webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

050

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 50 เผยอี้

“เจ้าด็กนี่น่ะมันดื้อดึง” เสียงอันคุ้นหูของผู้ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างสุขใจในความทุกข์ของคนอื่น“เจ้านี่กับตระกูลเฉิง แล้วก็ไอ้พวกเด็กถูกสปอยล์จนเสียคนพวกนั้นพากันไปเที่ยวก่อกวนที่ฝรั่งเศส ยั่วจนท่านโกรธจนส่งตัวมากักบริเวณที่นี่ ในเมื่อสอนแล้วไม่จำก็โยนให้ทหารช่วยสั่งสอนปรับปรุงแล้วกัน”

เจียงเซ่อหยิบขวดน้ำของตัวเองที่พกติดกระเป๋ามาด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้ดื่มมันก็ได้ยินประโยคนั้นเสียก่อน

เธอรู้สึกแปลกใจที่เสียงนั่นคุ้ยเคยถึงขนาดนี้ พอหันหน้ากลับไปมอง ก็ได้พบกับชายหนุ่มสวมเสื้อลายทหารยืนคุยกับอาจารย์ผู้สอนอยู่ไกลๆ

ผู้ชายคนนั้นเป็นคนของตระกูลเผย เมื่อก่อนเธอเคยเจอเขาครั้งหนึ่ง แต่เพราะว่าไม่ใช่รุ่นเดียวกันจึงไม่สนิทคุ้นเคยเท่าไหร่ เขาน่าจะชื่อ เผยจิ้นหยาง เป็นอาฝ่ายพ่อของเผยอี้

แต่ทว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนของตระกูลเผยนั้นนี่สิ คนที่สวมชุดลายทหารเหมือนกัน เขาก็คือเผยอี้ สีหน้าของเขาดูเย็นชา สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เท้าที่สวมคอมแบตอยู่ยังเตะพื้นสนามไปมาอยู่อย่างนั้น

เขายังคงไว้ผมสีทอง ผมทุกเส้นล้วนถูกย้อมจนเป็นสีเดียวกัน หลายครั้งที่คุณปู่ของตระกูลเผยโมโหและดุด่าเขา แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมย้อมกลับไปเป็นสีดำ

“เอาจริงเอาจังหน่อย!” ท่าทางของเขาทำเอาเผยจิ้นหยางโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ทนไม่ได้จนด่าออกไป “ปู่แกบอกว่าแกก่อความวุ่นวายมากไปแล้ว แถมยังไม่รู้จักแก้ไขความผิดอีก!”

เขาก้มหน้าลง ท่าทางเหนื่อยหน่ายที่จะมาสนใจ แต่ก็พูดออกมา

“ผมไม่ผิด”

เจียงเซ่อไม่คิดมาก่อนเลยว่า หลังจากเกิดใหม่แล้วเธอจะได้มีโอกาสได้เจอเผยอี้อีก แถมยังเจอในสถานที่แบบนี้อีก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ถ้าเขาเห็นเธอแบบนี้จะต้องกระโดดโลดเต้นเข้ามาหาเธอแล้วอย่างแน่นอน

แต่ทว่าตอนนี้สองคนอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม เธอยืนถือขวดน้ำห่างจากเขาไม่ถึงห้าเมตรด้วยซ้ำ เขากลับก้มหน้าและแม้แต่หางตาก็ยังไม่มองเธอเลย

เธอรู้สึกเจ็บแปลบตรงหัวใจขึ้นมา แต่ก็บอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น

“ทำไมแกจะไม่ผิด?”

เผยจิ้นหยางโมโหกว่าเดิม เขายกขาขึ้นหวังจะถีบเผยอี้ แต่พอคิดว่าเดียวเจ้าบ้านี้เกิดจะฟ้องร้องขึ้นมาจึงวางขาลง

“วันๆ เอาแต่ไปบ้านตระกูลเฉิง ตีหลานของลุงเฉิงจนร้องไห้โหยหวน พวกเขาพากันไปฟ้องร้องแล้ว!” เขาจ้องเผยอี้เขม็ง ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ผมของเขา “แล้วนี่ก็อีก ผมแกนี่มันอะไรกันฮะ? ที่นี่เป็นค่ายทหาร ที่นี่คือกองพลทหารเว่ย!”

เผยอี้สวมชุดลายทหารเหมือนทหารทั่วๆ ไป เขาเป็นทายาทของตระกูลเผยที่มีรูปร่างสูง หน้าตาก็ได้แม่มาเต็มๆ ดวงตาเรียวคม อารมณ์ดูกำลังรำคาญเป็นอย่างมาก เขาสวมชุดลายทหารทั้งตัว แต่กลับเหมือนเขากำลังสวมเสื้อที่กำลังจะใช้ถ่ายแบบยังไงอย่างนั้น

“ไอ้บ้าเฉิงหรูหนิงนั่น” พอเขาได้ยินเผยจิ้นหยางพูดแบบนั้น จากที่กำลังจะกระโดดเผยอี้ก็เถียงขึ้นมาทันที “ก็ตอนนั้นมันเสนอวิธีบ้าอะไรมาก็ไม่รู้นี่ มันบอกให้ผมไปพักผ่อนหย่อนใจที่ฝรั่งเศส ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กนี่ หลังจากกลับมาเฝิงหนานจะไม่สนใจผมแบบนี้ได้ไง?”

แค่พูดถึงเฉิงหรูหนิงเขาก็โมโหขึ้นมาทันที พุดทีก็ทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เพราะเจียงเซ่อยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก คำพูดของเผยอี้ทุกคำเธอเองก็ได้ยินหมด

เฉิงหรูหนิงที่เผยอี้พูดถึงเจียงเซ่อเองก็รู้จัก เขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่หลังๆ มานี้ก็ดูดีขึ้นแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะเกิดทะเลาะกันขึ้นมาอีก แถมเผยอี้ก็ยังพูดถึงชื่อเธอขึ้นมาอีก

เธอหมุนขวดน้ำในมือไปมาสองรอบ พยายามสงบนิ่ง

ทันใดนั้นเอง เผยจิ้นหยางก็เงยหน้าขึ้นมาเจอเธอ แต่ครู่เดียวก็เบนสายตาไปหาเผยอี้แล้วล็อกตัวเขาไว้

แต่ทว่าเด็กคนนั้นตัวค่อนข้างสูง หลายปีผ่านไปพละกำลังก็เพิ่มมากขึ้น แล้วยิ่งกำลังโมโหอยู่อย่างนี้ ท่าทางเผยจิ้นหยางเองก็เอาเขาไม่อยู่ เขาจึงออกแรงเพิ่มอีกเพื่อที่จะได้จับเผยอี้เอาไว้

“แกอารมณ์ไม่ดีแล้วจะไปตีหลานเขาถึงบ้าน ตีจนชาวบ้านเขาหน้าบวมช้ำเลือดออก ที่บ้านสอนพวกนี้ให้เพื่อให้แกไปทำแบบนี้หรือไง?” เผยจิ้นหยางพูด แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาอีก “คุณลุงที่บ้านตระกูลเฉิงโทรมาบอกที่บ้านหมดแล้ว ปู่แกอายุปูนนี้แล้วแต่ยังต้องมาเสียหน้าเพราะแกอีก!”

ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ คุณปู่ก็คงไม่โมโหจนส่งหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาอยู่ในมือตนเพื่อพามาปล่อยไว้ในค่ายทหารหรอก

เผยอี้ดิ้นขัดขืนอีก เผยจิ้นหยางเองก็เริ่มจับเขาไม่อยู่ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหอบ

เพื่อนทหารที่อยู่ตรงหน้าก็หัวเราะขึ้น เขาได้ยินอย่างนั้นก็เกิดหงุดหงิดขึ้นมา เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้วยกขาขึ้นถีบเผยอี้ไปหนึ่งที

“ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าทำให้คนอื่นเขาหัวเราะได้!”

เผยอี้ที่โดนถีบไปทีหนึ่งก็ว่านอนสอนง่ายขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิด ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้เผยจิ้นหยางขบเคี้ยวฟันอย่างโมโห

“เหล่าหลิว ฝึกทหารอยู่หรือ?”

สั่งสอนหลานเสร็จแล้วเผยจิ้นหยางก็ปล่อยเผยอี้ออก ขยับๆ เสื้อให้ดี แล้วหันมายิ้มให้อาจารย์ผู้สอน

อาจารย์หลิวเป็นคนธรรมดาๆ แต่ก็อาศัยความสามารถของตัวเองจนกระทั่งได้เข้ามาอยู่ในกองพลในเมืองหลวงนี้

เขารู้ว่าเผยจิ้นหยางเกิดมามีพื้นฐานที่ดี เขากับเผยจิ้นหยางเองก็ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับหนึ่ง พอเห็นว่าเผยจิ้นหยางพาคนมา แถมยังบอกว่าเป็นหลานเป็นญาติกันอีก ยิ่งได้เห็นว่าเผยอี้มีผมสีทองมาขนาดนี้ ท่าทางดูไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าควรจะทำอย่างไร

ก่อนหน้าที่อาหลานสองคนนี้ทะเลาะกันเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ พอเผยจิ้นหยางถามขึ้นมาแบบนั้นเขาก็หันหน้าไปมอง

“ปีนี้มีเด็กใหม่จากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งมาฝึกน่ะ”

นักศึกษาหลายคนกำลังกัดฟันวิ่งรอบสนามด้วยก้าวเท้าที่หนักหน่วง บางคนก็กะเผลกขาวิ่งไปเรื่อยๆ

แต่อาจารย์ผู้สอนก็ไม่ได้รู้สึกสงสารเลยสักนิด แถมตะโกนขึ้นอีก

“วิ่งเร็วๆ หน่อย ภายในห้านาทีต้องวิ่งครบห้ารอบ ใครวิ่งไม่ครบเพิ่มอีกสองรอบ!”

เผยจิ้นหยางมองไปที่เจียงเซ่อ ก่อนหน้านี้เผยอี้พูดถึงเฝิงหนานขึ้นมา เขาเองก็รู้ทันทีว่าจุดอ่อนของเผยอี้อยู่ตรงไหน เขาจึงไม่แตะต้องไม่พูดถึงขึ้นมาอีก

แต่เขาก็เกิดรู้สึกตัวขึ้นมา ว่าตอนที่เผยอี้พูดถึงเฝิงหนานขึ้นมา เจียงเซ่อที่ยืนอยู่นั้นมีท่าทีที่แปลกๆ

ถึงแม้ว่าตอนเขาหันไปมองเจียงเซ่อก็หันกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เผยจิ้นหยางก็หยีตามองแล้วชี้ไปที่เธอ

“เหล่าหลิว นั้นเป็นใครหรือ?”

พออาจารย์ฝึกหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นเจียงเซ่อ

เด็กใหม่ปีนี้ที่เข้ามา เจียงเซ่อเป็นคนเดียวที่เด่นสะดุดตาที่สุด

เธอเป็นคนที่สวยมาก นอกจากเด็กฝึกใหม่ที่เป็นผู้ชายแล้ว ก็ยังมีพวกนายทหารคนอื่นๆ แอบถามชื่อเธอบ่อยครั้ง

อาจารย์หลิวเองก็มีอายุแล้ว แต่ก็ยังคิดว่าเจียงเซ่อสวยมากจริงๆ มันเป็นความคิดของคนที่ไม่ใช่คนหนุ่ม แต่ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเขาก็ไม่ได้ประทับใจในตัวเจียงเซ่อนัก

เขาเป็นครูฝึกมานาน ผู้หญิงที่สวยแบบนี้ ส่วนมาก็เป็นพวกเปราะบางอ่อนแอ

แต่เท่าที่ฝึกมาหลายวันนี้ การฝึกทุกอย่างพวกเด็กผู้ชายก็พากันบ่นร้องว่ามันลำบาก แต่สาวสวยคนนี้กลับมีความเข้มแข็งและแกร่ง

ทุกครั้งที่ฝึกหรือทำภารกิจต่างๆ เธอก็อดทนทำมัน ไม่ว่าจะสำเร็จไม่สำเร็จเธอก็ไม่มีความย่อท้อ

เหมือนเมื่อกี้ที่เขาสั่งให้วิ่งห้ารอบ เด็กสาวคนอื่นๆ ต่างก็ร้องขอให้เขาลดหย่อน แต่เธอกลับเป็นคนเดียวที่ไม่พูดอะไรสักคำและไปเตรียมตัววิ่งเรียบร้อย

หลายวันต่อมาอาจารย์หลิวต้องมองเธอใหม่ หน้าตาสวยแต่ไม่เย่อหยิ่ง ที่สำคัญที่สุดคือนิสัยของเธอถูกชะตาเขามาก