webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

054

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 54 บุพเพสันนิวาส

น้ำอัดลมพุ่งกระเด็นใส่ร่างทั้งสอง แน่นอนว่าสีหน้าของทั้งสองต่างก็แย่ลง

คนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยรีบหันมาดึงกระดาษทิชชู่ให้เธอ เจียงเซ่อหันมาวางแก้วลง แล้วพูดอย่างเสียใจ

“ฉันไม่รู้ว่าคุณยังยืนอยู่ตรงนี้ ฉันนึกว่าคุณไปแล้วเสียอีก ฉันเองก็ไม่ทันระวัง”

เธอปัดกระโปรงของตัวเองเบาๆ ท่าทางแบบนี้คงไมดื่มเหล้าแสดงความเคารพไม่ได้แล้วล่ะ เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการกับรอยเลอะบนเสื้อนี่

ยืนอยู่ในห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง พอออกมาเธอก็ลองชะเง้อดูในห้องจัดงานเลี้ยง คนเยอะขนาดนี้ คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอไปแล้ว

วันนี้เจียงเซ่อสวมเป็นกระโปรงชีฟองสีขาวข้างใน และก็เป็นลายดอกไม้ด้วย เธอหยดๆ น้ำลงไปตรงรอยพวกนั้น หลังจากนั้นก็เอาทิชชู่ซับๆ มันก็ดูดีขึ้น

เธอเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ แต่ออกมาก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วออกมาห้องจัดเลี้ยง

ดูท่าวันนี้คงมาเสียเที่ยวซะแล้ว เจียงเซ่อไม่คิดจะกลับเข้าไปในงานอีก เธอเดินไปกดลิฟต์และรอลิฟต์มารับ

ที่ชั้นสิบสองของโรงแรมรุ่ยจี๋แห่งนี้ เนี่ยต้านกำลังเดินตามเผยอี้ออกมาจากห้องอาหาร

“พี่อี้ พี่อี้ อย่างเพิ่งโกรธสิ”

เผยอี้เป็นคนตัวสูงและขายาว เดินออกมาแค่ไม่กี่ก้าวก็ออกมาถึงหน้าห้องอาหารแล้ว

ตัวลิฟต์ยังอยู่ชั้นบน เนี่ยต้านส่ายหัวไปมา “กลับมาจากฝรั่งเศสครั้งที่แล้ว คุณปู่ก็ยังเห็นผมเป็นหลานคนหนึ่ง” เขาพูดจบก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องอีก “เปิดเทอมหลายเดือนมานี้มันไม่ง่ายเลย พ่อผมก็มาลดเงินค่าขนม พวกพี่ชายก็มางานเลี้ยงไม่ได้ เย่ซุนก็โดนคุมอย่างกับม้ากับลา พี่มาแค่แป๊บเดียวแบบนี้ก็จะกลับแล้วเหรอ?”

เผยอี้ไม่พูดอะไร เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือออกมาดู

เนี่ยต้านมองท่าทีของเขา ก็พอจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“เฝิงหนานยังไม่สนใจพี่อีกเหรอ?”

พอพูดถึงเฝิงหนานขึ้น เผยอี้เงยหน้าใช้สายตาเตือนเขาทันที น้ำเสียงที่มีอำนาจถามออกไป “เฝิงหนานเป็นชื่อที่แกจะเรียกได้เหรอ?”

เนี่ยต้านรีบก้มตัวลง “ครับ ครับ ครับ”

เฝิงหนานถือว่าเป็นจุดอ่อนของเขาเลย ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่นิสัยไม่ดีขี้โมโหและชอบอาละวาดคนอื่นมากแค่ไหน แต่พอได้เจอกับเฝิงหนานเขาก็จะไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด

เผยอี้อายุน้อยกว่าเฝิงหนานห้าปี ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ สำหรับเขาก็ถือว่าเป็นแค่รักข้างเดียว ทั้งสองรู้จักกันมานาน ตัวเฝิงหนานแต่ไหนแต่ไรก็เห็นเผยอี้เป็นแค่น้องชายเท่านั้น

ปีนั้นเขาได้พูดถึงบรรยากาศที่บอร์โดซ์ให้เฝิงหนานฟัง ทั้งแสงอาทิตย์และวิวทิวทัศน์ที่นั่น เขาได้ไปถึงฝรั่งเศสเพื่อไปซื้อบ้านพักตากอากาศที่นั่น เก็บไว้เป็นความลับถึงสองปี รื้อของเก่าๆ ออกแล้วตกแต่งใหม่ขึ้นมาให้เป็นแบบที่เฝิงหนานชอบที่สุด

ที่จริงแล้วปีนี้ได้สัญญาเอาไว้ว่าจะมอบสิ่งที่เธอชอบให้ แต่ทว่ากลับไม่มีใครบอกเขาเลย ว่าเธอจะต้องแต่งงานกับไอ้ทายาทของเจียงหัวกรุ๊ปนั่น

เผยอี้ระงับอารมณ์ไม่ไหว เขาทะเลาะกับเฝิงหนาน แถมยังไปฝรั่งเศสคนเดียวอีกต่างหาก

แต่ใครจะไปรู้ว่าขนาดกลับประเทศมาแล้ว เฝิงหนานก็ไม่สนใจเขาอีก โทรไปก็ไม่รับ หน้าก็ไม่ยอมเจอ เขาเองก็พูดอะไรไม่ออก ในใจกลับรู้สึกเหมือนตอนที่หนีไปฝรั่งเศสยังไงอย่างงั้น ความรู้สึกที่อยากจะตายเสียให้ได้

หลังจากที่กลับมาจากฝรั่งเศส ความรู้สึกของเขาก็มีแต่แย่ลงไปอีก

“พี่อี้ พี่ก็โกรธหรูหนิงมานานแล้วนะ ไอ้บ้านั่นมันปากพล่อย สมควรโดนจริงๆ นั่นแหละ แต่พี่เป็นคนที่ใจกว้างขนาดนี้ อย่าไปสนใจมันเลยพี่”

พอพูดถึงเฉิงหรูหนิงเขาก็ยิ้มแห้งๆ ออกมา

ตอนแรกที่เผยอี้ทะเลาะกับเฝิงหนาน เฉิงหรูหนิงก็เสนอว่าให้ไปฝรั่งเศสกับบรรดาพี่น้องด้วยกัน เพื่อที่จะได้ไปปลดปล่อยและพักผ่อนหย่อนใจ

ใครจะไปรู้ว่าพอกลับมาแล้วเฝิงหนานก็ไม่สนใจเผยอี้อีกเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือเผยอี้ไปถึงบ้านตระกูลจ้าวแล้วซ้อมไอ้บ้านั่นอย่างรุนแรงอีก

พอเขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ก็วิ่งไปบ้านตระกูลจ้าว เข้าไปชกต่อยเฉิงหรูหนิง จนมันร้องโอดครวญแล้วโทรไปฟ้องคนโน้นทีคนนี้ที บอกว่าทุกวันนี้ไม่มีหน้าไปพบกับใครแล้ว

เนี่ยต้านเองก็ถูกเฉิงหรูหนิงร้องห่มร้องไห้รบกวนจนเขารำคาญ สุดท้ายจึงตอบตกลงว่าจะนัดเผยอี้ออกมาในคืนนี้ เพื่อให้เผยอี้ได้เหลือหนทางให้เฉิงหรูหนิงบ้าง

แต่พอเผยอี้มาตามนัดแล้ว พอได้ยินว่าเฉิงหรูหนิงก็มาด้วย เขาก็หันหน้าเดินกลับทันที

เจ้าเด็กบ้านี่อายุก็ไม่น้อยแล้ว แต่กลับจิตใจคับแคบ แถมยังแค้นฝังหุ่น

เขาเป็นหลานคนโตของตระกูลเผย ตั้งแต่เด็กก็ถูกคุณปู่ตระกูลเผยโอ๋และเป็นที่โปรดปรานมาตลอด รักเขาไม่ต่างจากลูกคนหนึ่ง

ถึงแม้ว่าที่เนี่ยต้านนัดเฉิงหรูหนิงออกมา เพราะไม่อยากจะให้พี่น้องต้องมาขัดแย้งกันเอง แต่เขาก็กลัวว่าเผยอี้จะระเบิด ดังนั้นเขาเลยส่งข้อความไปบอกก่อน แต่ใครจะไปคิดว่าพอเผยอี้รู้ว่าเฉิงหรูหนิงจะมาก็ไม่พูดร่ำทำเพลงเดินกลับออกมาทันที

“พี่อี้ หลายปีมานี้พี่เฝิงหนานก็เป็นอย่างนี้กับพี่มาตลอด เธออาจจะไม่ได้มีใจ......” เนี่ยต้านยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นว่าแววตาของเผยอี้ดูไม่สบอารมณ์เอามากๆ แถมยังกำหมัดแน่นอีก

หนังตาเขากระตุก และรีบเดินถอยหลังไปทันที เขายกมือขึ้นบังหน้าเอาไว้

“โอเคๆๆ ผมปากไม่ดีเอง จะไม่พูดแล้ว”

เฝิงหนานถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเผยอี้ ใครจะแตะต้องเธอไม่ได้เด็ดขาด แล้วเนี่ยต้านยังจะพูดขึ้นมาอีก

ถ้าดูจากนิสัยเอาแต่ใจของเผยอี้แล้วล่ะก็ ยังไม่ทันพูดเหตุผลก็คงจะโดนตีเสียแล้ว แถมไม่แน่ว่าพ่อเขาจะให้เขาเป็นคนไปขอโทษถึงบ้านตระกูลเผยอีก

การเอาคืนของตระกูลเฉิงก็ยังมีให้เห็น ตอนนั้นที่เฉิงหรูหนิงถูกตีจนเละขนาดนั้น คุณปู่ของตระกูลเฉิงทนมองต่อไปไม่ไหว ถึงได้ไปถึงบ้านตระกูลเผยเพื่อบอกกล่าว เผยอี้จึงโดนควบคุมตัวอยู่ช่วงหนึ่งแต่หลังจาก ‘กักตัว’ ออกมาแล้วก็ยังดูเหมือนเดิม คิดจะต่อยก็ต่อย

“พี่อี้ ไหนๆ ก็มาแล้ว ถือว่ามาสังสรรค์กับพี่ๆ น้องๆ ถ้าพี่ไม่ชอบนักก็ไม่ต้องให้หรูหนิงมาก็ได้”

เขาเดินตามเผยอี้ไปได้สองก้าว คนตรงหน้าก็หยุดลง

“ไม่ต้องแล้ว” เขาเดินไปถึงหน้าลิฟต์ รู้สึกกระวนกระวายจนต้องยกมือถือขึ้นมาดูอีก แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไรจากมันเลย

ราวกับว่าช่วงเวลาที่เขาไปฝรั่งเศส เฝิงหนานกับเขาก็กลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันไปแล้ว เธอไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาอีกเลย

พอคิดถึงตรงนี้ เผยอี้ก็รู้สึกเจ็บปวดในใจไปหมด และมีความรู้สึกโกรธขึ้นมาด้วย เขาเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วหักนิ้วดัง ‘กร๊อบ กร๊อบ’

“ไม่ได้ ไอ้บ้าเฉิงหรูหนิงจะมาถึงเมื่อไหร่?”

เขารู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้ว!

หนังตาเนี่ยต้านกระตุก ท่าทางแบบนี้ของเผยอี้ สีหน้าน่ากลัวตอนพูดถึงเฉิงหรูหนิงแบบนี้ ถ้าหมอนั่นมาถึงจะต้องโดนจัดการอีกแน่ๆ

เฉิงหรูหนิงจะโดนตีก็ช่างมัน แต่การนัดกันออกมาสังสรรค์เป็นความคิดของเขา ถ้ากลับไปแล้วเรื่องนี้ไปถึงหูของพวกผู้ใหญ่ เขาเองก็คงต้องโดนจัดการแหงๆ

“พี่อี้ พี่อี้ พวกผู้ใหญ่เพิ่งจะหายโมโหกันไปเองนะ!”

ตอนแรกก็อยากจะรั้งให้เผยอี้อยู่ต่อหรอก แต่พอเห็นว่าลิฟต์ก็มาถึงแล้ว เขาจึงเปลี่ยนใจรีบดันเผยอี้เข้าไปทันที

“จะตีเฉิงหรูหนิงไว้ตีวันหลังก็ได้ไม่ใช่เหรอ? ไม่จำเป็นต้องวันนี้เสียหน่อยนี่เนอะ?” เขาเองก็ยังเกรงๆ ว่าเผยอี้จะไม่ไปจริงๆ จึงแทรกตัวเข้าไปในลิฟต์ด้วยเสียเลย หลังจากนั้นก็รีบกดให้มันลงไปที่โถงลอบบี้ชั้นล่างสุด

เจียงเซ่อเองก็เดินออกมาจากห้องจัดงานเลี้ยงปิดกล้องได้พอสมควรแล้ว ยังไงตอนนี้ก็คงไม่มีใครมาสังเกตมาสนใจเธอแน่ๆ

แต่เธอยังไม่ทันได้รอให้ลิฟต์มาถึงก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง

และนั่นก็คือ คนที่เพิ่งพูดถึงกับไต้เจียไปตอนอยู่ข้างล่างนั่นเอง หนึ่งในโปรดิวเซอร์ของหนัง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เหยาเสียง

“เป็นอะไรไปเหรอ?”

วันนี้เหยาสียงเซตผมมามันเงา สูทถูกถอดไว้ในห้องจัดเลี้ยง