webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

048

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 48 โต้วาที

สำหรับมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแห่งนี้ คณะประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นคณะที่เก่าแก่ที่สุด จึงเป็นที่รู้จักของทั้งคนในประเทศและนอกประเทศ

สิ่งก่อสร้างที่นี่ส่วนมากจะมีกลิ่นอายของความโบราณและความเรียบง่าย มีกลิ่นอายของอารยธรรมอันเข้มข้น และแน่นอนว่าจะได้เห็นหนังสือตำราสอนที่เรียงรายอยู่มากมาย และตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็กำลังรับนักศึกษามาลงทะเบียนเรียน

เจียงเซ่อเธอชอบบรรยากาศแบบนี้ คนที่มารอรับนักศึกษาคือผู้ชายรูปร่างผอมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า อาจจะเป็นเพราะว่าคณะประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งไม่ค่อยมีคนมาลงเรียนเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผู้หญิงก็ยิ่งน้อย พอผู้ชายคนนั้นเห็นเจียงเซ่อก็ดันแว่นที่สวมอยู่ พอเงยหน้าขึ้นมองดีๆ เขาก็แทบจะละสายตาไปไหนไม่ได้เลย

นักศึกษาใหม่ส่วนมากก็ยังเป็นเด็กๆ ทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้แต่งตัวกันเท่าไหร่ ยิ่งสวยๆ อย่างเจียงเซ่อนี่ก็น้อยนัก

ชายคนนั้นจ้องจนตาเริ่มพร่า จนกระทั่งเจียงเซ่อเรียกเขา ชายคนนั้นก็รีบดึงสติกลับมาทันที แถมแก้มก็ยังแดงอีก

นักศึกษาคนอื่นที่อยู่รอบๆ เองก็เดินเข้ามาใกล้ ท่าทาง กระตือรือร้นที่จะช่วยเจียงเซ่อลงทะเบียน

ถึงเมื่อก่อนก็เคยเรียนมาแล้ว แต่ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยก็จะมีคนของตระกูลช่วยทำเรื่องต่างๆ ให้ ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยต้องมาทำเรื่องที่มหาวิทยาลัยเองเลย

ดีที่เธอได้เตรียมสิ่งที่ต้องใช้ไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสำเนาทะเบียนบ้านและใบข้อมูลต่างๆ ก็เตรียมเอาไว้ในแฟ้มเรียบร้อย แต่ตอนจะจ่ายเงินค่าเทอมเจียงเซ่อก็เกิดอึ้งไป

เงื่อนไขของมหาวิทยาลัยคือต้องอยู่หอใน

ยืนนิ่งอยู่นาน ถึงผู้ชายกลุ่มนั้นจะไม่ได้การตอบสนองจากเจียงเซ่อ แต่พวกเขาก็ไม่ท้อถอย พอเห็นเจียงเซ่อเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมา ชายคนนั้นก็กระซิบบอกเธอเบาๆ

"ถ้าจ่ายค่าหอแล้ว ทางมหาวิทยาลัยเองก็ไม่เข้มงวดเรื่องนี้อยู่แล้ว ถึงเวลาก็ออกไปอยู่ข้างนอกก็ได้ครับ หลังๆ นี่ไม่ค่อยตรวจกันหรอก

แต่ในอาทิตย์แรกๆ ก็ยังต้องมีการ *ฝึกทหารอีก ดังนั้นจะต้องมีการควบคุมแน่ๆ หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก

เจียงเซ่อนึกถึงเมื่อก่อน เธอไม่ได้อยู่ที่หอในเลยด้วยซ้ำ และก็ไม่เคยต้องไปฝึกทหารอะไรด้วย แต่ว่าพอคิดๆ ดูแล้ว เพราะตอนนั้นตระกูลเฝิงยังพอมีอำนาจและเส้นสายในเมืองหลวงอยู่บ้างหรอก ถึงได้ผ่านไปได้อย่างสบายๆ

ค่าเทอมดูท่าว่าจะไม่เป็นตามที่เธอคาดไว้ จ่ายไปเจ็ดพันก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ แล้วก็บวกค่าหอเพิ่มอีกสองพันหยวน ในบัตรเธอก็เหลือเพียงสองหมื่นแปดพันหยวน

เธอซื้อของใช้จำเป็นไปอีกเล็กน้อย หลังจากที่จัดการเรื่องเอกสารเข้าเรียนและปฏิเสธชายหนุ่มหลายคนที่อาสาจะไปส่งเธอที่หอแล้ว เธอก็ถือของส่วนตัวดินไปตามคำที่บอก เดินอยู่นานจึงจะถึงหอพัก

ด้านหลังก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่ยอมแพ้ เดินตามมาห่างๆ

มีสาวสวยเข้าคณะประวัติศาสตร์ทั้งที ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ข่าวนี้ก็แพร่ไปทั่วมหาลัย

มีคนได้แอบถ่ายรูปเธอเอาไว้ด้วย เป็นตอนที่เธอกำลังก้มหน้ากรอกข้อมูลอยู่

ในรูปดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกถ่าย เธอกำลังกรอกข้อมูลลงในเอกสารอย่างตั้งใจ มีบางคนก็ถ่ายเป็นวีดีโอเอาไว้ ผิวของเธอขาวดุจหิมะไร้รอยตำหนิ เส้นผมเรียงตัวกันเรียบร้อยและถูกมัดเอาไว้ ราวกับว่าไม่เคยได้ออกแดดเลย

สายตาของเธอจดจ้องไปที่เอกสาร และเพ่งสมาธิไปตรงนั้น ราวกับว่าเธออยู่คนละโลกกับมหาวิทยาลัยที่มีแต่เสียงเอะอะนี้ แต่ว่าเสียดายที่กล้องมือถือไม่ได้ชัดเหมือนกล้องถ่ายหนัง แต่ก็ยังเห็นขนตาที่เรียงตัวเป็นแพของเธอได้

ในรูปนั่นเธอมีกรอบหน้าที่คมคาย ใบหูไม่มีการถูกเจาะ และไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไร ถึงแม้ว่าจะดูออกว่าเธอไม่ได้แต่งหน้า แต่พอรูปถูกส่งไปแล้ว ก็มีคนให้ความสนใจอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวจางคณะประวัติศาสตร์ : เข้ามาดูสาวสวยเร็วเข้า คณะประวัติศาสตร์มีเด็กเข้าใหม่ สวยจนทำเอาใจฉันสั่นไปหมด ตอนนั้นฉันเข้าไปรับเธอด้วย พอโดนเธอมองแค่แวบเดียวตัวก็ลอยแล้ว หน้าตาโคตรจะดีเลย

พอรูปของเธอของเธอถูกแชร์ไป มันก็สามารถดึงให้ผู้คนเข้ามาถกเถียงกัน

คุณฮวางคณะเศรษฐศาสตร์ : เป็นไปไม่ได้! ทำไมคณะประวัติศาสตร์ถึงได้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้? ถ้าไม่ได้ศัลยกรรมล่ะก็ ตึกคณะนั้นโคตรจะโชคดี!

กู้เยว่หูสาขาจิตวิทยา : อ่าๆๆ ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว นี่มันฆ่าสาวสวยคณะศิลปกรรมฯ ได้เลยนะเนี่ย

เด็กใหม่สาขาประวัติศาสตร์ : น่าอิจฉากระดาษแผ่นนั้นจริงๆ โดนเธอจ้องขนาดนั้นโคตรจะอิจฉาเลย อยากเป็นกระดาษแผ่นนั้นจัง

เหล่าจือเก๋อสาขาปรัชญา : อิจฉา + 1

กู่เยว่หู : อิจฉา +2

ต้าปาวสาขาประวัติศาสตร์ : อิจฉา +3

......

คุณเหวินป๋อหม่าสาขาโบราณศึกษา : ผู้โพสยังมีรูปอื่นๆ อีกไหม? เก็บพวกเอกสารเก็บรวบรวมไปหมดหรือยัง?

เหล่าจือเก๋อสาขาปรัชญา : คุณหม่าดูแน่วแน่มากเลยน้า

คุณฮวางคณะเศรษฐศาสตร์ : เหล่าหม่า +1

......

เสี่ยวจางสาขาประวัติศาสตร์ : เป็นผู้หญิงที่ลักษณะท่าทางดีมาก รูปร่างหน้าตาก็ดี โจวปาวคณะศิลปศาสตร์น่ะเหรอ สู้เธอไม่ได้หรอก ตอนที่ฉันอยากจะไปช่วยพาเธอไปที่หอน่ะนะ เสียดายที่เธอปฏิเสธ......

......

เจียงเซ่อไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ในมหาวิทยาลัยกำลังพูดถึงเธอในเน็ตอย่างเมามัน เธอมาลงทะเบียนค่อนข้างเช้า ตอนที่กลับหอ คนอื่นๆ ก็ยังไม่มาถึงด้วยซ้ำ

ตึกหอของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็ถือว่าไม่แย่ เด็กปีหนึ่งจะต้องอยู่ห้องละสี่คน มีห้องน้ำส่วนตัวในห้อง แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องปรับอากาศ

เธอล้างพวกของใช้ที่เพิ่งซื้อมาให้สะอาด และวางเอาไว้บนเตียงล่าง ไม่นานนัก คนในหอก็เริ่มทยอยกันมา

รูทเมทต่างก็เป็นปีหนึ่งทั้งนั้น มีคนหนึ่งที่เป็นคนตี้ตู้เหมือนกับเจียงเซ่อ ชื่อว่าเสี่ยวตาน ส่วนอีกสองสาวมาจากภาคใต้ทั้งคู่ คนหนึ่งชื่อเฉินยวี่เวยอีกคนชื่อเฉาซวง

เริ่มแรกก็คงไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็ต่างแอบมองเจียงเซ่อ

ทุกคนคิดว่าเพราะหน้าตาของเจียงเซ่อสะสวยขนาดนี้ คงไม่ได้เข้าหาหรือสนิทกันง่ายๆ แน่ แต่เธอก็เกิดมาสวยมากจริงๆ สามารถดึงดูดหลายคนนี้ได้อย่างอยู่หมัด

พอต่างคนต่างแนะนำชื่อตัวเองกันแล้ว บรรยากาศอึดอัดก็ค่อยๆ หายไปด้วย

นอกจากเจียงเซ่อแล้ว รูมเมทสามคนที่เหลือก็อายุสิบแปดกันหมด ดูท่าทางร่างเริงและน่ารัก พอเก็บของเข้าที่กันเสร็จ เสี่ยวตานก็พูดเสนอขึ้นมา

"ไหนๆ พวกเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน เอาอย่างนี้ดีไหม ตอนเย็นเราไปกินข้าวด้วยกันเถอะ คิดว่าไง?"

ความคิดของหล่อนต่างก็เป็นที่เห็นด้วย เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้มีเรื่องต้องทำจึงพยักหน้ารับ

ถึงมหาวิทยาลัยจะยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ แต่โรงอาหารก็เปิดกันหมดแล้ว แต่ทว่าเสี่ยวตานกลับเสนอขึ้นมาอีก

"ข้างนอกมหาวิทยาลัยมีร้านอาหารเยอะแยะเลย พวกเราไปกินข้างนอกกันดีไหม จะได้ถือโอกาสเดินเล่นด้วยไง"

เฉาซวงและเฉินยวี่เวยเองก็เห็นด้วยอย่างตื่นเต้น ทั้งสองเพิ่งจะได้เข้ามหาวิทยาลัย วันนี้ก็เพิ่งมาลงทะเบียน ดังนั้นตอนนี้เลยรู้สึกตื่นเต้นกับมหาวิทยาลัยล่ะมั้ง

ข้างนอกมหาวิทยาลัยมีร้านค้ามากมาย บางสาขาก็สามารถเข้าร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงิน เด็กสาวหลายคนเข้าไปก็ราวกับว่าจะออกมาไม่ได้

เจียงเซ่อไม่ค่อยสนใจของพวกนี้เสียเท่าไหร่ สินค้าต่างๆ ในร้านรวงพวกนี้ค่อนข้างมีราคาถูก ดังนั้นตัวสินค้าเองก็ไม่เท่าไหร่ แต่ทว่าเด็กสาวที่เข้าไปต่างก็หยุดซื้อแทบไปได้ ได้ซื้อแล้วก็จะซื้ออีก กว่าจะออกจากร้านก็ได้ของมากมายออกมา

“จริงสิ มหาวิทยาลัยจะมีการฝึกทหารกันตั้งแต่วันที่ยี่สิบสามใช่ไหม?”

จู่ๆ เสี่ยวตานก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ในมือก็ยังถือของเต็มไปหมด

เด็กสาวเหล่านี้ต่างก็เคยฝึกทหารมาก่อนตอนอยู่มอปลาย พอนึกถึงว่าต้องฝึกทหารก็เกิดเบื่อขึ้นมา แถมแป็บเดียวสีหน้าก็เปลี่ยนไปด้วย

“ฉันไปหาข่าวจากในเน็ตมาแล้วล่ะ ทุกปีทางมหาวิทยาลัยจะมีการฝึกทหาร พวกเราเองก็ต้องไปที่เขตฐานเหล่านั้น เห็นว่ากันว่าข้างในคนที่จะมาสอนเราก็เป็นพวกทหารในจากด้านตะวันตกของตี้ตู” คำพูดของยวี๋เสี่ยวตานทำเอารูมเมทอีกสองคนตั้งใจฟังหล่อนเป็นอย่างมาก และหล่อนเองก็ดูภูมิใจที่ได้แบ่งบันข่าวที่เจอมาจากเน็ต

"เห็นเขาว่ากันว่าพวกนายทหารต่างๆ เป็นคนมีชื่อเสียงทั้งนั้นเลยนะ ถึงได้เป็นกองกำลังของตี้ตูไง"

*ฝึกทหาร เป็นหลักสูตรบังคับที่นักเรียนและนักศึกษาต้องเรียนเพื่อฝึกความอดทนและระเบียบวินัย คล้ายการรับน้องของประเทศไทยแต่ต่างกันที่ทางประเทศจีนจะมีการเชิญทหารมาเป็นผู้ควบคุมการฝึก