webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

095

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 95 เหลวไหล

“ไม่กี่วันมานี้เจ้าเซี่ยงชิวหร่านตามจีบนางแบบคนหนึ่ง ถึงกับทุ่มทุนเป็นแสนเพื่อทำห้องสตูดิโอให้นางแบบคนนั้นเลยนะ” หลังจากที่เผยอี้เชิญเจียงเซ่อไปที่บ้าน เขาก็กลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด เลยรีบอธิบายเอาไว้ก่อน

“พวกอุปกรณ์การถ่ายแบบกล้องวีดีโอนี่เป็นของโปรเลยล่ะ พอเลิกกันไป ทุกอย่างก็ทิ้งไว้ที่นั่น”

ตอนที่เซี่ยงชิวหร่านไปตามจีบคนอื่น หมอนั่นคิดจะทิ้งก็ทิ้ง จีบติดเร็วก็ทิ้งเร็วเหมือนกัน

เจียงเซ่อรี่ตาลงแล้วมองไปที่เผยอี้

“ก็แค่เล่นๆ สินะ”

แต่ก่อนเธอก็พอรู้จักพวกเนี่ยต้าน เซี่ยงชิวหรานสองพี่น้องนั่นอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เคยไปสนิทสนมด้วย ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน พวกเขาก็มักจะเคารพและนอบน้อมต่อเธอเสมอ ดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นพวกที่มีลูกไม้แพรวพราวกันขนาดนี้

พอเผยอี้ได้ยินอย่างนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนมีหินหนักๆ มาทับขาเขาเอาไว้ มันทับจนขาเขาเจ็บไปหมด

“เป็นหมอนั่นนะ ไม่ใช่ฉันเสียหน่อย”

เขารีบอธิบายอย่างลนลาน เจียงเซ่อก็พูดต่อ

“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเป็นนายเสียหน่อย”

ตอนนี้สีหน้าของเขาดูเซ่อซ่ามาก เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก็พูดอะไรไม่ออก ครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็ทำได้แค่ยกมือขึ้นเกาหัวเท่านั้น

“เซี่ยงชิวหรานมันเป็นพวกเอาเงินเข้าแลกถึงจะจีบติดน่า แต่ฉันน่ะจริงใจมากนะรู้ไหม!”

เจียงเซ่อยิ้มออกมา สายตายังมองไปที่เขา “ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าฉันไม่มีค่าสินะ”

“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย!”เขาร้อนรนจนเหงื่อเย็นบนแผ่นหลังจะซึมออกมาอยู่แล้ว และตอนนี้เส้นเลือดบนหน้าผากของเขามันก็เต้นตุบๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงเซ่อยังอยู่ในรถ เขาก็คงจะหักรถขับไปที่บ้านของเซี่ยงชิวหรานแทนแล้ว ไปลากคอไอ้เซี่ยงชิวหรานมาซ้อมเสียให้เข็ด

“ฉันล้อนายเล่นน่า” ดูท่าเธอจะแหย่จนเขาเกิดโมโหขึ้นมาแล้วจริงๆ พอเห็นว่าเขาเริ่มอารมณ์เสีย เธอถึงค่อยพูดออกไป

“บทหนังของฉันมันอยู่ที่หอ ฉันคงต้องกลับไปเอาก่อน”

จากตอนแรกที่กำลังหงุดหงิด พอได้ยินเธอตอบตกลงว่าจะไปที่บ้านของตัวเอง เผยอี้ก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมาอย่างปิดไม่มิด แล้วก็ลืมเรื่องที่เธอแหย่เขาจนหงุดหงิดไปด้วย จากนั้นเขาหักพวงมาลัยกลับทันที

“งั้นฉันพาเธอไปเอา”

ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เขาจำที่อยู่หอนอกที่เจียงเซ่อเช่าเอาไว้ได้ขึ้นใจ พอขับมาถึงใต้ตึกหอพัก เขาเองก็ลงจากรถเช่นกัน

เผยอี้สอดสายตามองเจียงเซ่อเดินเข้าไปในหอพัก มองจนมองไม่เห็นแผ่นหลังของเธอแล้ว เขาถึงได้เบนสายตากลับมา แล้วล้วงมือถือขึ้นมาโทรออก

ตลอดเกือบหนึ่งเดือนมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเจียงเซ่อ เมื่อเทียบกับตอนแรกแล้ว ก็ถือว่าสนิทขึ้นมาก แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้ง ที่เธอจะเชิญเขาขึ้นไปนั่งในห้อง

แต่ว่าวันนี้ถือเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมากๆ เจียงเซ่อตอบตกลงที่จะไปบ้านเขา ถึงแม้ว่าจะไปเพราะต้องการซ้อมการแสดงก็เถอะ แต่แค่นี้ก็ทำให้เผยอี้พอใจมากแล้ว

เขาโทรออกหาเซี่ยงชิวหราน ถามถึงพวกอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ซื้อมาตอนไล่จีบนางแบบ และบอกให้เอาของพวกนั้นไปไว้ที่บ้านของเขา

“พี่อี้ครับ พี่ชายสุดที่รักของผม นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย?”

ปลายสายอย่างเซี่ยงชิวหรานตีขาไปมา ช่วงนี้เผยอี้กำลังไล่จีบรุ่นน้องในมหา’ลัย เริ่มที่จะมองคนอื่นนอกจากเฝิงหนานแล้ว พี่น้องทั้งหลายต่างพากันดีใจกับเขา

แต่ใครจะไปรู้ว่าพอพี่ชายคนนี้ไปจีบคนอื่นแล้ว จะกลายเป็นคนที่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนแบบนี้ ถ้าเกิดเขาจีบเจียงเซ่อติดเมื่อไหร่ วันนั้นเขาก็คงจะไม่มาสนใจไยดีผองเพื่อนพี่น้องอีกแล้ว

กี่ครั้งที่โทรไปชวนมาสังสรรค์ เขาก็เอาแค่บอกว่าไม่ว่างๆ แล้วตอนนี้ยังจะมาหาเรื่องรบกวนมาให้อีก

“ฉันไม่สน ฉันจะกลับถึงบ้านก่อนสองทุ่ม แกจะต้องเอาของทั้งหมดไปไว้ให้เรียบร้อย ถ้าหาคนตอนนี้ไม่ได้ ก็ไปเรียกพวกเนี่ยต้าน หรูหนิงกับพี่ชายแกไปช่วยกันขน วันๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง จะแดกอะไรนักหนาไอเหล้าเนี่ย?” เขาด่าสาดใส่ทันที จากนั้นก็ได้ยินเซี่ยงชิวหรานร้องตะโกนออกมา “อุปกรณ์มันหนัก พวกพี่ๆ มันยกกันไม่ไหวหรอกพี่”

แล้วเจ้านั่นก็ร้องออกมาอีกครั้ง จนเผยอี้นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองโดนเซี่ยงชิวหรานใส่ร้ายจนทำให้เจียงเซ่อมองตัวเองผิดไป อารมณ์มันยังค้างอยู่ แล้วยังมาได้ยินเสียงโอดครวญของมันอีก เลยพูดออกไปว่า

“ถ้าของแบบนั้นยังยกไม่ขึ้น งั้นพรุ่งนี้ฉันควรไปเสนอคุณปู่สักหน่อยดีไหม ว่าพี่ๆ น้องๆ อยากจะไปเดินเล่นที่ค่ายทหารเสียหน่อย จะได้ฝึกพวกแกใหม่ด้วยไง?”

เขาจะยอมเสียหน้าเลยก็ได้ ถึงแม้ว่าการแกล้งเซี่ยงชิวหรานรอบนี้จะทำให้ตัวเองพลอยโดนหางเลขก็ตาม ยังไงก็ต้องทำให้พวกมันซวยเหมือนกัน เซี่ยงชิวหรานกัดฟันแน่น แล้วก็เหมือนจะหันไปคุยกับคนอื่นๆ ครู่เดียวก็มีเสียงตะโกนด่าสาดมาจากฝั่งนั้น และมันคือเสียงของเนี่ยต้านที่ด่าออกมาอย่างหงุดหงิด

เผยอี้เก็บคำพูดของเนี่ยต้านเอาไว้ในหัวอย่างเงียบๆ จากนั้นเซี่ยงชิวหร่านก็จำใจพูดว่า “ถือว่าเป็นทีของพี่ละกัน!”

“เออใช่ ขนของเสร็จแล้วก็รีบไสหัวไป ไม่ต้องอยู่รอ”

พอเขาพูดจบ เซี่ยงชิวหรานก็ทำเสียงฮึดฮัดแล้วตัดสายไปทันที

ในตอนที่เจียงเซ่อเดินถือบทหนังลงมา เผยอี้ก็กำลังนั่งพิงรถอยู่พอดี สองขาของเขายันพื้นเอาไว้ สายตาก็คอยมองดูเจียงเซ่อที่กำลังเดินออกมาจากห้อง

เรือนผมสีทองของเขาทำให้เหมือนเป็นพวกโอ้อวด บวกกับรถสปอร์ตคันสวยนั่นอีก ดึงดูดให้ยามที่เฝ้าประตูต้องออกมาดูหลายครั้ง แต่ดูก็รู้ว่าเผยอี้คงไม่ใช่คนที่ควรไปยุ่งด้วยเท่าไหร่ จึงไม่ได้เข้าไปเร่งให้เขารีบออกไป

แต่ก็โชคดีที่ที่นี่เป็นหอพักที่เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ คนที่เข้ามาอยู่เลยมีไม่มาก เขาจอดแค่แป๊บเดียวคงไม่ถึงกับกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ที่นี่แออัดหรอก พอเจียงเซ่อเอาของลงมาแล้ว เขาก็รีบเข้าไปช่วยเธอ รับเอาเอกสารบทหนังนั่นมาถือไว้

“หิวรึเปล่า?”

เจียงเซ่อส่ายหน้า วันนี้ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพอเธอฝึกซ้อมที่บ้านของเผยอี้เสร็จก็คงจะกลับเลย เพราะงั้นพอขึ้นรถ เจียงเซ่อก็รีบพูดทันที

“วันนี้รบกวนนายด้วยนะ ครั้งหน้าถ้านายจะกินอะไร ฉันจะเลี้ยงเอง”

เขาไม่ถือสากับการรบกวนของเธอหรอก กลัวเธอจะไม่รบกวนมากกว่าน่ะสิ แต่พอได้ยินว่าครั้งหน้าเธอจะเป็นคนเลี้ยงเขาเอง ถึงจะยังไม่ได้นัด แต่ในใจของเผยอี้ก็ลอยไปไกลเสียแล้ว

แต่ระหว่างทางที่กลับไปที่คอนโดของเผยอี้ เจียงเซ่อก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ แล้ว

ที่ที่เขาอยู่คือที่เดียวกับบ้านของเธอเมื่อก่อนนี้ เขามีชื่อในอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย เป็นหลายชายคนโตของตระกูลเผย พ่อแม่ของเขาก็มีแค่เขาคนเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงตามใจเผยอี้ไม่น้อย

ถ้าพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ที่เขามีแล้ว บ้านของที่นี่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย สภาพแวดล้อมก็ดูธรรมดาๆ แต่ดูเหมือนกับว่าเขามาอยู่ที่นี่เป็นปกติ

ดูเหมือนว่าแต่ก่อนเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเขานัก เพราะอย่างนั้นเลยมีหลายเรื่องที่เธอละเลยมันไป

ในตอนที่รถขับเข้าไป พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ทักทายและเดินเข้ามาทันที รปภ.มองเข้ามาในรถอย่างระมัดระวัง แต่ใบหน้าของเขาปิดบังความดีใจออกมาไม่มิดเลย

“นายน้อยเผย คุณหนูเฝิงเพิ่งเข้ามาเมื่อสิบห้านาทีก่อนเองครับ!”

ตอนที่เขาพูดออกมา เผยอี้ก็ยังไม่ได้ตอบอะไร แต่เจียงเซ่อกลับแข็งไปทั้งร่าง มือทั้งสองข้างกำแน่น ก่อนจะพยายามหันไปมองเผยอี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ และเขาก็กำลังมองมาที่เธอเหมือนกัน สีหน้าของเขาเหมือนกำลังมีเรื่องให้ขบคิด

เจียงเซ่อนั่งนิ่งไปชั่วขณะ ชั่วเวลาเพียงกะพริบตาแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันยาวนานมากเป็นพิเศษ

เธอไม่เข้าใจว่าทำไปรปภ.คนนี้ถึงต้องมารายงานความเคลื่อนไหวของคุณหนูเฝิงด้วย แต่เธอก็แน่ใจ ว่าคนที่สนิทกับเผยอี้และแซ่เฝิง นอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นอีก

แต่ก่อนเธอได้ซื้อบ้านที่นี่เอาไว้ นอกจากเธอแล้ว ในตระกูลเฝิงก็ไม่มีคนไหนที่อยู่ที่นี่อีก

แล้วตอนนี้ที่รปภ.พูดถึงคุณหนูเฝิงขึ้นมา นอกจากเธอแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกล่ะ?

สิ่งที่เธอเดามาตั้งแต่แรกมันกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว และเจียงเซ่อก็เกิดรู้สึกขึ้นมาว่านี่มันเหลวไหลสิ้นดี

เธอรู้ว่าเผยอี้ยังคงมองเธออยู่ ชั่วนาทีนั้นเธอสูดลมหายใจเข้าลีก ก่อนจะเลื่อนมือไปปลดสายเข็มขัดนิรภัยออก แล้วยืดตัวไปทางที่นั่งคนขับและกดปุ่มเลื่อนกระจกลง