webnovel

1300 ภารกิจเลื่อนขั้นนักฆ่า

ตอนที่ 1300 ภารกิจเลื่อนขั้นนักฆ่า

ฝั่งตรงข้ามถนนจากสมาคมนักฆ่า มีสิ่งปลูกสร้างงดงามตั้งอยู่

จากมุมมองนี้ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไม่ได้ด้อยไปกว่าสมาคมในตอนนั้นเลย อาจจะสูงกว่าสมาคมนักฆ่าด้วยซ้ำ มันกินพื้นที่เป็นวงกว้างขวาง

ยังไงซะ แม้สมาคมนักฆ่าไม่ได้น่าสนใจ แต่สิ่งปลูกสร้างนี้ไม่สนใจเรื่องนี้แต่อย่างใด ยิ่งทำให้ผู้คนให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น

…สมาคมนักล่าค่าหัว

เหล่านักฆ่ามักจะทำสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือลอบสังหาร

แต่นักล่าค่าหัวไม่เหมือนกับนักฆ่าบริสุทธิ์ พวกเขารับทุกภารกิจ…

การล่าสมบัติ การคุ้มกัน การขุดคุ้ย การสำรวจ การปล้นชิงและอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าค่าหัวมีค่ามากจริง ๆ นักล่าก็ไม่คิดมากที่จะเป็นนักฆ่าในบางโอกาส

ช่วงพลบค่ำ

ทันทีที่ภารกิจถูกปล่อยออกไป มันดึงดูดความสนใจของนักล่าค่าหัว

…เพราะรางวัลล่อตาล่อใจนัก

“โลกที่ไม่สมบูรณ์ในพื้นที่ทะเลทราย สมบัติจะอยู่ตรงไหนได้ล่ะ” ใครบางคนลังเล

“เจ้าโง่ เจ้าเป็นเด็กใหม่ ยิ่งสถานที่เป็นแบบนั้นล่ะก็ มันยิ่งมีโอกาสซ่อนความลับที่ไม่มีใครรู้เอาไว้เยอะเลยล่ะ” อีกคนหัวเราะ

คนก่อนหน้านี้เดือดดาล อีกคนที่พูดแสดงท่าทีเย่อหยิ่ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจน ความโกรธของเขาพลันหายไป ไม่อาจพูดอะไรได้อีก

“น่าเสียดาย ภารกิจนี้ต้องการนักล่าระดับ ‘ไร้หนทาง’ และระดับ ‘ไม่มีชีวิต’ ในการลงมือ ข้าหมดโอกาสแล้ว” ใครบางคนกล่าวอย่างเสียดาย

“ไม่เพียงแค่จำกัดระดับเท่านั้น แต่ต้องเป็นนักล่าสมบัติมืออาชีพที่มีประสบการณ์ล่าสมบัติสำเร็จสิบครั้งเป็นอย่างต่ำด้วย” นักล่าคนหนึ่งถอนหายใจ

“ดูเงื่อนไขที่สามสิ: เก่งการต่อสู้ระยะประชิด มีความคล่องแคล่ว ไม่ใช่ผู้ร่ายเวทเพราะอาจจะมีสัตว์ประหลาดที่ต้านเวทมนตร์อยู่ก็ได้…”

“แบบนี้ก็มีแต่ผู้มากประสบการณ์ที่มีคุณสมบัติในการรับภารกิจนี้น่ะสิ”

“ความต้องการสูงแบบนี้ ข้าเกรงว่าสมบัติจะไม่ธรรมดา”

นักล่าสนทนาไม่หยุด

เหล่านักล่าผู้มีคุณสมบัติรับภารกิจนี้รับภารกิจเงียบ ๆ ก่อนออกไป

ไม่เหมือนกับนักฆ่า สมาคมนักล่าสนับสนุนการแข่งขัน

ตราบใดที่เป็นไปตามเงื่อนไขการจ้างงานของนายจ้าง ไม่ว่าใครก็สามารถรับภารกิจได้

…แต่จะสามารถทำภารกิจเสร็จสิ้นจนได้รับรางวัลภารกิจในท้ายที่สุดได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับพละกำลังส่วนบุคคล

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

โลกชิ้นส่วนในพื้นที่ทะเลทราย

นี่คือโลกที่ถูกทำลาย ไม่ใช่ดินแดนของมนุษย์

นักล่าสองคนทักทายกันอย่างกระตือรือร้น

“ ‘อินทรีย์ดาบสองคม’ ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารับภารกิจนี้ด้วย ถ้ารู้แบบนี้ข้าไม่มาหรอก” ชายหน้าดำและซื่อตรงกล่าว

ตรงข้ามเขา ชายร่างเตี้ยผู้มีมีดสั้นสองเล่มเหน็บอยู่ที่เอวหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ฮ่า ๆๆ เป็น ‘หนามปีศาจทลายหัวใจ’ นี่เอง ค่าหัวสำหรับภารกิจในครั้งนี้ให้เยอะมากน่ะ”

ชายหน้าดำลังเลแล้วกล่าวว่า “ถ้างั้น… ทำไมพวกเราไม่มาทำภารกิจนี้ให้สำเร็จด้วยกันล่ะ รางวัลหลังจากนั้นก็แบ่งกันอย่างเท่าเทียม”

“ความคิดดี” ชายร่างเตี้ยทำท่าไฮไฟว์

“ง่าย ๆ เลยหรือ”

“อื้ม ง่าย ๆ แบบนี้แหละ”

“ได้ ไปกันเถอะ ตามข้อมูลภารกิจแล้ว ซากปรักหักพังน่าจะอยู่ที่นี่…”

ชายหน้าดำก้มมองข้อมูลในมือขณะเดินไปทางหนึ่ง

ด้านหลังเขา ชายร่างเตี้ยมีสีหน้าดุร้าย

ไม่มีทางน่า โอกาสแบบนี้นับว่าเหมาะเจาะนัก

ทุกคนคือนักล่าระดับเดียวกัน หากพยายามอย่างหนัก ผลลัพธ์ก็จะเป็นที่ประจักษ์

ทว่า อีกฝ่ายเพิ่งหันหลังให้เชียวนะ

ถ้าไม่ลงมือตอนนี้ก็อย่ามาเสียใจที่พลาดโอกาสดี ๆ ไป!

ชายร่างเตี้ยชักมีดสั้นสองเล่มออกมาเงียบ ๆ

“ตาย…”

เขาตะโกนเสียงดังก่อนฟันใส่ชายหน้าดำด้วยมีดทั้งสองเล่มอย่างรุนแรง

เคร้ง! เคร้ง!

เสียงแจ่มชัดสองเสียงดังขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ชายหน้าดำกลายเป็นไม้เท้าเหล็กยาวตั้งอยู่กับที่

ความเจ็บปวดยิ่งปรากฏขึ้น

ชายร่างเตี้ยก้มมองด้วยความไม่อยากเชื่อ

หนามคมปลาบทะลุหัวใจ

เสียงเสียใจของชายหน้าดำมาจากด้านหลัง

“ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้ ที่จริง ถ้าพวกเราแบ่งค่าหัวเท่า ๆ กันมันน่าจะดีกว่าแท้ ๆ”

หนามยาวรวมตัว

ชายร่างเตี้ยล้มลงกับพื้น

ชายหน้าดำถอนหายใจ ก้าวไปข้างหน้า สับอีกฝ่ายจนเละด้วยหนามเวทมนตร์สีดำที่อยู่ในมือ

“ขอโทษด้วย ข้าไม่ได้พยายามจะทำลายร่างของเจ้าหรอกนะ แต่เจ้าทรยศมามากเกินไป ข้ากลัวว่าเจ้าจะลงมือทำอะไร”

หลังจากชายหน้าดำทำทุกสิ่งแล้ว เขานำข้อมูลออกมาอีกครั้งแล้วพิจารณาอย่างจริงจัง

โลกนี้ถูกทำลายไปแล้ว อารยธรรมเดิมหายไป เหลือไว้เพียงอาคารไม่กี่หลัง หลังจากผ่านการชำระมาหลายปี พวกเขายังยืนอยู่บนดินแดนแห้งแล้ง

“ตะวันตกเฉียงใต้… ไกลจากจุดเคลื่อนย้ายพริบตาจริง ๆ ”

“อืม มีสิ่งปลูกสร้างที่สมบูรณ์แบบอยู่ด้วย จากมุมมองนี้ อาจจะมีสมบัติจากอารยธรรมที่แล้วอยู่ก็ได้”

“มันน่าสงสัยจริง ๆ ข้าต้องไปดูให้เห็นกับตา ถ้าไม่มีอะไรก็ส่งมอบให้สมาคมเพื่อแลกกับค่าหัว”

ชายหน้าดำมองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ สายตามืดมน

เมื่อขยับ เขายังคงบินไปทางตะวันตกเฉียงใต้

เวลาผ่านไป

ช่วงเที่ยงคืน ชายหน้าดำเจอเข้ากับกลุ่มขนาดเล็ก

กลุ่มนักล่านี้มีทั้งสิ้นห้าคน แต่ละคนเป็นนักล่าสมบัติฝีมือดี ทุกคนเคยพบหน้ากันในสมาคมมาก่อน

เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าใครบางคนกำลังเข้าใกล้ที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว พวกเขาตั้งขบวนป้องกันทันที

ชายหน้าดำหยุดทันทีขณะมองกลุ่มห้าคน

มีบางอย่างแปลก ๆ

“ทุกท่านก็รับภารกิจนี้เหมือนกันหรือ” เขาถาม

“ใช่แล้ว ‘หนามปีศาจทลายหัวใจ’ ออกไปจากที่นี่เสีย อย่าบังคับให้พวกข้าต้องลงมือ” หัวหน้ากลุ่มกล่าวเสียงดัง

ชายหน้าดำคำนับแล้วกล่าวว่า “ข้าขอเข้าร่วมด้วยได้หรือเปล่า ยังไงซะ มีคนมากก็มีโอกาสทำภารกิจนี้สำเร็จมากตามไปด้วย หลังจากนั้น ข้าขอรางวัลเพียงแค่ยี่สิบส่วนเท่านั้น”

“เจ้าอยากตายหรือไง ออกไป!”

“สิบส่วน ข้าขอสิบส่วนก็ได้!”

“ไสหัวไป!”

ชายหน้าดำยื่นมือออกไปอย่างจนใจแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ ข้าแค่อยากมาเล่นสนุกเฉย ๆ เจ้าเอามาให้ข้าครึ่งหนึ่งก็พอ แบบนี้มันจะดีกว่าหรือเปล่า ข้าเพียงต้องการแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ในการเดินทางครั้งต่อไป ข้าจะรับผิดชอบการเป็นแนวหน้าให้เอง”

หัวหน้ากลุ่มเผยสีหน้าลังเล

“หนามปีศาจทลายหัวใจ” มีฝีมือจริง ๆ ถ้าสามารถทำให้อีกฝ่ายไปอยู่แนวหน้าได้ เช่นนั้นความปลอดภัยของกลุ่มก็จะเพิ่มขึ้นมาก

สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาอาจจะไม่อยากกลับไปมือเปล่า จึงได้ทำสัญญาขอค่าหัวเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

ผู้นำกลุ่มมองสมาชิกที่เหลือ

ทุกคนพยักหน้า

ผู้นำกลุ่มตะโกนไปทางฝั่งตรงข้าม “ถ้าแบบนี้ก็ไม่มีทางเลือก พวกเรามาทำสัญญากัน!”

เขาโยนสัญญาเวทมนตร์ออกไป

ชายหน้าดำรับมาดู เงื่อนไขของสัญญาเข้มงวดนัก

…นี่คือสัญญาเวทมนตร์ที่ผ่านการตรวจสอบคัดกรองมานับไม่ถ้วน เป็นการยากที่จะพบช่องโหว่ได้

ชายหน้าดำลงนามสัญญาอย่างมีความสุข

สัญญาเวทมนตร์กะพริบก่อนหายไปจากมือของเขา

ทำสัญญาเรียบร้อย

สองสามคนในกลุ่มเผยสีหน้าผ่อนคลายออกมา

ผู้นำกลุ่มยิ้มออกมาเช่นกันก่อนกระซิบว่า “เหล่าฟู่เอ๋ย ที่ข้าแสดงความรุนแรงเมื่อครู่ อย่าถือโทษโกรธกันเลย”

ชายหน้าดำส่ายหน้าก่อนกล่าวอย่างเข้าใจว่า “ไม่สำคัญหรอก ยังไงซะ ทุกวันนี้ นักล่าก็มีทั้งดีและไม่ดีปนกัน บางคนชอบเล่นของสกปรกและกินของสกปรก”

เขาเดินมาทักทายทุกคน

กลุ่มคนเก็บอาวุธของพวกเขา

ใครบางคนเปิดขวดสุรา หลังจากจิบเข้าไปก็ส่งต่อให้

ชายหน้าดำรับสุรามาก่อนดมเข้าไปแล้วถามว่า “บุปผาแห่งความว่างเปล่าหรือ”

“ใช่ เมื่อครู่ข้าขอโทษด้วย พอรับภารกิจมาแล้ว พวกเราต้องระวังตัวให้มากเข้าไว้น่ะ”

“ข้าสงสัยว่าจะมีคนอื่นที่รับภารกิจนี้ด้วย ดูท่าพวกเราต้องรีบกันหน่อยแล้วล่ะ” ชายหน้าดำพยักหน้าขณะกล่าวเช่นนั้น

ผู้นำกลุ่มหัวเราะออกมา “ไม่สำคัญหรอก เกณฑ์สำหรับภารกิจนี้เข้มงวด มีน้อยคนนักที่จะรับได้ ข้าเดาว่าไม่มีใครสามารถรับมือพวกเราหกคนพร้อมกันได้หรอก”

ชายหน้าดำพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “มีเหตุผล ข้าเองก็ต้องขอโทษด้วย ที่จริงก็ไม่อยากมาแย่งค่าหัวของพวกเจ้าเหมือนกัน”

เสียงเพิ่งจางหาย

หนามคมปลาบจำนวนมากพลันปรากฏขึ้นบนพื้นขณะแทงออกไปหลายร้อยครั้งในพริบตา

ทั้งสี่คนตายก่อนจะทันได้กรีดร้อง

เหลือเพียงผู้นำกลุ่มเท่านั้น ขณะกลั้นหายใจเฮือกสุดท้าย เขากล่าวด้วยความไม่เต็มใจว่า “แต่ว่า… สัญญา…”

ชายหน้าดำถอนหายใจก่อนโยนสุราลงกับพื้น

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นเพียงยอดฝีมือระยะประชิดงั้นหรือ” เขาถาม

ผู้นำกลุ่มขาดอากาศหายใจ ดวงตายังเบิกกว้างขณะรอคอยคำตอบ

ชายหน้าดำมองรอบข้าง

ดินแดนรกร้างไร้พรมแดน ไม่มีใครมองเห็น

ในโลกโดดเดี่ยวเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะภารกิจค่าหัว เกรงว่าคงไม่มีใครมา

…หรือก็คือ ปลอดภัย

ชายหน้าดำก้มศีรษะลงแล้วตอบอย่างแผ่วเบาว่า “…ที่จริง ข้ามีความสามารถฝั่งเหตุและผลน่ะ ตราบที่สามารถทำข้อตกลงกับคนอื่นได้ ข้าจะไม่ถูกฆ่าโดยอีกฝ่าย ทำให้สามารถฉีกสัญญาเพียงฝ่ายเดียวได้”

เมื่อหัวหน้ากลุ่มได้ยินดังนี้ เขาสั่นสะท้านก่อนส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ

เขาเบิกตากว้างขณะจ้องมองไปที่ชายหน้าดำ

…ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ ชายหน้าดำคงถูกฆ่าไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

ชายหน้าดำนับถือสีหน้ากำลังตายของอีกฝ่าย มุมปากของเขาค่อย ๆ โค้งขึ้น

“โชคของเจ้านับว่าดี”

“น้อยครั้งนักที่ข้าจะมาไขปริศนา ครั้งนี้เพื่อแทนคำขอบคุณในความสิ้นหวังและความโกรธของเจ้า ข้าก็เลยบอกให้เป็นพิเศษน่ะ”

หลังจากพูดจบ เขากระทืบศีรษะของอีกฝ่ายด้วยเท้าข้างหนึ่ง

การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง

ห้าร่าง

พื้นเต็มไปด้วยโลหิต

โลกเงียบสงัด สายลมพัดพาอย่างแผ่วเบาขณะนำพากลิ่นโลหิตลอยไป

ชายหน้าดำเดินเข้าไปในพื้นที่นองเลือด เขามองรอยเท้าเปื้อนเลือดของตัวเอง คิ้วขมวดช้า ๆ

เขาพลิกมือขณะหยิบรองเท้าคู่ใหม่มาสวม

ต่อมา เขาเร่งความเร็วเพื่อไปต่อ

ก้าวต่อไป

ก้าวต่อไปเรื่อย ๆ

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

ในที่สุด ซากปรักหักพังของเมืองปรากฏแก่สายตา

ชายหน้าดำมองข้อมูลในมือก่อนเร่งความเร็วการเดินทางอีกครั้ง

ใกล้แล้ว!

เขาเข้าไปส่วนลึกของซากปรักหักพัง ระบุภูมิประเทศทีละแห่งตามพิมพ์เขียวที่หน่วยข่าวกรองให้มา

ผ่านไปสักพัก

เขาพบสิ่งปลูกสร้างตามข้อมูลที่ได้รับมา

…น่าเสียดาย นักล่าอีกคนมาถึงสิ่งปลูกสร้างในเวลาเดียวกัน

นักล่าถือสำเนาข้อมูลแบบเดียวกันไว้ในมือขณะหันมองไปยังสิ่งปลูกสร้างตามภาพวาด

“ไม่ต้องมองหรอก ตึกนี้แหละ”

ชายหน้าดำโยนข้อมูลในมือทิ้งขณะกล่าวกับอีกฝ่าย

นักล่าชำเลืองมองเขา

“เป็น ‘หนามปีศาจทลายหัวใจ’ นี่เอง ดูท่ารางวัลสำหรับภารกิจนี้คงสูงน่าดู แม้แต่เจ้ายังสนใจด้วย” นักล่ากล่าวขณะชักอาวุธมาไขว้ตรงหน้าอก

จิตสังหารแรงกล้าทะยานออกจากร่างของเขา

การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น!

อีกด้าน ชายหน้าดำมองเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนชี้ไปที่ประตูสิ่งปลูกสร้างแล้วกล่าวว่า

“ประตูสิ่งปลูกสร้างนี้พังแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้กำลังพังเข้าไป ไม่อย่างนั้น สิ่งปลูกสร้างทั้งหลังจะพังทลาย”

“เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่” นักล่าถาม

“สิ่งปลูกสร้างผ่านการใช้งานมานาน หากใช้กำลังเพื่อสู้กันที่นี่ มันอาจจะทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดจนส่งผลต่อการล่าสมบัติในครั้งต่อไป” ชายหน้าดำตอบ

นักล่าเผยท่าทีลังเล

ชายหน้าดำถอนหายใจก่อนอ้าแขนออกแล้วกล่าวว่า “เจ้ากับข้าเป็นนักล่ากลุ่มแรกที่มาถึงที่นี่ แต่จะต้องมีคนอื่นมาที่นี่อีกแน่ ๆ พวกเราจะสู้กันจนตัวตายเพื่อให้พวกเขาต่อรองกันเองงั้นหรือ”

นักล่าคิดแบบเดียวกัน

“เจ้าหมายความว่ายังไง” เขาวางอาวุธลงขณะถาม

“ง่ายมาก ไปล่าสมบัติด้วยกัน หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น พวกเราแบ่งกันห้าสิบห้าสิบ แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กัน แถมได้ค่าหัวด้วย เป็นการทำธุรกิจที่คุ้มค่ามากที่สุดแล้ว” ชายหน้าดำตอบ

นักล่าครุ่นคิดหลายวินาทีก่อนรีบกล่าวว่า “แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่พวกเราต้องทำสัญญาผูกมัดกันก่อน ถ้าจะให้ดีก็สัญญามรณะ”

ชายหน้าดำเห็นด้วย “ข้าก็คิดว่าควรทำแบบนี้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้น ข้าไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่อย่างสบายใจได้จริง ๆ ”

ใช้เวลาสักพักก่อนทั้งสองคนจะลงนามในสัญญามรณะเสร็จ

นักล่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเก็บอาวุธแล้วหยิบอุปกรณ์ขนาดเล็กออกมาก่อนมานั่งยองตรงประตูเพื่อปลดล็อก

“อย่างที่เจ้าว่า ประตูนี้ผุพังมาก มันเชื่อมติดกับกำแพง หากไม่ระวังจะสร้างความเสียหายให้กับสิ่งปลูกสร้าง”

ขณะสนทนา เขาขยับอุปกรณ์ปลดล็อกในมือช้า ๆ

คลิ้ก

ในที่สุดล็อกก็ถูกคลายออก

นักล่ายังนั่งยองอยู่หน้าประตูไม่ขยับไปไหน

“เป็นทักษะปลดล็อกที่ดี” ชายหน้าดำกล่าว

เขาดึงหนามที่ทะลวงศีรษะของอีกฝ่ายออกอย่างระวัง จากนั้นนำศพเข้าพื้นที่เก็บของ

…ที่นี่น่าจะมีคนอื่นมาอีก จะปล่อยให้มาพบเบาะแสไม่ได้เด็ดขาด

“ดีล่ะ ในที่สุดข้าก็มาถึงจุดนี้แล้ว ตอนนี้ข้าดูหน่อยเถอะว่าสมบัติเป็นอะไร…”

ชายหน้าดำพึมพำด้วยความตื่นเต้นก่อนเปิดประตูอย่างแผ่วเบา

…เขาพลันตกตะลึง

…เขาพลันตกตะลึง ไม่มีอะไรอยู่ในประตู มีเพียงชายสวมชุดเกราะหนักเต็มยศยืนอยู่พร้อมดาบยาวในมือ

“ ‘หนามปีศาจทลายหัวใจ’ ฟู่จวน สินะ” ชายคนนั้นถาม

ชายหน้าดำมองอีกฝ่ายขณะค้นหาจิตใจอย่างรวดเร็ว จากนั้นกล่าวอย่างสงบว่า “ข้าเอง เจ้าเป็นใคร ข้าจำไม่ได้เลยว่าในบรรดานักล่าระดับ ‘ไร้หนทาง’ และระดับ ‘ไม่มีชีวิต’ ไม่มีชื่อเจ้าเลย”

ชายคนนั้นตอบว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ข้าอยู่ระดับ ‘ผนึก’ ”

ชายหน้าดำหัวเราะแล้วกล่าวว่า “เจ้ามาทำอะไร ระดับอย่างเจ้าไม่มีทางรับภารกิจนี้ได้อยู่แล้ว”

ชายคนนั้นถอนหายใจแล้วกล่าวอย่างจนใจว่า “ข้าเตรียมการมามากมายและพยายามอย่างหนักทำภารกิจทั้งหมดนี้ก็เพื่อเลื่อนขั้นเป็นระดับ ‘ไร้หนทาง’ นี่แหละ”

เมื่อกล่าวจบ เขาชูดาบขึ้น

ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ

............................................