webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

072

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 72 สำเร็จแล้ว

การเข้าวงการนี้น่ะเงินทองหาง่าย แต่จุดยืนในวงการและชื่อเสียงต่างหากที่ยากจะได้มันมา

เมื่อได้รับรางวัล ก็ยิ่งปรารถนาที่จะก้าวขึ้นไปอีกขั้น คนเราก็แบบนี้ พยายามที่จะได้รับชัยชนะที่สูงสุดตลอดเวลา

หรือมากกว่านั้น คือการที่ได้เป็นเหมือนอย่างรุ่นพี่อาวุโสฉางยวี่หู ที่ได้รับการยอมรับจากประเทศ จุดยืนมันเหนือกว่าในวงการบันเทิงเสียอีก

หลินซีเหวินมีท่าทีตื่นเต้นและเหนือความคาดหมาย เขากำมือแล้วทุบลงบนมืออีกข้างอย่างแรง

“ถ้าหากอาจารย์ฉางสมารถมาช่วยได้ อย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะครับ”

โหวซีหลิ่งพยักหน้า

“ฉันสนิทกับเธอมาหลายปีแล้ว ถึงจะหยิ่งในศักดิ์ศรียังไงก็คงต้องเห็นแก่ฉันแน่นอน”

พอเขาพูดจบก็หันไปมองเจียงเซ่อ

“หนูเจียง หนูว่าไง?”

แน่นอนว่าเจียงเซ่อคงไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้แน่ๆ เธอรีบลุกขึ้นแล้วก้มขอบคุณโหวซีหลิ่งทันที “ขอบคุณอาจารย์โหวมากเลยนะคะ”

เขาพยักหน้า ผู้ช่วยหลีที่ยืนอยู่ข้างยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะเข้าไปกระซิบเบาๆ ข้างหู หลินซีเหวินได้ยินแล้วก็พูดขึ้น

“งั้นก็ตามนี้ ผู้ช่วยหลีช่วยพาเจียงเซ่อไปเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะ ผมมีเรื่องต้องปรึกษากับอาจารย์โหวอีก”

ผู้ช่วยหลีรับคำแล้วเดินออกมาจากห้องแคสติ้งพร้อมกัน หล่อนหันไปแสดงความยินดีกับเจียงเซ่อทันที “วันนี้คุณทำได้ดีมากเลยนะคะ”

ท่าทางของหล่อนดูเปลี่ยนไปจากเดิมอีกครั้ง ตอนนี้โอกาสที่เจียงเซ่อจะได้เล่นบท ‘โต้วโค้ว’ ถือว่าสูงมาก ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งวันก็สามารถทำให้เป็นที่ยอมรับได้แล้ว ถ้าหนังได้ฉายออกไปละก็ อนาคตเจียงเซ่อในวงการบันเทิงจะต้องมั่นคงอย่างแน่นอน ในภายภาคหน้า จุดยืนของเธอจะต้องดีกว่าตอนนี้เป็นแน่

“ดิฉันเองก็อยู่กับคุณหลินซีเหวินมานาน เห็นเขากับอาจารย์โหวพูดคุยสนิทสนมกันมาหลายครั้ง นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่เห็นอาจารย์ชอบและถูกใจรุ่นน้องขนาดนี้”

เจียงเซ่อเม้มปากยิ้ม

“อาจารย์โหวใจดีมากๆ ต้องขอบคุณที่ในวันนั้นได้ผู้ช่วยหลีพูดให้ด้วยนะคะ”

ทั้งสองพูดคุยจนมาถึงห้องแต่งหน้า เจียงเซ่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อลบเครื่องสำอางและหวีผมเรียบร้อย ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยหลีก็กำลังรับสายโทรศัพท์ พอเจียงเซ่อเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อยเดินออกมา ผู้ช่วยหลีก็คุยโทรศัพท์เสร็จพอดี หล่อนหันมามองเจียงเซ่อแล้วโบกมือถือในมือไปมา

“ยินดีด้วยนะคะ คุณหลีบอกว่าคุณเหมาะสมกับบท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร ก็ถือโอกาสเซ็นสัญญาให้เรียบร้อยภายในวันนี้ไปเลยก็ได้นะคะ”

การถ่ายทำหนังในครั้งนี้ ก็อย่างที่พูดว่าเจียงเซ่อเหมาะสมกับบทนี้แล้ว และเธอก็เคยผ่านการเซ็นสัญญาเล่นหนังจึงพอจะรู้มาบ้างว่าสัญญาแต่ละฉบับนั้นไม่เหมือนกันเลย

เรื่องตัวเลขของเงินนั้นได้แจงและปรากฏอยู่บนเอกสารสัญญาอย่างชัดเจน ตอนที่สัญญามาถึงมือ เจียงเซ่อก็ค่อยๆอ่านมันอย่างละเอียดและรอบคอบ อ่านแต่ละข้อไปเรื่อยๆ

เจียงเซ่อสังเกตเห็นว่าบนเอกสารสัญญาฉบับนี้ได้เขียนเอาไว้ว่าเธอได้รับบทแสดงเป็น ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

ผู้ช่วยหลีเองก็ไม่ได้ไปขัดอะไรเธอ หลังจากชาหมดไปสองแก้ว เจียงเซ่อถึงจะวางเอกสารลง

“ดิฉันเองก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่กลุ่มไหน ดังนั้นเวลาที่จะเซ็นสัญญาอะไรก็ต้องดูเองให้รอบคอบและชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนกฎอะไรไปน่ะค่ะ”

ผู้ช่วยหลีเองก็เห็นด้วยกับความคิดของเธอ “คุณพูถูกแล้วล่ะค่ะ ในช่วงแรกๆ เมื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถ้าทำความเข้าใจและทำตามกฎเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ก็ไม่มีปัญหาอะไรก็โอเคแล้วค่ะ”

และก็วกกลับมาที่เรื่องค่าตอบในหนังเรื่องนี้ต่อ ‘โต้วโค้ว’ ถือเป็นตัวละครประกอบสำคัญในหนังที่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่สีหน้าของผู้ช่วยหลีนั้นดูจริงจังเอามากๆ

“เรื่องของค่าตอบแทนนั้น ดิฉันเองก็คิดว่าคุณเจียงเซ่อน่าจะทำใจเสียหน่อยนะคะ”

หล่อนเปิดเอกสารออกมา สายตายังคงมองไปที่เจียงเซ่อ

“ดิฉันมีอะไรก็อยากจะพูดกับคุณตรงๆ เลย คือทางบริษัทเป็นอย่างนี้นะคะ หนังแต่ละเรื่องนั้นแตกต่างกัน และต่างก็มีจำนวนตัวเลขการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป”

หล่อนหยิบกระดาษเปล่าออกมา วางเอาไว้ตรงหน้าแก้วชาของตัวเอง หยิบปากกาออกมาแล้วเขียนตัวเลขอารบิคลงไปจำนวน ‘10,000’

“ถ้าพูดถึงจำนวนแรกที่ทางเตรียมให้สำหรับเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ และเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ แล้วละก็ ทั้งสองเรื่องลงทุนไปจำนวนเท่านี้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายของทั้งสองจึงไม่เหมือนกัน”

พอผู้ช่วยหลีพูดถึงตรงนี้ หล่อนก็นิ่งไปครู่หนึ่ง

“ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ทั้งคอสตูมเสื้อผ้า ฉากสถานที่และเครื่องประดับต่างๆ ค่าให้จ่ายที่ใช้ไปในการถ่ายทำหนังนั้น คุณจะเห็นได้ว่าในส่วนนี้จะครอบคลุมหกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นค่าตอบแทนของนักแสดง”

และกลุ่มนักแสดงเองก็มีการแบ่งฐานะกัน บทตัวละครหลักอย่างพระเอกนางเอกก็ต้องสำคัญกว่าตัวประกอบอยู่แล้ว และด้วยความที่มีฐานะในวงการไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าค่าตอบแทนของตัวละครหลักต้องมากกว่าตัวประกอบแน่นอน

“ถ้าพูดแบบนี้ คุณพอจะเข้าใจไหมคะ?” ผู้ช่วยหลีถาม

ที่จริงตั้งแต่ที่หล่อนเริ่มพูด เจียงเซ่อเองก็พอจะเข้าใจแล้วว่าผู้ช่วยหลีกำลังคิดอะไร พอได้ยินหล่อนถามแบบนั้น เธอก็พยักหน้าเบาๆ

“เข้าใจค่ะ ผู้กำกับหลินเป็นผู้กำกับที่ตั้งใจทำหนังมากจริงๆ นะคะ”

สิ่งที่ผู้ช่วยหลินพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วก็คือ ถึงแม้ว่าหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั้นจะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ทว่าหลินซีเหวินได้เอาเงินส่วนมากไปลงกับการถ่ายทำ แน่นอนว่าค่าตอบแทนของนักแสดงก็ต้องน้อยลง

แต่กับเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ นั้นถือเป็นการลงทุนเล็กๆ หลินซีเหวินเองก็คงไม่ได้ทำให้มันละเอียดอะไรนัก อย่างมากก็คงจะอาศัยหนังเรื่องนี้ในการกอบโกยหรือแสวงหาเงินสักก้อน เพื่อเอามาทดแทนกับส่วนที่ใช้จ่ายค่าถ่ายทำหนังไป ถ้าเทียบกันแล้ว ค่าตอบแทนก็คงจะสูงกว่า

เธอเข้าใจความหมายในคำพูดของผู้ช่วยหลีเป็นอย่างดี ผู้ช่วยหลีเองก็ถอนหายใจออกมา

“ถ้าคุณเข้าใจก็ดีเลยค่ะ ดังนั้นในเรื่องของค่าตอบแทน ผู้กำกับหลินให้เป็น หนึ่งหมื่นหกพัน คุณคิดว่าไงคะ?”

ตัวเลขที่อยู่ตรงหน้ามันก็เยอะกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก ถ้าหมื่นหกนี้มาอยู่ในมือ มันก็สามารถคลี่คลายสภาวะยากจนตอนนี้ได้ไม่น้อย

และสำหรับเจียงเซ่อแล้ว ถึงเงินจะเป็นอะไรที่สำคัญ แต่เธอก็ไม่เหมือนกับคนอื่น ที่จะเห็นเงินเป็นทุกอย่าง

อย่างไรเสียตอนที่เธอเป็นเฝิงหนาน เธอก็เกิดมาและมีทุกอย่างพร้อม ความปรารถนาที่อยากจะได้เงินทองจึงไม่ได้มีมากขนาดนั้น

การที่เธอเลือกที่จะเล่น ‘The Occasion of Beiping’ เหตุผลก็อย่างที่เธอได้พูดไปแล้ว เป็นเพราะเธอเห็นประโยชน์ในบทหนังเรื่องนั้นนั่นเอง

บวกกับที่หลินซีเหวินเสนอค่าตอบแทนมาก็แทบจะเทียบเท่ากับค่าตอบแทนของพวกพระรองนางรองหรือตัวประกอบอื่นๆ ในวงการแล้ว ถือว่าเธอเองทำได้ดีมากแล้ว ผู้ช่วยหลีเองก็ได้อธิบายถึงเหตุผลและสถานการณ์อย่างชัดเจน ค่าตอบแทนเองก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก หากยังจะดึงดันเพื่อเงินก้อนนั้น ก็อาจจะทำให้โดนเกลียดเอาง่ายๆ

ดังนั้นพอผู้ช่วยหลีบอกค่าตอบแทนมาแล้ว เธอก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรอีก

ที่จริงแล้วผู้ช่วยหลีอยากจะพูดอธิบายเหตุผลเรื่องค่าตอบแทนอีกเสียหน่อย เพื่อที่จะได้พูดโน้มน้าวเธอด้วย

แต่ยังไม่ทันจะได้พูดด้วยซ้ำ เจียงเซ่อก็ตอบตกลงทันทีอย่างรวดเร็ว หล่อนจึงยิ้มให้เธออย่างชื่นชม

“คุณเจียงดูสบายๆ มากเลยนะคะ แต่คุณสบายใจกับจำนวนเงินนี้ได้เลยค่ะ คุณหลินเองก็ให้ค่าตอบแทนที่ไม่เลวเลย”

ทั้งสองเจรจาตกลงเรื่องค่าตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการรับค่าตอบแทนก็เป็นไปตามมข้อบังคับในสัญญา ก่อนสามสิบหลังหกสิบอย่างเคย

เจียงเซ่ออายุยังน้อย ผู้ช่วยหลีจึงให้พนักงานช่วยถ่ายเอกสารสัญญามาให้อีกชุด ดูอายุของเธอแล้วอีกสักหนึ่งเดือนก็คงจะครบสิบแปด

เพราะเรื่องค่าตอบแทนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ผู้ช่วยหลีเลยประทับใจในตัวเธอมากกว่าเดิม เธอคิดอะไรนิดหน่อยก่อนจะพูดออกมา

“เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากที่พวกเราเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว แล้วมากำหนดวันที่แน่นอนกันอีกที เอาไว้อีกหนึ่งเดือนค่อยมาเซ็นสัญญา” หนังเรื่องนี้เริ่มถ่ายทำปีหน้าเดือนมกราคม ยังมีเวลาอีกสองเดือน เรื่องสัญญาช้าอีกหนึ่งเดือนก็ไม่มีผลกระทบอะไร

นี่ก็เพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาในภายหลัง เจียงเซ่อยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่ทั้งสองครั้งที่มาที่นี้ก็มาเองคนเดียว ไม่ได้มีพ่อแม่หรือครอบครัวมาด้วย คงเป็นเพราะมีแผนอยู่ในใจอยู่แล้ว