webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

022

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 22 สำเร็จ

ในตอนที่ซุนฉี่หมิงมองเธอ สายตาของเขาก็ไม่ได้มีความดูถูกอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าตัวละครนี้คงได้อยู่ในมือเธอแล้วแน่นอน

เจียงเซ่อเองก็ถอนหายใจออกมา เธอรีบเดินเข้าไปแล้วจับมือกับเขาแล้วจึงเดินตามหญิงสาวผมบ๊อบคนเดิมที่นำเธอเข้ามาในห้องประชุมไป

“เก่งมากเลย” ผู้หญิงผมบ๊อบคนนั้นยิ้มให้เธอ แววตาหล่อนดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

“วันนี้พี่ซุนเองก็ได้เจอคนมาเยอะ แต่ก็ไม่เจอคนที่โอเคสักที”

“งั้นหนูก็โชคดีมากเลยสินะ”

เจียงเซ่อยิ้มตอบ ผู้หญิงคนนั้นพาเธอเข้ามารอในห้องสำนักงานชั่วคราว

ผ่านไปประมาณห้าถึงหกนาทีก็มีคนอีกคนเข้ามาแทน

บทบาทที่เจียงเซ่อจะได้แสดงนั้นในครั้งนี้เป็นตัวละครตัวประกอบที่มีบทพูดแล้วจริงๆ ถึงฉากที่ต้องแสดงไม่ได้หนักอะไรแต่บทที่เคยเล่นกับในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ก็เทียบไม่ได้เลยกับบทบาทนี้

ดังนั้นไม่ใช่แค่เตรียมเอกสารสัญญาแต่ยังมีบทละครที่เตรียมมาให้เธออีกด้วย

“หนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ น่าจะเปิดกล้องราวๆ วันที่สิบหกเดือนกรกฎาคมนี้นะคะ ส่วนฉากของคุณจะมีการจัดตารางเวลาให้แล้ว……” คนที่มาคุยกับเธอคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเดรสสีชมพูและมัดผมหางม้า

ในระหว่างที่หล่อนพูดก็เผลอตัวมองหน้าเจียงเซ่อจนเหม่อไป

“ขอโทษค่ะ” แล้วหล่อนก็รู้สึกตัวขึ้น เจียงเซ่อเองก็ยิ้มขึ้นมาเล็กๆ

“แต่ว่าเวลาช่วงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณนะคะ ขอบเขตเวลาแค่เฉพาะช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนเท่านั้น”

เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ มันคงจะต้องเป็นไปตามเวลาของพระเอกนางเอกเท่านั้นละนะ

เจียงเซ่อเองก็พูดอะไรไม่ได้ เธอเป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ เรื่องเวลาคงไปกำหนดไม่ได้หรอก ต้องขึ้นอยู่กับพวกดาราใหญ่เท่านั้น

พอเห็นว่าเจียงเซ่อไม่ได้พูดอะไรผู้หญิงคนนั้นก็ยกใบสัญญาขึ้นมาให้เธอดู

ตอนนี้เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้เซ็นสัญญากับค่ายหรือสังกัดไหน ดังนั้นเธอต้องเป็นคนตัดสินใจและเซ็นเองทุกอย่าง

เจียงเซ่อรับใบสัญญานั่นมาดู และนั่นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นคิดไว้ว่า เจียงเซ่อคงจะแค่เปิดๆ แล้วก็เซ็นมันไปลวกๆ แต่เธอกลับเปิดดูมันอย่างตั้งใจมากๆ

วันนี้ทั้งวันคนที่เข้าตาซุนฉี่หมิงและคนในห้องประชุมก็มีแค่เจียงเซ่อเท่านั้น ดังนั้นหล่อนจึงแค่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูไม่ได้เร่งอะไรเธอ

ใบสัญญาก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่ ชุดนึงก็มีแค่เก้าหน้า เจียงเซ่ออ่านและทำความเข้าใจกับกฎทั่วไปจนหมด และพอคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงพยักหน้า ตอนเธอยื่นใบสัญญาให้ผู้หญิงคนนั้นเธอก็ถามขึ้น

“เรื่องเงินค่าตอบแทนไม่ได้เขียนเอาไว้นี่คะ”

“ในส่วนของค่าตอบแทน……”

หญิงสาวเดรสชมพูเงยหน้าขึ้นมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง

คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าหล่อนไม่ใช่ดาราใหญ่ที่ไหน แต่กลับทำให้หล่อนรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก

เจียงเซ่อยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง แถมเธอดูก็ยังเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ดันบอกค่าตอบแทนสำหรับบทของ ‘Miss จาง’ ออกไป

“สูงสุดก็อยู่ที่เจ็ดพันห้าร้อยหยวน ต่ำสุดก็อยู่ที่หกพันหยวนค่ะ” หล่อนหายใจเข้าและกัดปากตัวเองครู่หนึ่ง

“ส่วนเรื่องการรับเงินนั้น ดิฉันจะจ่ายส่วนแรกให้คุณก่อนสามสิบเปอร์เซ็นต์ พอคุณถ่ายเสร็จก็จะได้อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ มีอะไรขัดข้องไหมคะ?”

เจียงเซ่อดูสีหน้าและแววตาหล่อนที่ดูเปลี่ยนไป เธอเดาว่าเรื่องค่าตอบแทนนี่คงยังไม่ได้มีการตกลงกันแน่ๆ

เพราะท่าทีตอนที่หล่อนพูดจบหล่อนก็ขมวดคิ้วแน่น แววตาเหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิดสักอย่าง

แต่เงินค่าตอบแทนมันก็เยอะกว่าที่เจียงเซ่อคิดเอาไว้มาก เธอพยักหน้าแล้วหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อตัวเองลงไป

“เบอร์โทรศัพท์เดี๋ยวฉันค่อยมาเติมนะคะ”

“ต้องรีบมาบอกเบอร์โทรศัพท์นะคะ” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าแล้วหยิบกล่องหมึกขึ้นมาเพื่อให้เจียงเซ่อประทับรอยนิ้วมือลงไปในใบสัญญา แต่เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน

“คุณอายุสิบแปดหรือยังคะ?”

ตามกฎหมายจีน เด็กอายุสิบหกปีก็สามารถทำใบขับขี่และมีอำนาจเป็นของตัวเองได้บ้างแล้ว แต่ถ้าตามกฎหมายจริงๆ อายุสิบหกก็ถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะพอที่จะมีอำนาจได้อย่างเต็มที่ ต้องสิบแปดปีเท่านั้นถึงจะสามารถออกจากการปกครองของพ่อแม่

ถ้าน้อยกว่าสิบแปดจะต้องมีคำอนุญาตและลายเซ็นของพ่อแม่ด้วย

แน่นอนว่าเจียงเซ่อจะไม่ยอมให้โจวฮุ่ยหรือตู้ชางฉวินมาเซ็นเด็ดขาด ไม่งั้นเรื่องเงินค่าตอบแทนก็คงมาไม่ถึงมือเธอแน่ๆ

เจียงเซ่อยิ้มขึ้นแล้วนึกถึงใบประวัติที่เธอเขียนลงไปก่อนหน้านี้

“แน่นอนค่ะ”

เธอพูดโกหกได้อย่างแนบเนียน หญิงสาวคนนั้นก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้วลุกขึ้น

“งั้นตามนี้นะคะ คุณตามฉันมาทางนี้เลยค่ะ”

เจียงเซ่อตามหล่อนไป กว่าจะทำเรื่องทุกอย่างและรับเช็คเงินเสร็จก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว

เจียงเซ่อรับเช็คเงินจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยหยวนมาไว้ในมือ ความรู้สึกมันตีกันเต็มไปหมด

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดใหม่ที่ได้เห็นจำนวนตัวเลขเยอะขนาดนี้

แค่คิดว่าหลังแสดงเสร็จแล้วจะได้อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เธอก็ดีใจแล้ว เธอมองเช็คในมืออีกครั้งแล้วพับมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง

ตอนที่เธอเดินออกมาก็เพราะว่าห้องรับรองที่เธอเคยมายืนรอมีคนเต็มไปหมดแล้ว

นอกจากผู้หญิงสวยๆ แล้วก็ยังมีผู้ชายหล่อๆ อีกด้วย

พอเดินเจียงเซ่อเดินออกมาจากห้องสำนักงานชั่วคราวก็มีคนไม่น้อยมองมาที่เธออย่างอิจฉา

คนพวกนี้กำลังต่อแถวรอเข้าไปออดิชั่น เจียงเซ่อลองมองไปรอบๆ อีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นหลูเป๋าเป่าเลย บางทีหล่อนอาจจะไม่มาแล้วก็ได้

เจียงเซ่อตัดสินใจไปแลกเช็คที่ธนาคารด้านล่างตึกก่อนจะออกไปเดินเล่นแถวๆ นี้

แต่ก่อนเธอก็มาเดินแถวนี้บ่อยมาก แต่แถวนี้จะมีร้านไหนที่จะขายมือถือถูกๆ บ้างล่ะ

เดินไปเดินมาอยู่นานพอสมควรก็ได้เจอกับร้านขายมือถือมือสองแห่งหนึ่ง เธอจ่ายไปสามร้อยกว่าหยวนเพื่อแลกกับมือถือธรรมดาๆ เครื่องหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็รีบใส่เบอร์และเติมเงินเรียบร้อย และตอนนี้ในมือก็เหลืออยู่แค่หนึ่งพันหกร้อยกว่าหยวนเท่านั้น

ยังไงเธอก็ยังอยู่ในบ้านของครอบครัวตู้ และห้องของเธอก็ล็อคประตูไม่ได้

ช่วงที่ผ่านมาโจวฮุ่ยเองก็เข้าออกห้องเธอได้อย่างสบาย ถ้าหล่อนเห็นว่าเธอมีเงินขนาดนี้จะต้องวุ่นวายแน่ๆ ดังนั้นเธอจึงไปตัดสินใจไปเปิดบัญชีในธนาคารและฝากเข้าไปทั้งหนึ่งพันหกร้อยหยวน ส่วนที่เหลือเธอก็เก็บไว้กับตัวเป็นค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ

พอเธอทิ้งเบอร์ไว้ให้ทีมงานหนัง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เรียบร้อยแล้วเจียงเซ่อกลับบ้านไปรอฟังข่าวการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทันที

พอวันที่สิบเจ็ดเธอกลับไปที่โรงเรียน ก็พบว่ามันเป็นไปตามที่หวังเอาไว้

ตอนที่อาจารย์ประจำชั้นของเธอเห็นว่าเธอติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งหล่อนก็ขมวดคิ้วทันที และก็บอกให้เจียงเซ่อลองคิดทบทวนดูอีกสักรอบ

แน่นอนเพราะมันเป็นชีวิตของมหาวิทยาลัย ถึงผลการเรียนของเจียงเซ่อภายในหนึ่งเดือนนี้จะดีขึ้นมาก แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของเธอเป็นพวกจวนตัวแล้วค่อยมาสนใจทีหลัง สำหรับมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งและตัวเจียงเซ่อคงห่างไกลกันนัก

แต่ไม่ว่าจะพูดไปกี่ครั้งเจียงเซ่อก็ไม่เปลี่ยนใจ อาจารย์ประจำชั้นจึงไม่พูดมากอีก

หล่อนมั่นใจว่าเจียงเซ่อก็แค่ตามๆ คนอื่นไปเท่านั้น เธอไม่รู้ว่าจุดยืนของตัวเองอยู่ตรงไหน การที่เธอเลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอาจจะเป็นการทำร้ายตัวเองเสียมากกว่า

หล่อนสอนเจียงเซ่อมาตั้งหลายปี หล่อนรู้จักนิสัยของนักเรียนหล่อนดี