webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

058

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 58 หัวข้อข่าว

พูดให้พูดคือหนังก็เพิ่งจะปิดกล้องแต่ก็ดันมีข่าวฉาวเสียแล้ว แต่พวกสื่อก็ไม่ได้เล่นอะไรกับข่าวนี้นัก เพราะยังโชคดีที่เรื่องไม่ดีที่เหยาเสียงคิดทำถูกหยุดเอาไว้ก่อน จึงไม่ได้ทำให้กองถ่ายเกิดความเสียหายอะไรมากนัก

กลับกัน พวกคนทั่วไปกลับรู้สึกสงสัยต่อเจียงเซ่อ หลายคนที่เข้าไปทิ้งคอมเมนท์เอาไว้ในเวยป๋อของกู้เจียเอ่อ เข้าไปถามว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไรกันแน่

เจียงเซ่อสังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวล่าสุดในเวยป๋อของกู้เจียเอ่อขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบกลับเลยสักคน เพียงแต่ทิ้งคำพูดไว้ให้ได้ขบคิดกันต่อไป

มีคนถามเขาว่าในหนังได้แอบซ่อนสาวสวยเอาไว้หรือเปล่า ผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีกว่าจ้าวรั่วจวินอะไรแบบนั้น แต่เขาตอบกลับแค่อีโมติคอนรูปยิ้มและประโยคสั้นๆ ว่า ‘เดี๋ยวถึงเวลาหนังเข้าโรง เข้าไปดูก็จะเข้าใจเอง’

คำพูดทิ้งท้ายแบบนั้นมันยิ่งทำให้คนต่างรู้สึกไม่สงบใจ และต่างถามกันว่าหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ นี่จะเข้าโรงในฤดูร้อนปีหน้านี้ใช่ไหม

และแน่นอนก็ต้องมีพวกที่เป็นแฟนคลับของจ้าวรั่วจวินที่มาโต้ตอบกลับว่าคงเป็นแค่ผู้หญิงที่คอยพึ่งข่าวฉาวเพื่อทำให้ตัวเองดังเท่านั้นแหละ และไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่จะสวยไปกว่าดาราสาวอย่างจ้าวรั่วจวินแล้ว

เจียงเซ่อเลื่อนดูอีก เรื่องราวพวกนี้ก็ดูท่าว่าคงไม่สงบลงง่ายๆ และกลับมีแนวโน้มที่เรื่องนี้จะปะทุขึ้นเรื่อยๆ

และมีคนอีกไม่น้อยที่พยายามเดาว่าคนที่ซัดโปรดิวเซอร์อย่างเหยาเสียงคือใคร มีนักข่าวบางกลุ่มที่แอบเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อเข้าไปหาข้อมูล

อาการบาดเจ็บของเหยาเสียงค่อนข้างสาหัส กระดูกซี่โครงหัก หัวได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ตอนนี้ยังต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อไป

ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เจียงเซ่อก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร

ถ้าเป็นอิทธิพลของตระกูลเผยล่ะก็ การจะทำให้เรื่องเงียบไปนั้นมันง่ายแสนง่าย

เธอมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว เธอปิดคอม เป่าผมให้แห้งแล้วปีนขึ้นเตียงทันที พอยกมือถือขึ้นมากำลังจะปิดมัน เจ้ามือถือรุ่นเก่าเครื่องนี้ก็ดันดังขึ้นมาเสียก่อน

คนที่โทรมาคือทีมงานของ ‘ฝันที่เป็นจริง’ พวกเขาโทรมาเพราะต้องการที่จะถามถึงฐานะของเผยอี้และเนี่ยต้านสองคนนั้น และอยากจะรู้ว่าความจริงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ข่าวในเน็ตตอนนี้ค่อนข้างหนักมาก พวกเขากลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นผลกระทบ และกลัวว่าเรื่องนี้มันจะยิ่งบานปลาย เพราะอย่างนั้นจึงรีบโทรมาสอบถามตอนดึกดื่นขนาดนี้

เพราะตอนนี้คนในกองยังสืบฐานะของสองคนนั้นออกมาไม่ได้ ในคืนนั้นทางทีมงานก็ได้ตัดสินใจที่จะเจรจากับผู้ที่ดูแลห้องวงจรปิด แต่ทาโรงแรมก็บอกว่าเทปม้วนนั้นโดนพวกตำรวจเอาไปแล้ว

กู้เจียเอ่อเองก็อยู่ในวงการบันเทิงมานาน แน่นอนว่าเขาเองก็มีคอนแทคอยู่บ้าง ยิ่งเป็นพวกนักลงทุนหนังที่ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ยังไงซะก็ต้องมีคนหาวิธีเอามันมาให้ได้

แต่พวกตำรวจเองก็มีแรงกดดันอยู่แล้วเช่นกัน ถึงจะเป็นถึงกู้เจียเอ่อ ผู้กำกับของหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ก็เถอะ แม้แต่พวกทีมงานนักลงทุนต่างๆ ต่างก็หาวิธีไปเอามันมาแล้ว แต่ก็ไม่ใครสักคนที่ได้มันมา

ดังนั้นพวกทีมงานจึงคิดว่าเผยอี้และเนี่ยต้านสองคนนั้นจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่ๆ

แต่พอมาลองสอบถามเจียงเซ่อดูแล้ว ก็ดูท่าว่าคงไม่ได้อะไรขึ้นมา ทีมงานจึงพากันตัดใจอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากนั้นก็พูดบ่นเป็นนัยๆ ว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งติดต่อพวกสื่อเพื่อปั่นกระแส คงต้องรอให้เรื่องมันซาลงแล้วค่อยว่ากันอีกที

ที่จริงแล้วตอนที่พูดประโยคนั้นออกไป พวกทีมงานก็ไม่คิดเลยว่าเจียงเซ่อจะตอบตกลงสิ่งที่ตัวเองขอ

เพราะยังไงถ้าหากจียงเซ่อต้องการจะเข้าวงการบันเทิง ก็จำเป็นต้องมีประเด็นที่ได้รับความสนใจ

อย่างเรื่องที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ สื่อต่างๆ ต่างก็ออกข่าวกันอย่างรวดเร็ว โอกาสแบบนี้ร้อยวันพันปีถึงจะมีสักครั้ง ทีมงานเองก็ไม่รู้ว่าเจียงเซ่อจะยอมเชื่อฟังไหม

แต่แค่ลองออกปากไปเท่านั้น ยังไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมเธอเลยด้วยซ้ำ เจียงเซ่อก็ตอบตกลงเสียแล้ว

“ฉันรู้ค่ะว่าจะต้องทำยังไง”

ผลที่ออกมาค่อนข้างทำให้คนปลายสายแปลกใจไม่น้อย ชะงักไปครู่หนึ่งและยังไม่อยากจะเชื่อ คนปลายสายถามเธออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“คุณเจียง คุณแน่ใจแล้วนะ?”

เจียงเซ่อเองก็ยืนยันไปอีกครั้ง “ฉันแน่ใจค่ะ”

ถึงแม้ว่าเธออยากจะเข้าวงการบันเทิง แต่ก็ไม่เคยคิดจะใช้โอกาสแบบนี้ในการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง

ยังไงซะตระกูลเผยเองก็คงจะทำให้เรื่องจบลงในเร็วๆ นี้ ถึงแม้เธอมีใจอยากจะปั่นกระแส มันก็คงไม่เกิดผลอะไรนักหรอก

คงไม่ฉลาดนักที่จะทำให้เกิดการผิดใจกับทีมงาน หรือทำให้กู้เจียเอ่อต้องมาแค้นใจทีหลัง ตอนนี้เธอต้องอาศัยจังหวะนี้หาทางถอยให้ตัวเอง บางทีอาจจะได้รับผลดีกว่านี้ก็ได้

พอเจียงเซ่อยืนยันไปแล้ว ลำโพงมือถือที่คุยอยู่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา หลังจากนั้นเจียงเซ่อก็เหมือนจะได้ยินเสียงคุยที่ไม่ค่อยชัดเจนนักดังออกมาจากปลายสาย เหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังปิดลำโพงเอาไว้ไม่ให้ได้ยินสิ่งที่กำลังพูดกัน

พอสักพักผ่านไป คนปลายสายก็กรอกเสียงกลับมาอีกครั้ง

“คุณเจียง ขออภัยที่ต้องทำให้รอสายนาน ผู้กำกับกู้ซาบซึ้งในตัวคุณมาก ผู้กำกับหลินซีเหวินมีหนังใหม่ที่กำลังรอถ่ายทำ ผู้กำกับกู้เองก็สนิทกับเขา ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งได้พูดคุยกับผู้กำกับหลินซีเหวินไป เขาคิดว่าคุณน่าจะเหมาะสมกับบทบทหนึ่งในหนังของเขา” เห็นได้ชัดว่าพอเจียงเซ่อยินยอมที่จะรับข้อเสนอของทางทีมงานแล้ว ก็ได้รับการตอบแทนเป็นการแลกเปลี่ยนในทันที แนะนำบทที่จะแคสให้เธอเสียอย่างนั้น

“เธอจำเบอร์เอาไว้นะ แล้วพรุ่งนี้เธอก็ลองไปขอคำแนะนำตอนที่แคสดู”

เจียงเซ่อรับคำ ทีมงานคนนั้นก็บอกเบอร์มาอย่างรวดเร็ว เจียงเซ่อท่องทวนอีกรอบ พอแน่ใจว่าไม่ผิดแน่แล้วก็วางสายไป

เธอกำลังจะบันทึกเบอร์โทรที่เพิ่งได้มาเอาไว้ในมือถือ แต่พิมพ์ไปได้แค่ไม่กี่ตัว มือถือก็ดังขึ้นจนต้องหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่

เจียงเซ่อตัดสินใจพิมพ์เบอร์เข้าไปอีกครั้ง

มือถือเธอมันเป็นรุ่นเก่า แค่กดวางสายไปไอ้ตัวเลขที่พิมพ์ไว้ก็หายไปด้วยทันที

พอจะพิมพ์เข้าไปใหม่อีกครั้ง ยังไม่ทันจะกดบันทึก ไอ้สายเจ้าปัญหานั่นก็โทรขัดเข้ามาอีกรอบ

เธอเองก็ตัดสายไปอีก และพยายามจะพิมพ์หมายเลขเข้าไปอีกครั้ง แต่รอบนี้สายนั้นโทรเข้ามาเร็วมาก เจียงเซ่อถอนหายใจออกมาแล้วยอมเดินไปเอากระดาษปากกามาจดเบอร์ไว้แทน เธอเขียนเบอร์ลงไปด้วย และรับโทรศัพท์ฟังไปด้วย

“เจียงเซ่อ!” ปลายสายกัดฟันเรียกเธอเสียงดังด้วยความโมโห เจียงเซ่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วนึกถึงคนที่อยู่ข้างๆ เผยอี้อย่างเนี่ยต้านขึ้นมา

วันนี้เจ้าเด็กบ้านี่เองก็ช่วยเผยอี้ทำเรื่องแย่ๆ เอาไว้ ตอนนี้ที่ลองโทรมาคงเพราะกำลังจะจัดการเก็บเรื่องแล้วกระมัง

“พูดมาสิ” เธอปีนกลับขึ้นเตียงอีกครั้ง ปลายสายอย่างเนี่ยต้านเองก็ชะงัก “เธอจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าฉันเป็นใคร?”

“คนที่เพิ่งซัดคนในลิฟต์มา” คำพูดของเจียงเซ่อทำเอาเนี่ยต้านเกาจมูก เขาหันหน้าไปหาเผยอี้ที่นั่งอยู่อีกด้าน

“พี่อี้ ยัยผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก”

เผยอี้ไม่พูดอะไร

ก็ไม่ต่างจากที่เจียงเซ่อคิดนัก เผยอี้ซ้อมคนเสร็จ เนี่ยต้านก็มีหน้าที่เก็บกวาด ที่โทรมาหาก็คงจะบอกไม่ให้เจียงเซ่อโผล่หน้าออกไปสักพักล่ะมั้ง

เขาไม่ได้โทรมาเพื่อเจรจากับเธอเหมือนที่พวกทีมงานหนังทำ แต่เขาโทรมาเตือนเจียงเซ่อต่างหาก

เนี่ยต้านเป็นยังไง เจียงเซ่อเองรู้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนถ้าเนี่ยต้านเห็นเธอล่ะก็ เขาก็จะเขามาแสดงความเคารพทุกครั้งไป ไม่ใช่ทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้ พอพูดเรื่องที่ตัวเองต้องการจบแล้ว เนี่ยต้านก็กดตัดสายไปทันที

ที่จริงแล้วเนี่ยต้านได้นัดเจอกันกับพี่ๆ น้องๆ ที่โรงแรมรุ่ยอันในคืนนี้ แต่เพราะดันมีเรื่องที่เผยอี้ไปซัดคนเสียก่อน ยังไงก็คงต้องเปลี่ยนที่นัดสังสรรค์เสียแล้ว