webnovel

0517 กลับไปยังมิติอนันต์อีกครั้ง

ตอนที่ 517 กลับไปยังมิติอนันต์อีกครั้ง

อีกด้านหนึ่ง

ณ กองบัญชาการรบกองทัพพันธมิตรโลก

เพชฌฆาตตัวตลกถอดชุดเกราะรบต่อสู้ออก

เย่เฟย์หยูคนเดิมปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฝูงชนอีกครั้ง

ทันทีที่เกราะรบหลุดออกจากตัวเขา บรรยากาศที่ดูวิกลจริตและคลุ้มคลั่งก็จางหายไป

เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลเมื่อครู่ ช่างนับว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“ที่ฉันทำเมื่อกี้เป็นอย่างไรบ้าง?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถาม

นอกเหนือไปจากเหลียวฮัง คนทั้งหมดต่างยกนิ้วโป้งให้แก่เขา

เย่เฟย์หยูมองไปทางเหลียวฮัง

เหลียวฮังกล่าว “ทำไมทุกครั้งที่แกเล่นเป็นเพชฌฆาตตัวตลก ฉันถึงมักจะคิดว่าพวกเราเป็นพวกผู้ก่อการร้ายตลอดเลยนะ”

เย่เฟย์หยูยิ้ม ก่อนจะหันไปรับแก้วไวน์จากซางหยิงฮ่าว และจิบมันเบาๆ

“แล้วจะทำอะไรต่อไป?” ซางซ่งหยางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“สังหารผีร้าย”

เย่เฟย์หยูโยนแก้วไวน์ทิ้งและกล่าว “เทพธิดากงเจิ้งได้ทำตารางการประลองที่ใช้ระยะเวลายาวนานเอาไว้แล้ว ดังนั้น ตัวฉันก็น่าจะมีเวลามากพอที่จะใช้เพิ่มพูนความแข็งแกร่งของตัวเอง”

“เฝ้ารอจนกระทั่งช่วงเวลาชิงชนะเลิศมาถึง ฉันในฐานะลาสบอสจะขึ้นเวที และสังหารทีมแชมเปี้ยนส์ซะ!”

“ฉันพอจะรู้ว่าตัวเองต้องการเวลามากแค่ไหน ถึงจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขา”

เสียงของเย่เฟย์หยูกลายเป็นเย็นเยียบ “บาดแผลที่โลกใบนี้ได้รับ ฉันจะให้พวกมันชดใช้ด้วยชีวิต!”

“เธอมั่นใจจริงๆ ใช่ไหมว่ามันจะทันเวลา?” ประธานาธิบดีเอ่ยถาม

เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น “โปรดวางใจได้เลย ฉันจะทำการค้นหาบรรดาผีร้ายที่กระจัดกระจายตัวกันออกไป แล้วส่งข้อมูลให้เขาเพื่อเร่งการวิวัฒนาการโดยเร็วที่สุด”

เธอยังกล่าวกับเย่เฟย์หยูอีกว่า “ทิศตะวันออกเฉียงใต้ในระยะไกลออกไป พบสองผีร้ายระดับต่ำที่ไม่ได้ถูกเรียกตัวกลับไปโดยราชาผี โปรดเร่งทำเวลาไปสังหารพวกมันในทันทีด้วย”

“รับทราบ”

แล้วเย่เฟย์หยูก็บินออกไป

ตะขอเกี่ยววิญญาณแห่งสายธารแห่งการหลงเลือนปรากฏขึ้นจากในชั้นอากาศที่ว่างเปล่า และโฉบเข้าไปยึดติดกับแขนซ้ายของเขา

“ฉันได้ยินมาว่าคนที่ถูกคุณตัดแม้แต่รอยขีดข่วน จะลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่างไปชั่วคราวนี่เรื่องจริงไหม”

เย่เฟย์หยูมองตะขอเกี่ยววิญญาณ ปากเอ่ยถาม

“ใช่แล้วล่ะ ตราบใดที่เจ้าสามารถใช้ข้าสัมผัสกายของพวกเขา ข้าจะสามารถทำให้พวกเขาตกอยู่ในห้วงภวังค์ เหม่อลอยไปชั่วขณะได้” ตะขอเกี่ยววิญญาณกล่าว

“น่าสนใจดีนี่ แล้วมันจะเป็นอย่างไรกันถ้าพวกผีร้ายสูญเสียความทรงจำไป?”

“อยากรู้...เจ้าก็ลองดูเองสิ”

“งั้นก็ไปกันเถอะ”

ปัง!

เย่เฟย์หยูทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า นำพาตะขอเกี่ยววิญญาณบินไกลออกไป

ทุกคนจ้องมองไล่หลังของเขาจนกระทั่งหายลับไป ก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ในที่สุดซางหยิงฮ่าวก็สูดหายใจลึกและกล่าว “กู่ฉิงซานสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน? แล้วตอนนี้เจ้าหมอนั่นมันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”

“นั่นสิ แผนนี้มันบ้ามากจริงๆ” เหลียวฮังกล่าวด้วยอารมณ์ “แต่ฉันคิดว่าคงจะเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว ไม่อย่างงั้นเจ้าเด็กกู่มันคงไม่รีบออกไปโดยทิ้งโลกที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เอาไว้เบื้องหลังแน่ๆ”

เหนือขึ้นในอวกาศ ที่ลึกเกินกว่าจะมองเห็นได้

เย่เฟย์หยูเดินมาหยุดยืนในวงแหวนโลหะ

หลังจากที่ดาวโลกได้ทำการผสานรวม มันก็มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนับสิบเท่า และระยะทางระหว่างหลายเมืองก็ขยายตัว ยืดยาวออกไป

ดังนั้นด้วยระยะทางที่ไกลแสนไกล เลยจำเป็นต้องใช้เครื่องจั๊มป์ขนาดใหญ่จึงจะไปถึง

โชคยังดีที่เทคโนโลยีจั๊มป์ได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างต่อเนื่องโดยเหลียวฮัง มันจึงมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และใช้การได้เป็นอย่างดี

เห็นแค่เพียงเย่เฟย์หยูที่ยืนอยู่ในวงแหวนโลหะ

วงแหวนโลหะบังเกิดเสียงหวีดหวิวอันคมชัดขึ้น

และในวินาทีต่อมา เย่เฟย์หยูก็หายวับไป

เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนถนนใหญ่

เย่เฟย์หยูหันไปมองรอบๆ

และพบว่าในส่วนท้ายของเส้นถนน มีสองผีร้ายกำลังต่อกรกับหุ่นรบขับเคลื่อนอยู่

เย่เฟย์หยูสะบัดตะขอยาวออกจากมือ และย่ำตรงไปยังฉากต่อสู้ทีละก้าว ทีละก้าว

สองผีร้ายตระหนักได้ถึงตัวตนของเขา

ผีร้ายเหวี่ยงหุ่นรบทิ้งไป แล้วเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “นี่นายเป็นใครกัน?”

ผีร้ายตนนี้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากมนุษย์ ดังนั้นมันจึงสามารถจดจำอดีตและพูดภาษาสำเนียงมนุษย์ได้

เนื่องจากพวกมันพึ่งจะเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ดังนั้นความแข็งแกร่งเลยยังอ่อนด้อยนัก ราชาผีจึงไม่มีความตั้งใจที่จะเรียกพวกมันไปมีส่วนร่วมในการประลองต่อสู้

เย่เฟย์หยูมองดูผีร้ายและผิวปากออกมา

“ถ้าจะให้พูดเท่ๆ ล่ะก็คงต้องบอกว่า ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกแก”

“แต่ที่นี่น่ะมันคือโลกแห่งความเป็นจริง และก็จะไม่มีใครรู้ด้วยว่าฉันกำลังจะฆ่า พวกแก...ดังนั้น...”

“ฉันนี่แหละคือคนสังหารพวกแกเอง”

สองผีร้ายพอได้ยินก็หันมามองหน้ากัน

จะดีหรือร้าย พวกมันก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน และยังคงมีตรรกะของมนุษย์บางอย่างอยู่ในจิตใจ

ผีร้ายจึงเอ่ยถาม “ก็แล้วที่พล่ามมาสองประโยคเมื่อกี้มันแตกต่างกันอย่างไร?”

“แน่นอนว่าต่าง”

เย่เฟย์หยูกล่าวอย่างเฉียบขาด “ ที่บอกว่า ‘จะฆ่าแก’ นั่นแปลว่ายังไม่ได้ทำ แต่ ‘ฉันคือคนสังหารพวกแก’ นี่แปลได้ว่าฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว”

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ จู่ๆ ร่างเขาก็วูบไหวเหลือเพียงภาพติดตา และไปปรากฏกายอีกครั้งบนไหล่ของผีร้ายตัวสูง

ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ยกผ้าเช็ดหน้าสีขาวขึ้นมาปาดเลือดออกจากคมมีดของตะขอเกี่ยววิญญาณ

สองผีร้ายแข็งค้าง

ทันใดนั้นเอง ร่องรอยเลือดเป็นขีดสีแดงยาวๆ ก็เริ่มผุดออกมาจากคอของพวกมัน ตามด้วยหัวที่กลิ้งตกลงไป

สองร่างใหญ่ร่วงลงกับพื้น

เย่เฟย์หยูกระโดดลงมา และสะบัดๆ ตะขอเกี่ยววิญญาณของเขา

ด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความพึงพอใจ

“ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องเช็ดข้าให้สะอาดก็ได้นะ” ตะขอเกี่ยววิญญาณกล่าว

“ขอโทษที ฉันก็แค่อยากจะทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พึ่งจะสังหารคนไปน่ะ” เย่เฟย์หยูทิ้งผ้าเช็ดหน้าไป

“เอาเถอะ ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”

ตะขอเกี่ยววิญญาณกล่าวแบบไม่สนใจเขาอีกต่อไป

เย่เฟย์หยูวางตะขอเกี่ยววิญญาณพาดบนไหล่เขา และเฝ้ารออย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเทพธิดากงเจิ้งก็ดังขึ้น

“โปรดบินกลับไปบนจักรวาล และเตรียมพร้อมสำหรับการจั๊มป์ระยะไกลอีกครั้งด้วย เป้าหมายต่อไปคือผีร้ายที่ทรงพลังระดับหนึ่งเลยทีเดียว”

พอได้รับฟัง เย่เฟย์หยูก็อดไม่ได้ที่หักคอเสียงดังแกร๊กๆ เริ่มขยับแขนบิดไหล่ตัวเองเบาๆ

“ทำอะไรน่ะ หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเจ้า?” ตะขอเอ่ยถาม

“เปล่าหรอก ก็แค่เวลาเล่นเกมนานๆ การกระทำแบบนี้มันมักจะติดเป็นนิสัยน่ะ เส้นมันยึดไปหมดก็เลยต้องขยับตัวนิดๆ หน่อย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงต่อไปไง”

เย่เฟย์หยูฮึมฮัมเพลงออกมา “ล้า ลา ลา ลา ผจญภัยอัปเวลอย่างสุขสันต์ ลืมเลือนความทุกข์กังวล ตอบรับความปรารถนาตามใจตน ฉันรักมันจริงๆ ล๊า ลา”

แล้วเขาก็ระเบิดฝีเท้า ทะยานตัวพุ่งตรงขึ้นสู่ห้วงจักรวาล

อีกด้านหนึ่ง

เมื่อเทพธิดากงเจิ้งถ่ายทอดคำเหล่านั้นไปยังทุกๆ คน กู่ฉิงซานก็ได้มาถึงโลกมิติอนันต์แล้ว

ณ สมาคมกำปั้นเหล็กแห่งความยุติธรรม

เสี่ยวเหมียวกำลังนั่งหมอบอยู่บนเก้าอี้ พยายามขีดเขียนประโยคอะไรบางอย่างลงไป

“เฮ้อ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะได้รับค่าธรรมเนียมต้นฉบับจากการเขียนไอ้กระดาษแผ่นเหลืองๆ ใบนี้ .. ”

“ … หรือว่าฉันควรจะเปลี่ยนพล็อตเรื่องดี”

เสี่ยวเหมียวบ่นพึมพำกับตัวเอง

เธอกำลังเพ่งสมาธิอยู่กับการวางเนื้อเรื่องใหม่

แต่ทันใดนั้นเอง เธอก็หยุดมือลง และเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า

เงาสีดำกำลังร่วงลงมา ก่อนจะกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนเป็นหลุมลึกเบื้องหน้าของเสี่ยวเหมียว

“เอ๊ะ? ทำไมนายถึงกลับมาล่ะ?” เสี่ยวเหมียวเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

กู่ฉิงซานปีนออกมาจากหลุม และรีบกล่าวทันทีว่า “เร็วเข้า ผมไม่มีเวลาอธิบาย ช่วยส่งผมไปยังตำแหน่งของอัลเบอัสที เวลากระชั้นชิดมากแล้ว!”

“อัลเบอัสเหรอ? ที่แท้คราวนี้วิหคหนามก็ไปทำการเรียกขานที่นั่นน่ะเอง แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่ฉันไม่สามารถส่งไปยังตำแหน่งที่ว่าแบบแม่นยำได้” เสี่ยวเหมียวกล่าว

“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ตำแหน่งที่ว่าเกือบจะเป็นเส้นทางเดียวกันก็พอ ที่เหลือผมจะจัดการเอง”

“เรื่องนั้น … ”

“รอเดี๋ยวก่อน” แบรี่เดินออกมาจากสมาคม “ด้ายมิติของนายพึ่งถูกใช้ไป มันจำเป็นต้องทำการชาร์จพลังงานใหม่อีกครั้ง”

เขาขมวดคิ้ว และเพ่งมองมาทางกู่ฉิงซาน “ว่าแต่ทำไมบนตัวนายถึงมีคลื่นความผันผวนของกฎเกณฑ์แห่งไพ่กัน? นี่ไปเจอปัญหาอะไรมารึเปล่า?”

เห็นแค่เพียงแบรี่ที่เอื้อมมือออกมา คว้าจับลงตรงอากาศที่ว่างเปล่าบนไหล่ของกู่ฉิงซาน

รังสีแสงสีแดงเลือดริบหรี่ ถูกคว้าจับโดยมือของเขา

“ไม่ผิดแล้ว ความรู้สึกนี้มันสำรับไพ่ทะเลเลือด ที่แท้ก็เป็นเขา จอมมารทะเลเลือดน่ะเอง” แบรี่หรี่สองตาแคบลง

เสี่ยวเหมียวแสยะเย็น “นี่คนๆ นั้นกล้าที่จะมาแตะต้องกับคนของเรางั้นเหรอ?”

แบรี่กำหมัดและกล่าว “ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปเจอกับเขาสักหน่อยแล้ว”

“หยุดก่อน! มันไม่ใช่แบบที่พวกคุณคิดนะ” กู่ฉิงซานรีบหยุดแบรี่อย่างรวดเร็ว

เขาไม่มีทางเลือก นอกจากอธิบายออกไปสั้นๆ

“โอเค ถ้างั้นก็หมายความว่าเพื่อนของนายเป็นลูกศิษย์ของเจ้าทะเลเลือดงั้นสินะ” แบรี่เอ่ยถาม

“ใช่แล้ว” กู่ฉิงซานตอบ

“เอาเถอะ เสี่ยวเหมียว อย่างไรเธอก็ช่วยชาร์จด้ายมิติให้กู่ฉิงซาน แล้วส่งเขาออกไปด้วยละกัน”

“เข้าใจแล้ว”

“ฉิงซาน เอ่อ ชาร์จพลังงานมันอาจจะใช้เวลาประมาณสิบนาที นายพอจะสามารถ … ”

“ต้องการจะบอกว่าพวกคุณยังไม่ได้กินอะไรกันเลยใช่ไหม?”

แบรี่กับเสี่ยวเหมียวหันมายิ้มให้เขา และหัวเราะอย่างเขินอาย

กู่ฉิงซานเคาะลงบนหัวของตัวเอง

แบรี่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงยังคงระมัดระวังและไม่ออกไปจากสมาคม

ทั้งสองคนยากจน จึงไม่มีอะไรเหลือตุนไว้ให้กินที่นี่

“เข้าใจแล้ว สิบนาทีก็น่าจะพอให้ผมปรุงต้มหม้อไฟแบบเผ็ดร้อนให้พวกคุณ”

หลังจากสิ้นประโยคนี้ของกู่ฉิงซาน เห็นแค่เพียงลำคอของแบรี่กับเสี่ยวเหมียวที่ขยับกลืนน้ำลายลง

นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กิน?

หลังจากที่กู่ฉิงซานออกไป พวกเขาก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

ไม่มีเลยโดยสมบูรณ์

“เอาล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาหยิบวัตถุดิบ เครื่องปรุงรส หม้อและกระทะออกมา แล้วเริ่มต้นทำหม้อไฟ

สิบนาทีต่อมา

พลังงานของด้วยมิติก็ถูกชาร์จจนเต็มพอดี

พร้อมกับหม้อไฟร้อนๆ ที่ถูกวางลง

กู่ฉิงซานหยิบอาหารบางอย่างวางลงบนโต๊ะ

“อาหารพวกนี้ล้วนเป็นของคุณภาพดี พวกคุณสามารถปรุงมันได้เอง นี่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับหลายวัน”

“ยอด ยอดไปเลย!”แบรี่กับเสี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าพร้อมกัน

“โอเค งั้นก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องไปแล้ว รบกวนด้วยนะ ผมรีบมากจริงๆ”

“ฉันมาแล้ว”

เสี่ยวเหมียววางมือลงบนหลังของกู่ฉิงซาน

“อัลเบอัสสินะ…มันควรจะเป็นตำแหน่งนี้” เธอเงยหน้ามองดูท้องฟ้า แล้วลองกะพิกัดเคลื่อนย้ายโดยประมาณ

“เอาล่ะ ฉันจะเริ่มการเคลื่อนย้ายทางไกล”

“เดี๋ยวก่อน ฉันว่านั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ถูกต้องนะ” แบรี่กล่าว

เขาคีบแผ่นเบคอนออกมาจากหม้อและกล่าว “ฉันจำได้ว่าอัลเบอัสมันควรจะอยู่ในทางนี้”

ระหว่างกล่าว เขาก็ชี้ตะเกียบไปยังอีกทิศทางหนึ่งในความว่างเปล่า

“ไม่นะพี่ชาย พี่เข้าใจผิดแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นทางที่น้องคาดการณ์เอาไว้ต่างหาก”

“น้องสาว ตรงส่วนนี้พี่ขอไม่เห็นด้วยนะ เมื่อก่อนพี่น่ะเคยไปที่อัลเบอัสอยู่บ่อยๆ ดังนั้นถ้าเทียบกับน้องแล้ว พี่รู้เรื่องตำแหน่งดีกว่าแน่นอน”

“งั้นเหรอ? คงจะเป็นในตอนที่มีเงินอยู่นิดๆ หน่อยๆ ใช่ไหม พี่ไปอัลเบอัสทีไรก็ดื่มจนเมาแทบตายทุกที เป็นน้องรึเปล่าที่ต้องไปรับตัวพี่กลับมาเสียทุกครั้ง ฉะนั้นพิกัดที่น้องระบุต่างหากที่ถูกต้อง”

“แต่ทุกครั้งในตอนขาไป พี่ก็ยังมีสติอยู่นา และนั่นหมายความว่าพี่จำทิศทางของมันได้อย่างชัดเจน”

“ไม่ใช่หรอก พี่น่ะหลงทิศไปแล้วโดยสมบูรณ์ ทิศทางที่พี่กำลังชี้ไปน่ะ มันเป็นที่ซ่อนตัวของมอนสเตอร์เอกภพต่างหาก เจ้าตัวที่พวกเราพึ่งจับมันมากินเมื่อก่อนหน้านี้ก็มาจากทางนั้นไม่ใช่หรือไง?”

แล้วสองพี่น้องเถียงกันอยู่พักใหญ่

กู่ฉิงซานมองไปยังทิศทางที่เสี่ยวเหมี่ยวกำลังชี้ ก่อนจะมองไปทางตะเกียบที่ชี้ไปของแบรี่ เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นมาตามตัวของเขา

เพราะทั้งสองคน…ชี้ไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

หากส่งตัวไปผิดที่ นี่ไม่ได้หมายความว่ากู่ฉิงซานจะต้องพลาดการเรียกขานของวิหคหนามหรอกหรือ

แถมบางที…เขาอาจจะกลายเป็นอาหารมื้อกลางวัน ที่ถูกส่งไปให้ขบเคี้ยวถึงที่อยู่ของมอนสเตอร์เอกภพอีกด้วย!

…………………………………..........