webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

034

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 34 เปลี่ยนบท

ตู้หงหงไม่พอใจเป็นอย่างมาก สอบมอสามรอบนี้อุตส่าห์ทบทวนล่วงหน้าแล้วแท้ๆ แต่ผลก็ยังออกมาไม่ได้ดั่งใจ

ถ้าเป็นแต่ก่อนก็ว่าไปอย่างเพราะในบ้านยังมีเจียงเซ่อ

ผลการเรียนของเจียงเซ่อไม่ดี ดังนั้นตู้ชางฉวินจึงเพ่งเล็งเธอเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่ผลสอบออกเธอก็จะโดนด่าตลอด

แต่ทว่าผลสอบรอบนี้ของเจียงเซ่อดีเกินคาด ถึงตู้ชางฉวินจะพูดแล้วว่าจะไม่จ่ายค่าเทอมให้เธอ แต่ผลคะแนนเธอก็ออกมาเป็นแบบนั้น แถมยังติดสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอีก พอเพื่อนบ้านได้ยินข่าวนี้ก็มาถามกันตั้งหลายครั้ง

และผลสอบของตู้หงหงรอบนี้ค่อนข้างแย่ ตู้ชางฉวินจึงสั่งให้หล่อนอยู่บ้านทบทวนบทเรียนซะ

“เป็นพี่น้องกัน ทำไมมีอะไรไม่พูดกันดีๆ”

พอโจวฮุ่ยเข้ามาตู้หงหงก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้น “ใครเป็นพี่น้องกับมันกัน มันแซ่อะไร แล้วหนูแซ่อะไร?”

พอโจวฮุ่ยได้ยินแบบนั้นก็จ้องลูกสาวตัวเองเขม็ง แล้วหันไปมองเจียงเซ่ออีก

“เกิดอะไรขึ้น?”

เจียงเซ่อกินน้ำเสร็จก็หันไปมองตู้หงหง จากนั้นก็ยิ้มขึ้น

“สงสัยจะเกิดมาไม่สวยเลยไม่กล้าส่องกระจก แล้วมาอิจฉาที่หนูส่องกระจกได้ละมั้ง”

พอเธอพูดจบ ตู้หงหงก็โกรธหน้าดำหน้าแดง

หล่อนยังเด็ก ยังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ แถมหล่อนยังเป็นเด็กผู้หญิงที่หยิ่งในตัวเองขนาดนั้น จะไปทนกับคำพูดของเจียงเซ่อได้อย่างไรกัน พอเห็นว่าเจียงเซ่อกำลังจะกินน้ำต่อหล่อนก็ตะโกนขึ้นมา

“ใครอิจฉาแกกัน? ห้ามกินน้ำของฉันนะ นี่มันของบ้านฉัน!”

เป็นเจียงเซ่อก่อนหน้านี้ ถ้าโดนแบบนี้ไปคงวางแก้วแล้วเริ่มทะเลาะกันแน่นอน แต่ใครจะไปคิดว่าเจียงเซ่อก็ยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม แถมยังตั้งใจค่อยๆ กลืนน้ำลงคอจนหมด จากนั้นเธอก็เอาแก้วเปล่าไปวางไว้ที่เดิม

“ฉันจ่ายค่ากินค่าอยู่ไปแล้ว”

ประโยคนั้นทำเอาตู้หงหงพูดอะไรไม่ออก หล่อนหลุดเสียงร้องออกมาดัง ‘ฮึก’ แล้วรีบวิ่งเข้าห้องไปทันที พอโจวฮุ่ยจะเข้าไปหาหล่อนก็ปิดประตูห้องดังปัง

โจวฮุ่ยหันไปมองลูกสาวคนโตที่ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

แต่ก่อนหล่อนยังพูดกับเธอได้ แต่ที่ผ่านมาสองเดือนนี้ ตั้งแต่ตอนที่เจียงเซ่อทะเลาะกับตู้โหยวและโดนตู้ชางฉวินตบหน้า ลูกสาวของหล่อนก็เปลี่ยนไปทันที

แต่จะให้บอกว่าเปลี่ยนไปยังไง โจวฮุ่ยเองก็คงบอกไม่ถูก

แค่รู้สึกว่าปกติเวลาที่หล่อนบอกให้ปิดไฟเจียงเซ่อก็เถียงกลับมาอย่างไม่พอใจ แต่ทุกวันนี้พอหล่อนบอกให้ปิดเธอก็พูดแค่สองสามคำแล้วก็เดินไปปิดไฟเอง

ถึงจะเป็นเหมือนแค่ตัดความรำคาญ แต่ท่าทางของเธอก็ดูห่างเหินด้วย

แต่ก่อนยังได้ยินเธอพูดว่าอยากจะเป็นดาราดัง ทุกวันนี้ก็ดูเหมือนว่ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ ดุเหมือนหลังจากที่ได้งานมีเงินเก็บเป็นของตัวเองแล้ว โจวฮุ่ยเองก็สอนอะไรเธอไม่ได้อีก

“ลูกอย่าเอาแต่ทะเลาะกับน้องสิ น้องเขาอายุน้อยกว่าลูกตั้งกี่ปี ถ้าคุณอาตู้มารู้เรื่องเข้าบ้านต้องไม่สงบแน่ๆ”

ยิ่งเจียงเซ่อเห็นโจวฮุ่ยทำหน้าเบื่อหน่ายก็ยิ่งมั่นใจว่าจะต้องหาเงินเพิ่มเพื่อที่จะหาเงินออกไปเช่าบ้านเสียที

ถึงแม้ว่าพวกทีมงานจะแจ้งเวลาและสถานที่จะถ่ายต่อแล้ว แต่ก่อนถึงวันจริงหนึ่งวันพวกเขาก็ยังโทรมาแจ้งให้เจียงเซ่ออีกครั้ง บอกว่าพรุ่งนี้จะต้องมาถึงก่อนเก้าโมง

ทางทีมงานได้จองเครื่องบินทางไว้แล้ว แต่เวลาค่อนข้างมีจำกัดจึงกลัวว่าเธอจะมาไม่ทันถึงได้ย้ำเธอหลายครั้ง

พอเจียงเซ่อมาถึงสถานที่ใช้ถ่ายก็ยังไม่ถึงแปดโมงเช้าด้วยซ้ำ แต่ทีมงานในกองถ่ายก็มากันแล้ว และกำลังจะเซตฉากกัน

วันนี้ไม่ได้มีแค่ฉากบนเครื่องบินเท่านั้น ยังมีฉากของไต้เจียอีกหนึ่งฉากด้วย

วันนี้ไต้เจียต้องแสดงเป็นแฟนสาวที่กำลังโทรศัพท์อยู่ในสนามบินและกำลังจะขึ้นเครื่อง หลังจากที่เธอทะเลาะกับโจวหรงเชินในวันนั้น เธอก็ขอบริษัทไปทำงานที่ต่างประเทศ เธอจึงโทรหาโจวหรงเชินก่อนจะออกเดินทาง แต่โจวหรงเชินกำลังติดประชุมจึงไม่สามารถรับสายได้

ตอนที่เจียงเซ่อมาถึงกองถ่ายพวกทีมงานทุกคนก็ยิ้มให้เธอตลอดทาง หลังจากที่โดนกู้เจียเอ่อชมในวันนั้น ทีมงานทุกคนก็ยิ้มให้เธอกันหมด

ยังเช้าอยู่ ทั้งช่างแต่งหน้าและสไตล์ลิสต์เองก็ยังไม่มา ทีมงานทุกคนกำลังขนของกัน

ในกองถ่ายมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยกของขนาดใหญ่เข้าไปในห้องแต่งหน้า แต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ของที่อยู่ในมือก็ตกลงไปกองกับพื้นจนกระจายไปหมด

หล่อนดูร้อนใจเป็นอย่างมาก รีบเอาของที่ยังอยู่ในมือไปเก็บไว้ในห้องแต่งหน้า พอออกมาก็พบว่าเจียงเซ่อกำลังเก็บของบนพื้นเอาใส่ในถุงให้อยู่ เด็กผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ขอบคุณค่ะ”

“ไม่เป็นไร”

ของบนพื้นไม่ใช่น้อยๆ เจียงเซ่อส่งของให้หล่อน และหล่อนก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก

“วันนี้เวลาน้อยมาก ผู้กำกับกู้บอกว่าไม่ต้องการให้การถ่ายในวันนี้มีปัญหาเด็ดขาด เพราะมีเวลาแค่ครึ่งวันเอง ใครทำผิดจะต้องโดนด่าอย่างไม่เกรงใจแน่ๆ”

การจะเช่าเครื่องบินใช้เงินค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หลายครั้งที่การถ่ายทำหนังส่วนมากก็จะใช้เครื่องบินจำลองเอา แต่กู้เจียเอ่อต้องการให้หนังมีคุณภาพสูงแถมยังจะใช้ชิงรางวัลอีก เขาถึงต้องใช้เครื่องบินจริง

“ตอนตีห้าพวกเราก็มากันแล้ว ต้องมาเตรียมฉากให้ทัน” หล่อนหันไปมองของที่กองอยู่รอบๆ กองถ่ายแล้วพูดขึ้น “ยังมีของอีกเยอะเลย ยุ่งจนตอนนี้ข้าวก็ยังไม่ได้กิน”

ถ้าพวกช่างแต่งหน้าและนักแสดงมากันแล้ว ของทุกอย่างจะต้องอยู่ประจำที่ให้พร้อม “เรื่องเมื่อกี้นี้ขอบคุณคุณมากนะคะ”

หล่อนพูดจบก็เดินเข้าไปใกล้เธออีก

“ในกองถ่ายวันนั้นฉันเห็นคุณโดนผู้กำกับแนะนำบทให้ด้วยนะ” เธอยิ้มจนเห็นฟันเขี้ยวขึ้นมา อายุหล่อนน่าจะราวๆยี่สิบสองยี่สิบสามปี “แถมยังได้ยินมาว่าคุณโดนผู้กำกับชมด้วย”

หล่อนดูเป็นคนร่าเริง พูดมาตั้งหลายประโยคก็ยังไม่รู้ถึงความเย็นชาของเจียงเซ่อ หล่อนพูดต่อ

“ผู้กำกับกู้ไม่ค่อยชมใครหรอกค่ะ” พอหล่อนพูดจบก็เพิ่งมาสังเกตว่าตัวเองพูดตั้งเยอะ แต่เจียงเซ่อไม่ได้ตอบเลยสักคำ หล่อนจึงรู้สึกอึดอัดขึ้นมา

เจียงเซ่อนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมของเธอที่ยาวสลวยและเรียบร้อยถูกมัดเอาไว้ด้านหลัง รูปหน้าที่สวยเป็นรูปไข่ไม่มีแม้แต่เส้นผมบดบังนั่นยังดูสวยและน่าดึงดูดกว่าดาราที่แต่งหน้าแล้วซะอีก

ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ชอบมองผู้หญิงสวย ผู้หญิงเองก็ชอบเหมือนกัน

เด็กสาวมองเธออยู่หลายรอบแล้วพูดเปลี่ยนหัวข้อขึ้นมา

“ดูคุณเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่ แต่ครั้งที่แล้วเห็นคุณยืนคุยกับไต้เจียอยู่ตั้งหลายประโยคแน่ะ” พอพูดถึงไต้เจียขึ้นเจียงเซ่อก็พยักหน้า หล่อนจึงไขว้ขาขึ้นแล้วขยับเข้าไปใกล้เจียงเซ่ออีก

“เธอโดนเปลี่ยนบทแล้วนะ”

เจียงเซ่อที่ได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้น

“เปลี่ยนบท?”

“อื้อ” เด็กสาวพยักหน้า ในกองถ่ายพูดกันให้แซด หล่อนก็ค่อนข้างตื่นเต้นไม่น้อย มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นแล้วแน่ๆ ยังไงตอนนี้ทุกคนคงกำลังยุ่งกับเรื่องของตัวเองอยู่ คงไม่มีใครมาได้ยินหรอกมั้ง

“เห็นเขาบอกว่า มีคนที่เข้าได้กับบทนี้มากกว่าเข้ามาน่ะ”