webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

059

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 59 ไม่ถูกต้อง

เนี่ยต้านวางสายไป แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องที่เผยอี้ซัดคนไปคืนนี้ พวกที่พี่ๆ น้องๆ เองต่างก็พาเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำลงไป ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงแจ้งเตือนของมือถือก็ดังขึ้นมา

แววตาของเผยอี้เป็นประกายขึ้นมา เขารีบล้วงมือถือมาดู แต่ทว่า เสียงแจ้งเตือนนั้นไม่ใช่เครื่องของเขา เนี่ยต้านยกมือถือขึ้นมา และสังเกตเห็นสีหน้าผิดหวังของเผยอี้ได้อย่างชัดเจน เนี่ยต้านจึงพูดขึ้นเบาๆ

“พี่อี้ นี่เป็นข้อมูลของรุ่นน้องผู้หญิงของพี่ไง”

พอเขากับเผยอี้ซัดเหยาเสียงนั่นไปแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มให้คนหาข้อมูลของเหยาเสียงมา

เหยาเสียงเองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรอยู่แล้ว ช่วงสิบปีมานี้เหยาเสียงก็วนเวียนอยู่แค่ในวงการบันเทิง เนี่ยต้านหาข้อมูลเขาแค่แป๊บเดียวก็หาได้แล้ว

ไอ้เลวนี่ไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ ด้วย ก็แค่คนที่ชอบหมกมุ่นและมักมากในกามเท่านั้นเอง เนี่ยต้านเองก็ช่วยจัดการมันไปแล้วนี่ไงล่ะ

แต่พอจะหาข้อมูลของเจียงเซ่อ ก็ค่อนข้างกินแรงพอควร จนตอนนี้ก็เพิ่งได้ข้อมูลมา

เนี่ยต้านเปิดข้อความขึ้นมาดู และนั่นก็ทำให้เขาเกิดความแปลกใจขึ้นมา เพราะในข้อมูลของเจียงเซ่อมีหลายจุดที่ดูขัดแย้งกันแปลกๆ

ตอนเด็กๆ เธอตามมาอยู่กับแม่ที่หย่ากับสามีเก่ามา พ่อเลี้ยงเธอก็ไม่ได้ดีกับเธอสักเท่าไหร่ เธอหน้าตาสวย แต่มีนิสัยแปลกๆ ผลการเรียนของเธอไม่ดีนัก มีความคิดที่จะเข้าแต่วงการบันเทิงอย่างเดียว

ประมาณครึ่งปีก่อน เธอได้เข้าร่วมเป็นตัวประกอบของหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของจางจิ้งอาน เพราะหน้าตาเธอดูโดดเด่นกว่าใครๆ จางจิ้งอานเองก็เห็นเธอและประทับใจ จึงได้ให้เธอพูดบทของตัวประกอบ

ในข้อมูลยังบอกไว้ด้วยว่า หลิวเย่เองก็ได้ ‘ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ’ อีกด้วย เขาช่วยพูดให้เธอแต่ผลที่ออกมาก็ดูไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่

เนี่ยต้านดูถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเผยอี้

“พี่อี้ รุ่นน้องพี่เคยไปแสดงหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ด้วยแหละ’

เผยอี้ก็ยังหลับตาเหมือนเดิม เนี่ยต้านอ่านขึ้นมา

“หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ มีไอ้จ้าวจวินฮั่นนั่นเป็นคนลงทุน และเฝิงหนาน……” พอพูดคำว่า ‘เฝิงหนาน’ สองคำนี้ออกมาจากปาก สายตาของเผยอี้ก็เปลี่ยนไปทันที “…..พี่เฝิงหนานเองก็ลงทุนไปกับหนังเรื่องนี้เหมือนกัน แถมยังไปหาชิวจี๋เพื่อขอยืมพวกอาวุธจริงมาใช้แสดงในหนังอีกด้วย”

พอพูดถึงเฝิงหนาน เผยอี้ก็ไม่มีท่าทีเหมือนเดิมอีกต่อไป เขาขมวดคิ้วแน่น

“ลงทุนกับพวกหนังภาพยนต์เหรอ?” ดูท่าเขาไม่อยากจะเชื่อเลย เฝิงหนานมีนิสัยอย่างไร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเผยอี้แล้ว

ยิ่งโดยเฉพาะได้รับอิทธิพลมาจากเหล่าบรรพบุรุษของตัวเองแล้วด้วย สำหรับเธอแล้ว วงการบันเทิงไม่ได้เป็นที่สนใจของเธอเลยสักนิด ทำไมจู่ๆ ถึงได้มาลงทุนกับพวกนี้ได้ แถมยังหาชิวจี๋เพื่อขอยืมอาวุธจริงอีก?

พอคิดถึงตรงนี้ แววตาขอเขาก็เริ่มดุร้ายขึ้น

“ไอ้จ้าวจวินฮั่นนั่นต้องพูดล้างสมองเธอแน่ๆ!”

จู่ๆ เขาก็โยนเรื่องให้ทายาทของเจียงหัวกรุ๊ปทันที ตอนนี้พวกพี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายต่างก็ไม่กล้าพูดหรือไปขัดเขา แต่กลับช่วยกันด่าจ้าวจวินฮั่นว่าเขาเป็นอย่างนู้นอย่างนี้

เผยอี้ยื่นมือออกมา เนี่ยต้านเองก็รีบส่งมือถือไปให้เขา

พอได้มือถือมาแล้ว เผยอี้ก็เลื่อนลงเพื่อดูข้อมูลต่อ

หลังจากที่ได้แสดงหนังในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ แล้ว เธอก็อาศัยโอกาสนี้ในการเข้าร่วมแสดงหนัง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ของกู้เจียเอ่อต่อ หลังจากเซ็นสัญญาไปได้ไม่นาน ผลการสอบมหาวิทยาลัยของเธอก็ออก

เธอสอบติดมหาวิทยาลับอันดับหนึ่ง หลังจากนั้นคนในกองถ่ายของกู้เจียเอ่อก็แนะนำงานให้เธอ จนได้เข้าร่วมแสดงหนังเรื่อง ’99 Love Letter’ ของจ้าวร่าง

และจ้าวร่างเองก็พอใจในตัวเธอเช่นกัน เธอได้แสดงเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนั่งเล่นเปียโนอยู่

หลังจากนั้นก็เป็นรายละเอียดในตอนที่เธอกำลังออดิชั่น ตอนนั้นเพลงที่เธอเล่นคือเพลง ‘star’ และภาพนั้นก็ถูกถ่ายไว้โดยทีมงาน

พอเผยอี้ดูถึงตรงนี้ จากที่กำลังจะเลิกสนใจและยื่นมือถือคืนให้เนี่ยต้าน นิ้วที่ไม่ทันได้ระวังก็กดโดนตัวคลิปนั่น วีดิโอจึงถูกเล่นขึ้น ทำนองเพลง ‘Star’ ดังออกมาจากมือถือ สีหน้าและอารมณ์ของเขาก็เริ่มดูอ่อนลง มือที่กำลังยื่นออกไปเพื่อคืนมือถือก็ชะงักนิ่ง

นี่เป็นเพลงที่เฝิงหนานชอบมากๆ เธอฝึกเปียโนมาตั้งแต่เด็ก แต่ทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มฝึก เธอก็มักจะดีดเพลงๆ นี้ขึ้นมาก่อนเสมอ

เขาก้มหน้าดูคลิปนั่น ในจอเผยภาพแผ่นหลังของเจียงเซ่อขึ้นมา เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้เปียโน เป็นฉากที่สวยมากๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เผยอี้กลับรู้สึกมีบางอย่างไม่ถูกต้อง

เขาอดไม่ได้ที่จะกดขยายหน้าจอขึ้น ในจอที่มีภาพเจียงเซ่อนั่งหันหลังขยายชัดขึ้นทันที

เก้าอี้เปียโนถูกเธอนั่งไปแค่เศษหนึ่งส่วนสี่เท่านั้น แผ่นหลังและตัวของเธอตั้งตรง ท่าทางการดีดเปียโนของเธอดูสง่างามอยู่ตลอดเวลา

เผยอี้ไม่ได้สนใจว่าเจียงเซ่อจะนั่งยังไง เขาเห็นแค่ท่าทางการนั่งของเธอเท่านั้น แล้วเขาก็คิดถึงเฝิงหนานขึ้นมาอีกแล้ว

ท่าทางลักษณะการนั่งแบบนี้มันค่อนข้างที่จะยากทีเดียว ยิ่งเป็นในหมู่คนสังคมชั้นสูงแล้วด้วย ก็ไม่ใช่เฝิงหนานคนเดียวหรอก ที่เรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก แต่คนที่จะนั่งและรักษาท่าทางการนั่งแบบนี้ตั้งแต่การฝึกซ้อมและเล่นเป็นเวลานานๆ ได้ ก็คงมีแค่เฝิงหนานคนเดียว

เขายื่นมือถือคืนเนี่ยต้าน เนี่ยต้านเองก็ได้ยินเสียงเปียโนนั่นดังขึ้นมาเช่นกัน พอรับมือถือมาก็พบว่าเป็นคลิปภาพแผ่นหลังของเจียงเซ่อ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“แผ่นหลังของรุ่นน้องคนนี้ดูสวยสง่าอย่างกับนางฟ้า” เขารี่ตาคิดอะไรบางอย่าง

“รูปร่างของเธอดูดีกว่าพวกดาราด้วยซ้ำไป”

พูดถึงตรงนี้ เนี่ยต้านเองก็เกิดฉงนขึ้นมา

“แต่ว่าในข้อมูลบอกว่าเธอเป็นแค่ลูกเลี้ยงของบ้านตู้นั่น ผลการเรียนตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้ดี พอขึ้นมอปลายก็ยังไม่ดีขึ้น” ถ้าไม่ใช่เพราะหัวเซี่ยมีนโยบายบังคับให้เรียนครบสิบสองปีละก็ จากนิสัยของเธอแล้วก็คงจะหยุดเรียนไปแล้วรีบไปเข้าวงการบันเทิงแน่ๆ

แต่ก็น่าแปลกใจ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาหลังจากที่โดนอะไรบางอย่างกระทบกระเทือนจนกลายเป็นคนละคน เธอตั้งใจมากขึ้น ผลออกมาคือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอนั้นโดดออกจากคนอื่นๆ มาก แถมสอบได้มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอีกต่างหาก

“แต่บ้านเธอฐานะไม่ดีนี่ แล้วเธอไปเรียนเปียโนตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”

เนี่ยต้านถือมือถือเอาไว้ แล้วจู่ๆ เผยอี้ก็ลุกขึ้นมา

“ฉันจะกลับแล้วนะ”

เขาชอบแค่เฝิงหนาน คนอื่นเขาไม่สนใจหรอก

ที่จำเจียงเซ่อได้ ก็แค่เพราะว่าท่าทางนิสัยของการกระทำของมันเหมือนกับเฝิงหนานมากๆ และที่เหมือนเฝิงหนานเข้าไปอีก ก็คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้

ตอนนี้เนี่ยต้านเองก็คิดว่าเจียงเซ่อมีอะไรแปลกๆ แต่เขาก็ไม่พูดอะไรมากแล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นที่ใส่ใจของเขามากนัก เขาจึงไม่สนใจเรื่องนี้อีก

หลังจากที่เจียงเซ่อคุยกับเนี่ยต้านเสร็จไปแล้ว เธอก็ปิดเครื่องแล้วเข้านอนทันที

ตื่นเช้ามาเธอก็เปิดเน็ตดูอีก ข่าวทะเลาะกันที่โรงแรมรุ่ยจี๋ได้ถูกข่าวใหม่อื่นๆ ดันลงไปหมดแล้ว

ถึงจะมีพวกนักข่าวที่พูดไว้ว่าจะพยายามหาข้อเท็จจริงมาให้ได้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องที่ปล่อยมันเอาไว้ก่อน แต่ดูท่าหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ จะสามารถใช้โอกาสจากตรงนี้ในการดึงดูดคนดูได้ในตอนที่หนังเข้าโรงแล้ว

ในข่าวก็ไม่ได้มีใครพูดถึงเผยอี้ขึ้นมา แต่กลับกัน นักข่าวกลับทำให้พวกชาวเน็ตพากันไปสงสัยและตรวจสอบหาตัวเหยาเสียงแทนเสียอย่างนั้น เรื่องของเผยอี้จึงโดนกดเอาไว้

ขอแค่ตระกูลเผยลงมือเอง เจียงเซ่อก็ไม่กังวลเรื่องที่จะโดนเหยาเสียงมาหาเรื่องตอนที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลอีก เพราะถึงตอนนั้นชีวิตเขาคงจะวุ่นวายไม่น้อยเลย

พอถึงช่วงบ่ายเธอก็ลองโทรหาเบอร์ที่ทีมงาน ‘ฝันที่เป็นจริง’ ให้เธอเมื่อคืน มันคือเบอร์สำนักงานของผู้กำกับหลินซีเหวิน พอพูดชื่อของผู้กำกับกู้เจียเอ่อขึ้นมา น้ำเสียงของคนปลายสายที่ตอนแรกเย็นชาก็กลายเป็นกระตือรือร้นขึ้นมา

เจียงเซ่อเปิดดูตารางเรียนของตัวเอง มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งค่อนข้างเข้มงวด วิชาเรียนก็ค่อนข้างเยอะ นอกจากวิชาหลักแล้วเธอยังลงเสริมอีกสองวิชาด้วย เกี่ยวกับพวกสังคมมวลชน เวลาที่มีก็ดูมีไม่มากนัก