webnovel

1299 ภารกิจลอบสังหารร่วมขนาดใหญ่

ตอนที่ 1299 ภารกิจลอบสังหารร่วมขนาดใหญ่

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ

เสี่ยวเตี๋ยปรากฏตัวขึ้นในสำนักงานขนาดใหญ่

“จ้าวหอคอย”

“ช่างเป็นแขกที่หาได้ยากนัก เสี่ยวเตี๋ย เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“จ้าวหอคอย จู่ ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ใช้แต้มความว่างเปล่ามานานแล้ว”

จ้าวหอคอยมองเสี่ยวเตี๋ยก่อนพยักหน้า “ตั้งแต่เจ้าซื้อดินแดนและสร้างบ้านในเมืองแห่งความว่างเปล่าแล้ว เจ้าก็แทบไม่ได้ใช้แต้มเลยจริง ๆ ข้าคิดว่าเจ้าคล้ายกับยินดีกับชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้มาตลอด”

“ใช่ ด้วยความช่วยเหลือจากท่านในตอนแรก ข้าได้เรียนรู้หลายสิ่งจนเติบโตขึ้นมาก แต่ข้าไม่ใช่คนที่แสวงหาพละกำลังสูงส่งจริง ๆ ”

เสี่ยวเตี๋ยกล่าว ทันใดนั้นก็ยิ้มให้จ้าวหอคอย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านก็จะยืนอยู่ข้างข้าเสมอ”

จ้าวหอคอยกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “อืม เจ้าทิ้งพรสวรรค์ด้านคัมภีร์ไป ไม่ใช้พลังของปีศาจที่แท้จริงมากนัก และข้าก็ไม่โน้มน้าวเจ้าเหมือนแต่ก่อน ยังไงซะ เจ้าก็ทำการสอนได้ดี เด็ก ๆ ที่อยู่ที่นี่ชื่นชอบเจ้า แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ”

เสี่ยวเตี๋ยเงียบ

ผ่านไปสักพัก

จ้าวหอคอยกล่าวอย่างจนใจว่า “เจ้ายอมคุยกับข้ามากขนาดนี้ ต้องการอะไรหรือ”

เสี่ยวเตี๋ยกล่าวว่า “แต้มที่ข้าสั่งสมมาน่าจะเพียงพอแล้ว ข้าอยากใช้แต้มทั้งหมด โปรดช่วยชี้แนะข้าเป็นการส่วนตัวสักพักด้วย”

จ้าวหอคอยส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “แต้มมีค่า เจ้าไม่ต้องใช้มันเพื่อการนี้หรอก ข้าจำได้ว่ามีวิชาและอาหารเสริมสร้างพลังมากมายอยู่ในหอคอย รวมถึงสมบัติพิเศษนับไม่ถ้วนด้วย ทั้งหมดนั่นล้วนเหมาะสมกับเจ้า ด้วยสถานะของเจ้าในหอคอย ใช้แต้มเพียงน้อยนิดก็ได้มาครอบครองแล้ว”

จ้าวหอคอยครุ่นคิดอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเตี๋ย ถ้าเจ้าอยากแข็งแกร่งขึ้น เจ้าเพียงใช้ทรัพยากรในหอคอยเพื่อค่อย ๆ พัฒนาทีละขั้น หากเจ้ามีคำถามอะไรก็ถามทุกคนและเรียนรู้จากข้าได้ เจ้าทนทุกข์มามากเกินไปแล้ว ตอนนี้ควรที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่จำเป็นต้องหาความยุ่งยากอีกต่อไป”

เสี่ยวเตี๋ยมองจ้าวหอคอยก่อนยืนกรานว่า

“ข้ายังอยากขอให้ท่านชี้แนะเป็นการส่วนตัวอยู่ดี ต่อให้ต้องใช้แต้มความว่างเปล่าหมดก็ช่าง นั่นเพราะ… ตอนนี้ข้าอยากเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาวิญญาณชั่วร้าย”

จ้าวหอคอยขยับเปลือกตา ทันใดนั้นจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นตามร่างกาย เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “เอาล่ะ บอกข้ามา ใครกันที่รนหาเรื่องเจ้า”

“ไม่มี” เสี่ยวเตี๋ยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าอยากแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ เพราะมีบางสิ่งที่ข้าไม่สามารถเอาแต่พึ่งท่านตลอดได้ ข้าอยากเผชิญหน้ากับมันด้วยตัวเอง”

“…ถ้าอย่างนั้น ข้าขอประกาศล่วงหน้าว่าสิ่งที่ต้องการนั้นเข้มงวดมาก เจ้าต้องทุ่มหมดตัว”

“ได้”

หนึ่งวันต่อมา

สมาคมนักฆ่า

ในห้องเคลื่อนย้ายที่ค่อนข้างว่างเปล่า เจ้าหน้าที่หลายสิบคนกำลังตระเตรียมเสาส่งพลังงานเคลื่อนย้ายรอบประตูบ้าง ตรวจสอบอักขระเคลื่อนย้ายบ้าง กำหนดพิกัดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องบ้าง

เทียบกับประตูที่กู่ฉิงซานเคยเห็นก่อนหน้านี้ ประตูนี้กว้างขวางกว่าและสามารถรองรับคนได้เจ็ดถึงแปดคนในคราวเดียว

นักฆ่าสิบสองคนมารวมตัวกัน

ยาสวมชุดเกราะหนังสีดำรัดรูป ขณะยืนอยู่หน้าประตู สายตาของเขากวาดมองทุกคนอย่างเย็นชา

“โลกของตระกูลซิงหั่วถูกรุกรานโดยอารยธรรมวันสิ้นโลก”

“พวกเขากำลังจะพินาศ ตอนนี้ภารกิจระดับสูงจำนวนมากถูกส่งมาที่เมืองแห่งความว่างเปล่า”

“สมาคมนักล่าค่าหัว สมาคมนักฆ่า กลุ่มแม่มดและโบสถ์นักบุญสายสว่างล้วนได้รับงานกันหมด ดังนั้นถ้าพวกเจ้าเจอใครบางคนจากองค์กรอื่น อย่าเอะอะโวยวาย ให้พวกเขาลงมือกันตามลำพัง”

ใครบางคนสงสัย “โบสถ์นักบุญสายสว่างและกลุ่มแม่มดรับภารกิจพร้อมกันแบบนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาจะสู้กันทันทีที่ปิดหน้า”

ยากล่าวว่า “ไม่ โบสถ์นักบุญสายสว่างรับผิดชอบเรื่องสมรภูมิแนวหน้า ส่วนกลุ่มแม่มดปกป้องผู้มีเกียรติของตระกูลซิงหั่ว ทั้งสองไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”

ใครบางคนถามว่า “นักล่าค่าหัวจะมารับภารกิจซ้อนกับของพวกเราหรือเปล่า”

ยาอธิบายว่า “ภารกิจของนักล่าคือเก็บกู้สมบัติและมรดกอารยธรรมทั้งหมด พวกเรามุ่งตรงสู่ส่วนลึกของอารยธรรมวันสิ้นโลกเพื่อลอบสังหารหัวหน้าของสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลก”

“พวกเจ้ามีคำถามอื่นหรือไม่”

ทุกคนส่ายหน้า

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“อารยธรรมวันสิ้นโลกคืออะไรหรือ”

คิ้วของยาขยับ

อีกเดี๋ยวก็ต้องลงมือแล้ว ใครกันที่มาถามอะไรตื้นเขินเช่นนี้

เขามองตามเสียงไปก็พบกับ “เดรดลอร์ด”

เด็กใหม่นี่เอง… เข้าใจได้

“อารยธรรมวันสิ้นโลกคืออารยธรรมที่อพยพมาจากวันสิ้นโลก อารยธรรมนี้ถูกกัดกร่อนโดยวันสิ้นโลกที่แปลกประหลาด สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในล้วนกลายเป็นสัตว์ประหลาด หากพวกเขาอยากมีชีวิตรอดก็ต้องทำลายโลกอื่นต่อไป ทุกครั้งที่โลกถูกทำลาย พวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้นานขึ้น” ยาอธิบายอย่างอดทน

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

คาดไม่ถึง วันสิ้นโลกจะใช้พละกำลังเพื่อทำให้สิ่งมีชีวิตไปทำลายโลกอื่น

เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินวันสิ้นโลกแบบนี้

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวเสียงดังว่า “เมื่อหนึ่งนาทีก่อน กองทัพของโบสถ์นักบุญสายสว่างได้เผชิญหน้ากับอารยธรรมวันสิ้นโลกซึ่ง ๆ หน้าแล้ว สงครามได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ”

เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวว่า “นักฆ่าของอารยธรรมวันสิ้นโลกถูกพบที่ตำหนักและถูกกวาดล้างโดยแม่มดแล้ว”

“นักล่ากำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อปล้นชิงทรัพยากร”

เจ้าหน้าที่ยังคงอ่านข้อมูลจำนวนมากให้ฟัง

นักฆ่าสิบสองคนเงียบขณะรอเงียบ ๆ

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะเข้าสู่ลานประลอง

ภายใต้การนำของยา เหล่านักฆ่ารอนานกว่าครึ่งชั่วโมง

จนเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนว่า “สมรภูมิแนวหน้าเข้าสู่ทางตันแล้ว อัศวินหลักของโบสถ์เริ่มปรากฏตัวแล้ว!”

กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิดในใจ “ทันทีที่อัศวินหลักปรากฏตัวขึ้น อารยธรรมวันสิ้นโลกจะถูกกดดันอย่างหนัก เกรงว่าไม่ช้า นักฆ่าจะต้องปรากฏตัวแล้วเช่นกัน”

ไม่ช้า เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ตามข้อมูลที่สืบค้นมา สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกส่งกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดไปแนวหลังสมรภูมิ”

ยาขยับร่างกาย เขายืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปแล้ว”

“นายท่าน”

“อืม เริ่มเปิดประตู”

“ประตูกำลังเริ่มทำงาน จะเริ่มเคลื่อนย้ายพริบตาในอีกห้าวินาที”

“ห้า”

“สี่”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง!”

แสงเจิดจ้ารวมตัวที่ประตู ความว่างเปล่าที่อยู่ใจกลางประตูถูกฉีกจนเปิดออก

อีกฝั่งของความว่างเปล่าเห็นเด่นชัด

มันคือกระแสน้ำในมหาสมุทรสีคราม

ยาชักดาบออกมาจากเอวก่อนชี้ไปที่เส้นทางมหาสมุทรที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“ยานอวกาศบัญชาการของอารยธรรมวันสิ้นโลกลอยอยู่เหนือมหาสมุทร ตอนนี้การป้องกันของพวกมันอ่อนกำลังแล้ว หลังจากทุกคนเคลื่อนย้ายพริบตาเข้าไป พวกเราจะเข้าสู่ยานอวกาศทันที”

“จำเอาไว้ ไม่ว่าจะฆ่ายังไง หัวหน้าของศัตรูคือแต้มนักฆ่าของพวกเรา”

“ขอรับ!”

นักฆ่าตอบรับทีละคน

ยาชี้ไปที่ทะเลลึกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของประตูแล้วตะโกนว่า “พวกเจ้าทุกคน เข้าไป!”

นักฆ่าสิบสองคนเข้าไป

เพียงพริบตา พวกเขาปรากฏตัวในทะเล

เมื่อเงยหน้ามอง เงาสีดำมองเห็นอย่างเลือนรางจากด้านบน

เงาดังกล่าวคือยานอวกาศของสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลก

นักฆ่าแหวกว่ายท่ามกลางทะเล

พวกเขาต้องพุ่งขึ้นท้องนภาแล้วหาทางลอบเข้าไปในยานอวกาศเพื่อลอบสังหารให้เสร็จสิ้น

ในเวลาเดียวกัน

ใต้ทะเล

มีเพียงยาและกู่ฉิงซานที่อยู่ที่นี่

“อ้าว เจ้าไม่อยากเป็นนักฆ่าระดับ ‘ไร้หนทาง’ ไว ๆ แล้วหรือ ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีก” ยาถามด้วยความสงสัย

“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” กู่ฉิงซานหลับตาขณะกล่าว

ในความว่างเปล่า คล้ายกับมีเสียงกระซิบร้อนรนและสิ้นหวังนับพันกำลังสนทนากับเขา

ทำลาย

ถูกทำลาย!

ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้มาช่วยข้าด้วย

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้น

นี่คือคำขอของโลกในตอนนี้

อีกทั้งยังเป็นความปรารถนาของโลกด้วย

…พลังเจตจำนงหรือ

กู่ฉิงซานยกมือขึ้นช้า ๆ ก่อนสะบัดอย่างแผ่วเบา

พรจากอดีต!

พรนี้สามารถพิสูจน์ตัวตนของเขาได้

อย่างน้อยโลกในตอนนี้ก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้

“ข้าต้องการเจตจำนงของเจ้า เอามันมาให้ข้าแล้วข้าจะช่วยเจ้า” กู่ฉิงซานกระซิบ

เสียงหนึ่งวิตกมากยิ่งขึ้น มันเข้าใกล้อีกนิดก่อนวิงวอนว่า “ข้าจะมอบมันให้เจ้า”

แถวตัวเลขสีเทาผุดขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

แถวตัวเลขนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ราวกับสิ่งมีชีวิตนับร้อยล้านกำลังสวดภาวนาในหูของกู่ฉิงซาน

“น่าเสียดายที่ข้าหนุ่มเกินไป ข้าอยากโตไว ๆ เพื่อฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นและแก้แค้นพ่อของข้า”

“โลกใกล้จะจบสิ้นแล้ว คนจากเมืองแห่งความว่างเปล่าจะช่วยได้จริงหรือ ทวยเทพ ถ้าท่านมีตัวตนอยู่จริง โปรดช่วยพวกข้าด้วย!”

“เร็วเข้า ใครจะไปจัดการกับสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ พวกมันมีเยอะเกินไป”

“ฆ่า! ฆ่าพวกมัน!”

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

จำนวนหยุดนิ่ง

กู่ฉิงซานกวาดตามอง

เขาชักดาบพิภพออกมาแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “แค่ข้าก็พอแล้ว…”

ยามองจากด้านข้างด้วยสายตาแปลกประหลาดจนอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “นี่ เจ้ากำลังจะทำอะไรน่ะ”

ก่อนคำพูดจะหลุดออกไป กู่ฉิงซานพลันก้าวไปข้างหน้า

ตึง ๆๆๆๆๆๆ !

เสียงกลองศึกทะลวงความว่างเปล่าราวอสนีบาต มันดังก้องทั่วโลกราวสายฝนที่กระหน่ำลงมา

จิตสังหารของทั่วโลกเข้ามาเกี่ยวพันกับกลองนี้!

ดาบเสียงคลื่นพุ่งออกไป ห้อมล้อมกู่ฉิงซานเอาไว้ก่อนชี้ไปที่น้ำทะเลทั้งหมด

เพียงพริบตา น้ำทะเลทั้งหมดแยกออก ทะยานขึ้นสู่ท้องนภาสีคราม บดบังแสงตะวันเจิดจ้า

โฮก!!!!!

มหาสมุทรราวกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่ไร้ใครเทียบ มันพลันอ้าปากออกแล้วคำรามออกมา

น้ำทะเลไม่มีสิ้นสุดทะลวงขึ้นท้องนภา ก่อเกิดเป็นแขนขนาดใหญ่สองข้างที่คว้าจับยานอวกาศบนท้องนภาอย่างมั่นคงก่อนดึงลงไป

ยานอวกาศมาอยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซานด้วยมือมหาสมุทรขนาดยักษ์

มันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่สามารถหนีรอดจากพันธนาการของมหาสมุทรได้

เรียกได้ว่ามันคือปาฏิหาริย์!

ตอนนี้ นักฆ่าที่เพิ่งกระโดดออกจากทะเลและคนที่ยังอยู่ในอากาศยังไม่ได้สัมผัสทางฝั่งของยานอวกาศสักคน

ยากุมดาบอยู่ด้านข้าง สายตาจริงจังกว่าเดิมขณะจับจ้องกู่ฉิงซานอย่างใกล้ชิด

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปคว้าในความว่างเปล่าก่อนหยิบดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมา

ดาบสังเวย ทะลวงสวรรค์!

ดาบนี้คือดาบแรกของเจ็ดดาบสังเวย แม้กระทั่งยุคแห่งความโกลาหลก็ถูกเล่นงานเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบเล่มนี้ ไม่เหลือแม้แต่เงา

ยิ่งสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซานเป็นเพียงยานอวกาศของสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ดาบยาวขยับ

เงาดาบโค้งงดงามปรากฏขึ้น

ท้องนภาและทะเลแตกสลาย

เสียงดังลั่นเสียดแทงหูระเบิดออก มันดังก้องทั่วท้องนภา

ยานอวกาศของสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกไม่ดิ้นรนอีกต่อไป

มันเหมือนกับคนตายที่ไม่ขยับไปไหน

สายลมทะเลเกรี้ยวกราดพัดผ่าน

ทุกสิ่งว่างเปล่า

ยานอวกาศถูกฟันเป็นผุยผงด้วยดาบก่อนกระจายไปตามสายลม ไม่เหลือร่องรอยใด ๆ

ส่วนสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกในยานอวกาศ ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ

หมู่เมฆขยับอย่างไร้ระเบียบ ทะเลกำลังสั่นสะเทือน

ขณะถูกล้อมด้วยทะเล กู่ฉิงซานถือดาบเอาไว้

“เอาล่ะ แค่นั้นก็พอแล้ว”

เขากระซิบ

ทะเลสงบลง

ทุกสิ่งค่อย ๆ กลับสู่สภาพดังเดิม

ยามองนักฆ่าคนอื่นที่ยังอยู่ในอากาศ จากนั้นมองกู่ฉิงซาน

เห็นได้ชัดว่ามันอันตรายมาก… ภารกิจร่วมขนาดใหญ่นี้

เขาไอเล็กน้อยก่อนหันไปคำนับกู่ฉิงซาน

“ท่านทวยเทพ คนคนนี้ที่ท่านสิงอยู่คือเพื่อนร่วมงานของข้า ตอนนี้ท่านช่วยคืนเขากลับมาได้หรือเปล่า”

......................................................