webnovel

1179 ทะเลและเกาะ

ตอนที่ 1179 ทะเลและเกาะ

หมอกหายไป

ทิวทัศน์รอบข้างเปลี่ยนไป

เหนือทะเล มีเกาะไร้ผู้อาศัยที่มีขนาดหลายสิบไมล์

กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีพลันปรากฏตัวบนเกาะ

ตอนนี้ ตะวันยามเช้ากำลังมาเยือน ลมทะเลพัดเย็นสบาย

ทั้งสามคนยืนอยู่บนชายหาดขณะมองท้องนภาสีคราม

“ที่นี่ดีทีเดียว เหมาะสำหรับวันหยุดชะมัด” จางหยิงห่าวกล่าว

“พวกเราไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพหรือ ทำไมจู่ๆ ถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่กันล่ะ ตอนนี้พวกเราต้องทำอะไรล่ะ” เย่เฟยหลีดูตื่นเต้น

“ดูนั่น”

กู่ฉิงซานชี้ไปที่ชายหาดตรงหน้าทั้งสาม

เขาเห็นแถวข้อความค่อยๆ ปรากฏบนผิวทรายบาง

“ทั้งสองฝั่งที่เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพได้เข้าสู่ทะเลแห่งความลับแล้ว”

“เพื่อความยุติธรรม ทั้งท่านและศัตรูจะมีเวลาพักครึ่งชั่วโมงเพื่อปรับตัว”

“ตอนนี้คือเวลาพักผ่อน เริ่มจับเวลาได้”

“หลังจากพักเสร็จแล้ว พวกท่านจะได้ข้อมูลส่วนแรก”

“โปรดระวัง อย่าเข้าใกล้ทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“คำใบ้ ทุกหนึ่งชั่วโมง จะมีหายนะอย่างน้อยหนึ่งอย่างมาเยือนโลกใบนี้”

หลังจากข้อความแสดงขึ้นมาแล้ว มันค่อยๆ หายไปจากชายหาด

ทั้งสามมองหน้ากัน

“มีเวลาพักครึ่งชั่วโมง ค่อนข้างมีมนุษยธรรมเลยนะ” เย่เฟยหลีกล่าว

จางหยิงห่าวถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะพาดสไนเปอร์ไรเฟิลไว้ด้านหลังแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดว่าต้องสู้กันซึ่งๆ หน้าเสียอีก ตอนนี้ถึงกับมีเวลาวางแผนให้อีก ถ้างั้นพวกเรายิ่งมีโอกาสมากขึ้น”

กู่ฉิงซานเห็นด้วย “ความโกลาหลและบัญญัติมีวิถีเป็นของตัวเอง ข้าว่าคงไม่ใช่การต่อสู้เรียบง่ายเลย…ถ้าเป็นแบบนั้นก็สามารถหาวิญญาณกรีดร้องเพื่อทำการต่อสู้ได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอะไรเลย”

พวกเขาสามคนผ่อนคลายเล็กน้อยขณะมองรอบข้าง

เกาะไม่ใหญ่โต นอกจากต้นไม้บางส่วนแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ที่นี่

ทะเลคล้ายกับเต็มไปด้วยพลังพิเศษบางอย่าง มันทั้งทรงพลังและแปลกประหลาด ตามที่คำใบ้ว่า คงดีกว่าที่จะไม่ไปทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต

พวกเขาสามคนนั่งลงบนชายหาด

“อย่างน้อยจะมีหายนะเกิดขึ้นทุกหนึ่งชั่วโมง ดูเหมือนเกมหลบหนีเอาตัวรอดเลยเนอะ” เย่เฟยหลีกล่าว

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “จะพูดยังไงดีล่ะ ที่จริงแล้ว ความโกลาหลก็เหมือนกับบัญญัติตรงที่มีศัตรูเป็นตัวตนของวันสิ้นโลก แต่ท่าทีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตจะโหดเหี้ยมไปหน่อยก็ตามที”

“แบบนี้ มันก็ไม่ใช่แค่การหลบหนีธรรมดาน่ะสิ” จางหยิงห่าวกล่าว

“ใช่ มันควรเป็นสิ่งที่มากยิ่งกว่าการหลบหนีเอาตัวรอด อย่างน้อยก็ต้องมีการทดสอบอย่างการต่อสู้กับวันสิ้นโลก”

กู่ฉิงซานเล่าประสบการณ์ของเขาตอนไปรวบรวมเจตจำนงที่หลงเหลืออยู่ของโลกเพื่อช่วยโลกต่อสู้กับความโกลาหล

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีจมสู่ความคิด กู่ฉิงซานเริ่มคิดเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพ

มีเพียงเสียงคลื่นที่ได้ยินมาจากชายหาด

ทันใดนั้น

“จ๊อก…”

มีเสียงเล็กน้อยดังขึ้น

กู่ฉิงซานและจางหยิงห่าวมองเย่เฟยหลี

เย่เฟยหลีลูบท้องแล้วกล่าวอย่างเขินอายว่า “ข้าหิวน่ะ”

“ผู้ทำลายโลกก็หิวเป็นงั้นหรือ” จางหยิงห่าวถามด้วยความประหลาดใจ

“อย่ามาล้อเล่นน่า ข้าต้องการพลังงานจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มพลังงานด้วยพลังวิญญาณนะ… พวกเราต้องกินดื่มก่อน จากนั้นถึงจะมีพลังงานไปต่อสู้” เย่เฟยหลีตอบ

จางหยิงห่าวตกตะลึง

นี่คือการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพ

พวกเขาควรเริ่มจากการกินก่อนหรือเปล่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขารู้สึกถึงลางร้ายเสมอ…

“เอาเถอะ มันเวลาพักผ่อนกับปรับตัวนี่นะ จะกินก่อนก็ได้”

หลังจากจางหยิงห่าวพูดจบ เขาหยิบขวดสุราออกมาจากพื้นที่เก็บของส่วนตัว

“ข้าพกแต่สุรามา ต้องไปถามกู่ฉิงซานแล้วว่ามีอะไรให้กินบ้าง”

เขาหยิบถ้วยออกมาสามใบก่อนเริ่มเทสุรา

กู่ฉิงซานตกตะลึง

นี่คือการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพ ช่วงวิกฤติขนาดนี้…ทำไมไม่มานั่งกินให้สบายใจกันก่อนล่ะ

“ไม่มีปัญหา”

ขณะพูด เขาเอื้อมไปแตะเอวตัวเอง

ทันใดนั้น เขาตอบสนอง

“พวกเจ้าสองคน ข้าขอโทษด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว “ถุงเก็บของของข้าหายไปแล้ว”

“ถูกขโมยไปหรือ” จางหยิงห่าวถาม

“ไม่ใช่” กู่ฉิงซานนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับซากศพขนาดใหญ่แล้วกล่าวว่า “เอาไปใช้ในเหตุการณ์พิเศษน่ะก็เลยใช้ไปจนหมดเลย”

“ถ้างั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรกินงั้นหรือ” จางหยิงห่าวดูผิดหวังเล็กน้อย

เย่เฟยหลีพลันหยิบหม้อออกมา จากนั้นหยิบเครื่องปรุงออกมาเจ็ดแปดอย่าง

“เจ้าไม่ใช่กู่ฉิงซานนะ ทำไมถึงเอาของพวกนี้ออกมาล่ะ”

จางหยิงห่าวถาม

เย่เฟยหลีเกาศีรษะแล้วตอบว่า “คือ…ภรรยาของข้าขอให้เรียนวิธีทำอาหารน่ะ ดังนั้นข้าจึงเตรียมมาทุกอย่างเลย”

กู่ฉิงซานรับหม้อมา มองดูเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “หม้อใบนี้ใหม่มาก”

“ข้ายังไม่ได้ใช้น่ะ” เย่เฟยหลียักไหล่

ทั้งสองมองเขา

“นางไม่อยู่แถวนี้ ข้าก็เลยไม่มีแรงจะทำอาหารน่ะ” เย่เฟยหลีปกป้องตัวเอง

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เอาเถอะ ทุกอย่างพร้อมแล้ว เอาวัตถุดิบมา ข้าจะทำอาหารให้”

เย่เฟยหลีค้นหา พบเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงไม่กี่กล่องเท่านั้น

“…เจ้าคงไม่ได้มีแค่นี้หรอกใช่ไหม” กู่ฉิงซานถาม

“นี่เป็นรสชาติของบ้านเกิดเชียวนะ” เย่เฟยหลีปกป้องด้วยเสียงอ่อย

จางหยิงห่าวส่ายหน้าก่อนแสดงฉลากบนขวดให้ทั้งสองดู

“พวกเจ้าเห็นหรือเปล่า นี่คือสมบัติวิญญาณขั้นสูงสุด เตรียมไว้เพื่อฉากใหญ่อย่างการต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพเลยนะ เพราะงั้น…”

“เพราะงั้นอะไร” เย่เฟยหลีถาม

จางหยิงห่าวกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าให้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก่อนต่อสู้แบบนี้ ข้าย่อมปฏิเสธของที่ไม่สมน้ำสมเนื้อแบบนั้นแน่นอน”

กู่ฉิงซานส่ายหน้าเช่นกันแล้วกล่าวว่า “กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่มีประโยชน์ พวกเราต้องการเนื้อคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มสถานภาพของพวกเรา”

ทันใดนั้น มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นในท้องนภา

ทั้งสามคนเงยหน้ามอง

พวกเขาเห็นกลุ่มนกทะเลกำลังบินอยู่บนท้องนภา

ท่วงท่าของพวกมันช่างงดงาม เสียงร้องของพวกมันดังสนั่น

“นกดี” กู่ฉิงซานชื่นชม

“เป็นนกที่ดี” เย่เฟยหลีพยักหน้า

“ใช่ที่สุด ดีมากเลยล่ะ” จางหยิงห่าวกล่าวเช่นกัน

ผ่านไปหลายนาที

พวกเขาสามคนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขณะจิบสุราแรงจากถ้วย

เบื้องหน้าพวกเขา เนื้อหอมถูกตุ๋นในหม้อใบใหญ่ ในจานมีเนื้อผัดสดใหม่วางอยู่

“อาหารจานนี้มันทำมาจากอะไรน่ะ” เย่เฟยหลีถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “สภาพแวดล้อมจำกัด ข้าเลยต้องตุ๋นและผัดบางส่วนเพื่อเอามากินกับเครื่องปรุงรสอย่างเกลือและยี่หร่า”

“แด่การต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพ” เขายกถ้วยขึ้น

ทั้งสามชนแก้วก่อนดื่มรวดเดียวหมด

“หากต้องเจอกับวันสิ้นโลก ข้าคิดว่าพวกเราคงไม่ต้องหวาดกลัวหรอก ยังไงเสีย พวกเราล้วนมีประสบการณ์จากเกมฆาตกรและชีวิตนิรันดร์มาแล้ว” จางหยิงห่าวกล่าว

เขาเติมให้เย่เฟยหลี

เย่เฟยหลีเห็นด้วย “ถึงแม้ข้าจะกลายพันธุ์ไปแล้ว แต่อย่างน้อยก็รอดจากวันสิ้นโลกมาได้ ชีวิตในตอนนี้ของข้านับว่าดีทีเดียว”

ทั้งสองชนแก้วแล้วดื่มรวดเดียว

กู่ฉิงซานยิ้มขมขื่นเมื่อคิดถึงซากศพขนาดใหญ่

ตามที่ซากศพขนาดใหญ่บอกมา วันสิ้นโลกในประตูโลกไม่ใช่วันสิ้นโลกแต่อย่างใด

วันสิ้นโลก…

เขาพลันนึกถึงสิ่งที่ภูตแห่งกาลเวลาเคยพูดไว้

เกี่ยวกับฆาตกร…

“นั่นคือวันสิ้นโลกของโลกคู่ขนาน เดิมมันกวาดล้างมิติทั้งหมดในโลกคู่ขนาน ไม่เพียงเข่นฆ่าและการกินเนื้อคนเท่านั้น แต่ยังมีการกลายพันธุ์มากกว่าหนึ่งพันแบบอีกด้วย บางอย่างก็ไม่สามารถขัดขืนได้ โลกทั้งใบถูกทำลายอย่างสมบูรณ์”

“ถึงแม้หายนะวันสิ้นโลกนี้จะมาถึงโลกของพวกเราได้สำเร็จ แต่มันได้ใช้พลังไปหมดแล้ว เหลือเพียงวันสิ้นโลกสองแบบ นั่นก็คือการเข่นฆ่าและการกินเนื้อคน”

ส่วนเกี่ยวกับเกมชีวิตนิรันดร์…

ภูตแห่งกาลเวลากล่าวว่า “นั่นคือหายนะวันสิ้นโลกอย่างหนึ่งที่อ่อนกำลังลงมานับครั้งไม่ถ้วน เดิมมันกดดันให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าร่วม”

กู่ฉิงซานดื่มสุราเข้าไปรวดเดียว

“ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้ารู้ อย่าดูถูกวันสิ้นโลกจะดีกว่า ว่ากันตามตรง วันสิ้นโลกที่แท้จริงนั้นทรงพลังกว่าที่พวกเรารับรู้เสียอีก” กู่ฉิงซานกล่าว

จางหยิงห่าวถามด้วยความสนใจว่า “วันสิ้นโลกที่แท้จริงมันเป็นยังไงหรือ”

กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วตอบอย่างระแวดระวังว่า “ข้าไม่เคยเห็นกับตาตัวเองมาก่อน แต่ข้าหวังว่าสิ่งที่พวกเราจะพบในครั้งนี้จะไม่ใช่วันสิ้นโลกที่แท้จริง”

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีมองหน้ากันก่อนปรับท่าทีใหม่

ถ้าแม้แต่กู่ฉิงซานยังรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับเรื่องนี้...

มันก็ต้องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน

ต้องยกระดับจิตใจเพื่อให้ระแวดระวังอย่างถึงขีดสุดแล้วล่ะ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ทั้งสามคนกินอิ่มท้อง พลังงานเต็มเปี่ยม เตรียมพร้อมที่จะไป

“ที่นี่” จางหยิงห่าวชี้ไปที่ชายหาด

แถวตัวอักษรขนาดเล็กใหม่ปรากฏขึ้นบนชายหาด

“นี่คือทะเลแห่งความลับ ทะเลที่เต็มไปด้วยความลับในตำนาน”

“บนทะเลนี้ สิ่งมีชีวิตจะต้องนั่งเรือที่มีชื่อว่า “ตู้ยวี” ในการข้ามเท่านั้น หากใช้วิธีอื่นในการข้ามทะเล ท่านจะถูกฆ่าโดยหนึ่งในพลังจำนวนมากในทะเล”

“ตอนนี้ ท่านได้รับ ‘ตู้ยวี’ ที่ได้รับความเสียหาย”

“ท่านสามารถใช้ต้นไม้บนเกาะเพื่อซ่อมมันได้ เมื่อทำเช่นนั้น ท่านจะสามารถหลบหนีออกจากเกาะได้อย่างรวดเร็ว”

“โปรดทราบ ในครึ่งชั่วโมง วันสิ้นโลกจะมาเยือนเกาะ”

“โปรดทราบเป็นพิเศษ เรือลำนี้ที่มีชื่อว่า ‘ตู้ยวี’ สามารถใช้ได้โดยสิ่งมีชีวิตสองคนเท่านั้น”

หลังจากข้อความทั้งหมดแสดงแล้ว มันค่อยๆ หายไป

บนชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากทั้งสามนัก เรือที่ได้รับความเสียหายพลันปรากฏขึ้น

..............................