webnovel

1187 บังคับให้สารภาพ

ตอนที่ 1187 บังคับให้สารภาพ

แมวสีดำกินเค้กสตรอเบอร์รี่เสร็จ

มันกระโดดมาอยู่บนบ่าของจางหยิงห่าวก่อนยื่นอุ้งเท้าไปทางหนึ่ง

“เหมียว!”

แมวสีดำส่งเสียงร้อง

จางหยิงห่าวจิบคำสุดท้ายแล้วกล่าวว่า “ไปกันเถอะ”

กู่ฉิงซานและเย่เฟยหลียืนขึ้นขณะตามจางหยิงห่าวไปประตูหลังของบาร์

“ทั้งสามท่าน”

บริกรชายมาที่ประตูด้วยท่าทางสุภาพ

“วันสิ้นโลกข้างนอกยังไม่จบ ท่านต้องการใช้บริการอย่างอื่นก่อนหรือเปล่า”

จางหยิงห่าวมองแมวสีดำ

แมวสีดำชี้อุ้งเท้าไปที่ประตูแล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “เหมียว!”

จางหยิงห่าวตอบว่า “พวกข้าอยากผ่านประตูนี้น่ะ”

บริกรชายกล่าวว่า “ทั้งสามท่านไม่รู้อะไรเลย เพื่อออกจากประตูบานนี้ไป ท่านต้องได้รับความยินยอมจากกฎเกณฑ์แห่งความโกลาหลก่อน”

“งั้นหรือ”

เย่เฟยหลีส่งเหรียญสีทองอีกเหรียญไปให้

“โปรดบอกรายละเอียดให้พวกข้ารู้ที” เขากล่าว

บริกรชายไม่รับเหรียญสีทองในมือของเขา แต่กลับคำนับด้วยความเคารพแล้วกล่าวว่า “ถ้าต้องการซื้อข้อมูลนี้ ข้าจะสามารถบอกสถานการณ์ของประตูบานนี้ได้”

“ได้อยู่แล้ว โปรดบอกพวกข้ามา” เย่เฟยหลีกล่าว

บริกรชายเดินไปที่ประตู กดลูกบิดประตูแล้วกล่าวว่า “ข้าคือบาร์เทนเดอร์ที่ทำธุรกิจด้านข่าวกรอง ดังนั้นเมื่อข้าเปิดประตูบานนี้ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหลังจากนี้จะเป็นของห้องลับ”

เขาเคาะประตูอย่างแรง

ประตูเปิดออก มันกลายเป็นห้องลับที่มีโต๊ะยาวกับเก้าอี้สองแถว

“เชิญ”

ทั้งสามคนตามบริกรชายเข้าไปในห้องลับ

ประตูปิดลง

ที่นี่เงียบมาก ไม่สามารถได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมของบาร์แต่อย่างใด

“ถ้างั้น ในฐานะของแขกผู้มีเกียรติของบาร์แห่งนี้ ข้อมูลแรกจะให้โดยไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด”

บริกรชายกล่าวว่า “ในโลกใบนี้ที่วันสิ้นโลกมาเยือนอย่างต่อเนื่อง กฎเกณฑ์แห่งความโกลาหลได้จัดตั้งถิ่นฐานมากมายทั่วโลก ถิ่นฐานเหล่านี้คือสถานที่ที่สามารถรักษาชีวิตให้ปลอดภัยได้”

“ยกตัวอย่างเช่น บาร์กลางคืน”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ บริกรชายก็หุบปาก

พวกเขาสามคนรออยู่สักพัก นี่มันช่างน่าสนใจ

…นี่คือส่วนสุดท้ายของข้อมูลแรก

เย่เฟยหลีหยิบถุงอัญมณีออกมาก่อนโยนไปบนโต๊ะยาว

“โปรดพูดต่อด้วย”

บริกรชายรับถุงอัญมณีมาชั่งน้ำหนักดูก่อนยิ้มออกมา

“เงื่อนไขในการเข้าถิ่นฐานแต่ละแห่งแตกต่างกันออกไป แต่ตราบที่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านสามารถใช้ชีวิตในระยะยาวได้”

“หากท่านอยากออกจากถิ่นฐาน ท่านต้องผ่านประตูความโกลาหลของถิ่นฐานก่อนจึงจะสามารถไปสถานที่ต่อไปได้”

บริกรชายปิดปากอีกครั้ง

พวกเขาสามคนรอสักพักก่อนจะตอบสนองอีกครั้ง

แต่ข้อมูลนี้มีค่าจริง ๆ …

เย่เฟยหลีโยนกล่องใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเหรียญสีทองโบราณกับอัญมณีหลากสีสัน มันกระแทกลงกับพื้นดังปัง

เหรียญสีทองและอัญมณีกระเด็นออกมาขณะกลิ้งไปทุกหนแห่งตามพื้น

“พูดทุกสิ่งที่เจ้ารู้มารวดเดียวเลย” เย่เฟยหลีกล่าว

บริกรชายมองสมบัติที่อยู่ทั่วพื้นจนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

“เมื่อท่านอยากออกจากถิ่นฐาน ให้วางมือบนประตูความโกลาหล ประตูจะรู้ว่าควรส่งท่านไปที่ใด”

เขากล่าวไม่หยุดต่อไป “ทว่า ประตูความโกลาหลจะเผยแพร่เกมการพนันสำหรับทุกคน หากท่านชนะในเกมการพนันก็จะสามารถถูกเคลื่อนย้ายพริบตาไปสถานที่ต่อไปโดยประตูความโกลาหลได้”

“…จะว่าไปแล้ว ถึงกับมีถิ่นฐานอันตรายมากมายอยู่ในโลกใบนี้ บาร์กลางคืนเป็นสถานที่ที่ดีและปลอดภัยมาก ท่านไม่ต้องไปก็ได้”

กู่ฉิงซานถามว่า “พวกเราต้องเดิมพันอะไรในเกมนั้น”

บริกรชายยิ้มแล้วตอบว่า “แน่นอนว่าเป็นชีวิตของท่าน”

กู่ฉิงซานถามอีกครั้งว่า “เจ้าเคยไปที่ถิ่นฐานอื่นมาก่อนหรือเปล่า”

บริกรชายส่ายหน้า “ไม่ ข้าทำสัญญารับใช้พันปีอยู่ที่บาร์เพื่อแลกกับการลี้ภัยในบาร์… ต้องเข้าใจว่าใช่ทุกคนที่จะร่ำรวยเหมือนท่าน”

กู่ฉิงซานถามว่า “ความมั่งคั่งคือสิ่งที่บาร์สนใจ แล้วถิ่นฐานอื่นล่ะ”

บริกรชายตอบว่า “ถิ่นฐานอื่นไม่สนเกี่ยวกับความมั่งคั่ง ทันทีที่เงื่อนไขไม่ตรงกันก็มีเพียงทางเดียวที่จะเข้าไปได้ นั่นก็คือทำสัญญาเหมือนกับข้าเพื่อรับใช้ถิ่นฐานในระยะยาว”

“ถ้าท่านอยากชนะเกมเดิมพัน ท่านต้องเตรียมจิตใจให้พร้อม”

“เข้าใจแล้ว”

ทั้งสามคนเดินออกจากห้องลับ

บริกรชายไม่ห้ามพวกเขาอีกต่อไป

กู่ฉิงซานวางมือบนประตูความโกลาหลบานนี้

เพียงพริบตา แถวข้อความสีเทาปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้าพวกเขาสามคน

“เพราะความมั่งคั่งของท่านน่าทึ่ง ทำให้พบหนทางอย่างรวดเร็ว”

“มนุษย์สามคนที่เข้าสู่การต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพเอ๋ย ท่านจะเผชิญเกมเดิมพันสามเกม ชื่อของมันคือบังคับให้สารภาพ สู้จนตายและลอบสังหาร”

“ชิปเดิมพันของท่านคือชีวิตตัวเอง หากชนะ ท่านสามารถผ่านได้; ถ้าแพ้ ท่านจะเสียชีวิตทันที”

“เกมเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!”

ข้อความสีเทาค่อย ๆ หายไป

สัตว์ประหลาดหางยาว สองเขา สี่กีบปรากฏขึ้นต่อหน้าทั้งสามทันที

มันถูกตรึงไว้กับพื้นอย่างแน่นหนาขณะเงยหน้าขึ้นแล้วพ่นน้ำลายใส่ทั้งสามคน

“ข้าจะไม่บอกอะไรทั้งนั้น” มันคำราม

ทั้งสามคนเงียบ

ดวงตาของพวกเขาแปลกประหลาดเล็กน้อย

“เจ้านี่…” เย่เฟยหลีกล่าว

“เหมือนกับ…” กู่ฉิงซานลังเล

“วัวหรือเปล่า” จางหยิงห่าวถาม

ข้อความสีเทาขนาดเล็กชุดใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสามคน

“เกมแรก: บังคับให้สารภาพ”

“นี่คือจ้าววัวดึกดำบรรพ์ที่ไม่กลัวตาย”

“ท่านต้องเค้นจากปากมันถึงแรงจูงใจและจุดประสงค์ในการลอบเข้าสู่โลกยักษ์”

“เวลาจำกัด: หนึ่งชั่วโมง”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างร่าเริงว่า “เผ่าวัวดึกดำบรรพ์… ข้าจัดการเอง”

“ไม่” จางหยิงห่าวกล่าว “พวกเราจะต้องสามารถผ่านระดับนี้ได้แน่นอนด้วยความสามารถของเจ้า ดังนั้นพวกเราต้องเก็บโอกาสให้เจ้าได้รีความสามารถพิเศษเอาไว้ด้วย”

“เจ้าหมายความว่ายังไง” กู่ฉิงซานถาม

“…ข้าจะลองดูก่อน หากปํยหาได้รับการคลี่คลายโดยไม่ต้องใช้พลังพิเศษ มันจะประหยัดเวลารีของพวกเราไปด้วย” จางหยิงห่าวตอบ

“ได้” กู่ฉิงซานถอยออกมา

จางหยิงห่าวก้าวไปข้างหน้าก่อนถกแขนเสื้อแล้วกล่าวว่า “บังคับให้สารภาพถึงกับเป็นงานเก่าของข้า”

โดยไม่คำนึกถึงการตอบสนองของสัตว์ประหลาดวัว เขาเริ่มสัมผัสสัตว์ประหลาดช้า ๆ

บรรยากาศเปลี่ยนไป

ตอนแรก ตอนพวกเขาสามคนท้าทายประตูความโกลาหล มีหลายคนมุงดูด้วยความสนใจยิ่งและอยากรับชมสถานการณ์

แต่ตอนนี้ จางหยิงห่าวเริ่มสัมผัสสัตว์ประหลาดแล้ว

ดวงตาของผู้คนค่อย ๆ แปลกประหลาด

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไรอยู่ จางหยิงห่าวก็ยังไล้ร่างของสัตว์ประหลาดด้วยมือขณะลูบคลำเล็กน้อย

“นี่ เหล่าจาง เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ” เย่เฟยหลีอดที่จะถามไม่ได้

จางหยิงห่าวสัมผัสไปเรื่อยขณะตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “วัวดึกดำบรรพ์ไม่เหมือนกับวัวทั่วไป นับว่าเป็นของใหม่สำหรับข้า ต้องสัมผัสมันก่อนเพื่อหาทุกส่วนของกระดูกกับเนื้อหนังที่ทำให้เจ็บปวดได้”

มือของเขากระแทกเข้ากับซี่โครงของสัตว์ประหลาด

สัตว์ประหลาดคำรามราวกับหมู

“เดี๋ยวนะ… เจ้าจะร้องเสียงดังไปทำไม ข้ายังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนะ” จางหยิงห่าวขมวดคิ้ว

ห้านาทีผ่านไป

จางหยิงห่าวดึงมือกลับ

เขาหยิบกล่องยาวจากแขนออกมา

ขณะเปิดกล่อง พวกเขาเห็นเข็ม กรรไกร แหนบ กริช เงี่ยงเกลียว ค้อนแหลม เข็ดฉีดยาและอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

จางหยิงห่าวหยิบมีดอันเย็นเยือกออกมาก่อนแทงเนื้อบนใบหน้าของสัตว์ประหลาดวัว

เขาหลับตาลง สูดดมชิ้นเนื้ออยู่หลายครั้งแล้วกล่าวว่า “หน้าวัว ปกติแล้วน้อยคนนักที่จะกินกัน แต่รสชาติมันดีทีเดียว…”

กู่ฉิงซานรับชุดอุปกรณ์ทำอาหารจากเย่เฟยหลีก่อนเดินเข้ามาในสภาพถกแขนเสื้อ

“สิ่งนี้ไม่ต้องใช้พลังพิเศษใด ๆ ข้าจะจัดการเอง” เขากล่าว

จางหยิงห่าวพยักหน้า

เขาสอดมีดเข้าไปในหน้าอกซ้ายของสัตว์ประหลาดขณะบิดมันอย่างแผ่วเบา

“อ้ากกกกกก! ข้าไม่บอกอะไรเจ้าทั้งนั้น!” สัตว์ประหลาดวัวคำราม

จางหยิงห่าวไม่สนใจมันแต่อย่างใดขณะกล่าวกับกู่ฉิงซานว่า “เอาจุดนั้น นี่เป็นชิ้นเนื้อดี ทำสามครั้งนะ”

“ได้เลย”

กู่ฉิงซานเริ่มทำอาหาร

ใช้เวลาไม่นาน

เนื้อก็พร้อมแล้ว

จางหยิงห่าวนำเนื้อใส่จานขณะนั่งยอง ๆ ตรงหน้าสัตว์ประหลาด

เขาสุ่มสอดเครื่องมือจำนวนมากเข้าไปในส่วนที่เจ็บปวดที่สุดบนร่างของสัตว์ประหลาด รอให้อีกฝ่ายคำรามอยู่นานก่อนเอาอุปกรณ์เหล่านี้ออกมา

หลังจากนั้น เขาใช้มีดอีกครั้งเพื่อเฉือนบนตัวสัตว์ประหลาดวัว

“คาดไม่ถึงเลยว่าสหายตัวนี้จะมีเนื้อที่คุณภาพสูงนัก”

ขณะพูด เขากินชิ้นเนื้อต่อหน้าสัตว์ประหลาด

สัตว์ประหลาดวัวมองฉากนี้ก่อนเปิดปาก ไม่สามารถพูดอะไรได้

เหงื่อเย็นยังคงหลั่งออกมาจากมัน

…ความเจ็บปวดบนร่างของมันนับเป็นเรื่องรอง

แต่มีผู้ชายมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าขณะกินเนื้อของมันและสนทนากับมัน

นี่เป็นการทำลายขีดจำกัดที่มันจะสามารถคาดคิดได้

หลังจากจางหยิงห่าวกินชิ้นเนื้อเสร็จ เขาหยิบมีดบางออกมาก่อนนั่งยองอีกครั้ง

เขาเริ่มเล็งศีรษะกับทองของสัตว์ประหลาดด้วยมีด

“เจ้าจะทำอะไรน่ะ” สัตว์ประหลาดวัวอดที่จะถามไม่ได้

“กินสมองของเจ้าขณะที่ยังมีชีวิตอยู่” จางหยิงห่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจ

สัตว์ประหลาดตกตะลึงสักพัก

มันมองคนคนนี้ จากนั้นมองอีกคน

อีกคนกำลังเตรียมเลื่อยและไขควง รวมถึงเครื่องปรุงต่าง ๆ จำนวนมาก

สัตว์ประหลาดวัวกล่าวรัวเป็นกระสุนว่า “ทุกท่าน ข้าผิดไปแล้ว ข้ามาโลกโกลาหลเพื่อหาสถานที่ที่เงาจากยุคโบราณสูญพันธุ์ ข้าอยากได้พลังของมัน ขอร้อง ขอร้องล่ะ อย่ากินสมองของข้า อย่ากินจนกระทั่งข้าตาย ขอร้องล่ะ”

เมื่อสิ้นเสียงลง

เพียงพริบตา มันหายไปจากบาร์

แถวตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสามคน

“เกมแรก: บังคับให้สารภาพ (เสร็จสิ้น)”

“ยินดีด้วย ท่านไม่ได้ใช้พลังพิเศษ แต่ชนะการเดิมพันได้ด้วยความโหดเหี้ยม”

“จางหยิงห่าว ความโหดเหี้ยมของท่านเป็นที่โปรดปรานของความโกลาหล”

“ความโหดเหี้ยมกับศัตรูถึงกับเป็นพลังอย่างหนึ่ง”

“ถ้าท่านไม่สามารถกระทำการอันโหดเหี้ยมได้ อย่าหวังที่จะเผชิญหน้ากับวันสิ้นโลกเลย”

“ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับเกมที่สอง”

“สู้จนตาย”

กู่ฉิงซานเก็บอุปกรณ์ทำอาหารขณะถามว่า “เจ้าเคยกินสมองวัวมาก่อนหรือเปล่า”

จางหยิงห่าวเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนถอนหายใจแล้วตอบว่า “ข้าต้องโง่แค่ไหนถึงขนาดที่กินสมองวัวเข้าไป”

..............................