webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

086

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 86 ยืนยัน

ถ้าหากเจียงเซ่อคือเฝิงหนานจริงๆ ล่ะก็ เผยอี้ที่เมื่อก่อนมองเธอราวกับเป็นนางฟ้า ไม่กล้าแม้แต่สักครั้งที่จะไม่เคารพ และไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกไป อายุที่ห่างกันถึงห้าปี เส้นกั้นของอายุระหว่างเธอและเขา ดังนั้นหากเขาเผลอเปิดเผยความในใจออกไป เธอก็อาจจะไม่มาสนใจเขาอีกเลยก็ได้

เขาจีบเฝิงหนานไม่ได้ เป็นเพราะว่าเฝิงหนานคิดว่าอายุของพวกเขานั้นห่างกันเกินไป เลยไม่ได้คิดกับเขาไปในทางนั้น

แล้วตอนนี้ล่ะ?

เขาเลื่อนของมูลของเจียงเซ่อดูอีกรอบ บนข้อมูลเขียนเอาไว้ว่า เธอเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดเท่านั้น น้อยกว่าเขาสองปี

เผยอี้เลียริมฝีปากอันแห้งผากของตัวเอง ถ้าหากตอนนี้เขาตามจีบเธออีกครั้ง เธอจะหลบเลี่ยงยังไงได้อีก?

พอคิดถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา เขายื่นมือไปเอาแฟลตไดร์ฟไปเสียบกับตัวคอมพิวเตอร์อีกรอบ และกดเล่นวีดิโอที่เนี่ยต้านส่งมาให้อีกครั้ง

เนี่ยต้านที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยังนั่งงงเพราะไม่รู้อะไรเป็นอะไร และอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“พี่อี้?”

“ไอ้นี่ฉันเอาไปก่อนละกันนะ”

ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมานั่งให้พวกเนี่ยต้านกับที่เหลือกวนเขาอีกแล้ว พอคว้าได้กุญแจรถก็เดินออกมาทันที

แต่พอนึกอะไรได้ก็หันหลังกลับไป แล้วยื่นมือไปตรงหน้าเนี่ยต้าน

“เอามือถือแกมา”

เนี่ยต้านก็ยังไม่เข้าใจว่าเผยอี้เป็นอะไรไปแล้วกันแน่ แต่พอเห็นว่าเผยอี้หน้าบานเป็นกระด้งแบบนั้น เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเอาแต่หน้าบูดหน้าบึ้ง แต่ตอนนี้กลับดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขาเลยยื่นมือถือของตัวเองไปให้อย่างว่าง่าย

เผยอี้เปิดมือถือเขาขึ้น ในมือถือของเจ้าบ้านี่มีช่องทางที่จะติดต่อใครได้หลายคน เขาให้เนี่ยต้านล็อกอินเข้าอีเมลตัวเอง ให้หาข้อมูลของเจียงเซ่อและจัดการลบมันทิ้งจนเกลี้ยง เขาเองก็ลบข้อมูลของเจียงเซ่อที่เนี่ยต้านสืบหามาให้ทั้งหมดทิ้งด้วยเช่นกัน

คิดๆ ดูอีกที ก็ถามถึงคนที่เนี่ยต้านไปเอาข้อมูลของเจียงเซ่อมาอีก เขาเมมเบอร์คนนั้นไว้ในมือถือตัวเอง จากนั้นก็โทรหาและสั่งให้ลบทุกอย่างเช่นกัน

“พี่อี้ นี่พี่จะทำอะไรกันแน่เนี่ย?”

เนี่ยต้านจ้องเผยอี้ตาค้าง เผยอี้ไม่ตอบอะไร เพียงแค่เตือนเขา “ไม่ต้องสืบอะไรแล้วนะ”

เขานึกถึงตอนที่เนี่ยต้านเรียกเจียงเซ่อว่า ‘รุ่นน้อง’ และก็พอจำได้ว่าเนี่ยต้านเคยโทรหาเจียงเซ่อด้วย เลยเข้าไปลบทั้งเบอร์และประวัติการโทรทั้งหมดออก แล้วเขาจึงค่อยคืนมือถือให้กับเนี่ยต้าน และควงกุญแจรถเล่น

“ฉันไปล่ะ”

และทิ้งให้คนที่เหลือได้แต่นั่งงงต่อไป

ตอนนี้เผยอี้รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่รู้และลงมือทำอะไรช้าแบบนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเจียงเซ่อที่ค่ายฝึกทหาร เขาก็เกิดความรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ แล้ว ถ้าหากเขาได้สืบหาความจริงตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้คงไม่ต้องมาวิ่งวุ่นแบบนี้หรอก

เขารู้จัก ‘เจียงเซ่อ’ น้อยไป และเขาก็รู้แค่ข้อมูลที่เนี่ยต้านหามาให้เท่านั้นเอง

ครั้งแรกที่เนี่ยต้านหาข้อมูลมา เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ที่ให้หามาก็แค่เพื่อที่จะเตือนเธอว่าอย่าเอาเรื่องที่โรงแรมรุ่ยจี๋ไปพูดมั่วๆ เท่านั้น เลยไม่ได้คิดที่จะให้คนไปสืบอย่างละเอียด

แต่พอตอนนี้ลองมาคิดๆ ดูแล้ว ถ้าหากว่าตอนนั้นเขาได้รู้ความจริง และพิสูจน์แล้วว่าเธอคือเฝิงหนานจริงๆ และถือโอกาสถามความจริงกับเธอก็คงจะดีไม่น้อย

ในขณะที่ขับรถกลับมหาวิทยาลัยเขาก็เอาแต่คิดตลอด และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมามากๆ

ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าเจียงเซ่ออยู่หอไหน สิ่งที่รู้อยู่อย่างเดียวคือเธอกำลังรับเล่นหนังอยู่

เขาเองก็ไม่ได้ใช่ว่าไม่เคยไปที่บ้านตระกูลเฝิง แต่เขาคิดว่าอยากจะกลับไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อหาข่าวสักนิด เพื่อยืนยันกับทางฝั่งของจียงเซ่อก่อน ถ้าหากเธอคือเฝิงหนานตัวจริง แล้ว ‘เฝิงหนาน’ ที่อยู่กับจ้าวจวินฮั่นจนเป็นข่าวครึกโครมนั่นเป็นใครกันล่ะ?

ที่จริงข้อมูลที่เนี่ยต้านหามาก็มีเบอร์ของเจียงเซ่ออยู่ เผยอี้จอดรถในมหา’ลัย นั่งลังเลอยู่พักหนึ่ง แล้วก็กดเบอร์เอาไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่ยอมกดโทรออกสักที

เหมือนมือเขามันไม่ยอมทำตามที่ตัวเองสั่ง นานพอควร สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกความคิดที่จะโทรหาเจียงเซ่อไปก่อน แล้วกดโทรไปที่บ้านของตระกูลเผยแทน

“ลุงสาม”

เผยจิ้นหยางรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ครั้งก่อนคุณปู่เผยสั่งลงโทษเผยอี้ไปอย่างเข้มงวด ให้เขาไป ‘ฝึก’ ทหารถึงที่ค่าย และคนที่เป็นคนคอยดูเผยอี้ก็คือเขาเอง

ถ้าพูดตามเหตุผลแล้ว เผยอี้คงจะเข็ดและพยายามเลี่ยงที่จะเจอหน้าเขาไปแล้ว แต่วันนี้กลับเป็นคนโทรมาหาเองเลยเสียได้

ปลายสายอย่างเผยจิ้นหยางกำลังกลั้นหัวเราะ แล้วถามออกมาว่า

“อาอี้ ได้ยินว่าเมื่อคืนเรียกหาคุณย่าเหรอ?”

ถ้าหากเป็นตอนก่อนหน้าที่เผยอี้ได้ยินคนอื่นพูดแบบนี้ล่ะก็ เขาจะต้องโกรธขึ้นมาแน่ๆ แต่ตอนนี้เขากำลังมีดอกไม้ผลิบานอยู่ในใจ ยิ่งถ้าคนพูดเป็นเฝิงหนานแล้วละก็ เขาก็ไม่สนใจมันหรอก

ยิ่งไปกว่านั้น ในวีดีโอวงจรปิดที่จิ่วหลงถางส่งมาให้ ตอนที่เขากระโจนเข้าใส่เจียงเซ่อ ตอนนั้นร่างของเธอถูกเขาบังเอาไว้ ในวีดีโอจึงมองเห็นเธอได้ไม่ชัดนัก แต่พอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองได้ใกล้ชิดกับเฝิงหนานขึ้นมา มันก็สามารถทำให้เขามีความสุขไปหลายวันเลย

ดังนั้น ถึงเผยจิ้นหยางจะแซวเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็ไม่คิดที่จะอธิบายอะไร แถมยังหัวเราะกลับด้วย

“ลุงสาม ช่วยหาเบอร์ของคนที่รับผิดชอบเรื่องข้อมูลนักศึกของมหา’ลัยอันดับหนึ่งให้หน่อยได้ไหมครับ?”

ถึงแม้ว่าเผยจิ้นหยางจะสงสัยว่าทำไมเผยอี้ถึงถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ไปถามอะไร พอตอบตกลงเผยอี้ไปแล้ว วางสายไป ไม่นานนัก เผยอี้ก็ได้รับข้อความจากเผยจิ้นหยางกลับมา

เขารีบแตะไปที่เลขในข้อความแล้วกดโทรออกทันที เขาถามถึงข้อมูลของเจียงเซ่อ ทั้งหอที่เธออยู่และรูมเมทของเธอด้วย พอเรียบร้อยแล้ว ผู้ดูแลคนนั้นก็ถามขำๆ

“เด็กใหม่คนนี้ที่คุณถามถึง ที่จริงตั้งแต่ที่เธอเข้ามาก็ดังมากเลยนะ”

ในเว็บของมหา’ลัยมีข้อมูลของเธอตั้งเยอะตั้งแยะ มีกระทู้มากมายที่เอารูปเธอที่แอบถ่ายมาลงเอาไว้ พอเผยอี้ได้ยินแบบนั้น ก็รีบเช็กดูทันที

เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที แต่ก่อนเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจข่าวและเว็บไซต์ของมหา’ลัยเลย ในหัวของเขามีแต่เฝิงหนาน อะไรคือสาวสวยของมหา’ลัยเขาก็ไม่เคยไปใส่ใจมัน แต่พอตอนนี้ได้มาเห็นกระทู้ต่างๆ ที่มีรูปเธอเต็มไปหมด แล้วด้านล่างก็มีคอมเม้นท์ว่า ‘นางฟ้า’ เต็มไปหมด อารมณ์ของเขาก็ค่อยๆ ปะทุขึ้นมา

ตอนที่ยังจำเจียงเซ่อไม่ได้ เขาก็ไม่ได้สนใจเธอเลย แต่พอตอนนี้ได้มาเห็นรูปมากมายนี้ เผยอี้ก็คิดขึ้นมาว่าทำไมถึงได้หน้าตาดีขนาดนี้นะ?

คนพูดถึงเธอและรูปของเธอก็เยอะมาก บางรูปก็เป็นตอนที่เธอกำลังทานข้าว บางรูปก็เป็นตอนที่เธอกำลังนั่งเรียน

เธอเลือกที่จะเรียนคณะประวัติศาสตร์ เป็นตัวเลือกที่สมเป็นเฝิงหนานจริงๆ

ตอนนั้นที่เธอเรียนที่นี่ เธอเลือกที่จะเรียนคณะอักษรศาสตร์ มันเป็นสิ่งที่เลือกเพราะเป็นคณะที่เธอชอบ

และคณะที่เจียงเซ่อเลือก ก็ไม่ต่างจากความชอบของเฝิงหนานนัก

พอเริ่มใส่ใจกับมันแล้ว เผยอี้ก็ได้เจอข้อมูลและรายละเอียดอีกมากมาย ท่าทางของเธอที่กำลังนั่งอ่านหนังสือ เธอตั้งใจเรียนมากๆ คิ้วขมวดกันเหมือนกำลังไม่เข้าใจกับบทเรียนอย่างไรอย่างนั้น......

จนกระทั่งเขากดไปดูคนที่เป็นคนโพสต์ ไอดีของผู้โพสต์คือ ‘เสี่ยวจางแห่งสาขาประวัติศาสตร์’ ช่วงเวลาที่โพสต์ คือตอนกลางเดือนสิงหาคม

ตั้งแต่วันแรกที่โพสต์มา มันคงจะไล่ลงรูปเจียงเซ่อมานานแล้วสินะ

เผยอี้กดเข้าไป ก็ได้พบกับรูปด้านข้างของเจียงเซ่อปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือ

ในรูปเธอกำลังกรอกข้อมูลลงบนใบประวัติ เผยอี้เลียริมฝีปากตัวเอง เลื่อนนิ้วไปขยายรูปนั้นออก ขยายแล้วขยายอีก ขยายจนมันสุดแล้ว

รูปไม่ใช่รูปที่ถ่ายกับกล้องของพวกโปร ความละเอียดของรูปจึงมีไม่มากนัก แต่พอขยายใหญ่แบบนี้แล้ว ก็ยังพอเห็นตัวหนังสือที่เจียงเซ่อกรอกลงไปบนข้อมูลอยู่บ้าง

ตัวหนังสือที่เธอเขียน ถึงแม้ว่ามันจะเลือนรางไปบ้าง แต่เผยอี้ก็จำมันได้ มันเป็นลายมือของเฝิงหนาน

มันเป็นตัวหนังสือของเฝิงหนาน ถึงแม้ว่าตอนที่เซ็นชื่อ จะเปลี่ยนเป็นเขียนชื่อเจียงเซ่อลงไปแทนก็เถอะ

แต่ลายมือของเธอได้รับการสอนจากเฝิงจงเหลียงมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาเขียนจะตั้งใจเขียนมากๆ มีบางตัวอักษรตอนเขียนจบ เธอชอบที่จะตวัดปากกา ทำให้ปลายตัวอักษรตวัดเล็กน้อย