娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 24 อารมณ์เสีย
เจียงเซ่อไม่ได้เหมือนหลูเป๋าเป่าที่ว่าถ้าสอบไม่ผ่านก็ยังเรียนใหม่ได้ แล้วคะแนนสอบครั้งนี้ตัวเธอเองก็ได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
“แล้วหลังจากนี้เธอจะทำยังไง? เข้าวงการบันเทิงเป็นดาราเหรอ?”
หลูเป๋าเป่าถามออกไปอย่างสงสัยแต่พอพูดคำว่า ‘วงการบันเทิง’ ขึ้นมาหล่อนก็เลิกร้องไห้แล้วนั่งตัวตรงขึ้น
“จริงสิ ที่เธอมาหาฉันตอนสอบเสร็จแล้ว เรื่องที่ว่าแคสติ้งนักแสดงเรื่อง ‘ผันที่เป็นจริง’ นั่น เธอได้ไปหรือเปล่า?”
เจียงเซ่อตอบกลับ “ไปมาแล้ว”
“ไปมาแล้ว?”
หลูเป๋าเป่าเผลอเสียงดังออกมา
“เธอไปมาเหรอ? ฉันยังไม่ได้ไปเลยนะ!”
นักเรียนคนอื่นๆ ในห้องที่กำลังจับกลุ่มคุยเรื่องผลสอบกันอยู่ต่างหันมามองเพราะได้ยินเสียงของหลูเป๋าเป่าตะโกนขึ้น
แต่โชคดีที่อาจารย์ประจำชั้นเดินถือผลคะแนนเข้ามาพอดี สายตาหลายคู่ที่มองมาด้วยความสนใจต่างก็หันกลับไปทางอื่นแทน
“ทำไมเธอถือแอบไปเองอ่ะ? ทำไมไม่รอฉันเลย”
อาจารย์ประจำชั้นที่ยืนอยู่หน้าห้องกำลังยิ้มจนแก้มปริ แต่หลูเป๋าเป่ากลับมุ่ยหน้าจะร้องไห้ หล่อนยังเอาแต่บ่นโทษไม่หยุด “ครั้งก่อนที่ไปเซิ่นจวงเรายังไปด้วยกันเลยนะ”
ในขณะที่หล่อนยังพูดไม่หยุดก็โดนเสียงปรบมือเสียงดังแทรกขึ้นมา อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้องตอนนี้กำลังชี้มาที่เจียงเซ่ออย่างตื่นเต้น
“……การสอบครั้งนี้ เจียงเซ่อเพื่อนของเราทำได้ตามที่หวังแล้วนะ เธอสอบติดมหาวิยาลัยอันดับหนึ่งในเมืองหลวงล่ะ ทำให้โรงเรียนของเราและระดับชั้นของเรามีชื่อเสียงอย่างมาก ทุกคนปรบมือให้เธอด้วย!”
หลูเป๋าเป่าหันไปมองเธออย่างตื่นตะลึง หล่อนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด
นักเรียนคนอื่นในห้องเองก็มีอาการเดียวกัน เหมือนว่าทุกคนยังไม่สามารถเชื่อเรื่องนี้ได้จริงๆ
ตอนแรกผลการเรียนในห้องของเจียงเซ่อมันไม่ได้ดีเลย ไม่ว่าจะการสอบเล็กสอบใหญ่เจียงเซ่อก็ไม่เคยมีรายชื่ออยู่ในหนึ่งร้อยอันดับของสายชั้นเลยด้วยซ้ำ
ครั้งนี้หลูเป๋าเป่าเองก็รู้ตัวว่าคงได้คะแนนไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้แน่ๆ ส่วนเจียงเซ่อเองก็คงไม่ต่างจากเธอนัก แต่ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์ประจำชั้นจะมาบอกว่าเจียงเซ่อสอบได้คะแนนดีเกินคาด แถมยังติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอีก
“เธอ เธอ……”
หลูเป๋าเป่าปรบมือแต่ก็ยังมองเจียงเซ่อตาโต เหมือนว่ายังไม่ได้สติกลับมา
หล่อนคิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้หล่อนยังถามเจียงเซ่ออยู่เลยว่าจะมาเตรียมตัวเรียนใหม่ด้วยกันไหม แต่เจียงเซ่อก็ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าไม่ งั้นแสดงว่าเธอคงรู้เรื่องผลคะแนนตั้งนานแล้วสินะ และก็รู้ว่าตัวเองสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งด้วย
อาจารย์ที่อยู่หน้าห้องพูดอะไรอีกเธอก็ไม่ได้ฟัง จนกระทั่งอาจารย์ปล่อยให้ไปพักเที่ยงและทุกคนก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง ตอนนั้นหล่อนถึงจะรู้สึกตัวกลับมาด้วยท่าทางหดหู่
“เซ่อเซ่อ พวกเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่หรือเปล่า? เธอไปออดิชั่นโดยที่ไม่รอฉันเลยนะ”
หล่อนรู้สึกว่ามันไม่แฟร์เอาเสียเลย
เจียงเซ่อมองเธอกลับด้วยท่าทีนิ่งๆ และนั้นก็ทำให้ในใจของหลูเป๋าเป่าสับสนว้าวุ่นไปหมด
“ฉันจำได้ว่าฉันไปเตือนเธอแล้ว ว่าวันที่สิบสองจะมีการออดิชั่นนักแสดงเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ และฉันก็บอกสถานที่กับเวลาไปแล้วด้วย”
“เธอมาเตือนฉันก็จริง แต่ว่าตอนนั้นมัน……” หลูเป๋าเป่าอ้ำอึ้ง หล่อนอยากจะอธิบายว่าตอนนั้นเธอโดนพ่อแม่สั่งให้อยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด
ถึงจะรู้แล้วว่าวันที่สิบสองจะมีการออดิชั่น แต่หลายวันช่วงนั้นหล่อนโดนพ่อจับตาและเข้มงวดมากๆ สุดท้ายก็ได้แค่นั่งมองโอกาสนั้นลอยหายไป
“เธอควรจะเตือนฉันก่อนหน้านี้สิว่ามันจะมีการออดิชั่นตอนไหน อย่างน้อยฉันก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวหาวิธีบ้าง แล้วยิ่งไปกว่านั้น เธอสอบติดมหาลัยอันดับหนึ่งก็ไม่บอกฉันสักคำเลย” เด็กสาวยังคงรับเรื่องที่เธอสอบติดไม่ได้จึงพูดออกไป จู่ๆก็มาได้ยินว่าเจียงเซ่อสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแบบนี้แล้ว หล่อนก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นบ้า
“ตอนนี้เธอมาโทษว่าเพราะฉันไม่บอกเรื่องออดิชั่นให้เร็วกว่านี้เธอเลยพลาดมันไปงั้นเหรอ?”
อาจารย์ประจำชั้นยังคงพูดแสดงความยินดีต่อนักเรียนทุกคนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามที่หวังไว้ นักเรียนคนอื่นๆก็กำลังเก็บของของตัวเองอยู่
ในขณะที่เจียงเซ่อกำลังเอาของออกมาจากช่องใต้โต๊ะ อาจารย์ประจำชั้นที่ยืนอยู่หน้าห้องก็กวักมือเรียกเธอให้ไปหา เธอลุกขึ้น ก่อนจะหันไปมองหลูเป๋าเป่าที่ยังนั่งทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิม เธอถามออกไปอย่างสงบนิ่ง
“ถ้าหากก่อนหน้านี้ฉันบอกเรื่องออดิชั่นไป เธอจะกลับมาโทษว่าเป็นเพราะฉันไปบอกเรื่องนี้ มันจึงส่งผลกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอหรือเปล่า?”
เธอไม่ได้พูดเสียงดัง และไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่กำลังตำหนิ
แต่ก่อนใช่ว่าทั้งคู่จะไม่เคยเถียงกัน แต่ครั้งนี้พอหลูเป๋าเป่าโดนเธอถามมาหล่อนก็ได้แต่นั่งห่อไหล่ไม่กล้าตอบอะไรกลับไป หล่อนรู้สึกว่าตอนนี้เจียงเซ่อมีพลังบางอย่างที่น่ากลัวยิ่งกว่าอาจารย์ประจำชั้นเสียอีก
“ฉันเข้าใจว่าตอนนี้เธอรู้สึกไม่ดี แต่ว่านะเป๋าเป่า เรื่องที่เธอพลาดโอกาสที่จะไปออดิชั่น หรือแม้แต่เรื่องที่เธอล้มเหลวในการสอบ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลยสักนิดเดียว” ทันทีที่เธอพูดจบ อาจารย์ประจำชั้นก็เดินมาหยุดตรงหน้าทั้งคู่พอดี หล่อนมองหลูเป๋าเป่าครู่หนึ่งก่อนจะหันมาหาเจียงเซ่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เจียงเซ่อ ครั้งนี้การที่เธอสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งมันทำให้ทางโรงเรียนดีใจมากๆ คุณครูใหญ่เองก็เห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ด้วย เมื่อวานเขาบอกอาจารย์มาว่าให้มาคุยกับเธอเรื่องที่จะขอให้เธอมาช่วยถ่ายวีดีโอหน่อย เพื่อที่จะได้ลงเอาไว้ในเว็บไซต์ของโรงเรียน เอาไว้ให้รุ่นน้องมีกำลังใจในการเรียนมากยิ่งขึ้นไงล่ะ”
ครั้งนี้ที่ห้องของเธอมีเด็กสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับโรงเรียนมาก เมื่อวานก็ได้เรียกประชุมกันอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยเรื่องนี้ ตอนนั้นหล่อนรู้สึกตัวลอยอยู่ตลอดเวลา และยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อวันที่ตรวจคะแนนมาแล้ว
“และแน่นอนว่าการที่เป็นนักเรียนดีเด่นของห้องทางโรงเรียนจะมีเงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วยนะ”
ตอนนี้เจียงเซ่อกำลังต้องการเงินเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเดี๋ยวถ่ายหนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เสร็จจะยังได้อีกหกพันหยวน แต่ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็ถือว่าแพงมาก ไหนจะค่ากินค่าอยู่อีก
พออาจารย์ประจำชั้นพูดว่า “เงินรางวัล” ขึ้นมาเธอก็ตอบออกไปอย่างไม่ลังเล
“ได้ค่ะ แต่ว่า จะถ่ายตอนไหนหรือคะ?” เพราะว่าเธอต้องถ่ายเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ช่วงกลางเดือนกรกฏาคมขึ้นไป เกรงว่าจะกลับมาถ่ายที่โรงเรียนไม่ได้อีก
อาจารย์ประจำชั้นยิ้มขึ้น
“คุณครูใหญ่บอกว่ายิ่งเร็วยิ่งดี ถ้าเธอว่างตอนไหนทางโรงเรียนก็จะเตรียมพร้อมทุกอย่างให้ทันที เธอต้องพูดแค่ประโยคง่ายๆ ไม่กี่ประโยคเอง ไม่ยุ่งยากหรอก คงใช้เวลาไม่มากด้วย”
พอนัดว่าจะถ่ายวันที่สามกรกฎาคมนี้เรียบร้อยแล้ว หลูเป๋าเป่าและเพื่อนคนอื่นๆ ก็กลับไปหมดแล้ว
ตอนนี้นิสัยของเจียงเซ่อไม่เหมือน ‘เจียงเซ่อ’ อีกต่อไป ถ้าหากยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับหลูเป๋าเป่าแล้วละก็ ก็ต้องเข้าใจในนิสัยของอีกฝ่าย ไม่ใช่การที่ต่างคนต่างไปแบบนี้
พอถึงว่าที่นัดถ่ายเอาไว้ เธอก็กลับมาที่โรงเรียนเพื่อมาถ่ายวีดีโอ
การมาถ่ายครั้งนี้ก็ถือว่าเธอได้มาถ่ายโฆษณาโปรโมทโรงเรียน เพราะไม่ง่ายนักที่โรงเรียนนี้จะมีเด็กติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้ ก็ปกติถ้าจะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
คุณครูใหญ่ได้จ่ายเงินหาช่างถ่ายมืออาชีพและคนออกแบบวีดีโอมา แถมก่อนหน้านี้ยังยกห้องๆ หนึ่งให้เป็นห้องถ่ายวีดีโอเลยด้วยซ้ำ
ห้องทั้งห้องถูกปิดหน้าต่างจนไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามา ไฟทั้งห้องถูกเปิดสว่างและฉากทั้งหมดได้ถูกเซตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คุณครูใหญ่กลัวว่าเธอจะตื่นเต้นจึงเข้าไปให้กำลังใจ
“แค่ถ่ายวีดีโอธรรมดาๆ เท่านั้น เดี๋ยวตอนเข้ากล้องไม่ต้องตื่นเต้นนะ พูดผิดก็ไม่เป็นไร ถ่ายหลายๆ รอบเลยก็ได้”
ช่างถ่ายภาพเข้ามานั่งดูอยู่ที่จอแสดงผล ส่วนผู้ช่วยของเขาก็แบกกล้องขึ้นมา เจียงเซ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ยกสูงที่ถูกเตรียมไว้ พอเห็นว่าช่างภาพให้สัญญาณมือคุณครูใหญ่ก็ไม่พูดอะไรอีก