webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

062

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 62 พัวพันวุ่นวาย

โหวซีหลิ่งเป็นนักเขียนแนววัฒนธรรมโบราณ อายุก็ค่อนข้างมากแล้ว และด้วยตัวเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเขาจริงได้ให้เกียรติในการมาพูดสุนทรพจน์ให้กับนักศึกษารุ่นหลังๆ และเจียงเซ่อเองก็รู้สึกประทับในในตัวเขาเป็นอย่างมาก

เขาเป็นคนที่ค่อนข้างรอบคอบ เคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก ผลงานที่เขาทำออกมา ต่างก็มีความหมายและลึกซึ้ง สามารถเจาะใจคนที่ได้ชื่นชมผลงานของเขาได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ

โหวซีหลิ่งมีความสามารถในการใช้สำนวนภาษาและถ้อยคำในการพูดถึงบุคคลได้ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นบทที่ไม่มีความสำคัญอะไรนักแต่เขาก็เขียนออกมาได้อย่างแตกต่าง

ตอนนั้นที่ฟังโหวซีหลิ่งกล่าวสุนทรพจน์เสร็จ เจียงเซ่อยังจำได้ว่าหลังจากนั้นเธอก็ได้ซื้อหนังสือที่เขาเป็นคนแต่งมาอ่านด้วยความชื่นชมตั้งหลายเล่ม หนังสือของเขาแต่งออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่เขาแต่งทั้งหมดนัก ก็แค่อยากจะลองอ่านภาษาและเนื้อหาเรื่องราวของเขาเท่านั้น

อาจจะเพราะด้วยเหตุผลนั้น ช่วงหลังๆ ที่ผ่านมานี้เขาถึงมีผลงานหนังสือออกมาน้อยลง ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะเข้าวงการบันเทิงเสียแล้ว และทำเป็นพวกบทละครแทน

ในตอนที่เจียงเซ่อเห็นว่าบทพวกนี้เป็นบทที่โหวซีหลิ่งเป็นคนเขียน และด้วยความเชื่อใจที่เขาเป็นรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัย เธอจึงเลือกบทละครบทนี้ขึ้นมา

ความจริงก็คือบทหนังเรื่องนี้ที่หลินซีเหวินมีมาให้เธอเลือกเพียงอย่างเดียวก็คือบทหญิงโสเภณีคนหนึ่ง ถ้าเป็นเฝิงหนานเมื่อก่อน คงไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าตัวเองจะมาเข้าวงการบันเทิง ยิ่งต้องมารับบทบาทอะไรอะไรแบบนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้

ผู้ช่วยหลีมองดูท่าทีของเจียงเซ่อ คิ้วสวยของหล่อนก็เริ่มขมวดเข้าหากัน

อารมณ์ของเธอดูเยือกเย็นและนิ่งเป็นอย่างมาก บุคลิกท่าทางก็ดูสง่างาม มองดูแล้วก็ถือว่าไม่เลวเลย ดูก็รู้ว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี แค่ฟังจากการพูดการสนทนาพาทีก็ดูออก เธอไม่เหมาะกับบท ‘โต้วโค้ว’ ใน ‘The Occasion of Beiping’ เลยสักนิด

ท่าทางของเจียงเซ่อดูก็รู้ว่าเธอคงเป็นพวกลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวย คงไม่มีใครที่อยากจะให้เธอต้องมารับบทแบบนี้หรอก ถ้าลองเทียบกับบทหญิงสาวที่ต้องอยู่ในหมู่ชายหนุ่มแล้ว รูปร่างลักษณะของเธอไม่ได้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าจะเป็นคนเจนโลกเลยสักนิด ยิ่งด้านใฝ่ต่ำที่เป็นด้านมืดก็ไม่มีให้เห็น

ตั้งแต่ตอนที่หล่อนจัดเตรียมบทนี้ขึ้นมา นั่นก็เพราะว่ากู้เจียเอ่อโทรมา ได้ยืนยันกำชับเองว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยมากๆ

แต่ทว่าในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั้น บทที่ชื่อว่า ‘โต้วโค้ว’ ดันเป็นผู้หญิงที่สวยไม่มีใครเทียบได้พอดี ดังนั้นตอนที่ผู้ช่วยหลีสั่งงานกับพวกพนักงาน ก็ได้กำชับให้เตรียมบทบทนี้เข้ามาด้วย เพื่อที่จะได้เอามาให้เจียงเซ่อเลือก

“คุณเจียง ดิฉันคิดว่า คุณเป็นคนสวยขนาดนี้ ถ้าได้แสดงเป็นฉางเอ๋อหรือเจ็ดนางฟ้าก็คงไม่มีปัญหาอะไรเลย” แล้วหล่อนก็เหลือบมองบท ‘The Occasion of Beiping’ อีกครั้ง แล้วพูดขึ้นด้วยความลังเล

“พอได้พบหน้าและได้พูดคุยกันแล้ว ดิฉันรู้สึกว่าคุณเหมาะสมกับในเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ มากกว่านะคะ”

พอหล่อนพูดจบ เจียงเซ่อเองก็ยังไม่ได้พูดอะไร แล้วมือถือของผู้ช่วยหลีก็ดังขึ้น

รอยยิ้มขอโทษเผยขึ้นบนใบหน้าของผู้ช่วยหลี แล้วหล่อนก็ทำสัญญาณมือขออนุญาติ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเพื่อรับสาย

“คุณหลิน”

หล่อนเดินออกจากห้องรับแขกไป แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาสองคำคือ ‘คุณหลิน’ เจียงเซ่อก็เดาว่าคงจะเป็นหลินซีเหวินที่โทรมา

ตอนนี้ผู้ช่วยหลียืนอยู่ข้างนอกห้อง แต่เพราะห้องทั้งห้องกันด้วยกระจกใส ทำให้เจียงเซ่อสามารถมองเห็นข้างนอกได้ เธอสังเกตเห็นว่าผู้ช่วยหลีเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาอีก สีหน้ามีความลำบากใจไม่น้อย

หล่อนพยายามกดเสียงตัวเองให้เบาที่สุด ดูอารมณ์ที่แสดงออกมามีความวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก

เจียงเซ่อเดาดู ถ้าเป็นหลินซีเหวินโทรมาจริงๆ แล้วผู้ช่วยหลีก็มีท่าทีแบบนั้นออกมา ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเธอก็ได้

แล้วเธอก็เบนสายตาไปกลับมามองบทที่อยู่ในมืออีกครั้ง เธอก็พอจะดูผู้ช่วยหลีออกแล้ว ว่าระหว่างเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ กับ ‘The Occasion of Beiping’ หล่อนคงจะมีจุดมุ่งหมายเอาไว้แล้ว

แล้วถ้าหลินซีเหวินพูดอะไรที่ทำให้ผู้ช่วยหลีมีสีหน้าไม่ค่อยดีแบบนั้น ก็คงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบทบาท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ แน่ๆ

เธอยกบทขึ้นมาดูอีกครั้ง พลางคิดว่าถ้าหากเธออยากจะเล่นบทบาทนี้จริงๆ ล่ะก็ จะพูดเกลี้ยกล่อมกับบริษัทซ่างเจีย อย่างไรดี

แค่แสดงเป็นโสเภณี สำหรับเจียงเซ่อแล้ว ไม่เพียงแต่จะเป็นครั้งแรกจะได้รับบทที่ท้าทายต่อฝีมือการแสดงแล้ว มันยังเป็นการท้าทายความคิดของตัวเธอเองด้วย เธออยากจะลองเอาชนะเรื่องต่างดูบ้าง

บท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ออกฉากค่อนข้างเร็ว ฉากแรกของเธอปรากฏตัวอยู่ที่ถนนเทียนเฉียวที่มีร้านค้ามากมาย และมีโรงละครอุปรากรงิ้วใหญ่ตั้งอยู่ด้วย เธอกำลังมองดูนักแสดงชื่อดังที่กำลังแสดงอยู่บนเวที

ในบทละครบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่าหน้าตางดงามหยาดเยิ้ม และไม่ใช่ผู้หญิงที่มีท่าทางเขินอาย ทั้งคิ้วและดวงตาของเธอต้องปรากฏแววขื่นขมอยู่ตลอดเวลา

ฉากที่ได้ออกครั้งที่สองคือ เธอเริ่มที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวไปมาหาสู่กับผู้ชาย และต้องคอยรับมือกับชีวิตในช่วงสงคราม

เวลาที่เธอไปมาหาสู่และหยอกล้อเล่นกับผู้ชาย นั่นก็เพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่าง และชอบที่จะไปที่ถนนเทียนเฉียวทุกวันที่เจ็ดของทุกเดือนเพื่อไปนั่งฟังละครงิ้วที่โละคร

ในเป่ยผิงนั้น เธอเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เป็นอย่างมาก แต่มันมีความวุ่นวายมากกว่านั้นอีก

เธอเพิ่งจะเปิดดูได้ไม่กี่หน้าเท่านั้น บทของ ‘โต้วโค้ว’ ก็มีที่มาที่ไปให้ได้รู้แล้วตั้งหลายอย่าง

และนี่ก็เป็นเอกลักษณ์การเขียนของโหวซีหลิ่ง เขามักจะเขียนรายละเอียดเล็กๆ น้อยของตัวละครเอาไว้เสมอ และเขียนเรื่องราวออกมาได้อย่างแตกต่างกันไป

พื้นฐานทั่วไปคือ ถ้าพูดถึงบท ‘โค้วโต้ว’ ที่กำหนดเอาไว้ เจียงเซ่อเองก็มีอคติบ้างเหมือนกัน แต่ถ้าให้พูดจริงๆ เรื่องที่โหวซีหลิ่งเขียนมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว จึงทำให้เธอรู้สึกสนใจต่อบท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เป็นอย่างมาก

ผู้ช่วยหลีที่คุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินเข้ามาด้วยความลังเลใจ คิดอะไรนิดหน่อยแล้วค่อยนั่งลงที่เดิม หล่อนมองเจียงเซ่อด้วยสีหน้าขออภัยอย่างสูง

“ต้องขอโทษคุณหนูเจียงด้วยนะคะ เป็นความผิดพลาดของฉันเอง บท ‘โต้วโค้ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นี้ ผู้กำกับหลินบอกว่าหาคนที่เหมาะสมได้แล้วน่ะค่ะ”

ถ้าเป็นผู้ช่วยหลีก่อนหน้านี้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าคงกำลังตรวจสอบท่าทีของเธอให้หลินซีเหวินตามประสาลูกน้องคนสนิทแน่ๆ เวลาพูดคุยก็ใช้ภาษาที่มีความเกรงใจไม่มีความสนิทสนม แต่ตอนนี้เพราะมีเหตุผลบางอย่างเข้ามา ท่าทางของหล่อนก็ดูสงบลงไปมาก

โดนเฉพาะเพราะว่าเจียงเซ่อเกิดสนใจเรื่อง ‘Tge Occasion of Beiping’ มากกว่าเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ แล้วด้วย อีกทั้งมันเป็นความสัพเพร่าของบริษัทซ่างเจีย หล่อนจึงมีท่าทีทำตัวไม่ถูกและลูบหูตัวเองไปมา

“ถ้าคุณเลือกเล่นเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ ล่ะก็ พวกเรายังสามารถคุยกันในส่วนของการเพิ่มค่าตอบแทนได้นะคะ เพราะยังไงซะเรื่องนี้ก็เป็นข้อผิดพลาดของทางเราเอง”

คำพูดของเธอก็แปลได้สองความหมาย อย่างแรกคือ ถ้าเจียงเซ่อยอมที่จะเล่นเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ ในส่วนของค่าตอบแทนนั้น ค่าของมันจะต้องสูงกว่าค่าตอบแทนเรื่อง ’99 Love Letter’ ของจ้าวร่างแน่ๆ หล่อนกำลังใช้เรื่องเงินในการยุติปัญหาในตอนนี้นั่นเอง

อย่างที่สองคือ การที่กู้เจียเอ่อโทรมาพูดด้วยตัวเองถือเป็นเรื่องใหญ่มาก หรืออาจจะเป็นเพราะว่าหลินซีเหวินและกู้เจียเอ่อทั้งสองคนนี้ได้หารือร่วมกันแล้วก่อนหน้านี้นั่นเอง

หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเจียงเซ่อดูเป็นคนที่อยู่ในโอวาท ดังนั้นในตอนที่กู้เจียเอ่อช่วยเธอพูดกับหลินซีเหวินเพื่อให้ได้บทแสดงมา ก็คงจะมีสัญญาเรื่องเงินค่าตอบเแทนมาเกี่ยวด้วย เพราะงั้นหลินซีเหวินจึงให้บริษัทเอาบทถึงสามบทมาให้เธอเลือก

แต่ก็อย่างที่บอกเจียงเซ่อไปแล้วเกี่ยวกับเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ หลินซีเหวินหาคนที่เหมาะสมกับเรื่องนี้ได้แล้ว และยอมที่จะยื่นข้อเสนอเพื่อให้เจียงเซ่อยอมเลือกบทที่มีอยู่