webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

023

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 23 ผลการเรียน

ที่จริงแล้วเจียงเซ่อกับหลูเป๋าเป่าก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้สนกับการเรียนนัก เสียดายใบหน้าสวยๆ ของเธอจริงๆ

ชั่วดีแต่ก่อนเจียงเซ่อก็ยังพอรู้จักหนักเบา แต่ตอนนี่กลับเอาใหญ่แล้ว

ทันทีที่อาจารย์ประจำชั้นเห็นคำว่า ‘มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในเมืองหลวง’ ในช่องมหาวิทยาลัยที่ต้องการของเจียงเซ่อแล้วก็อดที่จะทำหน้าหน่ายไม่ได้ ถึงยังไงเดี๋ยวพอจบมอหกแล้วเจียงเซ่อก็จะไม่ใช่นักเรียนของหล่อนอีกต่อไป หล่อนเองก็เบื่อที่จะพูดกับเธอแล้ว

“ถ้าตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยตามที่อยากเข้าก็ไม่มีปัญหา วันที่ยี่สิบห้าในห้องจะมีการจัดงานเลี้ยงส่งกัน ถึงวันนั้นเธอก็มาเอาใบคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยกับเอกสารต่างๆ ได้เลย” พูดจบ อาจารย์ประจำชั้นก็ถามต่อ

“แล้วตอนที่เอกสารการแจ้งรับเข้ามหาวิยาลัยส่งมา เธอจะให้ส่งไปที่บ้านหรือส่งมาที่โรงเรียนล่ะ?”

ที่บ้านโจวฮุ่ยก็รบเร้าให้เธอหยุดเรียนแล้วออกไปทำงานอยู่ตลอดเวลา ยังไงก็ส่งไปที่บ้านไม่ได้เด็ดขาด

เธอตอบออกไปอย่างไม่ลังเล

“ส่งมาที่โรงเรียนเลยค่ะ”

อาจารย์ประจำชั้นคิดว่ายังไงเธอก็คงไม่ได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแน่ๆ พอได้ยินคำตอบแบบนั้นหล่อนก็ยิ้มมุมปากขึ้นเบาๆ พอกรอกที่อยู่เสร็จหล่อนก็ปริ๊นเอกสารของเจียงเซ่อออกมา

วันที่ยี่สิบสามมาถึง มันเป็นวันที่ที่เมืองหลวงสามารถตรวจผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว วันนี้พวกอาจารย์ของนักเรียนชั้นมอหกต่างเข้าทำงานกันตั้งแต่เช้าเพื่อรอเวลาจนถึงตอนเที่ยงที่เป็นเวลาตรวจคะแนน

อาจารย์ในห้องพักครูคนหนึ่งพูดขึ้น

“อาจารย์หลิน ได้ยินมาว่าการสอบเข้ามหาลิทยาลัยรอบนี้ นักเรียนที่ชื่อเจียงเซ่อในห้องคุณกรอกชื่อมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งไปเหรอ?”

แค่ประโยคนั้นถูกเอ่ยออกมา สีหน้าอาจารย์ประจำชั้นของเจียงเซ่อก็ปรากฏสีหน้าเบื่อหน่ายทันที

ยังเหลืออีกหลายนาทีกว่าจะถึงตอนเที่ยง อาจารย์ในห้องพักครูที่ได้ยินชื่อเจียงเซ่อต่างก็เดินเข้ามาหาอาจารย์หลิน

“ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าผลการเรียนเธอดี ช่วงสอบปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคะแนนเธอก็ดูไม่ได้เลิศเลอจนสามารถทำแบบนั้นได้นี่”

ในเมืองหลวงมีโรงเรียนตั้งหลายแห่ง แต่โรงเรียนชวี่ฉายก็ไม่ได้เป็นโรงเรียนที่โดดเด่นอะไรนัก แต่ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะไม่มีนักเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้ แต่จำนวนก็น้อยเช่นกัน

นักเรียนในห้องของอาจารย์หลินนั้นก็พอมีนักเรียนหัวกะทิมาพูดคุยปรึกษากับหล่อนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนไหนกล้าที่จะใส่ชื่อมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเป็นหมาวิทยาลัยอันดับแรกที่อยากจะเข้า กลับกัน เด็กที่คะแนนไม่ดีอย่างเจียงเซ่อกลับเขียนว่าต้องการเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเสียอย่างนั้น พอตอนนี้โดนอาจารย์ประจำชั้นคนอื่นมาถามถึง หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“ก่อนหน้านี้ก็คุยกับเธอแล้ว แต่ว่าเธอยังยืนยันว่าจะเลือกแบบนั้น” อาจารย์หลินถอนหายใจออกมา “ก็คงได้แต่ตามใจเธอแล้วละนะ”

“นักเรียนปีนี้สอนยากจริงๆ” อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ของเจียงเซ่อส่ายหัวไปมา ดูเหมือนว่าก็คิดถึงคะแนนที่ผ่านมาของเจียงเซ่อเหมือนกัน อุตส่าห์เกิดมาสวยขนาดนั้นกลับไม่สนใจกับการเรียน ทุกครั้งที่สอบก็เกือบจะไม่ผ่านอยู่แล้ว

“ถ้าเธอเลือกมหาวิทยาลัยทั่วไปแล้วตั้งใจเรียนเสียหน่อยก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง……” อาจารย์คณิตศาสตร์ส่ายหน้าอีกครั้ง

คะแนนการสอบเข้าของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งได้ออกมาแล้ว เกณฑ์คะแนนมากสุดของปีนี้คือหกร้อยหกสิบคะแนน และนี่มันก็เยอะกว่าปีก่อนเสียอีก

ถ้าเทียบดูกับเรื่องการเรียนของเจียงเซ่อแล้ว อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็คงออกจะฝันเฟื่องไปเสียหน่อย

อาจารย์ในห้องพักครูเห็นอาจารย์หลินเริ่มอารมณ์ไม่ดีก็รีบถอยออกมาและไม่พูดถึงเจียงเซ่ออีก แต่พอนั่งได้ครู่หนึ่งก็มีคนตะโกนขึ้น

“เที่ยงแล้ว!”

เวลาเที่ยงตรงคือเวลาที่จะประกาศคะแนนสอบ ทุกคนต่างรีบหันหน้าไปทางเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วเปิดดูผลคะแนนของเด็กนักเรียน

อาจารย์ประจำชั้นเองก็รีบดูคะแนนของนักเรียนที่ตัวเองให้ความสนใจมากๆ ก่อน และก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนนัก มี สองคนในนั้นที่พยายามแล้วแต่ก็ยังออกมาไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ คะแนนพวกเขาน้อยกว่าที่เธอคาดคะเนเอาไว้ประมาณหนึ่งเลย ทีเดียว ส่วนที่เหลือก็ยังพอไปได้

นักเรียนที่คะแนนค่อนข้างแย่อย่างหลูเป๋าเป่าก็ยังทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ตามเคย คะแนนรวมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แค่สองร้อยเก้าสิบแปดคะแนนเท่านั้น และแน่นอนว่ามันไม่สามารถที่จะเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามที่เธอคาดหวังเอาไว้

เรื่องนี้อาจารย์ประจำชั้นคิดเอาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ หล่อนได้แต่สายหน้าไม่พูดอะไรอีก

อาจารย์คนที่เหลือต่างกำลังตรวจคะแนนของเด็กนักเรียนตัวเอง ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็นึกถึงเจียงเซ่อที่เมื่อกี้กำลังพูดถึงกันขึ้นมา

พอคิดถึงคะแนนของหลูเป๋าเป่าที่แม้แต่มหาวิทยาลัยที่กรอกไว้ก็ยังไม่ถึงครึ่ง เจียงเซ่อเองก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ อาจารย์ประจำชั้นพอจะเดาได้ว่าเจียงเซ่อเองก็คงจะเพิ่งมาอ่านหนังสือเอาตอนจวนตัวเช่นกัน คะแนนสูงสุดก็น่าจะอยู่แค่สามร้อยกว่าไม่เกินนี้หรอก

คะแนนแบบนี้ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยอื่นสักที่แล้วยัดเงินอีกหน่อยก็พอเข้าได้แล้ว แต่ถ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งนะหรือ ฝันไปเถอะ

หล่อนแบกเอาความคิดนี้เข้าไปดูคะแนนของเจียงเซ่อ แต่ทว่าพอหล่อนเลื่อนไปเจอคะแนนของเธอก็ต้องตกตะลึงไป หลังจากนั้นก็ลืมตัวคุมสติไม่อยู่จนขาไปเตะโดนถังขยะเข้า แล้วตะโกนออกมา

“เป็นไปได้ยังไง?”

อาจารย์ที่อยู่รอบๆ ต่างก็หันมาสนใจ และพบว่าหล่อนกำลังมองไปที่จอคอมอย่างตกตะลึง

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นมันขึ้นว่าผลคะแนนรวมของเจียงเซ่อ 676 คะแนน

คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอดีกว่าเพื่อนทั้งห้องเสียอีก!

“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง!” อาจารย์ประจำชั้นลุกขึ้นพรวด แม้แต่เก้าอี้ก็โดนเธอดันจนล้มไปด้านหลังดังตึง เธอกระโดดหลบมันแล้วเงยหน้าไปดูบนจอคอมอีกครั้ง

“ทำไมหรือ?”

อาจารย์ที่นั่งข้างๆ ก็ชะโงกหน้ามาถามหล่อน อาจารย์ประจำชั้นตอบออกไปอย่างตื่นเต้น

“เจียงเซ่อ รอบนี้เจียงเซ่อสอบติดแล้ว!”

ประโยคนั้นดึงดูดทุกคนเป็นอย่างมาก อาจารย์ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็หันมาสนใจเธอและถามอย่างไม่เชื่อ “อะไรนะ?”

อาจารย์ประจำชั้นพยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบลง

“สอบรอบนี้เจียงเซ่อทำได้ดีมากเลย!”

และเพื่อความแน่ชัดและถูกต้อง เธอเลื่อนดูชื่ออีกครั้งว่าเป็นชื่อของเจียงเซ่อจริงๆ

676 จริงๆ ไม่ผิดแน่!

ชั่วนาทีนี้อาจารย์ประจำชั้นเหมือนได้นั่งรถข้ามภูเขามารอบหนึ่ง จากตอนแรกที่อารมณ์เสียจนยากจะดับลงกลับกลายเป็นตื่นเต้นร่าเริงสิ้นอย่างนั้น พอมั่นใจว่าไม่ผิดแน่แล้วเธอก็แทบจะกระโดดเต้นอย่างดีใจ

สามวิชาหลักของเจียงเซ่อก็ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ เธอทำคะแนนได้เป็นอันดับสูงสุด

คะแนนสามวิชาหลักคือวิชาละ 150 คะแนน รวมออกมาแล้วเธอทำได้ตั้ง 415 คะแนน นอกนั้นก็เป็นพวกการเมือง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่อาจจะไม่ดีเท่าวิชาหลักนัก แต่เธอก็ทำได้ถึง 261 คะแนน

อาจารย์ประจำชั้นนั่งมองคะแนนอยู่ครู่หนึ่งแล้วนึกถึงวันที่เจียงเซ่อเขียนชื่อมหาวิทยาลัยที่ต้องการลงไปในใบ หล่อนพึมพำกับตัวเอง

“ไม่คิดเลย…… ไม่คิดเลยว่าคะแนนจะเกินคาดขนาดนี้”

แสดงว่าเจียงเซ่อรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองจะได้เท่าไหร่

วันที่ 25 มิถุนายนเจียงเซ่อมาถึงโรงเรียน เพื่อนนักเรียนในห้องต่างก็ตรวจคะแนนและรู้กันก่อนหน้านี้แล้ว มีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวัง

หลูเป๋าเป่าที่ไม่ได้เจอกันมากว่าครึ่งเดือนกำลังนั่งหมดอะไรตายอยากอยู่ที่โต๊ะตัวเอง หล่อนฝังหน้าตัวเองไว้ในอ้อมแขนที่ดูสั่นๆ เหมือนว่ากำลังร้องไห้

“เป็นอะไรไป?”

เจียงเซ่อนั่งลง หล่อนเงยหน้าขึ้นมา ขอบตายังเต็มไปด้วยหยาดน้ำ ร้องไห้อยู่จริงๆ ด้วย

“สอบครั้งนี้คะแนนฉันไม่ดีเลย พ่อฉันให้เรียนซ้ำอีกครั้งอีกหนึ่งปี”

ที่จริงหล่อนก็พอจะรู้ตัวเองบ้างแล้ว ตอนที่นั่งเช็คว่าคำตอบของตัวเองถูกไปกี่ข้อก็รู้ทันทีว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ แต่หล่อนก็ไม่คิดว่ามันจะไม่ดีมากขนาดนี้

วันที่ 23 ที่คะแนนออกมา พ่อของหล่อนเองก็ดูคะแนนของหล่อนแล้ว เขาไม่ได้ตีหล่อนให้ตายอย่างที่พูดไว้ แต่เขาขังหล่อนเอาไว้ในห้องและบอกว่าจะให้เรียนซ้ำชั้น

หล่อนหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับหน้าตัวเองแล้วถามขึ้น

“เธอล่ะ?” หลูเป๋าเป่าสูดจมูกขึ้น

“เธอเตรียมที่จะเรียนซ้ำชั้นหรือยัง?”

เจียงเซ่อมองเธอแวบหนึ่ง

“ไม่”