webnovel

1230 เมื่อวันสิ้นโลกกำลังมาเยือน!

ตอนที่ 1230 เมื่อวันสิ้นโลกกำลังมาเยือน!

ร่างกายของแมลงหายไปในความว่างเปล่า

จ้าวเฉียงไม่ได้ตอบสนองสักพักด้วยความตกตะลึง

แมลงวันสิ้นโลกที่เจ้าเล่ห์และรับมือยากยิ่งนั่นเพิ่งถูกสังหารไปงั้นหรือ

นางมองผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

กู่ฉิงซานกำลังถือดาบพิภพเอาไว้ ดวงตาของเขาจับจ้องความว่างเปล่า

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กวูบไหวบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ท่านใช้งาน ‘การตัดสินใจของพิภพ’ ”

“การตัดสินใจของพิภพ: ทำลายทุกตัวตน”

“การทำลายในครั้งนี้ใช้พลังวิญญาณทั้งสิ้นหนึ่งแสนแต้ม”

“หมายเหตุ: ยิ่งเป้าหมายที่ท่านอยากฆ่าแข็งแกร่งเท่าไหร่ พลังวิญญาณที่ต้องใช้การตัดสินใจของพิภพจะยิ่งมากตามไปด้วย”

กู่ฉิงซานไม่ประหลาดใจเช่นกัน

ถึงแม้พลังวิญญาณหนึ่งแสนแต้มจะเป็นจำนวนที่มาก แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา ตราบที่ดาบพิภพยังอยู่ในมือ ตราบที่ยังมีพลังวิญญาณ เขาย่อมมีความมั่นใจ

ตอนเขาใช้พลังจิตก่อนหน้านี้ เขาพบว่ามิติถูกแช่แข็ง แมลงจึงอวดดีจนเกือบสังหารเขาได้

ที่จริง ด้วยวิชาดาบในตอนนี้ เขาอาจจะไม่สามารถรับมือแมลงหน้ามนุษย์สีดำจำนวนมากได้ แต่ถ้าเป็นตัวเดียวก็ไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับกู่ฉิงซาน

สิ่งที่ทำให้แมลงทรงพลังจริงๆ คือการที่มันสามารถปลอมเป็นคนอื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยอมรับคุณลักษณะ ความสามารถ นิสัยและแม้กระทั่งความทรงจำของผู้อื่นได้

ถ้าพวกมันเข้าอารายธรรมด้วยวิธีการนี้ ย่อมสามารถกัดกร่อนอารายธรรมทั้งหมดได้อย่างเงียบงัน

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ

ทันใดนั้น ที่มุมหนึ่งของหน้าต่างระบบเทพสงครามมีความเคลื่อนไหว

เขาเห็นว่า “พลังวิญญาณที่เหลือ” เพิ่มขึ้นมาห้าหมื่นแต้ม

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กมอบคำใบ้

“พละกำลังส่วนตัวของท่านแข็งแกร่งกว่าแมลงสีดำตัวนี้เล็กน้อย แต่ตัดสินจากความสามารถพิเศษจำนวนมากของแมลงตัวนี้ มันจึงอยู่ในระดับทำลายโลกในด้านพลังทำลายล้างกับความพังพินาศ ดังนั้น ท่านจึงได้รับพลังวิญญาณห้าหมื่นแต้ม”

กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย

ว่าไงนะ

แมลงตัวนี้มีกี่ความสามารถกันแน่

…โชคยังดี เขาใช้วิธีลอบสังหารจนสังหารได้ในดาบเดียว ทำให้มันไม่มีโอกาสเล่นงาน ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางรู้ผลลัพธ์จริงๆ ได้

กู่ฉิงซานถอนหายใจ ในใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน

“ในนามของสำนักซานไห่ จ้าวเฉียง ช่วยบอกได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใคร” เสียงผู้หญิงดังขึ้น

จ้าวเฉียงคำนับเขา

กู่ฉิงซานมองอีกฝ่ายก่อนตอบว่า “ข้าคือ”

ข้าคือใครดีล่ะ

บางทีในโลกใบนี้ เขาอาจจะเคยปรากฏตัวหรืออาจจะไม่เคยก็ได้ ยากนักที่จะหาความจริงจากเรื่องนี้

เขาไม่สามารถพูดชื่อสำนักร้อยบุปผาได้ ยังไงเสีย อาจารย์กำลังยุ่งอยู่กับการทะลวงอาณาจักรในตอนนี้ ศิษย์น้องคนอื่นๆ ก็ไม่ได้มีการฝึกฝนสูงส่งเท่าไหร่นัก

อ้อ ยังมีศิษย์พี่อีก รากฐานการฝึกฝนของเขาต่ำจนน่าประหลาดใจเลยล่ะ

สถานการณ์นี้ไม่ควรเผยตัวตนเพื่อให้คนอื่นโดนตามหาตัวได้

แล้วจะแนะนำตัวอย่างไรดี

จุดกำเนิดและชื่อเป็นประโยชน์ในบางครั้ง อาทิ ใช้ตกลงกับผู้คน ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เวลาอยากชนะใจคนอื่นก็ต้องดูที่จุดกำเนิดและอดีต

มันคือการล่องูออกจากรู

กู่ฉิงซานนิ่งแล้วตอบว่า “ข้าคือกลุ่มยังไม่ได้คิดที่มาจากวังวนความว่างเปล่า มีนามว่ากู่ฉิงซาน”

ยังไม่ได้คิดหรือ

นี่มันกลุ่มอะไรกัน

พวงกเขากำลังคิดบ้าอะไรอยู่กันแน่

จ้าวเฉียงผงะไปหลายอึดใจก่อนจะรู้ตัวว่าเผลอแสดงท่าทีไม่ดีออกมา นางจึงรีบกล่าวอีกครั้งว่า “ขอบคุณที่ท่านลงมือ ไม่อย่างนั้น ข้าคงไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายแน่ๆ ”

หลังจากพูดจบ นางกล่าวทันทีว่า “ด้วยพละกำลังของข้า หอคอยนี้ไม่สามารถถูกทำลายได้ ข้าต้องติดต่อถ้ำทะเลตะวันตกเดี๋ยวนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลุ่มคนทรงพลังเหล่านั้น”

ขณะมองท่าทีวิตกกังวล กู่ฉิงซานชำเลืองมองหอคอยกระดูกเช่นกัน

หอคอยสูงหลายร้อยเมตรและเต็มไปด้วยซากศพล้วนๆ

ลมหายใจแห่งความทนทุกข์และความชั่วร้ายแผ่ออกมาจากหอคอยซากศพขณะพุ่งตรงสู่ท้องนภา

ความมืดที่ห้อมล้อมหอคอยซากศพยิ่งมายิ่งชัดเจน

แมลงหน้ามนุษย์สีดำเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

หัวใจของกู่ฉิงซานแทบกระโจนออกมา

“สายไปแล้ว ข้าสามารถสัมผัสกลิ่นอายของพวกมันได้แล้วล่ะ ถ้าเจ้ากับข้าไม่หนี อาจจะถูกพวกมันจับกินก็ได้” กู่ฉิงซานจงใจกล่าวออกมา

จ้าวเฉียงกัดฟันแล้วกล่าวว่า “จะปล่อยให้วันสิ้นโลกนี่กระจายออกไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ถ้ำร้างทิศตะวันออกทั้งหมดจะจบสิ้น”

นางหยิบเสี้ยวกระดูกโลหิตออกมาก่อนปักลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานมองการกระทำของนางก่อนลอบพยักหน้าเล็กน้อย

ในถ้ำหมื่นอสูร มีผู้คนเก่งกาจมากมาย

หนึ่งคือนักรบพลังจิต

สองคืออาวุธ

สามคือผู้ใช้กระดูก

จ้าวเฉียงคือผู้ใช้กระดูกที่ได้รับพลังพิเศษจากการติดต่อกับซากศพของตัวตนโบราณโดยเฉพาะ

กู่ฉิงซานมองอารมณ์กับท่าทีของนาง รวมถึงกระบวนท่าต่อสู้เมื่อครู่ นางน่าจะเป็นผู้ใช้กระดูกที่ไม่ได้เก่งด้านการต่อสู้โดยเฉพาะ

หรือว่านางจะเก่งด้านงานค้นคว้า

แต่นางกล้าสู้กับแมลงแปลกประหลาด ตอนนี้วันสิ้นโลกกำลังมาเยือนแท้ๆ แต่นางยังเต็มใจที่จะอยู่เพื่อหาทางคลี่คลายวันสิ้นโลกด้วยการติดต่อคนอื่น

กู่ฉิงซานนับถือคนแบบนี้

จ้าวเฉียงวางกระดูกก่อนกล่าวว่า “โปรดช่วยข้าปกป้องอีกสักครั้งสองครั้งที ข้าต้องการเวลา”

กู่ฉิงซานมองสภาพตื่นตระหนกของนาง จากนั้นมองหอคอยกระดูก

เขาถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “สายไปแล้ว”

จ้าวเฉียงเงยหน้าขึ้น

นางเห็นความมืดทั้งหมดในหอคอยกระดูกรวมตัวเข้าด้วยกันก่อนกลายเป็นโลกที่ไม่รู้จักที่อยู่อีกฝั่ง

ทั่วหอคอยเนื้อและกระดูกเริ่มเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

หอคอยนี้มีชีวิต!

มันจะกลายเป็นอะไร

มีความสิ้นหวังเกิดขึ้นในใจของจ้าวเฉียง แต่การเคลื่อนไหวของมือนางนั้นเร็วยิ่งกว่า

“นายท่าน ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ ท่านสามารถหนีไปก่อนได้ ยังไงข้าก็ต้องแจ้งคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น ถ้ำหมื่นอสูรจะตกอยู่ในอันตรายหากไม่ทราบข่าวคราว”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองนางอีกครั้ง

ช่างเป็นผู้หญิงหัวรั้นเสียจริง

เขาลอบชื่นชมอยู่ในใจขณะเดินไปทางหอคอยกระดูก

วันสิ้นโลกนี้เกิดขึ้นก็เพราะเขา

สำหรับสิ่งมีชีวิตในเมืองนี้ นี่คือหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นเขาควรรับผิดชอบ

“นายท่าน ท่านจะทำอะไรน่ะ ระวังด้วย!”

จ้าวเฉียงรีบเตือนเมื่อเห็นเขาเคลื่อนไหว

“ไม่เป็นไร”

ขณะเดิน กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าได้ยินชื่อถ้ำหมื่นอสูรมาก่อน หลังเดินทางมาจากความว่างเปล่าจนได้มาเห็นในวันนี้ ข้าพบว่าผู้คนที่นี่ช่างยอดเยี่ยมนัก ไม่เหมือนกับโลกวิญญาณชั่วร้ายเลย”

เขาปล่อยดาบพิภพเพื่อให้มันซ่อนอยู่ด้านหลัง

วินาทีต่อมา นางเห็นว่ากู่ฉิงซานทะยานขึ้นสู่ท้องนภา

จ้าวเฉียงเงยหน้ามองตาม

ยอดฝีมือที่ใช้ดาบคนนี้จะหนีจริงๆ หรือ

ในใจเกิดความผิดหวัง แต่นางก็ยอมรับมันได้อย่างรวดเร็ว

จะทำภารกิจต่อก็ทำไป แต่จะให้คนอื่นมาอยู่ในสถานที่แห่งความตายแบบนี้ไม่ได้

ด้วยเหตุนี้นางจึงเผชิญหน้ากับมัน

แต่เรื่องราวมันช่างแตกต่างจากที่นางคิดเอาไว้

นางเห็นกู่ฉิงซานกำลังขี่สายลม เมื่อไปได้ครึ่งทาง เขาคว้าดาบยาวคมปลาบและละเอียดอ่อนอีกเล่มมาไว้ในมือ

ดาบศักดิ์สิทธิ์

กู่ฉิงซานร่ายรำดาบขณะพุ่งขึ้นไป

พลังวิญญาณจำนวนมากกลายเป็นค่ายกลดาบ กระตุ้นพลังงานดาบไม่มีสิ้นสุดขึ้นมาก่อนกระจายไปทั่วราตรี

ค่ายกลดาบ ไท่อี่!

ปราณดาบจำนวนไม่มีสิ้นสุดกลายเป็นสายลมหวีดหวิวก่อนเคลื่อนลงมาจากท้องนภาไกลลิบ ปกคลุมหอคอยกระดูกจนสิ้น

พายุหมุนเข้าถล่ม!

เลือดเนื้อไม่มีสิ้นสุดหายไปในสายลมก่อนรวมกลุ่ม แปรเปลี่ยนและกลับคืนสู่ช่วงเวลาหนึ่งในอดีต

ดาบศักดิ์สิทธิ์

ดาบที่ครอบครองพลังหุบเหวนิรันดร์สุดหยั่งจนทำให้เกิด “กระแสปั่นป่วน” อย่างสมบูรณ์!

“อา… อา…”

ปากของจ้าวเฉียงอ้ากว้างขึ้นขณะมองฉากอันน่าอัศจรรย์ตรงหน้า นางไม่อาจกล่าวคำบรรยายใดๆ ออกมาได้

คน

คนที่เคยตายไปคนแล้วคนเล่า

กลับมาเกิดใหม่

ไม่ ไม่ใช่เกิดใหม่ พวกเขาแค่กลับไปสู่ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตในอดีต

ช่วงเวลานั้น โชคชะตาแห่งความตายยังไม่เกิดขึ้น

พวกเขายังมีชีวิตสุขสบายดี

ตูม!!!

หอคอยกระดูกเริ่มพังทลาย กลับกลายเป็นคนมีชีวิต

หอคอยเลือดเนื้อกระดูกน่าสะพรึงนี้กลายเป็นเหล่าคนมีชีวิต พลังแปลกประหลาดที่มันครอบครองไว้หายไปสิ้น

เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากพลังแปลกประหลาดอย่างต่อเนื่อง ความมืดที่กำลังถาโถมเข้ามาจึงหายไปในความว่างเปล่าช้าๆ

นางเห็นว่าแมลงเคลื่อนไหวไปมาอย่างบ้าคลั่งขณะส่งเสียงเรียกอย่างแผ่วเบาเพื่อพยายามทะลวงผ่านพรมแดนโลกเพื่อมาสู่โลกใบนี้

แต่มันไม่ได้ผล

ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะสามารถทะลวงเขตอาคมของโลกนี้ได้ ตอนนี้หอคอยหายไปแล้ว ไม่มีทางที่พวกมันจะทำได้อีก

เงาทมิฬ อักขระแปลกประหลาดบนพื้น หอคอยกระดูกและโลหิต ทุกสิ่งไม่คงอยู่อีกต่อไป

เขตอาคมของโลกปิดลงอีกครั้งเพื่อกำจัดทุกสิ่ง

หายนะหายไปแล้ว

………………………………………