webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

031

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 31 Auditions

ไฟที่ถูกจุดยังคงติดอยู่ เจียเซ่อเป่ามันเบาๆ ไฟบนบุหรี่ก็ลุกพรึ่บขึ้นมาและเผาไหม้เร็วขึ้นกว่าเดิม

เจียงเซ่อขยี้บุหรี่ลงกับขอบหน้าต่างแล้วทิ้งมันไว้ตรงนั้น

“เธอดูสิ ไม่สูบเดี๋ยวมันก็เผาจนหมดเอง” เธอมองบุหรี่ที่มอดไปแล้วและคิดว่าถึงวางมันเอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวก็มีคนมาจัดการมันเอง

สีหน้าไต้เจียซีดลงเล็กน้อย หล่อนเม้มปากแน่นไม่พูดอะไรออกมา

มือของเจียงเซ่อมีกลิ่นบุหรี่ติดจนเจ้าตัวต้องขมวดคิ้ว “ขอตัวก่อนนะ”

มองหาที่ล้างมืออยู่ครึ่งหนึ่งกว่าจะเจอ พอล้างจนกลิ่นมันหายก็ออกมา แต่ก็พบว่าไต้เจียได้หายตัวไปแล้ว

เธออยู่ข้างนอกอีกพักหนึ่ง พอเธอเข้าไปในกองถ่ายก็พบว่าฉากของหังยวี๋อีถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว กู้เจียเอ่อกำลังรอให้ทีมงานเปลี่ยนฉากกัน และฉากที่จะถ่ายต่อคือฉากของเจ้ารั่วจวินและเกาเสี่ยวหมิง

ถ่ายไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ กว่าจะถึงจากที่เจียงเซ่อได้เล่นก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่าแล้ว

หน้าของที่แต่งเอาไว้ตั้งแต่เช้าเริ่มจางลงไปแล้ว แต่ช่างแต่งหน้ารีบเข้ามาเติมหน้าให้เธอทันที

ตอนนี้พวกกล้องและเครื่องมือต่างๆ ได้ถูกเอาไปติดตั้งไว้ในเครื่องบินจำลองเรียบร้อยแล้ว ตัวประกอบต่างๆก็ได้ประจำที่และรอผู้กำกับสั่งถ่าย

กู้เจียเอ่อกำลังคุยอยู่กับคนเขียนบท พอเจียงเซ่อและคนที่เล่นเป็นแอร์โฮสเตสคนอื่นเข้ามา กู้เจียเอ่อก็เงยหน้าขึ้น

เพราะแสงไฟในเครื่องบินค่อนข้างสว่างมาก ผู้กำกับเองก็เห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แต่แวบแรกที่เขาได้เห็นและหยุดมองคือเจียงเซ่อ

“ใครเป็นคนหาคนนั้นมา?”

เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

ช่วงนี้ในกองถ่าย ฝันที่เป็นจริง มีคนที่ถูกพูดถึงหลายคนเลยทีเดียว นอกจากเจ้ารั่วจวินและหังยวี๋อีแล้ว คนที่มีการพูดไม่น้อยไปกว่ากันคือ ไต้เจียที่แสดงเป็นแฟนเก่าของหังยวี๋อี และ เจียงเซ่อ

คนข้างๆ ที่โดนกู้เจียเอ่อถามก็รีบตอบทันที

“ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกว่าต้องการนักแสดงจากโรงเรียนสอนการแสดงหรอกเหรอ?”

แล้วคนข้างๆ ก็เล่าถึงตอนออดิชั่น ซุนฉี่หมิงได้เลือกเจียงเซ่อเข้ามา แล้วเขาก็พูดอีก “เห็นบอกว่า ตอนที่พี่ซุนถาม เธอก็บอกว่าพูดภาษาฝรั่งเศสเป็น แถมเคยอยู่ในกองถ่ายของจางจิ้งอานและได้แสดงหนังของเขาอีกด้วย”

กู้เจียเอ่อหันไปมองเจียงเซ่ออีกครั้งหนึ่ง หนังที่ตนทำส่วนใหญ่มักจะเป็นหนังแนวความรัก ตนมองเจียงเซ่อแค่แวบเดียวในหัวก็คิดแล้วว่าเธอเหมาะสมที่จะเล่นหนังของตนมากๆ

เธอยืนอยู่กับกลุ่มพวกคนที่ใส่ชุดแอร์โฮสเตสสีฟ้าเหมือนกัน แต่ลักษณะและบุคลิกของเธอกลับดูโดดเด่นออกมาจากกลุ่มคน

“เคยอยู่ในกองถ่ายของจางจิ้งอาน?” กู้เจียเอ่อมองกลุ่มคนที่ค่อยๆ เข้ามาเรื่อยๆ แล้วหันไปมองเจียงเซ่ออีกครั้ง ทีมงานที่อยู่ข้างๆ ก็ตอบ

“เคยครับ เธอบอกว่าได้เจอจางจิ้งอานและหลิวเย่ แถมตอนนั้นหลิวเย่ยังเป็นคนออกปากให้เธอด้วยครับ”

เจียงเซ่อเป็นคนที่สวยจริงๆ ดวงหน้ารูปไข่เรียวสวยตามมาตรฐาน รูปคางที่สวยโดดเด่น ดวงตาคมเฉี่ยวแต่แววตากลับดูนิ่งเรียบท่าทางดูเย็นชา แต่ก็เข้ากันได้ดีกับชุดน่ารักๆ ที่กำลังสวมอยู่

เธอสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบตามมาตรฐานทั่วไปของแอร์โฮสเตส กระโปรงที่สั้นระดับหัวเข่าแต่ก็ไม่สามารถบดบังความเรียวยาวของขาเธอได้ มันเรียวสวยมากเช่นกัน

ลักษณะรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ถ้าได้เจอหลิวเย่ก็คงไม่แปลกที่ดารายอดเยี่ยมอย่างเขาจะออกปากให้

กู้เจียเอ่อสังเกตเจียงเซ่ออีกครั้ง เธอแทบจะไม่ยุ่งกับพวกตัวประกอบคนอื่นๆ เลย ดูเป็นคนที่สุขุมและสำรวมมากๆ

จนกระทั่งกล้องทั้งหมดพร้อมแล้ว กู้เจียเอ่อถึงได้เบนสายตาไปทางอื่น คิดไปคิดมาก็เรียกผู้ช่วยมากระซิบข้างหูสั่งออกไป

“ตอนที่เจ้ารั่วจวินกับหังยวี๋อีเข้ามาให้เธอคนนั้นขึ้นไปเลย”

เขาชี้ไปที่เจียงเซ่อ ผู้ช่วยชะงักไปแต่ก็รับคำผู้กำกับทันที

กล้องถูกจับไปที่ประตูขึ้นเครื่องเรียบร้อย คนที่ถูกเลือกเป็นแอร์โฮสเตสที่อยู่ตำแหน่งพนักงานต้อนรับถูกผู้ช่วยเรียกขึ้นไป

มันยากที่จะมีโอกาสได้มีบทอยู่ในหนัง แต่หญิงสาวคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบอะไรหล่อนก็เห็นว่าผู้ช่วยกำลังเรียกเจียงเซ่อให้มาแทนที่ของเธอ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที แต่ก็ได้แต่กัดปากไม่กล้าพูดอะไรออกมา หล่อนมองเจียงเซ่อจนน้ำตาแทบจะไหล

เจียงเซ่อเองก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ทีมงานให้เธอพูดแค่สองประโยคเท่านั้น แต่จู่ๆ ก็เพิ่มฉากเข้ามาอีก

“เดี๋ยวพอคนเดินเข้ามาเธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า ‘สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับสู่สายการบิน’ แค่นี้ก็พอ”

ประโยคไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก พอเจียงเซ่อพยักหน้าเขาก็รีบเดินออกมาทันที พอเสียงแคลปบอร์ดดังขึ้น กล้องที่อยู่ข้างนอกก็เริ่มถ่ายหังยวี๋อีที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบินทันที

เขากำลังแสดงเป็นโจวหรงเชินที่เพิ่งเลิกกับแฟนสาวมา แถมยังโดนพ่อแม่เร่งให้แต่งงานอีก ตอนนี้ในใจของเขาวุ่นวายมาก จึงอ้างว่าจะมาทำงานและบินไปยังฝรั่งเศส

ก่อนจะขึ้นเครื่องนั้น เขายังได้รับรับโทรศัพท์จากพ่อแม่ ทำให้เขาเสียเวลาไปครู่หนึ่งและนั่นก็ทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

โจวหรงเชินถือกระเป๋าเอกสารขึ้นเครื่องบินด้วยใบหน้าเย็นชา

กล้องในตัวเครื่องบินจำลองถ่ายไปที่หน้าประตู และกู้เจียเอ่อเองก็กำลังดูกล้องนั้นอยู่ด้วย เจียงเซ่อที่อยู่หน้าประตูก็ยังยืนอย่างปกติ ที่สำคัญก็คือ ในกลุ่มคนนั้นเห็นคนไม่น้อยที่กำลังสอดส่องสายตาหากล้อง หรือแม้แต่คนที่แสดงเป็นแอร์โฮสเตสอีกคนที่อยู่ข้างเธอก็กำลังมองมาทางนี้ แต่เจียงเซ่อกลับนิ่ง ราวกับว่าไม่มีกล้องอยู่ตรงนี้เลย เธอไม่ได้มองมาทางกล้องแม้แต่น้อย

พอหังยวี๋อีเข้ามา หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ หล่อนก็ยังไม่ได้สติกลับมา แต่เจียงเซ่อก็ยิ้มขึ้นแล้วพูดบทของเธอเอง

“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่สายการบิน”

ประโยคง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเจียงเซ่ออยู่แล้ว และกู้เจียเอ่อเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาสำหรับเธอด้วย

อย่างไรเสีย ในส่วนนี้ก็คงไม่ต้องใช้ฝีมือในการแสดงอะไรนัก ก็แค่ต้องการรูปลักษณ์ของเธอมาเพิ่มสีสันให้กับฉากนี้เท่านั้น

แต่ทว่า เจียงเซ่อทำตัวเป็นตัวประดับได้อย่างดี แต่ก็ดันมาเกิดปัญหาตรงหังยวี๋อีเสียได้

พอเจียงเซ่อพูดจบ หังยวี๋อีก็ชะงักไป แถมยังเงยหน้าขึ้นมองเธอ

ที่ด้านหลังของเขายังมีคนอีกกลุ่มที่กำลังรอขึ้นมา แต่พอเขานิ่งไปบนด้านหลังก็ยิ่งแน่นขึ้น และมันก็ดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก

“Sorry” หังยวี๋อีรู้สึกตัวขึ้นมา เขายกมือขึ้นขอโทษ

กู้เจียเอ่อที่เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว รู้ตัวทันทีว่าตัวเองกำลังจะเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดอีกแล้ว

“เอาใหม่”

เขาปัดมือ คิดๆ ดูอีกทีก็บอกให้ไปเปลี่ยนเจียงเซ่อออกดีกว่า

เธอยืนอยู่ตรงนั้นทำหน้าที่เป็นตัวประดับได้อย่างดี แต่เช่นเดียวกัน เพราะความสวยของเธอมันดึงดูดสายตามากเกินไป หังยวี๋อีที่อยู่ในวงการมานานพอมาเจอเธอก็ยังตะลึงไปได้เหมือนกัน แบบนี้คงจะกระทบต่อการทำงานแน่ๆ

พอเจียงเซ่อถูกเปลี่ยนเป็นคนใหม่ แล้วรอบนี้หังยวี๋อีก็ไม่ได้ทำผิดพลาดอีก ตามบทละครแล้ว เขาและนางเอกจะขึ้นเครื่องบินต่อๆ กันมา

แค่ครู่เดียวทุกคนก็นั่งกันเต็มเครื่อง และก็เป็นฉากของ ‘Missจาง’ ที่เจียงเซ่อเล่น สายตาของแทบทุกคนจ้องมองไปที่เธอ เจียงเซ่อค่อยๆ พูดกล่าวทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส หลังจากนั้นก็พูดแนะนำปารีสต่อ

ตามบทละครแล้ว กล้องจะไม่ได้จับที่เจียงเซ่อมากนัก ที่จริงตอนที่เธอกำลังพูดแนะนำปารีสอยู่นั้นกล้องจะต้องจับไปที่เจ้ารั่วจวิน แต่พอช่างกล้องกำลังจะแพนกล้องกู้เจียเอ่อก็สั่งให้หยุดเอาไว้เสียงอย่างนั้น

เธอยิ้มและพูดถึงปารีสขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ให้ความรู้สึกเหมือนมีผู้หญิงฝรั่งเศสที่แสนมีเสน่ห์มาพูดให้ฟัง น้ำเสียงมั่นใจและดูโรแมนติกให้ทำให้คนฟังรู้สึกสบายหู กู้เจียเอ่อหันไปพูดกับรองผู้กำกับ

“ฉันคิดว่าตอนถ่ายจริง ใช้เสียงคนต้นฉบับเลยก็ได้”