webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

060

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 60 โอกาส

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เจียงเซ่อได้ไปที่ห้องสมุด และได้ยืมหนังสือมาอ่านที่ห้องแทน

นอกจากช่วงวันหยุดแบบนี้แล้ว เธอก็มีเวลาแค่ตอนหลังเลิกเรียนที่จะอ่านหนังสือได้ แต่ทว่าอ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์ก็ยังอ่านไม่หมดเสียที

รูมเมทที่หอเองก็รู้สึกว่าเจียงเซ่อดูแปลกๆ ในมหาวิทยาลัยต่างพากันพูดถึงเธอกันเต็มไปหมด เรียกได้ว่าเม้าส์กระจาย ใต้หอเองก็มีพวกผู้ชายทำทีเดินผ่านไปผ่านมาเพื่อมองหาเธอ แต่เธอกลับทำทีว่าไม่เห็น

สาวๆ กลุ่มนี้ต่างก็เพิ่งเข้าปีหนึ่ง แต่ก็มีบางคนที่เริ่มมีคนที่รู้สึกดีๆ ด้วยแล้ว

ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องพวกขึ้นมา พวกสาวๆ ก็จะเริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น มีเพียงเจียงเซ่อคนเดียวนี่แหละ ที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรเท่าไหร่

พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สาวๆ หลายคนก็เริ่มที่จะหัดแต่งหน้าแต่งตัว บางครั้งก็คุยเรื่องเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เรื่องพวกนี้พวกสาวๆ จะคุยกันอย่างอารมณ์ดี บ่อยครั้งที่หลังเลิกเรียนก็จะพากันออกไปข้างนอกมหาลัยเพื่อไปซื้อของตามร้านค้าต่างๆ เจียงเซ่อน้อยมากี่จะซื้อ เธอมักจะใช้เวลาอยู่ที่หอ และนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ

พอมาถึงวันพฤหัส วันนี้เป็นวันที่เธอได้นัดกับสำนักงานของหลินซีเหวิน พอเรียนวิชาช่วงบ่ายเสร็จ ในหอก็มีแค่ยวี๋เสี่ยวตานและเฉินยวี่เวยที่อยู่ พอทั้งสองเห็นว่าเจียงเซ่อกลับมาแล้ว พวกเธอก็พูดขึ้นอย่างสนุกสนาน

“ถ้าออกไปทางหอสาม เห็นเขาบอกว่าที่ถนนตะวันตกมีร้านอาหารเปิดใหม่ ราคาก็ถูกอยู่ เพื่อนที่เรียนกับฉันเคยไปกินมาแล้ว เห็นบอกว่าพอเฉลี่ยต่อคนแล้วอยู่ที่ร้อยหยวน ฉันกับยวี๋เสี่ยวตานกำลังคุยกันว่าช่วงเย็นนี้จะชวนพวกเธอไปกินด้วยกัน ไปลองกันหน่อยไหม?”

ปกติแล้วเวลาที่อยู่ที่อยู่หอใน ถ้าเจียงเซ่อคิดดูแล้วไม่มีธุระอะไร ก็อาจจะตอบตกลงไปด้วยอยู่บ้าง

แต่วันนี้ไม่ พอยวี๋เสี่ยวตานพูดจบ เธอก็ส่ายหัว

“พวกเธอไปเถอะ ตอนบ่ายฉันไม่มีเรียนแต่นัดคนไว้” สำนักงานของหลินซีเหวินอยู่ทางตะวันตกของเมืองหลวง จากมหาวิทยาลัยไปที่นั้นต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปถึงครึ่งชั่วโมง

ตอนนี้เลิกเรียนมาก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงเศษๆ แล้ว เธอนัดกับทางนั้นไว้บ่ายสอง เวลาก็ถือได้ว่าไม่มากมายอะไรนัก ดังนั้นเธอจึงคิดไว้ว่าพอเธอไปถึงเขตตะวันตกของเมืองหลวงแล้ว เธอก็ค่อยหาอะไรแถวๆ นั้นทาน พอทานเสร็จแล้วก็นั่งพักนิดหน่อยถึงจะเดินไปที่สำนักงานของหลินซีเหวิน และรอเวลาให้ถึงบ่ายสอง

พอเฉินยวี่เวยได้ยินอย่างนั้นก็บอกว่าไม่เป็นไร

ทั้งสองต่างก็มีความสงสัยว่าเจียงเซ่อนัดกับใครเอาไว้ แต่พอทั้งสองมองหน้ากันแล้ว ก็ไม่คิดที่จะถามออกไป

มุมต่างๆ ของเมืองหลวงแต่ละที่ก็มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ทางด้านตะวันตกส่วนมากจะเป็นพวกสำนักงาน ดังนั้นแถบนี้ค่อยข้างเงียบสงบ

บริษัทจำนวนไม่น้อยที่ตั้งอยู่ที่นี่ ชายหญิงมากมายที่ในมือถือกระเป๋าเอกสารเอาไว้และเดินขวักไขว่ไปมา

สำนักงานของหลินซีเหวินตั้งอยู่ตึกที่เก้า ชั้นที่สาม เจียงเซ่อเข้าไปในตึกใหญ่นั่น รอจนพนักงานมั่นใจว่าเธอนัดกับหลินซีเหวินเอาไว้ พนักงานก็กดลิฟต์ไปชั้นที่สามให้เธอ

ถ้าเทียบกับสำนักงานของกู้เจียเอ่อที่อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ห้องสำนักงานของหลินซีเหวินนั้นกว้างกว่ามาก ชื่อของชั้นทั้งชั้นนี้ก็ถูกเธอจำเอาไว้หมดแล้ว

ตอนที่เจียงเซ่อออกมาจากลิฟต์ ก็ได้พบกับพนักงานกดลิฟต์ที่อยู่ข้างหน้า

หลังพนักงานคนนั้นมีป้ายชื่อสำนักงานของหลินซีเหวินที่เขียนเอาไว้ว่า ‘ซ่างเจียบันเทิงมีเดีย’ หญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ข้างล่างป้ายนั่น พอเห็นว่าลิฟต์เปิดออกพวกหล่อนก็ลุกขึ้นทันที

ก่อนหน้านี้ทางพนักงานได้โทรมาบอกเอาไว้แล้ว ตอนที่เห็นว่าเจียงเซ่อมา ผู้หญิงสองคนนั้นก็เดินเข้ามาต้อนรับเธอ และพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“คุณคือคุณเจียงเซ่อใช่ไหมคะ?”

เจียงเซ่อพยักหน้า สองคนนั้นก็รีบเชิญเจียงเซ่อเข้าไปนั่งในห้องรับแขกทันที “พี่หลีเองได้บอกพวกเราเอาไว้แล้วค่ะ คุณนัดไว้บ่ายสองโมงใช่ไหมคะ?”

เวลาที่หล่อนพูด ก็ดูนาฬิกาในห้องรับแขกไปด้วย ตอนนี้มันเพิ่งจะบ่ายโมงสี่สิบ ยังเหลืออีกยี่สิบนาทีกว่าจะถึงเวลานัด

“ตอนนี้พี่หลียังจัดการธุระไม่เสร็จ คุณนั่งรอสักครู่ได้ไหมคะ?”

เจียงเซ่อมาก่อนยี่สิบนาทีแบบนี้ ยังไงก็เตรียมใจมาแล้วว่าต้องรออีก ได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้า

พนักงานต้อนรับถามเธอเครื่องดื่มที่เธอต้องการ ไม่นานนักหล่อนก็ยกน้ำเปล่ามาให้เธอ

‘ซ่างเจียบันเทิงมีเดีย’ เป็นชื่อบริษัทที่หลินซีเหวินก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เจ็ดปีก่อน และการพัฒนาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

ห้องรับแขกถูกกั้นด้วยกระจกบานใหญ่เป็นห้องเดี่ยว ข้างๆ ปลูกดอกไม้เอาไว้ในกระถาง ทั้งเป็นห้องที่ดูส่วนตัว และยังเป็นการเพิ่มสีเขียวให้กับห้องรับรองแขกสีอ่อนนี้อีกด้วย

หน้าโซฟาที่เธอนั่งอยู่ก็มีนิตยสารหลายเล่มวางซ้อนกันเอาไว้ เจียงเซ่อลองมองหน้าปกมัน นิตยสารพวกนี้น่าจะเป็นพวกแนะนำบริษัทละมั้ง

ก่อนที่เธอจะมาที่นี้ เธอเองก็ได้ค้นหาประวัติบริษัทของหลินซีเหวินมาแล้ว

ในวงการบันเทิงนี้ ทั้งบุคลิกท่าทางความคิดของหลินซีเหวิน กู้เจียเอ่อ จ้าวร่างและคนอื่นๆ ต่างก็ไม่เหมือนกัน สำหรับเขาแล้ว พวกสื่อต่างๆ เห็นเขาเป็นมากกว่านักธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์พิเศษเป็นของตัวเองเท่าไหร่

หนังที่เขาทำส่วนมาก ไม่ค่อยเหมือนกู้เจียเอ่อนัก หนังของเขาจะเจาะตลาดพวกวัยรุ่นมากกว่า หนังที่สร้างส่วนมากจะเป็นหนังที่เกี่ยวกับความรักที่สวยงามเสียเป็นส่วนใหญ่ และไม่เหมือนกับของจ้าวร่างด้วย ที่จะถ่ายพวกฉากที่มีรูปแบบลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ถ้าเทียบหนังของผู้กำกับสองคนนี้แล้ว หนังที่หลินซีเหวินถ่านทำไปแล้วมีมากกว่า แต่ทว่ากระแสตอบรับค่อนข้างแตกต่างกันมาก มีทั้งด่าทั้งชม

ในอินเทอร์เน็ตมีการประเมินและให้ความสนใจกับหนังของเขาเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนมากก็พูดว่าหนังของเขาสามารถทำเงินได้มหาศาล

เขาสามารถมีพื้นที่ข่าวได้ตลอดเวลา ไม่ว่าหนังที่ออกมาจะดีหรือไม่ดี แต่เขาก็สามารถหาจุดที่จะเป็นกระแส เพื่อดึงราคาบัตร

ในนิตยสารที่มีข้อมูลของบริษัทนี้ เป็นนิตยสารเกี่ยวกับหนังที่ซ่างเจียบันเทิงมีเดียสร้างเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ในนั้นมีหลายเรื่องเลยทีเดียว เจียงเซ่อแทบจะไม่ต้องอ่านบทแนะนำมันอีก เห็นแค่โปสเตอร์หนังก็รู้สึกดูไม่ได้แล้ว

เธอเปิดผ่านๆ ไปอยู่ครู่หนึ่ง นอกห้องรับแขกก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินมาอย่างเป็นจังหวะ ราวกับว่าคนที่เดินมาตั้งใจลงฝีเท้าหนักๆ เพื่อให้รู้ว่าตัวเองมาถึงแล้ว

เจียงเซ่อวางนิตยสารลง แล้วเงยหน้าดูนาฬิกาบนผนังห้อง พอหันมาก็พบกับหญิงวันกลางคนคนหนึ่ง หล่อนสวมกระโปรงกำมะหยี่เข้ารูปรัดทรงสีดำ ผมหยักศกของเธอถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลเกาลัด และเธอถือเอกสารบางอย่างเข้ามาด้วย

“คุณคือคุณเจียงที่ผู้กำกับกู้เป็นคนแนะนำใช่ไหมคะ?”

หญิงสาวคนนั้นเดินยิ้มเข้ามา สายตาของหล่อนเองก็ประเมินรูปร่างหน้าตาของเจียงเซ่อไปด้วย

เจียงเซ่อลุกขึ้นไปจับมือกับหล่อน พอหล่อนวางเอกสารลงแล้วหล่อนก็ผายมือขวาเชิญเจียงเซ่อนั่ง

“ผู้กำกับกู้เองก็ได้แนะนำกับผู้กำกับหลินเอาไว้แล้ว เขาชมว่าคุณมีความสามารถในการแสดงมากๆ” หล่อนพูดเกริ่นพอเป็นพิธี จากนั้นหล่อนก็เหลือบไปเห็นนิตยสารที่ยังถูกเปิดเอาไว้ หล่อนยิ้มถาม

“คุณเองก็คงดูคำแนะนำบริษัทเราแล้วสินะคะ ลักษณะทั่วไปของผู้กำกับหลินเองคุณก็คงจะเข้าใจบ้างแล้ว”

พอหล่อนพูดจบ หล่อนก็เปิดเอกสารที่ถือมาออก หลังจากนั้นก็แยกเอกสารสองชุดนั้นออกมา

“ลักษณะของตัวบทก็อย่างที่ผู้กำกับกู้เจียเอ่อบอกเอาไว้ ตอนนี้ผู้กำกับหลินมีหนังสองเรื่องที่กำลังจะถ่าย คุณลองดูก่อนนะ” เธอดันเอกสารข้อมูลนั่นไปตรงหน้าเจียงเซ่อ เพื่อให้เธอดู “คุณเป็นคนที่ผู้กำกับกู้แนะนำมา ดังนั้นข้อมูลเบื้องต้นของหนังสองเรื่องนี้ บทที่ยังขาดคนอยู่ทางเราได้ให้คนจัดเตรียมเอาไว้แล้วค่ะ”

พนักงานบริษัทยกชาเข้ามาเสิร์ฟหนึ่งแก้ว หญิงสาวแซ่หลีตรงหน้ายกชาขึ้นมาจิบคำหนึ่ง มองเจียงเซ่อที่กำลังหยิบเอกสารขึ้นไปดูฉบับหนึ่ง

เธอใช้โอกาสนี้ มองสำรวจเจียงเซ่ออย่างเงียบๆ