webnovel

0987 การโจมตีถึงตาย

ตอนที่ 987 การโจมตีถึงตาย

ในเวลาเดียวกัน

นอกประตูทองแดง

สุนัขสีดำและอีกาสีดำมองหน้ากัน

“น่าแปลก คราวนี้อะไรอีกล่ะ” สุนัขสีดำถาม

“ดูเหมือนจะเป็นคนที่พวกเราคุ้นเคยมาก” อีกาสีดำตอบ

“ข้าจะอยู่ที่นี่ เจ้าไปดูสถานการณ์ให้ที” สุนัขสีดำ

“ได้”

อีกาสีดำกางปีกสองข้างก่อนบินออกจากวิหารไป

มันร่อนลงบนหลังคาตรงใจกลางวิหารแห่งความตายก่อนเงยหน้ามองท้องนภา

มันเห็นสังฆราชจากวิหารแห่งความตายพาคนมาสองกลุ่มขณะรออยู่บนท้องนภาเพื่อเตรียมเผชิญกับศัตรู

“ใครกันที่กล้าบุกรุกวิหารแห่งความตายโดยไม่บอกกล่าว!” สังฆราชตะโกนถาม

บนท้องนภา สังฆราชจากวิหารแห่งความลับเผยตัวตนออกมา

เขาเคลื่อนลงมาอยู่เหนือวิหารแห่งความตาย

“วิหารแห่งความตาย ข้าคือสังฆราชจากวิหารแห่งความลับ ได้ยินว่าเจ้ากำลังสู้กับสัตว์ประหลาดหุบเหวที่เข้ามารุกราน พวกข้ามาที่นี่เพื่อให้การสนับสนุน” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับกล่าว

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายหรี่ตามองก่อนชี้นิ้วลง

ทันใดนั้น ค่ายกลแห่งความตายที่ถูกติดตั้งไว้ทั่วพื้นที่เปิดออก วิชาป้องกันของวิหารแห่งความตายทำงาน

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับหรี่ตาก่อนเย้ยหยันออกมา

“หมายความว่าอย่างไรกัน นี่คือวิธีต้อนรับพวกพ้องอย่างนั้นเหรอ?”

สังฆราชจากวิหารแห่งความตายตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “พวกเจ้ามาที่นี่หลังสงครามสิ้นสุดลง คิดหรือว่าข้าจะเชื่อเรื่องไร้สาระของเจ้า”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับอ้าแขนออกแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า “เจ้าพูดถูก ที่จริง ข้าควรมาถึงนานแล้ว แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระหว่างทางที่มา ข้าก็เลยเสียเวลาไปนิดหน่อยน่ะ”

“เกิดอะไรขึ้น” สังฆราชจากวิหารแห่งความตายอดที่จะถามไม่ได้

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับตอบว่า “เจ้าไม่สังเกตเห็นหรือ ความโกลาหลตื่นขึ้นมาแล้ว”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าขณะกล่าวต่อว่า “ในบรรดามรดกที่พวกข้าได้รับมา มีคำพยากรณ์ลับที่ตกทอดมาจากเทพรวมอยู่ด้วย มันบ่งบอกถึงรายละเอียดของเทพที่อยู่เบื้องหลังวิหารต่างๆ”

“น่าเสียดายที่เทพแห่งความตายคือกระดูกสันหลังของบัญญัติ”

“เมื่อยุคแห่งความโกลาหลมาถึง ผู้ติดตามเทพแห่งความตายจะเป็นศัตรูของพวกข้า”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับร่ายคาถา

ท้องนภามืดมิดที่อยู่ด้านหลังเขาพลันสว่างไสวด้วยแสงจากกฎเกณฑ์แห่งความลับ

เงาของพวกเขาปรากฏขึ้นร่างแล้วร่างเล่า

กองทัพของวิหารแห่งความลับหนึ่งแสนคนปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับมองวิหารแห่งความตายเบื้องล่างพรางกระซิบออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ลงมือ ยิ่งฆ่าได้เท่าไหร่ ความโกลาหลก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เทพเคยบอกกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว”

สังฆราชจากวิหารแห่งความลับพูดเสียงดังขึ้น “เพื่อความโกลาหลที่แท้จริง ฆ่าทุกอย่าง อย่าให้เหลือบนโลก!”

“ขอรับ!”

กองทัพจากวิหารแห่งความลับหนึ่งแสนคนคำราม

อีกด้าน

วิญญาณกรีดร้องกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในวังวนความว่างเปล่า

ทันใดนั้น มันคล้ายกับสัมผัสบางสิ่งได้ จึงหยุดลงกะทันหัน

“…ช่างเป็นผลตอบรับที่แข็งแกร่งยิ่งนัก”

“ดูท่าพลังของเทพแห่งความโกลาหลจะสัมผัสการมาถึงของยุคสมัยได้ก่อนเริ่มลงมือเขียนประวัติศาสตร์ใหม่แล้ว”

“ต้องขอบคุณการเติบโตของความโกลาหล ข้าถึงได้มีพละกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้!”

วิญญาณกรีดร้องกอดร่างตัวเองเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด

กระแสอากาศที่เหมือนกับพายุเฮอริเคนหมุนวนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นพายุแห่งความว่างเปล่าจนกวาดล้างทุกสิ่งที่อยู่รอบข้าง

วิญญาณกรีดร้องยืนอยู่ในอากาศธาตุท่ามกลางพายุขณะร่างกระตุกอย่างต่อเนื่อง

ใบหน้าสิ้นหวังปรากฏขึ้นบนร่างกายแต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ช้า ไหล่ของมันกระตุกไม่หยุด แขนคู่ใหม่ค่อยๆ งอกออกมา

ผิวหนังของมันปกคลุมไปด้วยชั้นอักขระสีดำ

“ความลึกลับทั้งหมดในความว่างเปล่ากำลังแสดงความจริงให้ข้าได้เห็น”

“ข้าเห็นแล้ว”

“มันทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อนัก”

วิญญาณกรีดร้องพึมพำ ทันใดนั้นมันเงยหน้าขึ้นมองไปทางหนึ่ง

“ใช่ ข้ารู้สึกถึงมันได้”

“ผู้ครอบครองบัญญัติคนสุดท้ายอยู่ทางนั้น”

สายตาของวิญญาณกรีดร้องคล้ายกับทะลวงผ่านความว่างเปล่าจนเห็นฉากที่อยู่ในอีกมิติไกลออกไป

“นั่นมันโลกลี้ลับกับยานจากโลกเก้าร้อยล้านชั้นนี่”

วิญญาณกรีดร้องจ้องเข้าไปในความว่างเปล่าราวกับมองเห็นยานอวกาศราชินีหนามอยู่ตรงหน้าจริงๆ

มันครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน กางมือทั้งสี่ออกก่อนยื่นมาไว้ตรงหน้า

“ด้วยพละกำลังของข้าตอนนี้ ถึงแม้จะยังห่างไกลจากการเป็นเทพ แต่ถ้าพยายามสุดความสามารถละก็…”

วิญญาณกรีดร้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

มือทั้งสี่ประสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นท่ามุทรา

มันท่องคาถาอย่างแผ่วเบาไปทางโลกลี้ลับ

“ต่อให้มีช่องว่างระหว่างความว่างเปล่ากับโลกอยู่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดพลังอันยิ่งใหญ่ของความโกลาหลได้”

“ศัตรูจะต้องหมอบอยู่แทบเท้าของเจตจำนงความโกลาหล”

“สัตว์ประหลาดโกลาหลในตำนาน!”

“เจ้าจะนำความตายไปสู่ศัตรูแล้วตั้งศิลาเอกสุดท้ายให้กับยุคแห่งความโกลาหล!”

ขณะวิญญาณกรีดร้องร่ายคาถา หมอกสีเทาเลือนรางพลิ้วไหวปรากฏขึ้นทั่วร่างของมัน

หมอกรวมตัวเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นแสงสีเทา

แสงสีเทาราวกับมีชีวิต ข้างในบิดเบี้ยวไม่หยุด เสียงกรีดร้องยังคงดังระงม

วิญญาณกรีดร้องชูมือทั้งสี่ขึ้นแล้วตะโกนว่า

“ไปเสีย! ภารกิจของเจ้ามีเพียงอย่างเดียว”

“คือฆ่ามันซะ!”

‘ตูม!’

แสงสีเทาทะยานขึ้นสู่ท้องนภาจากมือทั้งสี่ ทะลวงเข้าสู่ความว่างเปล่าและโลกอันไร้ที่สิ้นสุดก่อนพุ่งไปทางโลกลี้ลับ

อีกด้าน

ใกล้กับโลกลี้ลับ

กู่ฉิงซานมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาพอจะคาดเดาคำตอบได้อยู่แล้ว

“ไม่ใช่บัญญัติ แต่เป็นความโกลาหลที่แพร่กระจายอย่างนั้นหรือ”

กู่ฉิงซานลอบถามตัวเองอยู่ในใจ

“นี่คือความโกลาหล”

เสียงของเหล่าต้าดังขึ้น

พวกเขาทั้งสามหันศีรษะไปมองจนเห็นว่าสีหน้าของเหล่าต้าจริงจังมาก

“ความโกลาหลหรือ แต่วิญญาณกรีดร้องไม่ได้ปรากฏตัวนี่” จางหยิงห่าวกล่าว

“ยุคแห่งความโกลาหลมาก่อนกำหนด คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ส่งสารความโกลาหลจะรู้ถึงความยืดหยุ่นนี้ ตอนนี้โลกเก้าร้อยล้านชั้นทั้งใบกำลังจะกลายเป็นค่ายโกลาหล” เหล่าต้ากล่าว

กู่ฉิงซานพยักหน้าเงียบๆ

นี่สอดคล้องกับที่เขาคาดเดาเอาไว้

“คงไม่ดีถ้าพวกเราเร่งความเร็ว อย่าเข้าไปจะดีกว่า”

กู่ฉิงซานเปิดปากกำลังจะพูด แต่น้ำเสียงของประโยคกลับเปลี่ยนไป

โดยไม่มีการกล่าวเตือน เงาแห่งความตายสีดำขนาดใหญ่เล็ดลอดเข้ามาในใจของเขา

ใบหน้าของกู่ฉิงซานพลันเปลี่ยนไป เขาเริ่มย่อตัวก่อนหายไปจากยานอวกาศทันที

“มีเรื่องอะไร” จางหยิงห่าวถามเสียงดังทันที

“เกิดอะไรขึ้น” เย่เฟยหลีวิตกเช่นกัน

เหล่าต้าเงยหน้าขึ้นขณะมองท้องนภา

เขาเห็นกู่ฉิงซานลอยอยู่ในอากาศธาตุขณะมองความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่

วินาทีต่อมา

ดาบยาวสามเล่มปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าที่ด้านหลังของเขาก่อนพุ่งเข้าใส่ด้านหน้า

กู่ฉิงซานชักดาบยาวออกมาจากความว่างเปล่าแล้วถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง

จากนั้นการโจมตีก็เข้ามา

แสงสีเทาขนาดใหญ่คล้ายกับกำลังครุ่นคิด เมื่อเห็นกู่ฉิงซาน มันพลันระเบิดจิตสังหารทันที

มันกรีดร้องใส่กู่ฉิงซาน

จิตของกู่ฉิงซานขยับ

ดาบบินสามเล่มพุ่งออกไปแสดงวิชาดาบลับ “กระแสพลัง” พร้อมกัน

ประกายดาบที่กวาดทุกสิ่งได้พลันปรากฏขึ้น

ทว่า คลื่นของประกายดาบที่ฟาดเข้าใส่แสงสีเทาอย่างรุนแรงกลับสะท้อนกลับเล็กน้อยก่อนแตกสลายจนสิ้น

ดาบคลื่นเสียงและดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยังหลับใหลอยู่พุ่งตรงขึ้นไปในอากาศธาตุ มีเพียงดาบยาวที่เหมือนกับวารีสารทเท่านั้นที่ทะลวงเข้าไปในแสงสีเทาจนเฉือนออกมาได้เล็กน้อย

‘ฮึ่ม!’

แสงสีเทาแผดเสียงร้องเกรี้ยวกราดออกมา

บัดซบ!

ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพก็ยังเอาไม่อยู่!

แสงสีเทานี้แข็งแกร่งเกินไป!

เสียงสิ้นหวังของฉานนู่ดังก้องในใจของกู่ฉิงซาน “ไม่!”

ชั่วขณะนั้นเอง ความตื่นตัวในใจของกู่ฉิงซานตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์

ฉานนู่รู้ถึงพละกำลังและวิชาทั้งหมดของมัน

แต่นางยังรู้สึกสิ้นหวัง

นี่แสดงให้เห็นว่าพละกำลังของแสงสีเทาไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับมือได้

แสงสีเทาคล้ายกับเป็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่มีอารมณ์เป็นของตัวเอง

เพียงแค่ชั่วพริบตา

กู่ฉิงซานตอบสนองไม่ทัน ทำให้แสงสีเทามาถึงตรงหน้าเขา

ไวมาก!

ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ความเร็วมันไวเกินไป ทันทีที่ซ่อนตัวจะถูกจับกินทันที ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้สักกระบวนท่า!

กู่ฉิงซานมีเวลาคิดถึงแค่ตรงนี้

เขาชูดาบพิภพขึ้นแล้วถ่ายพลังวิญญาณทั้งหมดก่อนฟันออกไป

ดาบเล่มนี้เรียบง่ายจนแทบไม่ต้องใช้วิชาดาบลับ

แต่กู่ฉิงซานรวมทักษะดาบทั้งหมดเข้าสู่ดาบเล่มนี้

เขาละทิ้งทุกกลยุทธ์ กำจัดความผันผวนของอารมณ์ทั้งหลาย รวบรวมสติปัญญาและพละกำลังทั้งหมดของชีวิตตัวเองมาไว้ที่ดาบเล่มนี้

นี่คือดาบพิโรธ!

นี่คือดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของเขา!

มีเสียงฮัมบนดาบยาว

ดาบพิภพปกป้องเจ้านายด้วยการกระตุ้นพลังวิเศษของดาบขึ้นมาเอง

“การตัดสินใจของพิภพ”

“การตัดสินใจของพิภพ: ทำลายทุกตัวตน”

“คำอธิบาย: ยิ่งเป้าหมายที่อยากฆ่าแข็งแกร่งเท่าไหร่ พลังวิญญาณที่ต้องใช้การตัดสินใจของพิภพยิ่งมากตามไปด้วย”

กู่ฉิงซานตะโกนเสียงดัง

“ฟันออกไปเลย!”

ดาบพิภพฟันออกไปข้างหน้า

ความว่างเปล่าเปิดออก

มิติและเวลาถูกแยก

แสงสีเทากระแทกใส่ดาบซึ่งๆ หน้า

‘ชิ้ง!’

เสียงกรีดร้องเสียดแทงหูของทุกคน

โจรทุกคนเอามือกุมศีรษะและป้องหูก่อนตกลงมาจากความว่างเปล่า

ทางฝั่งตรงข้ามของกู่ฉิงซาน แสงสีเทาถูกดาบฟันจนแยกออกจากกัน ทำให้มันหมองหม่นทันที

แสงสีเทาสลายไปสิ้น

มันหายไปแล้ว!

กู่ฉิงซานยืนอยู่ในความว่างเปล่า มือถือดาบยาวเอาไว้ ลมหายใจถี่รัวไม่หยุดหย่อน

ถึงแม้จะมีดาบเล่มเดียวที่ปรากฏขึ้นมา แต่ดาบเล่มนี้ก็ระเบิดพลังอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก มันคือดาบเพื่อความอยู่รอด

กู่ฉิงซานสามารถสัมผัสได้ว่าเขาอยู่ห่างจากความตายเพียงแค่เสี้ยวนาที

หากไม่ใช่สถานการณ์ที่สิ้นหวังแล้วเผลอใช้ดาบนั้นเองล่ะก็ เมื่อครู่เขาคงตายไปแล้ว

เงาแห่งความตายจางหายไปจากการรับรู้ทางวิญญาณ แต่เขายังรู้สึกถึงอาการใจสั่นอยู่

กู่ฉิงซานทอดสายตาไปยังความว่างเปล่าที่อยู่ไกลออกไป

ภัยคุกคามยังไม่หายไป

แสงสีเทาเมื่อครู่ไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญแน่

กู่ฉิงซานสัมผัสได้รางๆ ว่ามีบางสิ่งกำลังจับตาดูสถานการณ์ที่นี่จากนอกความว่างเปล่าที่อยู่ไกลออกไป

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“หมายเหตุพิเศษ: ท่านต้องขอบคุณตัวเองที่พยายามอย่างหนักในสมัยโบราณ เพราะถ้าไม่มีดาบพิภพที่ถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอยู่ข้างกายล่ะก็ เมื่อครู่ท่านคงถูกกินไปแล้ว”

“ดาบเล่มนี้ใช้พลังวิญญาณจนหมด”

“ท่านเข้าสู่สภาพอ่อนแอ”

“พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของท่าน: ศูนย์ต่อหกร้อยส่วน”

“ท่านฆ่าสัตว์ประหลาดโกลาหลในตำนาน: นักแทะซากศพมืดมน”

“ถึงแม้ท่านจะมีตัวตนของเทพปฐพี แต่ตอนนี้ยังเป็นมนุษย์”

“ดังนั้นนี่จึงเป็นการฆ่าข้ามขั้นอย่างสมบูรณ์”

“หน้าต่างระบบเทพสงครามจะดึงพลังวิญญาณจากนักแทะซากศพมืดมนออกมาให้หมด”

“เนื่องจากท่านอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ครั้งนี้จะให้ท่านใช้พลังวิญญาณอย่างเต็มที่”

“ท่านได้รับพลังวิญญาณสามล้านแต้ม”

“ท่านได้รับฉายาพิเศษ: ศัตรูของความโกลาหล (ขั้นต้น)”

…………………………………………