娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 22 สำเร็จ
ในตอนที่ซุนฉี่หมิงมองเธอ สายตาของเขาก็ไม่ได้มีความดูถูกอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าตัวละครนี้คงได้อยู่ในมือเธอแล้วแน่นอน
เจียงเซ่อเองก็ถอนหายใจออกมา เธอรีบเดินเข้าไปแล้วจับมือกับเขาแล้วจึงเดินตามหญิงสาวผมบ๊อบคนเดิมที่นำเธอเข้ามาในห้องประชุมไป
“เก่งมากเลย” ผู้หญิงผมบ๊อบคนนั้นยิ้มให้เธอ แววตาหล่อนดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
“วันนี้พี่ซุนเองก็ได้เจอคนมาเยอะ แต่ก็ไม่เจอคนที่โอเคสักที”
“งั้นหนูก็โชคดีมากเลยสินะ”
เจียงเซ่อยิ้มตอบ ผู้หญิงคนนั้นพาเธอเข้ามารอในห้องสำนักงานชั่วคราว
ผ่านไปประมาณห้าถึงหกนาทีก็มีคนอีกคนเข้ามาแทน
บทบาทที่เจียงเซ่อจะได้แสดงนั้นในครั้งนี้เป็นตัวละครตัวประกอบที่มีบทพูดแล้วจริงๆ ถึงฉากที่ต้องแสดงไม่ได้หนักอะไรแต่บทที่เคยเล่นกับในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ก็เทียบไม่ได้เลยกับบทบาทนี้
ดังนั้นไม่ใช่แค่เตรียมเอกสารสัญญาแต่ยังมีบทละครที่เตรียมมาให้เธออีกด้วย
“หนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ น่าจะเปิดกล้องราวๆ วันที่สิบหกเดือนกรกฎาคมนี้นะคะ ส่วนฉากของคุณจะมีการจัดตารางเวลาให้แล้ว……” คนที่มาคุยกับเธอคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเดรสสีชมพูและมัดผมหางม้า
ในระหว่างที่หล่อนพูดก็เผลอตัวมองหน้าเจียงเซ่อจนเหม่อไป
“ขอโทษค่ะ” แล้วหล่อนก็รู้สึกตัวขึ้น เจียงเซ่อเองก็ยิ้มขึ้นมาเล็กๆ
“แต่ว่าเวลาช่วงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณนะคะ ขอบเขตเวลาแค่เฉพาะช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนเท่านั้น”
เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ มันคงจะต้องเป็นไปตามเวลาของพระเอกนางเอกเท่านั้นละนะ
เจียงเซ่อเองก็พูดอะไรไม่ได้ เธอเป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ เรื่องเวลาคงไปกำหนดไม่ได้หรอก ต้องขึ้นอยู่กับพวกดาราใหญ่เท่านั้น
พอเห็นว่าเจียงเซ่อไม่ได้พูดอะไรผู้หญิงคนนั้นก็ยกใบสัญญาขึ้นมาให้เธอดู
ตอนนี้เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้เซ็นสัญญากับค่ายหรือสังกัดไหน ดังนั้นเธอต้องเป็นคนตัดสินใจและเซ็นเองทุกอย่าง
เจียงเซ่อรับใบสัญญานั่นมาดู และนั่นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นคิดไว้ว่า เจียงเซ่อคงจะแค่เปิดๆ แล้วก็เซ็นมันไปลวกๆ แต่เธอกลับเปิดดูมันอย่างตั้งใจมากๆ
วันนี้ทั้งวันคนที่เข้าตาซุนฉี่หมิงและคนในห้องประชุมก็มีแค่เจียงเซ่อเท่านั้น ดังนั้นหล่อนจึงแค่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูไม่ได้เร่งอะไรเธอ
ใบสัญญาก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่ ชุดนึงก็มีแค่เก้าหน้า เจียงเซ่ออ่านและทำความเข้าใจกับกฎทั่วไปจนหมด และพอคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงพยักหน้า ตอนเธอยื่นใบสัญญาให้ผู้หญิงคนนั้นเธอก็ถามขึ้น
“เรื่องเงินค่าตอบแทนไม่ได้เขียนเอาไว้นี่คะ”
“ในส่วนของค่าตอบแทน……”
หญิงสาวเดรสชมพูเงยหน้าขึ้นมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าหล่อนไม่ใช่ดาราใหญ่ที่ไหน แต่กลับทำให้หล่อนรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก
เจียงเซ่อยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง แถมเธอดูก็ยังเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ดันบอกค่าตอบแทนสำหรับบทของ ‘Miss จาง’ ออกไป
“สูงสุดก็อยู่ที่เจ็ดพันห้าร้อยหยวน ต่ำสุดก็อยู่ที่หกพันหยวนค่ะ” หล่อนหายใจเข้าและกัดปากตัวเองครู่หนึ่ง
“ส่วนเรื่องการรับเงินนั้น ดิฉันจะจ่ายส่วนแรกให้คุณก่อนสามสิบเปอร์เซ็นต์ พอคุณถ่ายเสร็จก็จะได้อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ มีอะไรขัดข้องไหมคะ?”
เจียงเซ่อดูสีหน้าและแววตาหล่อนที่ดูเปลี่ยนไป เธอเดาว่าเรื่องค่าตอบแทนนี่คงยังไม่ได้มีการตกลงกันแน่ๆ
เพราะท่าทีตอนที่หล่อนพูดจบหล่อนก็ขมวดคิ้วแน่น แววตาเหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิดสักอย่าง
แต่เงินค่าตอบแทนมันก็เยอะกว่าที่เจียงเซ่อคิดเอาไว้มาก เธอพยักหน้าแล้วหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อตัวเองลงไป
“เบอร์โทรศัพท์เดี๋ยวฉันค่อยมาเติมนะคะ”
“ต้องรีบมาบอกเบอร์โทรศัพท์นะคะ” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าแล้วหยิบกล่องหมึกขึ้นมาเพื่อให้เจียงเซ่อประทับรอยนิ้วมือลงไปในใบสัญญา แต่เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน
“คุณอายุสิบแปดหรือยังคะ?”
ตามกฎหมายจีน เด็กอายุสิบหกปีก็สามารถทำใบขับขี่และมีอำนาจเป็นของตัวเองได้บ้างแล้ว แต่ถ้าตามกฎหมายจริงๆ อายุสิบหกก็ถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะพอที่จะมีอำนาจได้อย่างเต็มที่ ต้องสิบแปดปีเท่านั้นถึงจะสามารถออกจากการปกครองของพ่อแม่
ถ้าน้อยกว่าสิบแปดจะต้องมีคำอนุญาตและลายเซ็นของพ่อแม่ด้วย
แน่นอนว่าเจียงเซ่อจะไม่ยอมให้โจวฮุ่ยหรือตู้ชางฉวินมาเซ็นเด็ดขาด ไม่งั้นเรื่องเงินค่าตอบแทนก็คงมาไม่ถึงมือเธอแน่ๆ
เจียงเซ่อยิ้มขึ้นแล้วนึกถึงใบประวัติที่เธอเขียนลงไปก่อนหน้านี้
“แน่นอนค่ะ”
เธอพูดโกหกได้อย่างแนบเนียน หญิงสาวคนนั้นก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้วลุกขึ้น
“งั้นตามนี้นะคะ คุณตามฉันมาทางนี้เลยค่ะ”
เจียงเซ่อตามหล่อนไป กว่าจะทำเรื่องทุกอย่างและรับเช็คเงินเสร็จก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว
เจียงเซ่อรับเช็คเงินจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยหยวนมาไว้ในมือ ความรู้สึกมันตีกันเต็มไปหมด
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดใหม่ที่ได้เห็นจำนวนตัวเลขเยอะขนาดนี้
แค่คิดว่าหลังแสดงเสร็จแล้วจะได้อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เธอก็ดีใจแล้ว เธอมองเช็คในมืออีกครั้งแล้วพับมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง
ตอนที่เธอเดินออกมาก็เพราะว่าห้องรับรองที่เธอเคยมายืนรอมีคนเต็มไปหมดแล้ว
นอกจากผู้หญิงสวยๆ แล้วก็ยังมีผู้ชายหล่อๆ อีกด้วย
พอเดินเจียงเซ่อเดินออกมาจากห้องสำนักงานชั่วคราวก็มีคนไม่น้อยมองมาที่เธออย่างอิจฉา
คนพวกนี้กำลังต่อแถวรอเข้าไปออดิชั่น เจียงเซ่อลองมองไปรอบๆ อีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นหลูเป๋าเป่าเลย บางทีหล่อนอาจจะไม่มาแล้วก็ได้
เจียงเซ่อตัดสินใจไปแลกเช็คที่ธนาคารด้านล่างตึกก่อนจะออกไปเดินเล่นแถวๆ นี้
แต่ก่อนเธอก็มาเดินแถวนี้บ่อยมาก แต่แถวนี้จะมีร้านไหนที่จะขายมือถือถูกๆ บ้างล่ะ
เดินไปเดินมาอยู่นานพอสมควรก็ได้เจอกับร้านขายมือถือมือสองแห่งหนึ่ง เธอจ่ายไปสามร้อยกว่าหยวนเพื่อแลกกับมือถือธรรมดาๆ เครื่องหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็รีบใส่เบอร์และเติมเงินเรียบร้อย และตอนนี้ในมือก็เหลืออยู่แค่หนึ่งพันหกร้อยกว่าหยวนเท่านั้น
ยังไงเธอก็ยังอยู่ในบ้านของครอบครัวตู้ และห้องของเธอก็ล็อคประตูไม่ได้
ช่วงที่ผ่านมาโจวฮุ่ยเองก็เข้าออกห้องเธอได้อย่างสบาย ถ้าหล่อนเห็นว่าเธอมีเงินขนาดนี้จะต้องวุ่นวายแน่ๆ ดังนั้นเธอจึงไปตัดสินใจไปเปิดบัญชีในธนาคารและฝากเข้าไปทั้งหนึ่งพันหกร้อยหยวน ส่วนที่เหลือเธอก็เก็บไว้กับตัวเป็นค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ
พอเธอทิ้งเบอร์ไว้ให้ทีมงานหนัง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เรียบร้อยแล้วเจียงเซ่อกลับบ้านไปรอฟังข่าวการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทันที
พอวันที่สิบเจ็ดเธอกลับไปที่โรงเรียน ก็พบว่ามันเป็นไปตามที่หวังเอาไว้
ตอนที่อาจารย์ประจำชั้นของเธอเห็นว่าเธอติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งหล่อนก็ขมวดคิ้วทันที และก็บอกให้เจียงเซ่อลองคิดทบทวนดูอีกสักรอบ
แน่นอนเพราะมันเป็นชีวิตของมหาวิทยาลัย ถึงผลการเรียนของเจียงเซ่อภายในหนึ่งเดือนนี้จะดีขึ้นมาก แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของเธอเป็นพวกจวนตัวแล้วค่อยมาสนใจทีหลัง สำหรับมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งและตัวเจียงเซ่อคงห่างไกลกันนัก
แต่ไม่ว่าจะพูดไปกี่ครั้งเจียงเซ่อก็ไม่เปลี่ยนใจ อาจารย์ประจำชั้นจึงไม่พูดมากอีก
หล่อนมั่นใจว่าเจียงเซ่อก็แค่ตามๆ คนอื่นไปเท่านั้น เธอไม่รู้ว่าจุดยืนของตัวเองอยู่ตรงไหน การที่เธอเลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอาจจะเป็นการทำร้ายตัวเองเสียมากกว่า
หล่อนสอนเจียงเซ่อมาตั้งหลายปี หล่อนรู้จักนิสัยของนักเรียนหล่อนดี