webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

064

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 64 พิจารณา

หลินซีเหวินทำหนังมาหลายปี ถึงว่าการที่เขาได้ก่อตั้งบริษัทซ่างเจียขึ้นมาเพื่อทำเงิน แต่ก็น้อยนักที่จะได้รับคำชมจากสาธารณะชน

ถ้าเทียบกับผู้กำกับอย่างกู้เจียเอ่อหรือจ้าวร่าง น้อยมากที่เขาจะได้รับรางวัลหรือได้รับเชิญไปงานประกาศรางวัลต่างๆ ดังนั้นหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เหวินซีเหวินจึงทุ่มทั้งค่าใช้จ่ายและสติปัญญาของตัวเอง

ถึงได้เชิญโหวซีหลิ่งออกมาแบบนี้ และทำบทหนังด้วยตัวเอง เขาได้ใช้สติปัญญาและฝีมือทั้งหมดที่มี และมันก็แตกต่างกับเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ มาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเงินที่จะมาลงทุนเลย

หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ หนึ่งในข้อตกลงที่หลินซีเหวินได้ขอโหวซีหลิ่ง นั่นก็คือในหนัง โหวซีหลิ่งมีอำนาจในการตัดสินขาด

ผู้ช่วยหลีบอกว่าหลินซีเหวินให้ความสำคัญกับหนังเรื่องนี้มาก และเขาก็ไม่ได้โอ้อวดเกินจริงสำหรับเรื่องนี้ด้วย แต่หลินซีเหวินตั้งใจที่จะอาศัยหนังเรื่องนี้ และอาศัยคอนแทคของโหวซีหลิ่ง รวมถึงความสามารถในการแต่งบทหนัง เขาพยายามที่จะดันให้หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ให้ได้เข้าชิงงานประกาศรางวัลในปีหน้า หวังที่จะได้รางวัลเพื่อเพิ่มความนิยมให้หนังตัวเอง

โหวซีหลิ่งชอบนักอ่านที่ชื่นชอบตัวเองมากๆ

พูดถึงในเวลานี้แล้ว ถึงหลินซีเหวินจะโอนเอียงที่จะมอบบท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ให้กับเย่หยิงเฟย ถึงอย่างนั้นก็คงยังอยู่ในช่วงเจรจาอยู่

แต่ถ้าเจียงเซ่อเป็นนักอ่านของโหวซีหลิ่ง ถ้าเธออยากที่จะแย่งชิงบท ‘โต้วโค้ว’ มา ในจุดๆ นี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง

คิดถึงตรงนี้ ผู้ช่วยหลีก็จะลองพูดๆ ให้เจียงเซ่อดูก่อน แต่ก็พูดดักขึ้นมา

“แต่ว่าฉันก็ไม่สามารถรับประกันได้นะคะ ฉันทำได้แค่ลองไปพูดกับผู้กำกับหลินดูให้เท่านั้น”

แค่เจียงเซ่อได้รับการตอบรับแบบนี้ เธอเองก็พอใจขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่าต้องพูดขอบคุณเสียหน่อย

“ต้องขอบคุณผู้ช่วยหลีมากเลยนะคะ”

เธอยิ้มๆ แต่ก็พูดบางอย่างขึ้นมาอีกด้วยความไม่มั่นใจ

“แต่ถ้าให้พูดจริงๆ แล้ว คุณเจียงดูไม่ค่อยเหมาะกับลักษณะบทอย่าง ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เลย ทำไมคุณถึงได้ดูสนใจกับบทบาทนี้มากล่ะคะ?”

รูปร่างหน้าตาของเจียงเซ่อ แค่เห็นเธอก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเข้ากับบทหญิงสาวแบบนั้นได้ เธอเหมือนพวกบุตรสาวของพวกครอบครัวรวยๆ มากกว่า โดยเฉพาะบทในเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ อย่างบทฉางเอ๋อหรือบทเจ็ดนางฟ้านั่น

ไม่ต้องใช้ความสามารถในการแสดงอะไรมากมาย เธอจะได้ออกหน้าออกตา มันง่ายจนแทบจะไม่ต้องออกแรงเลยด้วยซ้ำ เธอก็สามารถทำให้มันออกมาดีได้อยู่แล้ว

ยิ่งตอนที่หลินซีเหวินโทรมาบอกเรื่องบทและได้เสนอเรื่องค่าตอบแทน ยังไงซะตัวเลขก็ต้องทำให้เด็กสาวสนใจอยู่แล้ว

แต่ทว่าเธอกลับไม่ค่อยสนใจมันเลยสักนิด และไม่ได้มีความสนใจกับบทในเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ เลยด้วยซ้ำ และนั่นทำให้ผู้ช่วยหลีรู้สึกตะลึงเอามากๆ

“พูดจริงๆ แล้ว ในบทสามบทนี้ บท ‘โต้วโค้ว’ ได้ออกฉากเห็นหน้าก็น้อยสุด”

เจียงเซ่อมองไปที่ผู้ช่วยหลี แล้วยิ้มตอบ

“ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ ที่ผู้กำกับหลินให้โอกาสฉันขนาดนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันเป็นผลงานของอาจารย์โหวที่ทำให้เกิดความมั่นใจ ในสามบทนี้ ฉางเอ๋อ เจ็ดนางฟ้าได้ออกฉากมากที่สุด ผู้อาวุโสมากมายที่ให้คำอธิบายต่อบทในตำนานของหัวเซี่ยแตกต่างกันไป ฉันเป็นแค่คนใหม่ ถ้าแสดงบทพวกนี้ก็ยากที่จะตีบทให้แตก เพื่อทำให้พวกคนรุ่นก่อนๆ พอใจ”

คำพูดของเธอมันเกินความคาดหมายของผู้ช่วยหลีอีกแล้ว

ดูเจียงเซ่อก็ยังอายุไม่มาก แต่การพูดการจาของเธอ กลับฟังดูรอบคอบเป็นอย่างมาก คำตอบแบบนั้นทำเอาคนฟังไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นการเหน็บแนมเลยสักนิด

พูดคุยกันอีกเล็กน้อย ผู้ช่วยหลีก็ดูเวลา

“ช่วงบ่ายสองห้าสิบฉันมีประชุมอีก คุณเจียง วันนี้ที่ได้มานั่งพูดคุยกับคุณฉันสนุกมากจริงๆ ค่ะ”

พอหล่อนพูดจบก็ลุกขึ้น “ข้อมูลของหนังสองเรื่องนี้ คุณสามารถเอามันไปพิจารณาก่อนได้นะคะ แต่ก็หวังว่าคุณจะไม่นำมันไปเผยแพร่ อย่างน้อยตอนนี้หนังก็ยังไม่ได้เปิดกล้อง”

เจียงเซ่อเองก็ลุกขึ้นตาม และตอบรับคำขอของผู้ช่วยหลี

“นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ขอให้ผู้ช่วยหลีสบายใจได้ค่ะ”

ทั้งสองพูดตอบเป็นมารยาทอีกสองสามประโยค ผู้ช่วยหลีก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป

เจียงเซ่อหอบเอาข้อมูลหนังสองเรื่องนั่นขึ้นมา ตอนที่ออกมาจากบริษัทซ่างเจีย เวลาก็เดินมาถึงบ่ายสามแล้ว

ยังไงซะวันนี้ก็เป็นวันพฤหัส พรุ่งนี้คาบเรียนของเธอเริ่มช่วงบ่าย ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะหอบเอาบทสองหนังสองเรื่องนี่กลับไปที่หอนอก

พูดถึงตอนนี้ล่ะก็ ถือได้ว่าเธอกำลังขาดแคลนเงินเลยทีเดียว หลังจากที่คิดมาแล้วสองวัน เธอก็ตัดสินใจที่จะเช่าหอนอกต่อ พอจ่ายค่าเช่าไปแล้ว เงินที่เหลืออยู่ในมือก็มีไม่มากอีกต่อไป

แต่ยังไงซะบทในเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ เธอก็ไม่มีแพลนที่จะรับเล่น พอกลับถึงห้องเธอก็เปิดบทขึ้นมาดู แต่สุดท้ายก็วางมันไว้ข้างๆ แล้วหยิบบท ‘The Occasion of Beiping’ ขึ้นมาดูแทน

ตอนที่อยู่ในบริษัทซ่างเจีย เธอได้อ่านมันไปแค่สองหน้าเท่านั้น ไม่ได้ดูเยอะเท่าไหร่

ตอนนี้มีเวลาแล้ว เธอรินน้ำเปล่าใส่แก้ว จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ปีนขึ้นเตียงแล้วพิงหน้าต่างอ่านบทไปเรื่อยๆ

บท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เป็นตัวร้าย

ในเนื้อเรื่องนี้ โหวซีหลิ่งเขียนเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังของตัวละครได้อย่างมีเทคนิค ในตอนที่เธอออกฉาก เธอกำลังยืนอยู่บนถนนเทียนเฉียวและฟังละครงิ้วที่นางเอกของเรื่องกำลังร้องเพลงอย่างมีฝีมือละเอียดอ่อน ทำให้คนที่ดูรู้สึกระทมทุกข์ไปพร้อมๆ กับเธอด้วย ในตอนที่เธอออกโรง เธอมายืนอยู่ในโรงละครแล้ว

ตอนที่เธออยู่ในฉากและหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชาย กับเธออีกคนที่กำลังยืนฟังงิ้วอยู่ที่ถนนเทียนเฉียว มันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ตอนที่เริ่มเรื่อง ‘โต้วโค้ว’ ก็ทำให้คนอ่านรู้สึกซับซ้อนแล้ว

บทบาทนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ของโหวซีหลิ่งมากๆ เธอเริ่มอย่างเงียบสงบ จนเมื่อได้ออกฉากสุดท้าย เธอก็กลายเป็นผู้หญิงของตัวร้ายอย่างอันจิ่วยวี่

อันจิ่วยวี่แก่กว่าเธอถึงยี่สิบปี ทั้งสองคนนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปร่างภายนอก หรือแม้แต่อายุก็ตาม มันดูไม่ได้เข้ากันเลยสักนิด

แต่ทว่าโต้วโค้วรู้สึกต่ออันจิ่วยวี่อย่างสุดจิตสุดใจ ยิ่งเพราะพระเอกเซียวจือหลุดปากมาอย่างไม่ได้ตั้งใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง เธอจึงช่วยอันจิ่วยวี่ในการทำร้ายเซียวจืออย่างใจดำอำมหิต

หลายครั้งที้เซียวจือเกือบจะตกหลุมพรางของเธอจนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอเปิดช่องโหว และปล่อยให้เซียวจือหนีไปได้

ในบทหนังนี้ เธอมีรูปร่างหน้าตาที่ทำให้คนอื่นที่ได้เห็นต่างตกตะลึง แต่จิตใจเธอกลับอำมหิตเป็นอย่างมาก เธอพูดกดข่มขู่เซียวจือ

โหวซีหลิ่งเขียนท่อนๆ นี้ได้ดีมาก และมีการใช้คำได้อย่างชำนาญตามที่สะสมมาหลายปี ทำให้คนที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว เหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในหนังเลย เขาสามารถเอาฉากชีวิตในช่วงสงครามมาเขียนได้อย่างดีมากๆ

ข้างนอกกำลังเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้น ในขณะนั้นพวกชนชั้นสูงของเป่ยผิงต่างกำลังตกอยู่ในชีวิตที่ลุ่มหลงและสำมะเลเทเมากับความร่ำรวยของตัวเอง ไม่รู้ตัวสักนิดว่าประเทศใกล้จะเสียเอกราชแล้วเต็มที เอาแต่เสพความสุขที่อยู่ตรงหน้า

ความรู้สึกของพระเอกอย่างเซียวจือ และนางเอกอย่างหงโต้ว โต้วโค้วที่สวยอำมหิตและจอมเจ้าเล่ห์อย่างอันจิ่วยวี่นั้นเขียนออกมาได้ราวกับมีชีวิต

เจียงเซ่อวางบทลงครู่หนึ่ง ยกน้ำขึ้นมาจิบให้พอชุ่มคอแล้วรีบยกบทขึ้นมาดูอีกรอบทันที

เนื้อเรื่องหลังจากนั้นคือ เซียวจือก็ได้จับกุมอันจิ่วยวี่เอาไว้ได้ จับหนอนบ่อนไส้ของประเทศ แน่นอนว่าผู้หญิงของอันจิ่วยวี่อย่างโต้วโค้วก็หนีไปไหนไม่รอด

ในบทละคร โหวซีหลิ่งเขียนเอาไว้ว่า

‘เซียวจือมองไปที่หญิงสาวใจโลเลคนนี้อย่างสะอิดสะเอียน เขาพ่นคำดูถูกออกมา’

“ถึงเธอจะเกิดมาอยู่ในสภาพที่ตกอับเพียงไหน แต่ก็มิควรที่จะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วยอันจิ่วยวี่ทำเรื่องไม่ดี ทำลายประเทศของพวกเราเอง”