webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

025

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 25 กล้อง

ครั้งนี้ที่เชิญมาถ่ายวีดีโอโปรโมทโรงเรียนก็ไม่ได้มีแค่เจียงเซ่อเท่านั้น ยังมีนักเรียนอีกบางส่วนที่ผลคะแนนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี

ห้องที่ใช้ถ่ายทำถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หลายคนเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

เจียงเซ่อเป็นคนแรกที่ได้แต่งหน้า และเพราะว่ายังเป็นแค่นักเรียนช่างแต่งหน้าจึงแต่ให้แค่อ่อนๆ เท่านั้น ไม่ได้แต่งให้ดูเยอะนัก

ถึงจะเป็นแค่การแต่งหน้าอ่อนๆ แต่พอไปอยู่ภายใต้แสงไฟกลับดูสวยเป็นอย่างมาก

และนั้นก็ทำให้ช่างภาพรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย เจียงเซ่อไม่ได้ดูกลัวการอยู่หน้ากล้องเลยสักนิด แววตาดูไม่ลนลาน ราวกับว่าไม่ได้กลัวกับการต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลย

เขาลองกดชัตเตอร์ดูรอบหนึ่งแล้วให้คนไปจัดท่าทางให้เธอ หลังจากนั้นก็ชูมือว่า ‘OK’ ขึ้นมา สายตาของทุกคนจ้องมองไปทางเจียงเซ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยกสูง

แสงไฟทั้งห้องถูกส่องไปที่ตัวบนตัวเธอ เลนส์กล้องถ่ายเพียงแค่ครึ่งตัว และใบหน้าของเธอก็ดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แววตาจ้องเข้าไปที่เลนส์กล้อง

อาจารย์ประจำชั้นชูกระดาษที่มีตัวหนังสือขึ้นมา ช่างภาพที่อยู่หลังกล้องก็บอกขึ้น

“เดี๋ยวเธอแค่พูดตามในกระดาษนี้ก็โอเคแล้ว”

บนกระดาษแผ่นนี้เขียนเกี่ยวกับการขอบคุณโรงเรียนที่ได้ให้ความรู้มา ท่องมันอยู่สองสามครั้งจนคิดว่าน่าจะได้แล้วก็บอกให้เริ่มถ่ายได้

ช่างถ่ายภาพเตรียมตัวมาแล้วว่าอาจจะต้องมีการถ่าย NG หลายรอบ (การถ่ายใหม่ ถ่ายซ่อมเพราะถ่ายยังได้ไม่ดีพอ) แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะสื่ออารมณ์ต่อหน้ากล้องออกมาได้ดีมาก แค่ครั้งเดียวก็ผ่านแล้ว

พอถ่ายเสร็จ ช่างภาพก็กลับมาดูภาพรวมทั้งหมดอีกครั้ง ถึงแม้ว่าฉากหลังจะดูธรรมดาเป็นอย่างมาก ด้านหลังของเจียงเซ่อเป็นแค่ฉากผ้าสีดำผืนใหญ่เท่านั้น

แต่รูปร่างอันโดดเด่นและความมืดของห้องก็ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามากๆ

แค่ประโยคขอบคุณโรงเรียนทั่วๆ ไปสองประโยคเท่านั้น แต่การแสดงออกแต่ของเธอมันได้อารมณ์ดีแล้ว นอกเหนือจากฉากแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ต้องถ่ายซ้ำอีก

ช่างภาพถามเธออย่างตื่นเต้น

“เธอเคยถ่ายหนังมาก่อนด้วยเหรอ?”

เจียงเซ่อพยักหน้ายิ้มๆ

ตอนที่เธอไปถ่ายหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เธอก็ได้อยู่หน้ากล้องตั้งมากไปตั้งมากมาย ถึงประสบการณ์ต่อหน้ากล้องจะมีไม่มากนัก แต่เธอก็ไม่มีอาการตื่นกลัวกับมัน

พอถ่ายเสร็จ อาจารย์ประจำชั้นก็เดินเข้ามาหาเธอก่อนจะยิ้มให้ “แสดงได้ดีมากเลย”

“ขอบคุณค่ะ” วันนี้เจียงเซ่อสวมชุดยูนิฟอร์มที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้ ถึงจะเป็นแค่ชุดยูนิฟอร์มธรรมดา แต่พออยู่บนตัวของเจียงเซ่อแล้วก็ดูดีขึ้นมาทันที เอวที่คอดสวยแบบนั้นน่ะนะ อาจารย์ประจำชั้นที่ได้เห็นแบบนั้นก็ไม่คิดเลยว่าเด็กนักเรียนคนนี้จะทำให้หล่อนโชคดีได้ขนาดนี้

เธอเป็นอาจารย์ประจำชั้นมาก็หลายปีแต่นักเรียนที่เธอเคยสอนมา น้อยมากที่จะทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้

“ช่างภาพที่เชิญมาก็ยังชมเธอเลยนะ แถมเดาว่าเธอเคยออกหน้ากล้องมาก่อนอีกต่างหาก”

แต่ก่อนอาจารย์ประจำชั้นไม่ค่อยสนใจเธอนัก หล่อนรู้แค่ว่าเธอสนิทกับหลูเป๋าเป่ามาก ไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่สนิทกันขนาดนี้ อีกคนโดดเด่นเกินใคร อีกคนแม้แต่มหาวิทยาลัยก็สอบไม่ติดด้วยซ้ำ

“การสอบครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก เห็นได้ชัดว่ามีความเพียรพยายาม เสียดายก็แต่หลูเป๋าเป่าที่สนิทกับเธอแต่กลับไม่สนใจการเรียนเลย”

เจียงเซ่อคิดถึงความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มมาตั้งแต่ตอนที่เธอเกิดใหม่ พอกำลังจะพูดอะไรอาจารย์ใหญ่ที่ไม่รู้เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สะกิดให้พวกเธอเงียบเสียง

ยังมีนักเรียนคนอื่นที่กำลังถ่ายวีดีโออยู่ ช่างภาพต้องการให้พวกเธอลดเสียงลง

นักเรียนที่เหลือถ่ายไม่ได้ราบรื่นนัก ต้อง NG อยู่หลายครั้ง

ดีที่ถึงแม้ช่างภาพจะไม่ค่อยพอใจแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์โมโหออกมา การถ่ายทำยังดำเนินต่อไปนานมาก แต่สุดท้ายก็เสร็จสมบูรณ์

อาจารย์ใหญ่พานักเรียนทุกคนเดินออกมาจากห้องถ่ายวีดีโอแล้วพูดให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ทุกคนได้รับซองจดหมายกันคนละซอง หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างไป

พอออกมาจากโรงเรียนก็เปิดซองที่ได้มาดู ข้างในใส่เงินเอาไว้อยู่สองพันหยวน เธอเดินหาธนาคารแถวๆ นี้เพื่อที่จะเอาเงินสองพันหยวนนี่เข้าบัญชี แต่เธอก็ดันนึกถึงคำพูดของโจวฮุ่ยช่วงนี้ขึ้นมา

หล่อนมักจะชอบพูดเตือนให้เธอหางานทำและบ่นเรื่องค่ากินค่าอยู่ค่าน้ำค่าไฟว่ามันเยอะมากแค่ไหน

เจียงเซ่อจึงคิดว่าเธอจะฝากแค่หนึ่งพันห้าร้อยหยวน และจะเก็บเอาไว้ห้าร้อยหยวนเพื่อที่จะเอาไปให้โจวฮุ่ยเป็นค่ากินค่าอยู่ทั่วไป

พอเงินเข้าบัญชีปุ๊บ ข้อความแจ้งเตือนก็เข้ามือถือปั๊บ ข้อความนั่นบอกว่ายอดเงินในบัญชีได้เพิ่มขึ้นเป็นสามพันหนึ่งร้อยหยวนแล้ว

ค่าตัวในหนังเรื่อง ฝันที่เป็นจริง ยังไม่ได้ให้อีกสี่พันสองร้อยหยวน พอลองบวกกับส่วนที่เหลือดูแล้วทรัพย์สินของเธอทั้งหมดก็มีอยู่ถึงเจ็ดพันกว่าหยวนแล้ว

เงินจำนวนนี้ถ้าจ่ายเฉพาะค่าเทอมก็คงจะพออยู่ แต่ถ้าเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเธอก็ไม่อยากจะอยู่ในบ้านของครอบครัวตู้อีกต่อไป

ที่จริงแล้วในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็มีหอพักด้วยเหมือนกัน แต่มันก็ต้องจ่ายเงินค่าอยู่ด้วยอยู่ดี หนึ่งปีก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเลยทีเดียว

เธอมองข้อความสั้นๆ ในจอมือถืออีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา ดูท่าว่าถึงเวลาที่จะหางานอย่างอื่นทำเพิ่มแล้ว เพราะว่าเงินที่มีอยู่นี้ถึงจะประหยัดแค่ไหนก็คงจะไม่พอใช้แน่ๆ

ตอนนี้ก็เข้าต้นเดือนกรกฎาคมแล้ว ทีมงานบอกว่าหนังเรื่อง ฝันที่เป็นจริง จะเปิดกล้องกันตอนกลางเดือน แต่ฉากของเธอไม่ได้เยอะอะไรนักจึงไม่รู้ว่าจะต้องถ่ายตอนไหน ในขณะที่คิดว่ากำลังจะหางานไหนที่พอจะทำควบคู่ไปด้วยได้บ้างอยู่นั้น ทางทีมงานหนังก็โทรมาพอดี

เมื่อวันที่ 28 มาถึง มันคือวันที่ทีมงานได้นัดเธอให้ไปที่สถานที่ถ่ายทำหนังในเมืองหลวง วันนี้เธอจึงตื่นมาตั้งแต่ตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยซ้ำ

ตู้ชางฉวินยังไม่ออกไปทำงาน ในห้องรับแขกยังไม่ได้เปิดไฟ มีเพียงเสียงโจวฮุ่ยที่กำลังยุ่งทำนู่นทำนี่อยู่ในห้องครัว ทั้งบ้านมีแต่เสียงตู้ชางฉวินที่กำลังนั่งกินโจ๊กอยู่ ส่วนตู้หงหงและตู้โหยวสองพี่น้องนั่นยังไม่ยังไม่ตื่นนอนเลยด้วยซ้ำ

เจียงเซ่อเดินเข้าไปในห้องน้ำจัดการล้างหน้าแปรงฟัน แค่เสียงน้ำกระทบพื้นเท่านั้นแหละ ตู้ชางฉวินที่อยู่ข้างนอกก็วางถ้วยและตะเกียบดังตึงแล้วตะโกนถามขึ้นมา

“ค่าน้ำเดือนนี้เท่าไหร่แล้วหา?” เขาเคาะตะเกียบกับถ้วยไปด้วย

ทุกวันนี้ครอบครัวตู้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเงินขาดมือ เจียงเซ่อเองก็ชินกับการอาบน้ำก่อนนอนทุกคืน โดยเฉพาะฤดูร้อนแบบนี้ ในห้องเธอร้อนจนเหมือนอยู่ในกรงขังนกพิราบ

เธอบิดผ้าที่เพิ่งเช็ดหน้าพลางคิดถึงสภาพในบ้านตอนนี้แล้ว หรือเธอควรออกไปเช่าห้องอยู่ที่อื่นได้แล้ว?

พอเธอออกมาจากห้องน้ำ ตู้ชางฉวินก็ออกจากบ้านไปแล้ว โจวฮุ่ยมองลูกสาวคนโตของหล่อนแล้วถอนหายใจออกมา

“ลูกควรจะหางานทำได้แล้วไม่ใช่หรือ?”

หล่อนรู้แล้วว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเจียงเซ่อทำได้ดีมาก ตั้งแต่วันที่ 23 อาจารย์ประจำชั้นของเธอก็ได้โทรมาหาหล่อนและแสดงความยินดี

แต่สอบได้ดีแล้วยังไง? ตอนนี้ที่บ้านก็เป็นแบบนี้แล้ว จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยก็ต้องใช้เงินมากมาย ตู้ชางฉวินเองก็พูดชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่จ่ายค่าเทอมให้เธอเด็ดขาด