webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

079

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 79 พาลโกรธ

แต่ที่แปลกคือ แต่ก่อนที่เคยอยู่ต่อหน้าเผยอี้แบบนี้ ทำไมถึงไม่เคยได้สังเกตเลยว่าหน้าตาของเขานั้นมันดูดีและน่าดึงดูดขนาดไหน รู้สึกเพียงแค่ว่าเธอชินที่เขาอยู่ข้างๆ มาตั้งแต่เด็ก จึงไม่ได้รู้สึกอะไรนัก

เจียงเซ่อเดาว่าคงเป็นเพราะตัวเองไม่ได้เจอเผยอี้มานานแล้ว พอได้มาเจอ จึงรู้สึกตื่นเต้นไปเอง

“เธอไม่สนใจฉันอีกต่อไปแล้ว”

และก็ไม่รู้ว่าเขาดื่มไปเยอะแค่ไหน ถึงได้เป็นถึงขนาดนี้

แต่ว่าถ้าหากพูดว่าคุณย่าเผยไม่สนใจเขา เจียงเซ่อไม่เชื่อแน่นอน เธอรู้จักตระกูลเผยพอสมควร ทั้งตระกูลต่างโอ๋เขาจนเคยตัวทั้งนั้น เขาเป็นถึงหลานชาย เป็นลูกคนแรก คุณปู่เผยและคุณย่าเผยรักเขามากแค่ไหน แต่ก่อนเจียงเซ่อเองก็ได้เห็นกับตาตัวเองมาแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ต้องการนาย”

ในตอนที่เธอพูด น้ำเสียงของเธอก็หนักแน่นพอดู เผยอี้ก้มหน้าจ้องเธอ

ความจริงตอนนี้เขาก็เมามากแล้ว แค่มองตาก็ดูออก เธอถอนหายใจออกมา และตัดสินใจเอื้อมมือไปพยุงเขาอีกรอบ

“มากับใคร แล้วอยู่ชั้นไหน?”

เผยอี้ดื่มมาหนักมาก จริงๆ สมองและความคิดของเขาก็คงจะเบลอไปแล้วด้วย แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอคือเฝิงหนาน ทั้งการพูดการเว้นจังหวะ เวลาที่เธอขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเมา แต่เขาก็จำมันได้ดี

“หนานหนาน?”

เขาเรียกขึ้นมาอีก แต่เสียงเหมือนพูดลิ้นพันกันยังไงยังงั้น และมันก็มีกลิ่นไวน์และกลิ่นหอมๆ ของผลไม้ออกมาด้วย กลิ่นของมันติดจมูกเธอเลยทีเดียว

ตอนนี้เขาคิดว่าเจียงเซ่อเป็นเฝิงหนาน เขาเลยไม่คิดที่จะดิ้นหรือปฏิเสธเธอ แถมยังให้ความร่วมมือโดยการยอมให้เธอโอบตัวเองเอาไว้

ร่างบางของหญิงสาวสนิทแนบชิดกับตัวของเขา การที่จะได้แนบชิดกับเฝิงหนานขนาดนี้ มันก็คงมีแค่ในฝันเท่านั้นแหละ เขายื่นมือไปโอบเจียงเซ่อทันที น้ำเสียงที่พูดออกมาติดสั่น

“หนานหนาน......”

พอเมาก็ไม่มีสติ แต่ลางสังหรณ์ของเขากำลังบอกว่ากำลังได้เปรียบ

“ไม่ต้องพูดแล้ว......” เจียงเซ่อไม่คิดมาก่อนเลยว่าพอเขาเมาแบบนี้ก็จะกลายเป็นคนติดคุณย่าไป แต่ก่อนที่อยู่กับเธอ เหมือนว่าเผยอี้คงจะพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ จึงไม่ได้แสดงออกมาให้เธอเห็น

พอเขาไม่ดิ้นแล้วร่างช่วงบนของเขาก็โถมน้ำหนักลงมาที่เธอทันที เจ้าเด็กบ้านี่อาจจะดูผอม แต่ความจริงแล้วร่างกายมีพละกำลังเอามากๆ เขาทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไว้บนไหล่ของเธอ ดีที่เธอรีบเขยิบไปพิงกำแพง ไม่งั้นก็คงได้ล้มลงพื้นไปทั้งคู่

เธอคิดว่าแบบนี้คงไม่ได้แน่ๆ และคงจะมาคุยด้วยเหตุผลกับคนขี้เมาแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน เธอพิงตัวไปกับผนังห้องน้ำด้านนอก เผยอี้ก็พิงตัวเธอจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

เขาพ่นลมหายใจรินบนผมของเธอ อุณหภูมิในร่างกายของเขามันร้อนจนเหมือนคนเป็นไข้ และแขนทั้งสองข้างก็กอดเอวเธอเอาไว้

เจียงเซ่อลองประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ถ้าเธอจะไปส่งเผยอี้ถึงห้องที่เขามากัน แบบนั้นคงจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ

ถึงแม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้เตี้ย ตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยก็วัดมาแล้ว เธอสูงตั้ง 173 เซน แต่คงจะรับน้ำหนักของเผยอี้ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก

“นายยังพอเดินไปได้ไหม?”

เธอเขย่าๆ ตัวเขาสองที การที่โดนหายใจรดแบบนี้ก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เธอจึงถามเขาออกไป

“ไปเหรอ?”

จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นๆ แต่ก็ฟุบลงไปเหมือนเดิม แนบแก้มไว้กับศีรษะของเธอ แล้วพูดพึมพำออกมา

“ผมไม่ไปไหนแล้ว ผมอยากอยู่กับหนานหนาน”

เธอไม่คิดเลยสักนิดว่าที่เขาพูดว่า ‘หนานหนาน’ นั้นหมายถึงเฝิงหนาน เพราะแต่ก่อนที่อยู่ต่อหน้ากัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้ยินเขาเรียกแบบนี้

คนที่ดื่มเหล้าเมาขนาดนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องคุย เจียงเซ่อยังถือมือถือของเผยอี้เอาไว้อยู่ เธอจึงคิดว่าน่าจะหาเบอร์และโทรไปหาเนี่ยต้านให้มารับเขาไปแทนดีกว่า

แต่พอเธอเพิ่งจะเปิดหน้าจอขึ้นเท่านั้น จอที่ถูกเปิดก็สว่างขึ้นมาพร้อมกับรูปใครบางคน เธอมองคนในรูปนั่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองมัน

รูปบนหน้าจอของเผยอี้ ก็คือรูปของเธอ

แต่ถ้าจะให้ถูกคือ เป็นรูปของเธอตอนที่ยังไม่ได้มาเกิดใหม่ ในรูปเธอกำลังนั่งอ่านหนังสือ และไม่รู้ว่าโดนแอบถ่ายรูปไว้

เธอเกิดความรู้สึกใจหวิวขึ้นมาทันที แต่ก่อนเธอและเผยอี้สนิทกันมาก แต่ในใจของเธอ กลับรู้สึกว่าบางทีเราก็ไม่ได้สนิทชิดใกล้จนขนาดที่ว่าจะไปดูมือถือของอีกฝ่ายแบบนี้

ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าในมือถือของเผยอี้นั้นจะมีความลับอะไรอยู่บ้าง และก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาแอบถ่ายรูปเธอไปกี่รูปแล้ว และแอบเก็บมันไว้ในมือถือเครื่องนี้

เธอเม้มริมฝีปากแน่น แต่ในขณะที่กำลังเหม่อลอย เผยอี้ก็ได้ก้มหน้าลงมาเรื่อยๆ

ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาเกิดความกล้ามากขึ้น และมันก็มากพอที่จะทำให้เขาทำในสิ่งที่แต่ก่อนไม่กล้าที่จะทำ

เจียงเซ่อยังตกใจกับรูปบนหน้าจอมือถือ แต่เผยอี้เริ่มโน้มตัวลงมาแล้ว และเธอยังไม่ทันที่จะได้ปัดป้อง ใบหน้าของเขาก็ก้มลงมาชิดเสียแล้ว ลมหายที่มีกลิ่นเหล้าเคล้ารดรินบนใบหน้าของเธอ และสิ่งที่เธอรับรู้หลังจากนี้คือ ริมฝีปากที่อุ่นร้อนของเผยอี้ประกบลงกับริมฝีปากของเธอเบาๆ

เธอไม่ทันจะได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนฉวยโอกาสเลยด้วยซ้ำ แต่เผยอี้กลับอยากที่จะได้มากกว่านี้อีก

ริมฝีปากของเขาเริ่มบดเบียดเข้ามาใกล้ขึ้น ทำให้เจียงเซ่อได้สติและเกิดอายจนพาลโกรธคนตรงหน้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เธอรีบดิ้นจนหลุดจากพันธนาการที่เรียกว่าอ้อมแขนของเผยอี้ออกมา แทบจะไม่ต้องส่องกระจกหรือให้ใครมาบอก เธอก็รู้ได้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองจะต้องแดงมากแน่ๆ

เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย และเธอก็ไม่คิดว่าเผยอี้จะทำกับเธอแบบนี้ด้วย แต่ก่อนเวลาที่เผยอี้อยู่ต่อหน้าเธอ ก็ไม่เคยที่จะทำตัวไม่เกรงใจแบบนี้ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน และเธอก็ไม่คิดไปในทางอื่นกับอีกฝ่ายเลย

เผยอี้เมามาก เขายังพิงตัวไปกับกำแพง และค่อยๆ ไหลลงไปนั่งกับพื้น ปากก็ยังเอาแต่เรียกออกมา “หนานหนาน”

และตอนนี้เจียงเซ่อก็ไม่กล้าที่จะไปช่วยพยุงเขาอีก เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น และมันก็ยังมีความอบอุ่นที่เผยอี้ทิ้งไว้ให้อีกด้วย อีกทั้งกลิ่นเหล้ากลิ่นไวน์ แทบจะทำให้หน้าร้อนเหมือนโดนไฟจ่อเสียให้ได้

พอเธอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้แล้ว จึงตัดสินใจเดินไปที่ล็อบบี้ให้บริการ บอกให้รู้ว่ามีคนเมาหาทางกลับไม่เจออยู่ที่หน้าห้องน้ำ

ในระหว่างนั้นเจียงเซ่อก็เริ่มที่จะสงบจิตสงบใจลงบ้างแล้ว คงเป็นเพราะเผยอี้เมา คงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้หรอก

นิสัยของเขาเธอก็รู้ดีอยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนที่จะยุ่งกับผู้หญิงไปทั่วแบบนี้

พอเริ่มสงบลง เธอก็นึกถึงตอนที่เผยอี้พูดว่า ‘หน่ายนาย (คุณย่า)’ ขึ้นมาได้ ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง แล้วไปทำอะไรมาคุณย่าเผยถึงไม่สนใจเขาแล้ว แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะกำชับกับพนักงานเอาไว้

“เขาน่าจะมากับเพื่อนนะคะ เหมือนว่าอยากจะไปหา ‘คุณย่า’ ของตัวเองด้วย เขาไม่ชอบให้ใครไปเข้าใกล้ ยังไงพวกคุณก็ช่วยหาเพื่อนเขาทีนะคะ น่าจะเป็นแขกในนี้ บอกให้เพื่อนเขาพาเขากลับบ้านก็พอแล้วค่ะ”

พนักงานพยักหน้ารับ เจียงเซ่อจึงบอกข้อมูลอีกเล็กน้อย

“เพื่อนของเขาชื่อเนี่ยต้าน เฉิงหรูหนิง เซี่ยงชิวหราน......” เธอบอกชื่อเท่าที่รู้ไป และพนักงานก็หาชื่อของเนี่ยต้านเจอจริงๆ รวมถึงว่าอยู่ห้องไหนด้วย พอสั่งให้คนไปบอกกับลูกค้ากระเป๋าหนักข้างบนแล้ว ก็ได้เตรียมคนไปรับเผยอี้อีกด้วย เจียงเซ่อเห็นอย่างนั้นก็ขอตัวกลับไปที่ห้องทันที

และในห้องคาราโอเกะ เด็กสาวทั้งสามก็ยังคงเล่นกันอย่างสนุกสนาน ดูท่าคงไม่รู้จริงๆ ว่าเธอออกไปนานแล้ว เด็กสาวทั้งสามกำลังร้องเพลง และขวดเบียร์บนโต๊ะที่วางอยู่บนโต๊ะก็ไม่เหลือสักหยด

เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เจียงเซ่อจึงไม่รู้สึกสนุกกับอะไรอีก เธอหยิบเสื้อนอกตัวใหญ่มาสวม และยกมือถือขึ้นมาดูเวลา นี่มันจะตีหนึ่งครึ่งแล้ว

เด็กสาวได้จองห้องกันเอาไว้สองชั่วโมง ตอนที่มาถึงคือประมานห้าทุ่มครึ่ง ตอนนี้จึงเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

แต่ดูเหมือนว่ายวี๋เสี่ยวโจวจะติดใจกับที่นี่ไม่น้อย หล่อนอยากจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่ถ้าทำแบบนั้นก็คงจะไม่มีเงินพอจ่ายแน่ๆ

ทุกคนเลยตัดสินใจหยุดเอาไว้แค่นั้นแล้วออกมา แท็กซี่ที่มาจอดรอแขกลูกค้าทีอยู่มากมาย ระหว่างนั่งรถกลับทั้งสามก็ยังคงเอาแต่พูดคุยเรื่องไปสนุกที่จิ่วหลงถางกันไม่หยุด และไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจียงเซ่อกำลังเหม่อขนาดไหน