webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

ตอนพิเศษ 1-2 เพื่อนเล่นในวัยเยาว์

ตอนพิเศษ 1-2 เพื่อนเล่นในวัยเยาว์

เฝิงหนานคิดมาโดยตลอดว่า ตนเองทำอะไรผิดจริงๆ เหรอ ถึงได้ถูกลักพาตัว ถึงทำให้เธอต้องพบเจออันตรายในครั้งนี้ ตอนหลังจึงพบว่า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เหตุผลที่พ่อแม่ไม่ไปช่วยเธอ อาจจะเพราะว่า พวกเขามีหรือไม่มีเธอก็ไม่ต่างกัน

เธอเข้ารับการฟื้นฟูสภาพจิตใจอยู่นาน ตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นแสงเพียงเล็กน้อยก็กลัวขึ้นมา ได้ยินคำว่า ‘ลักพาตัว’ ‘ค่าไถ่’ ก็ตัวสั่น จนสุดท้ายเธอก็ได้เรียนรู้ที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ในใจ

หลังจากแผลที่เล็บหายแล้ว คุณปู่ก็พาเธอออกจากฮ่องกง เธอไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร

ฮ่องกงคือที่ๆ เธออยู่มาตั้งแต่เด็กและที่นี่ก็เป็นที่เธอได้รับอันตราย เธอกลัวที่นี่ แต่ก็คุ้นเคยกับที่นี่

พอออกจากฮ่องกงไปที่ตี้ตู เพราะว่าแปลกที่แปลกทาง เธอจึงต้องทำความคุ้นเคยสักระยะ

สำหรับเธอแล้ว คุณปู่ทั้งเคร่งขรึมและเข้มงวด เธอไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ตอนนี้กลับเป็นที่พึ่งเดียวของเธอ

เธอจับมือคุณปู่เอาไว้ กลัวตนเองหลงทาง มือเล็กๆ นั้นจับเขาแน่น ไม่ยอมปล่อยแม้แต่วินาทีเดียว

เธอไปเยี่ยมเพื่อนเก่าของคุณปู่และนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับเผยอี้

บ้านตระกูลเผยต่างจากความหรูหราอันเย็นเยียบของบ้านตระกูลเฝิง คุณย่าเผยจับมือเธอ ถามว่าเธอชื่ออะไร อายุเท่าไหร่

คุณปู่คุยกับคุณปู่เผยและเผยรอยยิ้มที่น้อยมากจะได้เห็นออกมา ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข หางตาของเธอกลับเห็นเผยอี้ที่อยู่ตรงมุม เขาพิงผนังเอาไว้ กัดริมฝีปาก ท่าทางเหมือนไม่พอใจ ทุกคนตลกกับภาพนี้มาก

“ยืนตัวตรง!”

เผยจิ้นฮว๋ายที่ยิ้มให้เธอในตอนแรกตะโกนเสียงแข็ง “ยืนไม่เป็นยืน ไม่เข้าท่าเลย”

“เขาทำวัตถุโบราณของพ่อเขาตกแตก นั่นเป็นของที่เพื่อนร่วมสนามรบให้เขามา พ่อเขากำลังลงโทษเขาน่ะ”

คุณนายเผยทั้งเอ็นดูทั้งตลก ทันทีที่พูดจบ เผยอี้ก็ร้องไห้ ‘แงแง’ เสียงดังออกมา คนรอบข้างต่างหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม

เธอเห็นใจไม่น้อย เขาร้องไห้จนหน้าแดงก่ำ น้ำตาบนใบหน้าถูกมือเปื้อนๆ ของเขาเช็ดออก จนใบหน้าเป็นรอยนิ้วมือเหมือนแมวน้อย

ผู้ใหญ่ต่างกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข เขาร้องไห้เสียงดังออกมาครู่หนึ่ง พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจก็ร้องเสียงดังกว่าเดิม

เฝิงหนานเดินเข้าไปหาเขา ค่อยๆ โอ๋เขาเบาๆ

“ไม่ร้องนะ”

เธอเอาผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดหน้าให้เขา แก้มยุ้ยๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะมีคนสนใจเขา เขาจึงมีท่าทีอ่อนลง แล้วก็ค่อยๆ เงียบ

เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก ผิวขาวเหมือนหยก หน้าตาเหมือนคุณนายเผยมาก ดวงตาคู่นั้นหลังจากถูกน้ำตาชะละล้างแล้วก็ดูดำขลับสดใส ตอนที่ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองเธอ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนจดจ่อแต่เธอเพียงผู้เดียว

จอมเผด็จการน้อยอย่างเผยอี้นั้น เป็นเด็กที่โชคดีมากจริงๆ ในฐานะหลานชายคนโตของบ้านตระกูลเผย คุณปู่จะอุ้มชูเขาเอาไว้ก็กลัวจะตกลงมาแตก จะอมไว้ในปากก็กลัวละลาย เขาไม่กลัวฟ้าดิน สิ่งเดียวที่กลัวคือไม่มีคนสนใจ เธอจึงเล่นเกมง่ายๆ อย่างเกม ‘เป่ายิงฉุบ’ เป็นเพื่อนเขา

เขาชอบออกกรรไกรและมักจะออกซ้ำๆ กันทุกครั้ง เพื่อให้เขาดีใจ เธอจึงยอมให้เขาชนะทุกครั้ง ไม่นานก็สามารถทำให้เขาหัวเราะออกมาได้

ตอนที่ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กสองคนก็อยู่ตรงมุมมุมหนึ่ง สร้างโลกของตนเองขึ้นมา

ตอนที่เฝิงจงเหลียงพาเฝิงหนานกลับบ้าน เผยอี้ก็กอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้ไป จะให้เธออยู่ที่บ้านให้ได้

“อาอี้ ลูกทำแบบนี้ไม่ได้นะ เฝิงหนานเป็นหลานสาวของคุณปู่เฝิง เธอต้องกลับบ้านแล้ว”

คุณนายเผยพยายามคุยกับลูกชายด้วยเหตุผล แต่เผยอี้ไม่ยอมฟัง

“ห้ามไป ให้เธออยู่บ้านผม ผมเลี้ยงเอง!”

คำพูดของเด็กๆ แบบนี้ทำให้คุณย่าเผยหัวเราะจนตัวงอ คุณนายเผยกลั้นหัวเราะแล้วแกล้งหยอกเขา “แล้วลูกจะเลี้ยงยังไงครับ”

“ผมจะแบ่งข้าวให้เธอกิน” เขายืนยันเสียงดัง “ให้เธอนอนของห้องผม ยกของเล่นทั้งหมดกับเธอ” เขาทำท่าอยากจะไปขนของเล่นในห้องตัวเองมาเพื่อหลอกล่อเด็กหญิง แต่ก็กลัวว่าถ้าตนเองปล่อยมือ เฝิงจงเหลียงจะพาเธอกลับไป ท่าทางน่าสงสารมาก

“แม่ครับ แม่” เขากอดขาคุณนายเผยแล้วเงยหน้าขึ้นอ้อน “ต่อไปผมจะไม่ก่อเรื่อง จะเป็นเด็กดี ให้เธออยู่ที่นี่ได้ไหมครับ”

เขาเป็นเด็กเอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผล ที่บ้านเองก็เอาใจเขาทุกอย่าง คุณนายเผยใจอ่อนยวบ อุ้มลูกชายขึ้นมาโอ๋ “พี่เฝิงหนานต้องกลับกับคนที่บ้าน ถ้าลูกคิดถึงเธอ เราค่อยให้เธอมากินข้าวที่บ้านเราดีไหมครับ?”

“เธอเป็นคนของบ้านผม” พอไม่ได้ดั่งใจเขาก็เริ่มงอนทันที คำพูดนี้ทำให้พวกผู้ใหญ่หัวเราะออกมาอีกตามเคย

เฝิงจงเหลียงอดแกล้งเขาไม่ได้พูดว่า “พี่เฝิงหนานแซ่เฝิง จะเป็นคนของบ้านหนูได้ยังไงล่ะ?”

เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะกลัวเฝิงจงเหลียง เงยหน้าขึ้น ยืดตัวตรง “ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนเป็นแซ่เผย”

คุณหญิงเผยเห็นว่าเขาไม่ฟังเหตุผลก็ลูบหัวหลานอย่างเอ็นดู “จะเปลี่ยนแซ่ตามใจได้ยังไงกัน ไม่ใช่การแต่งงานของยุคโบราณนะ”

“แต่งกับผม แต่งงานกับผม!”

เขาทั้งกระโดดทั้งตะโกน ยิ่งทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าคำพูดของเด็กน้อยจะจริงจังมากเพียงใด ทุกคนต่างคิดว่าเขาพูดไปตามประสาเด็ก

เผยอี้ล็อกประตูขัดขวาง จะไปหาอาวุธของตนเองมาเพื่อปกป้องไม่ให้ ‘คนของตนเอง’ ถูกพาตัวไป แต่สุดท้ายเฝิงจงเหลียงก็พาเฝิงหนานกลับจนได้ เขาร้องไห้โฮวิ่งตามรถ ชี้เฝิงจงเหลียงแล้วตะโกนเสียงดังว่าคนเลว จนเกือบจะโดนเผยจิ้นฮว๋ายตีแต่ก็ไม่ยอมรับผิดเลยแม้แต่น้อย

ใครๆ ก็คิดว่าเด็กความจำสั้นจึงไม่มีใครใส่ใจคำพูดของเขา คิดว่าไม่นานเขาคงลืมเฝิงหนานหรือแม้แต่เฝิงหนานเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน

ในความทรงจำของเธอ พ่อแม่ ญาติพี่น้องต่างลืมเธอในวินาทีสำคัญ เธอจึงไม่คิดว่าเด็กที่เจอเธอเพียงครั้งเดียวนี้จะจำเธอได้

แต่หลังจากนั้น เผยอี้กลับปรากฏตัวในชีวิตเธออย่างต่อเนื่อง โตมาพร้อมกับเธอ ชอบคุยกับเธอ เขามักจะมีเธอเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ตอนเธอเข้าเรียน เขาก็จะตามไปด้วยให้ได้ เมื่อคนตระกูลเผยห้ามเขาไม่ได้จึงทำได้เพียงเตรียมกระเป๋าให้เขา เขาก็จะใส่ของเล่นที่ตนเองชอบเข้าไป

ทั้งสองไม่ได้อยู่ระดับชั้นเดียวกัน เขากลับไม่สนใจคำพูดของผู้ใหญ่และคุณครู สะพายเป้จะไปอยู่ระดับชั้นเดียวกันกับเธอ

เขาเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเผย เขาอยากนั่งข้างเฝิงหนาน ก็เลยไล่เด็กผู้ชายที่นั่งข้างๆ เธอออกไป

เมื่อเด็กชายคนนั้นไม่ยอมไป เขาจึงตีกับเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างกล้าหาญยกหนึ่ง

ในโลกของเด็กไม่มีการแบ่งระดับชั้น เผยอี้อายุน้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ หลายปี แน่นอนว่าเสียเปรียบ แต่เขามีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ หลังจากโดนตีก็อดทน กัดฟัน ใช้ขาเตะ ใช้มือต่อย ตีจนเด็กผู้ชายที่อายุมากกว่าเขาห้าปีจนร้องไห้วิ่งไปฟ้องคุณครู

เขาเตะต่อยจนชนะ ใบหน้าเล็กอันงดงามถูกตีจนเขียว แต่ยังคงนั่งลงข้างเฝิงหนานอย่างภาคภูมิใจ

ใบหน้าของเขาสูงเท่าโต๊ะ ท่าทางตลกมาก ตรงคิ้วถลอก เสื้อผ้ายับยู่ยี่ คุณครูถูกเด็กที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งเรียกตัวมาด้วยท่าทางหนักใจ

เฝิงหนานพยุงหน้าเขาขึ้นมา ตอนที่ถามเขาว่าเจ็บไหม เขายังหัวเราะเยาะเด็กผู้ชายขี้ฟ้องคนนั้นแล้วบอกว่า “เขาเจ็บกว่าผมอีก”

ตอนที่เผยจิ้นฮว๋ายมาถึง เมื่อเห็นดังนั้นหน้าก็พลันซีดเผือดทันที จะพาเขากลับ แต่เด็กที่ตอนโดนตียังไงก็ไม่ร้องไห้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้กลับเกาะมุมโต๊ะไม่ยอมกลับ ร้องไห้ขี้มูกโป่งและตะโกนว่า ‘เฝิงหนานช่วยด้วย’