webnovel

0516 การประลองของทั้งหกโลก

ตอนที่ 516 การประลองของทั้งหกโลก

“ไอ้ตัวตลกนั่น…ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดวิปริตเช่นมันก่อนเลย” เทพสวรรค์กล่าวเสียงหม่น

ขณะที่ราชาผีเพลิงน้ำแข็งไม่เอ่ยคำใด เพียงจ้องมองออกไปยังผืนทะเลทราย

ในทะเลทราย ฟุ้งไปด้วยกระแสไอร้อนอันรุนแรง ผ่านไปนานก็ยังไม่จางหายไป ส่งผลให้ฉากเบื้องหน้าดูบิดเบี้ยว และล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก

คลื่นกระแทกกระจายออกไปทุกทิศทาง และด้วยความร้อนอันเข้มข้น ทำให้อุณหภูมิของที่นี่พุ่งพรวดขึ้น ราวกับตกอยู่ในนรก

แน่นอน ว่าผีร้ายกับเทพสวรรค์ที่ครอบครองพลังอันแข็งกร้าว ย่อมไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจเบื้องหน้านี้ แต่พวกเขากำลังตรวจสอบถึงผลกระทบของอำนาจนี้ที่มีต่อโลก

ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็ปรากฏเครื่องบินหลายสิบลำบนท้องฟ้า

เครื่องบินเหล่านี้ค่อยๆ ลดระดับลงมาหยุดต่อหน้าพวกเขา และฉายภาพอีกครั้ง

เพชฌฆาตตัวตลกปรากฏขึ้นบนจอม่านแสงอีกครา

พร้อมด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม เสียงกีตาร์กระหน่ำซัดจนพาลให้คนฟังต้องโยกหัวตาม

“ติ๊งต๊อง! เจ็ดคนต่อหนึ่งฝ่าย เริ่มทำการลงทะเบียนได้”

“และผู้ชนะคนสุดท้าย จะได้สิทธิ์ต่อสู้กับกระผม หากโค่นกระผมลงได้ ก็จะได้รับโลกใบนี้ไป”

“หากยังดื้อดึง กระผมจะ”

เพชฌฆาตตัวตลกปรบมือของมันอีกครั้ง

คราวนี้ บังเกิดแรงสั่นสะเทือนและความปั่นป่วนที่มากกว่าเดิมปรากฏขึ้นอีกระลอก

ตลอดทั้งสวรรค์และโลกเกิดการสั่นสะเทือน

“บัดซบ! มันกำลังจะปลดปล่อยสกิลบ้าๆ นี่อีกแล้ว!” เทพสวรรค์สบถด้วยสีหน้ามืดมน ครึ้มไปด้วยเมฆหมอก

ราชาผีเพลิงน้ำแข็งทะยานตัวไปยังทิศทางของแรงระเบิดอย่างรวดเร็วโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ

เทพสวรรค์โบกมือส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามของตน และไล่ตามผีร้ายทั้งหมดไป

ณ เมืองๆ หนึ่ง

มันเป็นเมืองที่ถูกทิ้งร้าง

มันเป็นเมืองที่ถูกยึดมานานแล้วโดยเทพและผีร้าย ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ หลงเหลือเพียงอาคารเหล็กที่ว่างเปล่า

แต่เมื่อผีและเทพมาถึง ทุกอย่างที่นี่ก็จบสิ้นลงแล้ว

แต่พวกเขาก็เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ผ่านทางสมองควอนตัมที่ตนยึดมา มาก่อนแล้วเหมือนกัน

ปรากฏซึ่งเมฆดอกเห็ดขนาดยักษ์พวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า

ตลอดทั้งเมืองถูกทำลายล้างลงไปภายในไม่กี่ลมหายใจ

เทพสวรรค์หยุดยืนลงตรงชายขอบเมือง เร่งตรวจสอบมันอย่างรวดเร็ว

หลังจากเพ่งสมาธิอยู่ชั่วขณะ เขาก็เอ่ยออกมา “อำนาจเช่นนี้ไม่นับว่าเป็นสิ่งใดกับพวกเรา แต่มันสามารถสร้างความเสียหายให้กับโลกได้”

“หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ เจ้าเพชฌฆาตตัวตลกนั่นมันคิดจะทำลายการดำรงอยู่ของโลกอันวิเศษยิ่งใบนี้น่ะหรือ?” ราชาผีเพลิงน้ำแข็งจมลงสู่ห้วงความคิด

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการทำลายล้างของตัวตลก พวกเขาจึงหันมาจับมือเคียงข้างกันอีกครั้ง แล้วแบ่งปันสติปัญญากันอย่างรวดเร็ว

“ข้าเคยถามทาสมนุษย์มาแล้ว พวกมันกล่าวว่าไอ้เจ้าตัวตลกนี่คือคนบ้า มันมักจะทำเรื่องแปลกประหลาดมากมาย อย่างเช่นการสังหารผู้คนจำนวนมาก โดยไม่มีเป้าประสงค์ใดๆ ที่ชัดเจน”

“ส่วนคนของข้าบอกว่า ดูเหมือนมันจะสามารถควบคุมเครื่องจักรได้หลากหลาย .. ไม่สิ สามารถควบคุมเครื่องจักรทั้งหมดในโลกก็ยังได้เลย”

“ระเบิดเหล่านี้ล้วนมาจากอาวุธเก่าแก่ของมนุษยชาติ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยมันร้ายแรงเกินไป พวกมันจึงถูกผนึกเอาไว้”

“แต่ตัวตลกกลับสามารถควบคุมอาวุธโบราณเหล่านี้ได้”

“นอกจากนี้ มันยังต้องการให้พวกเราเข้าร่วมการประลองราชันสงครามอีก” ราชาผีเพลิงน้ำแข็งกล่าว

ทันใดนั้นเอง ภาพของเพชฌฆาตตัวตลกก็ปรากฏขึ้นบนจอม่านแสงอีกครั้ง

“ถูกต้องแล้ว! สหายราชาผีดูเหมือนจะตั้งใจฟังที่กระผมพูดเหมือนกันนี่นา กระผมขอชมเชยด้วยใจจริง แต่น่าเสียดายนักที่คุณไม่ต้องการเงิน ไม่งั้นกระผมคงตบรางวัลใหญ่ปึกหนาๆ ให้คุณไปแล้ว”

เทพสวรรค์มองตัวตลกบนจอม่านแสง ปากเอ่ยถามเสียงจม “เจ้าต้องการอะไร?”

ขณะเดียวกัน เขาก็ไขว้มือไว้ข้างหลัง และทำท่าทีส่งสัญญาณบางอย่าง

ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพที่เตรียมตัวอยู่นานแล้ว กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มในที่สุด “พวกเราพร้อมแล้ว”

และในวินาทีต่อมา เหล่าผู้สืบสายโลหิตก็หายวับไปทันใด

หนึ่งในพวกเขามีสกิลประเภทจับความเคลื่อนไหวและเคลื่อนย้าย และเวลานี้ พวกเขาก็สามารถวาร์ปไปยังที่ๆ เพชฌฆาตตัวตลกอยู่ได้เลยในทันที!

อุ๊ปส์ แต่น่าเสียดาย ที่เทพธิดากงเจิ้งกำลังเฝ้าดูจากทุกมุมโลกอยู่ตลอดเวลาอย่างใกล้ชิด

วินาทีที่ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพหายไป

เพชฌฆาตตัวตลกก็เสร็จสิ้นการจั๊มพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทุกคนเห็นแค่เพียงเหล่าผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพปรากฏขึ้นแทนที่ในภาพ

ขณะที่ตัวตลกหายวับไป

หลังจากการจั๊มพ์ระยะไกล ตัวตลกก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งในเมืองอื่น

ภาพบนจอม่านแสงสลับสับเปลี่ยนทันที มันกลับไปฉายภาพของเพชฌฆาตตัวตลกอีกครั้ง

เห็นแค่เพียงตัวตลกที่ยกมือขึ้นผิวปาก ก่อนจะปรบมือของมัน

“พวกคุณกล้าหาญมากจริงๆ ลงมือได้อย่างฉับไวเพื่อต่อกรกับพฤติกรรมอันชั่วร้ายของกระผม พวกคุณนี่เหมาะสมกับคำว่าเทพเสียจริงๆ”

“และเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกคุณ กระผมเลยจะขอตอบแทนให้โลกใบนี้ได้รับความทุกข์ทรมานอีกครั้ง”

ตูม!

บังเกิดเสียงระเบิดครั้งใหญ่

ระเบิดนิวเคลียร์ในครั้งนี้ มันถูกปล่อยลงอีกครั้งหนึ่ง และคราวนี้มันเป็นสถานที่ๆ ทั้งผีร้ายและเทพรวมตัวกันอยู่

บังเกิดวงเปลวไฟปกคลุม กวาดกระจายไปทั่วผืนดิน ขณะที่กลุ่มควันปะทุพวยพุ่ง ผสมปนเปไปกับฝุ่นละออง ยกตัวขึ้นเป็นรูปเห็ดบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

ทรายและหินจำนวนมากฟุ้งกระเจิงด้วยคลื่นแรงกระแทก อาคารต่างๆ พังทลาย พื้นดินยุบตัวเป็นหลุมลึก คล้ายอุกกาบาตพึ่งตกใส่

หลังจากนั้นไม่นาน

ทุกอย่างก็กลับมาสงบลง

เห็นแค่เพียงร่างของเทพและผีร้ายที่ค่อยๆทยอยกันปรากฏตัวออกมา

เทพกับผีร้ายส่วนใหญ่ดูจะตกที่นั่งลำบากเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดแผลรุนแรงใดๆ

มีแค่เพียงผีร้ายอ่อนแอเท่านั้น ที่ถูกสังหารลง

อำนาจการโจมตีดังกล่าว สำหรับเทพและผีร้ายส่วนใหญ่แล้ว ยังถือว่าธรรมดา

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเทพสวรรค์กับราชาผีเพลิงน้ำแข็งกลับกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง

“เจ้าตระหนักถึงมันหรือไม่?” ราชาผีเพลิงน้ำแข็งเอ่ยถาม

“แน่นอน รังสีที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านี้กำลังกระจายตัวออกไป หากอยู่ภายใต้มัน สิ่งมีชีวิตสามัญก็จะตกตายภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงสัปดาห์” เทพสวรรค์กล่าว

“ไม่เพียงเท่านั้น แต่หากไอ้ตัวตลกมันยังคงปล่อยการโจมตีเช่นนี้ออกมาเรื่อยๆ โลกทั้งใบก็จะปนเปื้อนและถูกทำลายลง”

พร้อมกับการสนทนาของทั้งสอง จอม่านแสงขนาดใหญ่ก็ฉายขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง

ตามด้วยภาพของเพชฌฆาตตัวตลกปรากฏกายขึ้น

“สหายราชาผีคนนี้นี่มีสมองจริงๆ”

ตัวตลกปรบมือ แต่ขณะเดียวกันก็กล่าวแถลงไข “แต่หากพวกคุณเชื่อฟัง กระผมจะไม่ปล่อยการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์นี้อีกแล้ว ตรงจุดนี้คุณเชื่อใจกระผมได้”

เพชฌฆาตตัวตลกหันไปมองรอบๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง และกล่าวเสียงกระซิบ “แต่จะบอกความลับอะไรบางอย่างให้นะ ว่ากระผมสามารถปล่อยการโจมตีแบบนี้ได้อีกนับพันๆลูกในคราวเดียว ชนิดที่ว่าสามารถโจมตีโลกทั้งใบให้ล่มสลายลงไปเลยก็ยังได้”

“ไม่นะ! ไอ้ตัววิปลาส! นรกเถอะ เจ้ากำลังคิดบ้าอะไรอยู่กันแน่!” ราชาผีคำรามด้วยความโกรธ

เทพสวรรค์หันไปพูดกับทางจอม่านแสง “เจ้ามนุษย์ผู้ชั่วร้าย ตราบใดที่เจ้ายังกล้าที่จะทำลายโลกใบนี้ต่อไป ข้าสาบานเลยว่าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

ถ้าโลกมนุษย์ถูกทำลายลง ที่พวกเขาเฝ้าทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งก่อนหน้านี้มันก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ!

โลกที่เต็มไปด้วยพลังงานอันตรายน่ะ มันไม่คุ้มค่าแก่การผสานรวมหรอก!

แม้กระทั่งหลังจากผสานรวมกัน บางทีอันอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของโลกสวรรค์ หรือโลกของผีร้ายชนิดที่ว่าไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขขึ้นก็เป็นได้!

บนจอม่านแสง เจ้าตัวตลกยกสองนิ้วขึ้นมาอุดหู กระเด้งตัวหันหน้าไปข้างหลัง

ก่อนจะกางมือสองมือออกและกล่าว “กระผมไม่ได้ยินอะไรเลย”

“ผายลมเถอะ!” ราชาผีสบถเป็นฟืนเป็นไฟ

เปลวเพลิงน้ำแข็งปะทุขึ้นรอบตัวเขาทันใด

และเทพธิดาธิดากงเจิ้งก็สามารถตรวจพบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างรวดเร็วในชั่วเวลาศูนย์จุดศูนย์หนึ่งวินาที

เธอได้ทำการพิจารณาและตัดสินใจในคราวเดียว

ทันใดนั้นเอง เพชฌฆาตตัวตลกก็หายไปจากสถานที่เดิมของมัน

และสามวินาทีต่อมา เพลิงน้ำแข็งของราชาผีก็ระเบิดขึ้นในตำแหน่งเดิมของตัวตลก

เพลิงน้ำแข็งอันไร้ที่สิ้นสุดควบแน่นอยู่รอบตัวมัน

ด้วยการใช้ระเบิดเพลิงน้ำแข็งอันเหนือธรรมดาสามัญนี้ ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่ต้องแลกเปลี่ยนออกไปไม่น้อยเลย

อุ๊ปส์ แต่น่าเสียดาย ศัตรูที่มันเตรียมพร้อมโจมตีใส่อยู่นาน จู่ๆ ก็หายไปในความว่างเปล่าซะงั้น

เพชฌฆาตตัวตลกหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

ราชาผีเพลิงน้ำแข็งเป็นผีร้ายที่แข็งกร้าวที่สุด มีเพียงพลังอำนาจของมันเท่านั้นที่จะต่อกรกับเทพสวรรค์ได้

แต่ราชาผีกลับไม่สามารถจับตัวตัวตลกได้!

เห็นแค่เพียงภาพจากเครื่องบินลำหนึ่งที่ลอยตัวอยู่ ฉายภาพของตัวตลกออกมา

เทพสวรรค์ที่เฝ้ามองดูฉากนี้ ในหัวใจเริ่มบังเกิดความหนักอึ้งขึ้น

‘ตัวตลก...สามารถทำลายโลกได้ตลอดเวลา’

‘แต่กลับไม่มีใครสามารถจับตัวมันได้’

‘แล้วเช่นนั้นจะรับมือกับมันได้อย่างไร?’

เห็นแค่เพียงเพชฌฆาตตัวตลกที่ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งบนจอม่านแสง มันปรบมือรัวๆ ให้แก่ราชาผีร้าย “ช่างเป็นผู้เข้าประลองที่กล้าหาญจริงๆ ทักทายกันอย่างถึงพริกถึงขิงซะขนาดนี้ กระผมคงต้องตบรางวัลให้คุณโดยการทำลายเมืองผีของคุณที่พึ่งสร้างเสร็จไปแล้วกว่าครึ่งซะแล้วสิ”

“เฮ้ยอย่านะ!” ราชาผีอุทานคลั่ง

ทว่าเพชฌฆาตตัวตลกทำเป็นไม่ได้ยินได้เห็นถึงเสียงและท่าทีของเขา มันจิกเท้า กระโดดเต้นบัลเลต์ หมุนตัวไปมา ก่อนจะใช้นิ้วเคาะเบาๆ ลงบนจอม่านแสง

“กระผมต้องขอโทษจริงๆ สหายราชาผี แต่คันศรที่ถูกโก่งและยิงออกไปแล้วน่ะ…ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้หรอก!”

ตูม

ผืนโลกบังเกิดการสั่นสะเทือนอีกครั้ง

คลื่นอัดกระแทกอันแข็งกร้าว ฟุ้งไปทั่วชั้นอากาศ

บนจอม่านแสง เกล็ดเถ้าสีเทาคล้ายหิมะลอยฟุ้งไปทั่ว ขณะเดียวกันเสียงดังรบกวนเล็กๆน้อยๆก็เล็ดลอดออกมา

การระเบิดในครั้งนี้ รุนแรงยิ่งกว่าสองครั้งก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

ตามสายลมที่ไหลมากับกระแสอากาศ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพคนใด ก็ย่อมสามารถตัดสินได้ในทันที ว่าจุดที่ระเบิดลง แท้จริงแล้วมาจากตำแหน่งใด

เมืองของผีร้าย

ราชาผีได้วิ่งวุ่นสร้างมันมาได้ถึงครึ่งทางแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ก็เท่านั้นเอง

หลังจากนั้นสักพัก

ภาพบนจอม่านแสงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เมืองผีร้ายที่พึ่งสร้าง…ได้หายไปโดยสมบูรณ์ เบื้องบนหลงเหลือเพียงฉากของเส้นขอบฟ้าทอดยาวไกลออกไป

ขณะที่เบื้องล่างเหลือทิ้งไว้เพียงพื้นดินที่รกร้างว่างเปล่า

ราชาผีจ้องมองภาพนี้ ยืนนิ่งค้างไปทั้งๆอย่างนั้น

เมืองผี…เป็นที่มั่นหลักที่สร้างขึ้นเพื่อวางรากฐาน และที่ฟักของตัวอ่อน…มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก

แต่เวลานี้ ทั้งหมดได้หายไปแล้ว

ราชาผีร้ายกำหมัดของตนแน่น

“สงบใจไว้ มิฉะนั้นเจ้าจะหลงกลมัน” เทพสวรรค์ส่งเสียงเตือนออกมา

เขายืนอยู่ด้านข้างของราชาผี สีหน้าแลดูหนักอึ้ง

ภายในวันเดียว กลับสามารถปลดปล่อยการโจมตีขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีขนาดใหญ่ดังกล่าว ยังมาในลักษณะการทำลายสมดุลของโลกอีกด้วย

นี่คือความสามารถของตัวตลกอย่างนั้นหรือ?

บัดซบนัก! สมองของพวกเผ่ามนุษย์มันมีปัญหาหรือไร เหตุใดจึงได้สร้างนักฆ่าที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตของพวกเขาขึ้นมาเช่นนี้?

แต่ตอนนี้ นึกไปก็คงจะหัวเสียเปล่าๆ

สถานการณ์ที่รุนแรงในปัจจุบัน เราจะต้องเร่งคิดว่าวิธีที่จะจัดการกับมันโดยเร็วที่สุด

เทพสวรรค์เอ่ยถามอย่างสงบ “เพชฌฆาตตัวตลก แท้จริงแล้วเจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่?”

“โย่ว! นั่นเป็นคำถามที่ดีนี่นา”

ตัวตลกโยนกระปุกไอศกรีมที่พึ่งหยิบขึ้นมาทิ้งไป และเช็ดร่องรอยเลอะเทอะบนหน้ากากเหล็กของเขา

“กระผมต้องการที่จะเล่นเกม”

ตามด้วยเสียงของตัวตลก ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์บนจอม่านแสงก็เริ่มร้อนแรงขึ้น

ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น

ช่วงเวลาแห่งการประลอง

ช่วงเวลารอบชิงแชมป์

สิบแปดฉากประลอง

ยี่สิบเอ็ดกฎการเข้าร่วม

รวมไปถึงการเลือกชุดแต่งกายสำหรับการประลอง

และจดหมายเชิญผ่านอิเล็กทรอนิกส์

สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นบนจอม่านแสงทีละหัวข้อ

“ขอแค่เพียงทำให้กระผมพ่ายแพ้ พวกคุณ คุณ คุณและคุณ ก็จะสามารถได้รับโลกใบนี้ไปได้เลย”

“และกระผมจะเป็นบอสตัวสุดท้ายของเกมๆนี้ หากคุณต้องการจะสู้กับกระผม คุณจะต้องเอาคว้าแชมป์ใน เกมราชันสงครามมาให้จงได้!”

“มิฉะนั้นแล้ว กระผมนี่แหละ ที่จะเป็นคนทำลายโลกใบนี้เอง!”

“ฮ่าๆๆๆ ฟังดูน่าสนุกจริงๆ เลยนะว่าไหม?”

แล้วตัวตลกก็หายไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ

ตลอดทั้งโลกจมลงสู่ความเงียบงันอย่างยาวนาน

เทพสวรรค์จ้องมองกฎข้อสุดท้าย

“คุณจะต้องเอาชนะคู่แข่งทั้งหมด เพื่อที่จะได้รับโลกใบนี้”

เขาบีบกำปั้นตน ปากเอ่ยพึมพำ “โลกใบนี้...”

มนุษย์โลก ไม่มีอำนาจมากพอที่จะเอาชนะผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพได้

ที่ต้องกังวลมีอีกกลุ่มเดียว นั่นก็คือฝ่ายตรงข้ามที่เป็น เหล่าผีร้าย อาชูร่า และพวกจ้าวอสูร

พวกมันก็ต้องการที่จะครอบครองโลกใบนี้เช่นกัน

ความคิดของเทพสวรรค์ค่อยๆ กลายเป็นกระจ่างชัดยิ่งขึ้น

ก็แล้วทำไมไม่ใช้โอกาสนี้…ถอนรากถอนโคนภัยคุกคามทั้งหมดออกไปในคราวเดียวเลยเล่า?’

‘แล้วจากนั้นค่อยโค่นเจ้าตัวตลก และรับโลกใบนี้มาไว้ในครอบครอง’

แน่นอน ว่าเขาไม่ได้เอ่ยคำเหล่านี้ออกมา เพราะราชาผีเพลิงน้ำแข็งก็กำลังยืนอยู่ข้างๆเขา

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากต้องการจะครอบครองโลก ก็คงจำเป็นต้องทำตามกฎของตัวตลกไปก่อนชั่วคราว” ราชาผีถอนหายใจ แต่ขณะเดียวกันในสมองก็นึกคิด

‘ในความเป็นจริง นี่นับว่าเป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน เพราะจะได้ถือเป็นการเก็บเกี่ยวข้อมูลของโลกใบนี้ซะเลยในคราวเดียว’

‘หากเราสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เก็บโลกเข้ากระเป๋า อย่างไรก็นับว่าคุ้มค่า’

‘สำหรับเพชฌฆาตตัวตลก ตามข้อมูลที่ได้รับมา มันดูเหมือนว่าจะมีตัวตนอยู่เสมอ แต่มันไม่เคยคิดทำลายโลกเลย’

ดูเหมือนว่าตราบใดที่ยังทำตามกฎของมัน โลกก็จะยังคงปลอดภัย ไม่ถูกทำลายลง

นั่นคือหนทางเดียว ไม่มีทางเลือกอื่นอีก

ราชาผีเพลิงน้ำแข็งคิดอ่านเช่นนี้อย่างเงียบๆในจิตใจของตน

แล้วมันก็นำผีร้ายทั้งหมดจากไป โดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย

เทพสวรรค์ก็มิได้ให้ความสนใจใดๆ กับการเคลื่อนไหวของพวกผีร้าย

เขาเพียงเริ่มขบคิดอย่างหนัก

คิดเกี่ยวกับการต่อสู้และเลือกเฟ้นตัวแทนของผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ

การประลองกำหนดว่าในกลุ่มหนึ่งจะมีทั้งหมดเจ็ดคน และทั้งสองกลุ่มจะเผชิญหน้ากันและกัน ผู้ชนะจะได้รับคุณสมบัติในการประลองรอบต่อไป

การจัดวางผู้เล่นอย่างเหมาะสม จะยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น! แถมยังเป็นการลดแรงที่จักสิ้นเปลืองในการยึดครองโลกลงไปกว่าครึ่งอีกด้วย

สำหรับผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ จะให้เลือกคนใดมารับบทบาทหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ เป็นเรื่องที่เทพสวรรค์จะต้องขบคิดตัดสินใจ

ส่วนการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเพชฌฆาตตัวตลก ตราบใดที่ตัวตลกไม่หนีไป เทพสวรรค์สาบานว่าจะฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ ด้วยน้ำมือของตัวเขาเอง

นับจากช่วงเวลานี้ ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพกับเหล่าผีร้าย ก็ได้เริ่มเตรียมการสำหรับศึกประลองชิงชัยแล้ว!

ข่าวแพร่กระจายราวกับไฟลามทุ่ง

พวกอาชูร่าและจ้าวอสูรที่ซุ่มซ่อนอยู่ในความมืดมิดเริ่มตื่นตัวอย่างมิอาจควบคุมได้

พวกมันก็เริ่มที่จะสร้างทีมของตนเองเช่นกัน

เกมการต่อสู้ของเพชฌฆาตตัวตลก เพียงชั่วเวลาหนึ่ง ก็ได้รับการยอมรับจากกลุ่มกองกำลังต่างโลกทั้งหลายอย่างรวดเร็ว

ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้รับทุกสิ่งอย่าง!

กฎแห่งผืนป่า ที่ได้รับการยอมรับตลอดทั่วทุกโลกหล้า ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้ครอบครองทุกสิ่ง!

ในขณะเดียวกัน นี่ยังเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงสงครามขนาดใหญ่อีกด้วย ต้องไม่ลืมนะว่า หากเกิดสงครามแย่งชิงโลก ไม่ว่าฝ่ายใดก็ล้วนต้องสูญเสียกำลังพลของตน ดังนั้นการส่งตัวแทนเข้าร่วมประลอง อย่างน้อยก็จะช่วยให้คนของโลกตนเองไม่ต้องรับความทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียไป

เพราะมันเป็นไปไม่ได้ หากคิดจะมากลับคำเสียใจในภายหลัง

เมื่อตัวตลกไม่พอใจ มันก็แค่ปล่อยการโจมตีสุ่มๆ ออกมา ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าโลกจะล่มสลาย

นอกจากนี้ ผู้เล่นเกมที่แข็งแกร่งที่สุดในการประลอง ย่อมจะไม่มีทางอนุญาตให้อีกฝ่ายก้าวเดินลงไป จากเวทีอย่างมีชีวิตอย่างแน่นอน

ทุกคนคงคิดจะป้องกันไม่ให้ศัตรูพยายามจะลุกฮือขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง

นี่คงจะเป็นการต่อสู้อันเดือดพล่าน

เป็นการต่อสู้ของทั้งหกโลก เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง!

…………………………………..........