter’ ช่วยลงรูปคู่ของพวกเขาอีกได้ไหมเนี่ย
อยู่แบบเหงาๆ คนเดียว : ในที่สุดก็ได้หญิงสาวในฝันสักที ดูโดยรวมแล้ว เหมือนว่าจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดเอาไว้นะ ทีมงานพอจะมีภาพที่มันชัดกว่านี้ไหมเนี่ย
ฉันขาวมาก : ดูโดยรวมแล้ว เหมือนว่าจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดเอาไว้นะ +1 แต่ว่าก็ขอร้องล่ะทีมงาน ช่วยลงรูปที่ในชัดกว่านี้ให้ดูหน่อยเหอะ
สีหน้าของยวี๋เสี่ยวโจวดูกลุ้มๆ ขึ้นมา
“ฉันน่ะแอบเดาๆ กับคนอื่นเอาไว้ ซวงซวงเองก็เดาไม่ออกว่าคนไหนวงการคนไหนที่รับเล่นบทนี้ ในเน็ตนี้พากันเกาะติดมาก มีข่าวเบื้องหลังหลุดออกมาว่า ตอนที่มีการแคสติ้งตัวละครพวกดาราสาวๆ ก็พากันไปเยอะแยะ ในนั้นมีพวกดาราที่เป็นพวกนางรองแถมหน้าตาก็ดีไปกันหลายคนเลยล่ะ แต่สุดท้ายก็ตัองผิดหวังกลับบ้านไปทุกราย
หล่อนขมวดคิ้ว เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้พูดอะไร ครู่หนึ่งมือถือของหล่อนก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา แค่นั้นหล่อนก็กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม พอหล่อนกดดูแล้วก็หัวเราะขึ้นอย่างดีอกดีใจ
“จ้าวร่างอัพเวยป๋อแล้ว!”
เจียงเซ่อเองก็เอียงหัวไปดู สิ่งที่จ้าวร่างอัพมีเพียงประโยคๆ หนึ่งเท่านั้น : อยากรู้ไหมว่าใครคือหญิงสาวในฝันคนนั้น? ถ้าวันแรกของการฉายหนัง ‘99 Love Letter’ สามารถขายบัตรได้ทะลุร้อยล้าน พวกเราก็จะเฉลยให้!
“อ๊ากกกกกกกกก……”
ยวี๋เสี่ยวโจวตื่นเต้นร้องตะโกนเสียงดัง และการที่จ้าวร่างออกมาโพสเวยป๋อแบบนั้น เสียงตอบรับก็ยิ่งร้อนระอุกว่าเดิมอีก
จะเรื่องไหนก็เอาอยู่ : อยากให้หนังรักทะลุร้อยล้านตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ จ้าวร่างนี่หวังสูงจริงๆ!
แอคเค้าท์ข้างล่างที่ชื่อ จะเรื่องไหนก็เอาอยู่ ได้มีคนมาทิ้งข้อความต่อจากเขาอีกเยอะมาก ดูเหมือนว่าส่วนมากก็จะเห็นด้วยกับเขา
รักเพียงโจวปู้กว้าน : ฮ่าๆๆ หัวเซี่ยน่ะเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุด การที่บัตรหนังจะขายได้ถึงร้อยล้านภายในวันแรกก็ไม่ใช่เรื่องยากซะหน่อย แต่ที่ผู้กำกับจ้าวพูด พิสูจน์ได้ว่าเขามั่นใจกับหญิงสาวในฝันมากเลยนา แล้วถ้าเกิดตอนนั้นเหล่าเพื่อนๆ ชาวเน็ตไม่ซื้อตั๋วไปดูกันจริงๆ คุณไม่กลัวว่าจะเสียชื่อหรือไง?
ประโยคนั้นของเจ้าร่างทำให้ผู้คนต่างสงสัยไม่น้อย แถมยังมีบางคอมเม้นท์ทิ้งเอาไว้ว่า รอให้ถึงวันที่หนังเข้าฉายเถอะ จะหักหน้าจ้าวร่างให้ดู
ยวี๋เสี่ยวโจวก็นั่งไถเว่ยป๋อไปเรื่อยๆ เจียงเซ่อเหลืองมองเธอครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จ้าวร่างต้องการใช้ภาพแผ่นหลังของหญิงสาวในฝันมาเรียกความสนใจจากคนดู ถือว่าเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าเธอคงไม่คิดที่จะไปทำลายแผนที่ทีมงานเตรียมเอาไว้หรอก
พอเห็นว่ายวี๋เสี่ยวโจวคงไม่มีกะจิตกะใจจะคุยเรื่องนี้กับเธอแล้ว เธอก็ลุกไปเข้าห้องน้ำล้างมือแล้วออกมานั่งตรง*ชุดโต๊ะเก้าอี้เสี่ยวหยางถาย (ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่มักจะตั้งบริเวณที่มีแดดส่องถึง อาจเป็นกลางแจ้ง บริเวณใกล้กระจกและระเบียงห้อง) พร้อมกับหนังสือที่หยิบมาอ่าน
แต่อ่านไปได้ไม่กี่หน้า ยวี๋เสี่ยวโจวก็เหมือนจะนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ หล่อนวางมือถือลงแล้วถามขึ้น
“จริงสิเซ่อเซ่อ จะถึงวันเกิดเธอแล้วนี่นา? คิดไว้หรือยังว่าอยากจะฉลองยังไง?”
ถ้าหล่อนไม่พูด ก็เกรงว่าเจียงเซ่อคงจะลืมไปแล้ว
พอยวี๋เสี่ยโจวเตือนขึ้นมา เจียงเซ่อก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ถึงสองวันก็จะเป็นวันเกิดเธอแล้ว เธอนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “วันนั้นพวกเธอไม่ได้พูดว่า อยากจะไปเที่ยวที่จิ่วหลงถางอีกเหรอ?”
การอยู่ร่วมกันระหว่างพวกหล่อนกับเธอถือว่าไม่เลวเลย และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราก็เรียกได้ว่าดี ครั้งที่แล้ววันเกิดของเฉาซวง ไปฉลองกันก็ไม่ได้จ่ายอะไรมากมาย หลังจากที่รับเล่นหนัง The Occasion of Beiping ไปแล้ว เธอก็ได้รับส่วนแบ่งครึ่งแรกมาสามสิบเปอร์เซ็นต์ หักค่ากินค่าใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ในบัตรของเธอก็ยังเหลืออยู่อีกสี่หมื่นกว่า เธอเลยถือโอกาสนี้พูดออกไป
“ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเลี้ยงดีไหมล่ะ พวกเราก็ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเดิม?”
ตอนแรกยวี๋เสี่ยวโจวก็ดีใจอยู่หรอก แต่แค่แป๊บเดียวก็เกิดรู้สึกเกรงใจขึ้นมา
ครั้งที่แล้วที่ทุกคนไปเที่ยวจิ่วหลงถาง จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณสองพันกว่า ทุกคนก็ยังเป็นแค่นักศึกษา จำนวนเงินนั่นมันก็พอๆ กับเงินค่าขนมที่ทางบ้านส่งให้หล่อนแต่ละเดือนเลยนะ แล้วถ้าให้เจียงเซ่อออกอยู่คนเดียวก็คงไม่ดีเท่าไหร่
บวกกับที่ยวี๋เสี่ยวโจวนึกถึงในชีวิตประจำวันของเจียงเซ่อที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยใช้จ่ายเท่าไหร่ มือถือที่ใช้ก็เป็นรุ่นเก่ากึกแบบนั้น ข้าวของเครื่องใช้ก็น้อยเสียเหลือเกิน ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ในหอที่มักจะซื้อเสื้อผ้าข้าวของต่างๆ อยู่ตลอดๆ ดูเหมือนว่าฐานะทางบ้านของเธอคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หล่อนส่ายหน้า
“ทำเหมือนครั้งที่แล้วก็ได้ ถือว่ายังไงซะทุกคนก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน วันเกิดซวงซวงครั้งที่แล้วเธอก็แทบจะไม่ได้เล่นเลยอ่ะ”
“ไม่เป็นไร” ยวี๋เสี่ยวโจวอายุยังน้อย มีเรื่องอะไรในใจก็มักจะแสดงออกมาทางสีหน้า เจียงเซ่อเห็นหล่อนแบบนั้นแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่าหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่
“ที่จริงแล้วฉันทำงานพิเศษน่ะ ก่อนหน้านี้ได้รับค่าตอบแทนมาแล้ว ยังไงก็ให้ฉันเลี้ยงเถอะ”
เธอไม่เองก็ไม่ใช่พวกที่ชอบพูดอวดไปอย่างนั้นเสียหน่อย พอเจียงเซ่อพูดขึ้นมาแบบนั้น ยวี๋เสี่ยวโจวก็เชื่ออย่างไม่สงสัยอีก หล่อนโยนมือถือแล้วปีนขึ้นเตียงทันที
“มิน่าล่ะ ช่วงวันหยุดไม่ค่อยเห็นเธอเลย ไอ้พวกคนที่ติดตามโจวหยิงคณะศิลปะฯ นั่นน่ารังเกียจจริงๆ แถมยังมีพวกคนที่ชอบพูดมั่วๆ หาว่าเธออาจจะเป็นพวกเด็กเสี่ยน่ะรู้ไหม”
เจียงเซ่อมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยไม่น้อย หลังจากที่เริ่มเปิดเรียนชื่อเสียงของเธอมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเธอจึงเป็นที่จับตามองของคนในมหา’ลัยไม่น้อย ดังนั้นการที่เธอออกไปข้างนอกมหา’ลัยก็คงเป็นเรื่องที่ปิดไม่มิดอยู่แล้ว
ในพวกเว็บบอร์ดชอบเอาข่าวที่ไม่เป็นความจริงมาลงอยู่เรื่อย พอรู้ว่าบางคืนเธอไม่ได้กลับมาที่หอ ผู้คนก็พากันเดาว่าเธออาจจะไปทำเรื่องบางอย่างที่ไม่อยากให้ทุกคนรู้ข้างนอกก็ได้ แถมยังมีคนสงสัยว่าจะเป็นเด็กเสี่ยอีก ตัวเธอเองก็ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต แต่ปกติเธอก็ไม่ได้คิดที่จะไปแก้ตัวหรืออธิบายอะไร และนั่นก็ยิ่งทำให้คนที่เอาเรื่องพวกนี้มาพูดได้ใจเข้าไปใหญ่
ยวี๋เสี่ยวโจวกับอีกสองคนไม่พอใจกับคำพูดพวกนั้นมากๆ เพราะว่าคนที่เอาเรื่องพวกนี้มาพูดส่วนมากก็คือคนที่ชอบเอาเจียงเซ่อไปเปรียบเทียบกับโจวหยิง เลยทำให้รูมเมทอย่างพวกเธอพากันไม่ชอบดอกไม้งามแห่งคณะศิลปศาสตร์เสียเท่าไหร่
“ฉันว่าโจวหยิงนั่นแหละไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นไอ้พวกบ้านั่นเห็นใครก็เกิดไม่ชอบหน้าไปหมด” หล่อนเดินไปเดินมาอยู่ข้างตัวเจียงเซ่อ “ได้ยินมาว่าโจวหยิงน่ะอยากเข้าวงการบันเทิง หลายครั้งแล้วที่มีคนถ่ายรูปเธอตอนขึ้นรถคนแปลกหน้าไป”
ในเว็บบอร์ด คนที่ดูแลเรื่องของเจียงเซ่อกับคนที่ดูแลเรื่องของโจวหยิงปะทะกันบ่อยมาก ไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
กับเรื่องพวกนี้ เจียงเซ่อไม่ได้มีความสนใจกับมันนักหรอก ยวี๋เสี่ยวโจวพูดอีกสองสามประโยคก็กลับไปนอนไถเวยป๋อเหมือนเดิมแล้ว
วันเกิดของเจียงเซ่อตรงกับช่วงค่ำในวันศุกร์พอดี ด้านเผยอี้เองก็ได้หาข้อมูลของเธอไว้ตั้งนานแล้วก่อนหน้านี้ก็โทรมาเพื่อจะนัดเธอด้วย
แต่ทว่าเจียงเซ่อนั้นได้นัดรูมเมทเอาไว้ก่อนแล้ว เธอจึงตอบปฏิเสธเผยอี้ไป
*ชุดโต๊ะเก้าอี้เสี่ยวหยางถาย(小阳台) คือ ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่มักจะตั้งบริเวณที่มีแดดส่องถึง อาจเป็นกลางแจ้ง บริเวณใกล้กระจกและระเบียงห้อง)