webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

091

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 91 พุ่งเป้า

“ตอนบ่ายนายไม่มีอะไรทำหรือไง?” พอเข้ามาในลิฟต์ เจียงเซ่อก็อดไม่ได้ที่จะหันไปถามเผยอี้

หน้าเขาหนาจริงๆ เขาแค่หันมายิ้มให้เธอ นิ้วขยับไปมาแต่ก็ดูไม่กล้าที่จะไปดึงเธอ

“เป้าหมายของฉันคือการตามจีบเธอไงล่ะ” เขายิ้มมุมปากขึ้น มือข้างหนึ่งค้ำลงบนผนังลิฟต์ที่เป็นกระจกใส อีกข้างก็ล้วงกระเป๋ากางเกง

เห็นได้ชัดว่าเขาดื้อมากๆ ตอนที่มาถึง แน่นอนว่าในกองละครไม่มีใครรู้จักเขาหรอก แต่พอเห็นว่าเขามาพร้อมกับเธอ ท่าทีของพวกเขาก็ดูไม่ได้ไม่พอใจอะไร

ผู้ดูแลการซ้อมละคร ‘คนในคืนหิมะตก’ เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่าเวินกัง อายุประมานยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดเห็นจะได้ เมื่อวานก็เป็นเขาที่ออกมาต้อนรับเธอและฉางยวี่หู

พอเห็นว่ามีเผยอี้ที่เดินล้วงกระเป๋าตามมาด้วยเขาก็ดูลังเลไปครู่หนึ่งก่อนจะถามเจียงเซ่อด้วยความระมัดระวัง

“ท่านนี้กับคุณเป็น......”

แค่มองดูก็รู้ว่าเผยอี้ไม่ใช่คนที่จะไปตอแยด้วยได้ เขาอยู่ในวงการและดูแลโรงละครนี้มานาน แค่เวินกังดูเผยอี้จากเสื้อผ้า ลักษณะท่าทางก็พอจะเดาได้แล้วว่าเผยอี้คงเป็นพวกคนมีฐานะแน่ๆ เขาถามเจียงเซ่อออกไป และคำถามนั้นก็ทำเอาเจียงเซ่อสับสนไป

ตอนนี้เผยอี้เป็นอะไรสำหรับเธอกันล่ะ? ถ้าเป็นแต่ก่อน เธอก็ยังสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นน้องชาย เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ เป็นหลานของเพื่อนคุณปู่เฝิงจงเหลียง แล้วตอนนี้ล่ะ เมื่อตอนเที่ยงเขาเพิ่งจะพูดกับเธอว่าเขาจะจีบเธอนี่สิ

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง คิดไปคิดมา จึงเลือกคำตอบที่ปลอดภัยมากที่สุด

“เขาเป็นรุ่นพี่น่ะค่ะ”

เวินกังเข้าใจผิดทันที

เมื่อวานที่ฉางยวี่หูพาเธอเข้ามา และตอนที่ฉางยวี่หูคอยชี้แนะและสอนการแสดงให้เจียงเซ่อเขาก็เห็นกับตา เขาเลยคิดว่าเผยอี้ก็คงเป็นลูกศิษย์ของฉางยวี่หูเหมือนกัน จึงไม่เชิญเขาออกไปชั่วคราว

“อาจารย์ฉางช่างมีความรับผิดชอบจริงๆ”

เขาถอนหายใจออกมา แล้วมองเจียงเซ่ออีก แล้วถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“เธออยากจะเข้าวงการนี้เหรอ?” เมื่อวานที่ฝึกซ้อมกัน เวินกังก็พบว่าเธอมีการเรียนรู้ที่ดีและไวมากๆ ถึงแม้ว่าครั้งแรกจะดูเคอะเขินหรือดูเล่นแข็งไปบ้าง แต่ก็ดูเธอพัฒนาได้อย่างรวดเร็วมาก ยิ่งมีฉางยวี่หูคอยชี้ทางให้แบบนี้แล้ว ภายหน้าจะเข้าวงการก็ไม่อยากนักหรอก

เจียงเซ่อส่ายหน้าไปมา และหางตาก็ดันไปเห็นว่าเผยอี้ก็กำลังจ้องมาที่เธอเช่นกัน ใบหน้าเขาดูออกได้อย่างชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่

“ฉันแค่มาเรียนรู้จากอาจารย์ฉางในช่วงสั้นๆ เท่านั้นเองค่ะ” พอเจียงเซ่อตอบจบ เผยอี้ก็เริ่มจะทนไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อกี้ตอนที่เวินกังพูดกับเจียงเซ่อ มันจะเข้าใกล้เธอมากเกินไปแล้ว บนโลกนี้มีผู้ชายน่าไม่อายเยอะแยะไป ขนาดพูดจบแล้วก็ยังพัวพันไม่ยอมไปอีก เขาเลยขยับขาแทรกเข้าไปยืนตรงหน้าเธอ

“เซ่อเซ่อ เดี๋ยวเธอจะแสดงบทอะไรหรือ?”

พอเขาถามแบบนั้นขึ้นมา เจียงเซ่อก็นิ่งเงียบไปในทันที

เธอจะต้องแสดงเป็นขอทาน โชคดีที่เผยอี้ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นใคร!

ละครเรื่อง ‘คนในคืนหิมะตก’ ใกล้ที่จะเริ่มเปิดแสดงจริงแล้ว นักแสดงทั้งหลายต่างก็มาตรงเวลาและครบตั้งนานแล้ว พอเจียงเซ่อเข้ามาซ้อมละครด้วย คนที่เป็นเจ้าของบทนี้จริงๆ ก็จะไม่มีโอกาสได้ซ้อมมากนัก

คนที่แสดงเป็นขอทานจริงๆ ก็เป็นเด็กสาวที่อายุพอๆ กับเจียงเซ่อ ตอนที่เจียงเซ่อมาถึงพวกเขาก็ซ้อมกันไปรอบหนึ่งแล้ว และกลับมาจากห้องพักผ่อนพอดี แต่พอเห็นว่าเจียงเซ่อมา หล่อนก็มีท่าทีแข็งกร้าวและจำใจนั่งลงข้างๆ เพราะมีคนดึงให้นั่งลง ตอนนี้หล่อนกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งได้เห็นว่าเจียงเซ่อพาเผยอี้เข้ามา หล่อนจึงเหน็บแนมออกไปอย่างตั้งใจ

“สมัยนี้ คงต้องเพิ่งแต่เส้นสายซะละมั้ง” เสียงของหล่อนไม่ใช่เบาๆ พูดแค่นั้นก็สามารถดึงดูดให้คนที่พักอยู่หลังเวทีหันมาสนใจได้แล้ว

ทุกคนหันหน้ามองไปที่หล่อน หล่อนนั่งอยู่บนเก้าอี้ และกำลังหันหน้าไปทางผู้ชายที่เล่นเป็นขอทานเมื่อวานนี้

“นายคิดดูสิ พวกเราฝึกซ้อมกันมาตั้งสามเดือนกว่าแล้ว แต่แค่มีคนอื่นคิดจะแรกเข้ามาก็เข้ามาได้ง่ายๆ แบบนี้เลยน่ะนะ”

คนที่เพิ่งเข้ามาในกลุ่มนักแสดงก็มีเพียงเจียงเซ่อเท่านั้น คนที่เธอพูดถึง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นใคร

เมื่อวานที่ฉางยวี่หูให้เจียงเซ่อขึ้นเวที ก็ไม่ได้พูดหรอกว่าจะเอามาแทนคนที่เล่นบทเด็กสาวขอทาน

ฉางยวี่หูถือว่าเป็นคนที่มีตำแหน่งพิเศษ คนดูแลโรงละครแห่งนี้เองเขาก็เคารพนับถือหล่อนไม่น้อย ก็ถ้าเธอคิดจะเข้าทางนี้จริงๆ งั้นเด็กสาวที่แสดงเป็นขอทานคนนั้นก็น่าสงสารไม่น้อย และก็คงไม่มีใครพูดว่า ‘ไม่’

บรรยากาศตอนนี้ถือว่าน่าอึดอัดไม่น้อย และใช่ว่าเจียงเซ่อจะรู้สึกหรือรู้ตัวอะไร เพราะตอนแรกเธอไม่คิดว่าเด็กสาวคนนั้นจะพูดถึงเธอ

เผยอี้เองก็คอยจะหาเรื่องคุยกับเธออยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็ถามว่าเธอหิวข้าวไหม เดี๋ยวก็ถามว่าเธอหิวน้ำไหม กวนจนเธอต้องม้วนบทละครแล้วฟาดลงบนหน้าเขา

“หุบปากได้แล้ว!”

เด็กสาวที่พูดเหน็บแนมเธอก่อนหน้านี้ร้อนตัวขึ้นมาเพราะคิดว่าเธอต่อว่าหล่อน หล่อนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“เธอบอกให้ใครหุบปาก? นี่มันเป็นการซ้อมนะ ไม่ใช่ที่จะให้เธอมาพลอดรักกัน ตั้งใจพาแฟนตัวเองมาด้วยขนาดนี้ ทำเป็นพูดโกหกว่าเป็นรุ่นพี่ คิดว่าจะหลอกใครได้กัน?”

และตอนนี้เองที่เจียงเซ่อรู้สึกตัวขึ้นมาได้ เด็กสาวคนนั้นพูดถึงเธอจริงๆ สินะ

เผยอี้ยังนั่งยิ้มโง่งม ถือบทละครของเจียงเซ่อเอาไว้ เขารู้แค่ว่ากระดาษนี่เจียงเซ่อแตะโดนมันแล้ว มันมีกลิ่นหอมๆ ติดอยู่ด้วยล่ะ

แต่ก่อนเคยได้ยินมาจากเนี่ยต้าน สองพี่น้องเซี่ยงชิวหรานและเซี่ยงชิวจี๋อยู่บ่อยๆ ว่าแฟนสาวน่ะน่ารำคาญ แถมยังเอาแต่ใจและขี้หงุดหงิดเป็นที่หนึ่ง ต้องคอยเอาใจตลอดเวลา

แต่เฝิงหนานไม่เคยเอาแต่ใจหรือทำท่าทีหงุดหงิดใส่เขาเลย นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอดุเขา อาจเป็นเพราะพอความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนไป การแสดงออกและนิสัยบางอย่างของเธอเลยเปลี่ยนไปด้วย

“พอได้แล้ว เถาเถา”

นักแสดงผู้หญิงในกลุ่มคนหนึ่งดึงสติเธอเอาไว้ แล้วหันมามองเจียงเซ่อ “อย่าโกรธเลยนะ”

“แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ?”

เด็กสาวที่ชื่อ ‘เถาเถา’ เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา “ฉันฝึกซ้อมมาตั้งสามเดือนกว่าแล้วนะ แล้วมันเรื่องอะไรที่จู่ๆ จะมีคนมาแย่งบทของฉันไป มีสิทธิ์อะไรกัน?

เธอลุกพรวดขึ้นมา เผยอี้ที่นั่งยิ้มอยู่ก็เริ่มที่จะรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หันไปอีกทีก็เห็นว่าเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนชี้หน้าเจียงเซ่อด้วยความโกรธแล้ว เขาขมวดคิ้วแน่น เจียงเซ่อเห็นแบบนั้นก็กลัวว่าเขาจะโมโหเลยรีบดึงเขาเอาไว้ แต่ก็เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เขาจับมือเธอเอาไว้

“ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้ทุกคนวุ่นวาย เมื่อวานฉันยังพูดไม่จบ อาจารย์ฉางแค่มาช่วยสอนการแสดงให้ฉันเท่านั้น ฉันไม่ได้คิดจะมาแสดงที่นี่หรอกนะ”

พอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็น่าเจื่อนขึ้นมาทันที

“วันที่ต้องแสดงจริง บทๆ นั้นก็ยังคงเป็นของเธออยู่ ฉันแค่มาฝึกการแสดงและฝึกความกล้า มาเรียนรู้จากพวกคุณเท่านั้นเอง”

พอเธออธิบายเสร็จ ท่าทีของคนในกลุ่มนักแสดงก็ดีขึ้นมาก

เด็กสาวที่ชื่อ ‘เถาเถา’ ดูเหมือนจะยังมีความคับข้องใจอยู่ หล่อนเอาแต่ขยี้ตา หลังจากนั้นก็โดนคนอื่นเรียกออกไป

แต่ถึงแม้ว่าจะอธิบายไปอย่างชัดเจนแล้ว แต่คนในกลุ่มนักแสดงก็ยังไม่ได้ถึงกับรู้จักและสนิทกับเจียงเซ่อนัก และเจียงเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เธอมาที่นี่เพื่อนมาฝึกซ้อมการแสดงของตัวเอง ไม่ใช่มาเพื่อหาเพื่อนหรือหาพรรคหาพวก แต่เผยอี้นี่สิ ดูจะโกรธแทนเธอไม่น้อยเลย แล้วก็มานั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่ข้างเธอนี่

“หล่อนกล้าว่าเธอ?”

“อย่าก่อกวนน่า”

เจียงเซ่อดึงบทละครจากมือเผยอี้มา แล้วผลักเขาไปสองสามที

“นายไปนั่งข้างนอกไป ฉันจะจำบทละคร”

เมื่อวานที่มาฝึก เธอก็เอาบทละครนี่ขึ้นไปด้วย การที่เธอเพิ่งได้ลองขึ้นเวทีครั้งแรก เอาบทขึ้นไปดูก็ไม่เป็นไรหรอก แต่วันนี้ยังไงก็ไม่ควรจะเอาบทขึ้นไปดูแล้ว

ที่จริงเมื่อคืนเธอคิดว่าจะกลับไปอ่านและจำบทเสียหน่อย แต่พอเดินออกมาจากโรงละครก็ดันได้รับโทรศัพท์จากยวี๋เสี่ยวโจว ว่าคืนนี้จะไปฉลองวันเกิดของเฉาซวงกัน เลยไม่มีเวลาได้ท่องจำบทเลย