webnovel

[ปิดฉากสงคราม] - 1

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มกรีธาทัพเข้าหากัน ปะทะต่อสู้กันอย่างอลหม่าน ผมจึงรีบนั่งลงและควานหาไฮโพชั่นในคลังเก็บของมาดื่มอีกหนึ่งขวด เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วที่สุด

ขาผมตอนนี้สั่นดิ๊กๆ ไม่ยอมหยุด ร่างกายของผมกระสันอยากออกไปสู้มาก ผมไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากแค่ไหน รู้เพียงแค่ไม่อยากอยู่เฉยๆ แน่นอน

"ไอ้หนู ไม่ต้องร้อนใจไป" ไนท์ฮอว์กที่นั่งข้างผมพูดขึ้นมา ผมเห็นเขากำลังสูบไปป์อยู่ ผมจึงคว้าแย่งมาสูบทันที

ซู๊~~~ด…. แค่ก! แค่ก! แค่ก! ค่อก! ค่อก!

"โอ๊ย สำลักเกือบตาย นี่มันยาเส้นธรรมดานี่ครับ แสบคอเป็นบ้าเลย ลุงมีไอเท็มหกดาวแบบเมื่อกี้อีกรึเปล่า?"

"จะบ้าเรอะวะ! นั่นไอเท็มหกดาวเชียวนะเว้ย ใบหญ้าหอมสวรรค์น่ะเป็นประเภทใช้ครั้งเดียว หาโคตรยากเลยละขอบอก" ไนท์ฮอว์กตอบและคว้าไปป์กลับไปสูบต่อ

"แล้วมีอะไรที่เพิ่มพลังอีกบ้างไหม ผมอยากออกไปสู้ แต่ก็กลัวจะเป็นตัวถ่วง"

"ถ่วงแน่นอน ภาระชัดๆ แกน่ะ"

"...."

"อ้าว คิ้วขมวดเชียว แซวนิดหน่อยทำเป็นเครียด เคี๊ยก! เคี๊ยก!"

ผมยังจ้องหน้าไนท์ฮอว์กอยู่ จนเขาเอียงตัวมาพูดเบาๆ ว่า "อย่าลืมว่าในตัวแกมีอะไรอยู่ ถ้าเข้าไปชุลมุนกับเขาแล้วเกิดพลาดท่าขึ้นมา ซึ่งแกต้องพลาดแน่ รับรองว่าหากเกิดกรณีนั้นละก็ ถึงเป็นข้าก็คงขำไม่ออกแน่นอน เข้าใจยัง?"

"...ครับ เข้าใจครับ" ผมตอบกลับเสียงหงอย

"แหม~! ซึมเป็นส้วมเชียว ฟังนะ คนเราไม่มีใครเก่งแต่เกิดหรอกเว้ย ไม่ต้องทำเป็นเก่งตอนนี้ สักวันแกจะเก่งมากกว่านี้แน่นอน แกจะได้ปกป้องผู้คนอีกเยอะ แกจะได้มีโอกาสทำเท่ต่อหน้าสาว ได้เป็นฮีโร่ แต่วันนี้แกเพิ่งเลเวลเท่านี้ เกินคำว่ากากมานิดหนึ่ง ฉะนั้น จงยอมรับความอ่อนแอของตนเองซะ นั่นถึงจะเป็นก้าวแรกของสู่เส้นทางยอดฝีมือ"

"....ครับ"

….

พวกเราเฝ้ามองสงครามอันแสนชุลมุนวุ่นวายตรงหน้าห่างออกไปประมาณไม่เกิน 100 เมตร ผมรู้สึกหวาดหวั่นในใจเล็กน้อย เมื่อคิดว่าถ้าไม่ได้เอฟเฟ็กต์ [ผ่อนคลาย] ละก็ ผมคงเลิ่กลั่กลนลานจนพลาดให้โดนฆ่าตายง่ายๆ ชัวร์ ตอนนี้เมื่อมีโอกาส ผมจึงพยายามเรียนรู้วิธีการต่อสู้ของวิสเปอร์ ในความมืดแน่นอนว่าเธอนั้นไร้เทียมทาน แต่ในลานต่อสู้แบบนี้เธอก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ถึงแม้เธอจะตัวเล็ก แต่นั้นไม่ใช่จุดอ่อนเลย กลับกันวิสเปอร์ทำให้มันกลายเป็นจุดแข็งได้อย่างน่าทึ่ง หลบหลีกรวดเร็ว เข้าโจมตีจากมุมอับสายตาศัตรูอย่างฉับไว การเคลื่อนไหวไม่มีสูญเปล่าแม้แต่น้อย

"ผมคิดว่าวิสเปอร์ได้เปรียบกว่านิดๆ นะ ลุงคิดว่าไง?"

"ข้าก็คิดอย่างนั้น เป็นแบบนี้อีกไม่เกิน 20 นาที เราชนะแน่นอน..." ฟังไนท์ฮอว์กพูดแล้วปากผมยิ้มขึ้นทันที แต่ก็ต้องหุบลงเมื่อไนท์ฮอว์กพูดต่อว่า

"แต่เรื่องมันน่าจะยังไม่จบ รอธฟิลด์มันไม่หมดมุกแค่นี้หรอก และข้าจะไม่ยอมให้มันเป็นคนตัดไพ่ใบสุดท้าย ข้าจะเตรียมทำอะไรนิดหน่อย เอาล่ะ! แจ็ก แกรีบไปแบกเจลค์มาตรงนี้ แล้วคอยคุ้มกันพวกเราเอาไว้"

"ค...ครับ ได้ครับ!"

ไนท์ฮอว์กพูดจบก็คุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่งพร้อมกับเอาฝ่ามือขวาของเขากางสัมผัสพื้น จากนั้นก็มีอักขระวงเวทสีดำโผล่ออกมาบนพื้นและขยายเป็นวงกลมประมาณ 3 เมตร ในระหว่างที่ไนท์ฮอว์กกำลังเตรียมใช้สกิลอะไรสักอย่าง ผมจึงรีบวิ่งไปหาเจลค์ที่นอนสลบอยู่ใน

พงหญ้าด้านหลังไม่ไกล

เมื่อไปถึง ผมอุ้มเจลค์ขึ้นหลังทันที แต่สายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนหลบอยู่ในพงหญ้าเช่นกัน เป็นผู้หญิงผมสีแดงกุหลาบ เธอเงยหน้าขึ้นมามองผม ดวงตาของเธอสีเขียวอ่อนกลมโตสดใส

"พี่อาริเอล?"

พนักงานต้อนรับของกิลด์ไฮเอนด์นั่งคุดคู้อยู่ด้วยความกลัว "นะ...น้องที่เป็นโจรนี่นา ฮือ~! ฮือ~! อย่าทำอะไรพี่เลยนะ พี่ยังไม่อยากตาย"

"ผมจะไปทำอะไรพี่ล่ะครับ พวกเราไม่ใช่คนป่าเถื่อนขนาดนั้น แล้วนี่ทำไมพี่ไม่ไปหลบในกิลด์ มาหลบในนี้ทำไมอ่ะ?"

"มาสเตอร์รอธฟิลด์น่ะสิ สั่งให้ทุกคนออกมาทั้งหมดเลย และ

สั่งปิดล็อคกิลด์ไว้ทุกประตู ห้ามใครเข้าไปอีกถ้าไม่ได้รับอนุญาต"

อาริเอลอธิบาย

"พี่..! ผมถามพี่ตรงๆ พี่จะลาออกจากกิลด์ไฮเอนด์รึเปล่า?"

"ฮืออือ… พี่แค่ทำงานวันนี้วันเดียว พี่ก็รู้แล้วละว่าที่นี่ไม่ใช่กิลด์ที่ดีเท่าไรนัก แต่งานมันหายาก จะไปเป็นนักผจญภัย พี่ก็กลัวไม่กล้าสู้กับมอนสเตอร์ แถมพี่ใช้เวทเป็นแค่บทเดียวเอง หาปาร์ตี้ยาก อือ~! พอตัดสินใจมาทำงานออฟฟิสก็เจอแบบนี้อีก พี่ก็ไม่รู้จะทำไง...ฮืออือ" เธอบ่นระบายความเศร้าเคล้าน้ำตาออกมารัวๆ ผมตัดสินใจตะคอกใส่เพื่อให้เธอได้ตั้งสติ

"พี่อาริเอล! พี่ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้ ผมไม่มีเวลานะครับ ถ้าพี่บอกว่าจะลาออกจากที่นี่ละก็ ผมสัญญาจะปกป้องพี่เอง แต่ถ้าไม่…! พี่ก็หาทางหลบดาเมจเอาเองละกัน ถ้าจบเรื่องแล้วพวกผมแพ้ พี่จะทำงานที่กิลด์เส็งเคร็งแบบนี้ต่อ นั่นก็เรื่องของพี่แล้ว!"

"...."

"ฮึ่ก...." เธอเอามือลูบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตาออก ตบแก้มตัวเองเบาๆ ทีหนึ่งและพูดว่า "โอเค ตัดสินใจแล้ว พี่จะลาออก!"

"อื้อ ดีมากๆ ถ้างั้นละก็มากับผมเลย ผมจะดูแลพี่เอง" ผมยื่นมือให้หาพี่อาริเอลที่นั่งอยู่ เธอจับมือผม ผมช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้น แต่ดูเหมือนผมจะดึงแรงไปหน่อย เธอพุ่งพรวดขึ้นมาซบที่อกผมซะงั้น…

'อ๊ะ นุ่มจัง... เห้ย! ไม่ใช่สิ'

ผมรีบดึงตัวเธอออกห่างและกวักมือเธอให้วิ่งตามผมมา เหตุการณ์เมื่อสักครู่สาบานให้ฟ้าผ่าตายเลยว่า ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ ผมจึงเหลือบไปมองน้ำที่ยืนอยู่ภายนอกโดม สงสัยผมอาจหลอนไปเอง เพราะน้ำไม่ได้หึงอะไร แต่ส่งสายตาเป็นห่วงมามากกว่า นั่นยิ่งทำให้ผมอยากรอดตายมากขึ้นไปอีก

ใครที่อยู่ใกล้ โจมตีไปที่เจ้าไนท์ฮอว์กเดี๋ยวนี้!"

นักรบสองคนกับจอมเวทอีกหนึ่งคน วิ่งเข้ามาหมายจะโจมตีไนท์ฮอว์ก ส่วนผมยังวิ่งไม่ถึงเขา

"งานเข้า! แบบนี้ไม่ทันแน่นอน บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันรู้ตัวไวจังฟะ!"

"น้องแจ็ก รับนี่ไปค่ะ เปิดใช้งานสกิล [เฮสต์!]" (Haste) เสียงร่ายเวทของพี่อาริเอลดังขึ้นพร้อมกับแสงสีชมพูที่ส่องวูบเข้าตัวผม จากนั้นผมรู้สึกว่าร่างกายคึกคักขึ้นมาทันตา

ติ๊ง!

คุณได้รับบัพเอฟเฟ็กต์จากสกิล [เฮสต์]

ค่าสถานะ 'สปีดอัพ!' ถูกเปิดใช้งานค่ะ

ผลลัพธ์ - ความว่องไว ความคล่องแคล่ว ค่าความเร็วทุกชนิด ปฏิกิริยาตอบสนอง เพิ่มขึ้น 300% เป็นเวลา 120 วินาที

"นี่มันอะรั้ย! ทำไมรู้สึกถึงสปีด ร่างกายอารมณ์เร็วไปหมด ขนาดเวลาพูดลิ้นยังระระรัววววไม่หยุด หยุดๆๆ หยุดไม่ได้เลย--!"

"นั่นคือสกิลเพิ่มความเร็วของพี่เอง รีบไปช่วยคุณลุงคนนั้นก่อนเถอะค่ะ เร็วเข้า!"

"โอ้ๆๆ! แบบนี้ก็สนุกน่ะเซ่!" ผมกระชับเคียวในมือแน่น ออกตัววิ่งไปด้วยสปีดที่เร็วยิ่งกว่านรก เปิดก่อนได้เปรียบ ผมเงื้อสองแขนไป

ข้างหลังใส่พลังปาเคียวออกไปเต็มแรง

"[เคียวบูมเมอแรง!]"

ฟิ้--ว! คว้า---ง!

ฉัวะ!

นักรบคนแรกถูกเคียวเฉือนเข้าที่ไหล่เต็มๆ ส่วนอีกคนเบี่ยงตัวหลบทัน เคียวพุ่งต่อไปจนถึงจอมเวทสาว ซึ่งเธอก็ก้มหลบทันเช่นกัน นักรบคนที่หลบได้ตะโกนบอกว่า

"ระวัง! เคียวมันจะวกกลับมาอีกครั้ง!"

เคียวหมุนวกกลับมา จอมเวทสาวได้ยินคำเตือน แต่ดูเหมือนเธอจะว่องไวไม่พอ จึงโดนเคียวเล่มหนึ่งเฉือนเข้าที่ขา เธอทรุดตัวลงทันที และเมื่อเคียวที่เปล่งออร่าสีแดงคมกริบกำลังหมุนคว้างกลับมา นักรบทั้งสองหันไปซัดสกิลใส่เคียวจันทร์เสี้ยวของผมเพื่อจะสกัดมันให้ได้

"[เพลงดาบไร้ปราณี!]"

"[หมัดลมปราณอัดกระแทก!]"

ฟุ่บ! วืด!

ก่อนที่จะเกิดการปะทะกัน ผมเปิดใช้งานคำสั่งลัดในใจเรียกอาวุธกลับเข้าคลังในพริบตา ทำให้พวกเขาโจมตีวืด จากนั้นก็เรียกเคียวออกมาถือในมืออีกครั้ง และตอนนี้ผมวิ่งถึงตัวทั้งคู่พอดี

"[แทงข้างหลัง!] X 4"

ผมอัดสกิลสี่ครั้งซ้อนเล่นเอามานาหมดไม่มีเหลือ นักรบทั้งคู่ล้มตึงลงกับพื้นในทันใด

จากนั้นผมออกตัวกระโดดเข้าหาจอมเวทสาวอีกคนหนึ่ง เพื่อจัดการให้เสร็จ แต่เธอตั้งตัวได้ทัน เงยหน้าขึ้นมาโจมตีใส่ผม

"[คาไมทาจิ!]"

"โอ๊ย!" ผมถูกเวทใบมีดสายลมโจมตีเข้าอย่างจัง โดนไปหลายแผล กระเด็นย้อนกลับมาทางเก่า จอมเวทสาวลุกขึ้นเดินกระเผลกตามมาร่ายเวทซ้ำใส่ผม แต่จู่ๆ ร่างแยกของวิสเปอร์กระโดดมาขี่คอเธอเอาไว้ และใช้มีดกระซวกคอหอยทันที เธอร่วงตุบลงกับพื้นแบบไร้ชีวิต จากนั้นวิสเปอร์กระโดดหายแวบไปอย่างรวดเร็ว

…..สงครามยังคงดำเนินต่อไป กองทัพสีดำของวิสเปอร์เริ่มถาโถมบุกอย่างรุนแรง และตอนนี้เหมือนรอธฟิลด์จะรู้ตัวแล้วว่าอีกไม่นาน กองทัพสีทองของเขาจะต้องพ่ายแพ้

"ฮึ่ม! ข้าไม่ยอมแพ้แน่ ไม่ยอม! ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม..."

"กิลด์มาสเตอร์คอมมานด์ เปิดใช้งาน [คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด:088]!!"

"คำสั่งนี้จำเป็นต้องใช้งบประมาณกิลด์ 20%, หินแร่มิธริล 10 kg, เลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ 1 ขวด, และน้ำตานกฟินิกซ์ 10 mml ในการเปิดใช้งาน ขอคำสั่งยืนยันด้วยค่ะ"

"เออ--! ข้าขอยืนยัน ปัดโธ่เว้ย! หมดกันสมบัติหายากของข้า"

วู้ม-------ม!!

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด:088 [ผู้ไม่มีวันดับสูญ] เปิดใช้งานแล้วค่ะ!"

"ว้าเว้ย! มันจะบัพอะไรกันนักกันหนา คราวนี้อะไรอีกล่ะ?!" ผมอุทานอย่างเหลืออด

รอธฟิลด์ที่ลอยอยู่หันมามองพวกเรา เหมือนจะได้ยินที่ผมถาม หรือไม่ก็คงอยากอวดเบ่ง อยากคุยโวเกทับไนท์ฮอว์กอะไรประมาณนี้แหงๆ

"ข้าบอกแล้วว่ากิลด์ไฮเอนด์จะไม่มีวันแพ้! บัพนี้จะทำให้พลังชีวิตของสมาชิกกิลด์ไม่มีวันเป็นศูนย์ พวกข้าจะอยู่ในสถานะ [อมตะ] เป็นเวลา 10 นาที!"

"บ้าไปแล้ว! นี่มันเหมือนกินยาอมตะที่วินได้จากอีเวนท์โปรโมทเลยนี่หว่า แย่แล้วแบบนี้"

"อุวะฮ่าฮ่าฮ่า ลุยเข้าไปเลย เหล่าสมาชิกกิลด์ไฮเอนด์อันทรงเกียรติของข้า ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว!"

"โอ้ววววว!!" "ย่า----ห์!!" "ฆ่ามานนนนน!!"

สงครามที่เมื่อฝ่ายหนึ่งดันฆ่าไม่ตายขึ้นมา ทำให้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป วิสเปอร์ทุกร่างพยายามสู้สุดความสามารถแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงลดพลังชีวิตของศัตรูให้เหลือน้อยที่สุด กองทัพสีทองได้กลืนกินกองทัพสีดำเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างแยกของวิสเปอร์เริ่มถูกสังหารระเบิดเป็นควันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องใช้คำพูดเดียวกับที่ไนท์ฮอว์กพูดเมื่อสักครู่เลยว่า 'อีกไม่ถึง 20 นาที พวกเราแพ้แน่'

"ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่า! ไงล่ะเว้ยไนท์ฮอว์ก รอยยิ้มอันแสนทุเรศทุรังของแกนั้น ข้าจะลบมันออกไปจากใบหน้าให้เอง จงเคียดแค้นเข้าสิ จงทรมาน จงเจ็บใจในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ซะ นี่คือวันที่แกจะต้องหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ฮ่าฮ่าฮ่า--!!"

เมื่อรอธฟิลด์หัวเราะเหยียดหยามไนท์ฮอว์กเสร็จ กลับเป็นเขาซะเองที่ดูงุนงง ผมจึงหันไปและเห็นชายผู้บ้าคลั่งยังคงยิ้มอยู่อย่างไม่ทุกข์ร้อน ไม่สะทกสะท้าน ในแววตาของเขาไม่มีความเกรงกลัวกับสถานการณ์ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

"นี่แกบ้าไปแล้วสินะ? สรุปข้าสู้กับคนบ้าเหรอวะ เอาเถอะ งั้นแกก็จงตายไปพร้อมกับรอยยิ้มบ้าบอนั่นเลยก็แล้วกัน ทุกคน! ฆ่าพวกมันให้หมด!"

ไนท์ฮอว์กลุกขึ้นยืน ผมไม่ทันสังเกต แต่วงเวทสีดำที่พื้นหายไปแล้ว

"รอธฟิลด์ แกรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยังยิ้มอยู่ได้… นั่นก็เพราะว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามแผนของข้ายังไงล่ะว้อย!"

"....."

ไนท์ฮอว์กขบฟันแน่น กำสองหมัดออกมาด้านหน้า ตั้งท่าเบ่งพลัง เขาเกร็งร่างซะจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

"ฮ่าห์.. ฮ่าห์…! ฮ่าห์~!"

ตอนแรกคิดว่าตาฝาดไป เพราะผมเห็นรอยสักรูปเสือ สัญลักษณ์ของสมาคมโจรเร้นเงากระตุกเบาๆ ตาของเสือบนหลังไนท์ฮอว์กเปล่งประกายสีแดงแวบออกมา จากนั้นมันก็เริ่มขยับไปมาบนหลังของเขา

ไนท์ฮอว์กกางสองมือชูขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนคำรามก้อง

"เปิดใช้งานสกิล [พยัคฆ์สายฟ้าจุติ!!]"

วู้มมมม!! ซูม------!!

รอยสักพุ่งวาบเป็นลำแสงสีดำทมิฬขึ้นสู่เบื้องบน มันพุ่งด้วยความเร็วทะลุผ่านโดมสายฟ้าเป็นรูออกไป ทุกคนที่กำลังต่อสู้อยู่หยุดและเงยหน้ามองดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น สายฟ้าทมิฬหายขึ้นฟ้าไปประมาณ 2 วินาที จากนั้นก็มีสายฟ้าสีขาวอมน้ำเงินขนาดใหญ่ฟาดกลับลงมาแทน

เปรี้ยง!! ตูม!!

ตรงจุดที่สายฟ้าฟาดลงมา พื้นดินแตกกระจายเป็นวงกว้าง ท่ามกลางฝุ่นควันนั้นมีใครบางคนนั่งก้มหน้าคุกเข่าข้างเดียวอยู่ เขายืนขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ฝุ่นควันที่เริ่มจางลงเผยให้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่คือผู้ชายผอมสูงคนหนึ่ง ผมหงอกขาวทรงสั้นฟูยุ่งทั้งหัว จอนยาวเกือบถึงคาง เขาสวมชุดสูทสีดำทั้งตัว เสื้อเชิ๊ตด้านในเป็นสีดำเช่นกันสไตล์แบล็กอินแบล็ก ตรงส่วนเอวของเขามีดาบซามูไรเหน็บเอาไว้สองเล่ม เล่มหนึ่งมีขนาดปกติ ส่วนอีกเล่มมีขนาดยาวเป็นสองเท่าเห็นจะได้ แต่สิ่งที่สะดุดตาทุกคนมากที่สุด เห็นจะเป็นทั่วทั้งร่างของชายคนนี้มีออร่าสายฟ้า

สีขาวอมน้ำเงินครอบคลุมอยู่ ลั่นเปรี๊ยะๆ ตลอดเวลา เสมือนเขาคือ

'กึ่งมนุษย์กึ่งสายฟ้า'

"ทะ.. ท่านคือ… มาสเตอร์ลู?! ...เป็นไปไม่ได้ อะไรกัน… ทำไม…?" รอธฟิลด์เริ่มเสียงสั่นและอยู่ในสภาพงุนงงสุดขีด เมื่อได้เห็นมาสเตอร์ลู หัวหน้ากิลด์ของสมาคมโจรเร้นเงาปรากฏตัวต่อหน้าต่อตา

มาสเตอร์ลูส่งสายตาแข็งกร้าวกลับมา เขาขยับปากเล็กน้อยเปล่งคำพูดออกมาคล้ายเสียงกระซิบ แต่ที่น่าตกใจคือ เสียงนั้นใหญ่หนักแน่นและดังมากพอที่ทุกคนในโดมสายฟ้าจะได้ยิน

"ข้ามาเพื่อ ปิดฉากสงคราม ครั้งนี้"

"ฮ่ะ!" รอธฟิลด์เหมือนตั้งใจทำเสียงหลุดขำออก "ขออภัยครับท่าน แต่ไม่คิดว่าท่านจะชอบขี้โม้ พูดจาโอ้อวดไร้สาระเหมือนกับลูกน้องท่านเลยนะครับ ถึงท่านจะเป็นหนึ่งในนักผจญภัยระดับตำนานของอาณาจักรก็เถอะ แต่นี่ฝั่งข้ามีลูกน้องอยู่อีกนับร้อย มีทั้งบัพทองคำ แล้วยังบัพอมตะ..."

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด:088 [ผู้ไม่มีวันดับสูญ] หมดเวลาแล้วค่ะ!"

"...."

มาสเตอร์ลูยิ้มบางออกมาแวบหนึ่ง ก่อนที่จะชักดาบทั้งสองเล่มออกมาพร้อมกันอย่างเชื่องช้า วาดดาบสองเล่มเสียดสีกันหนึ่งครั้งอย่างรวดเร็ว ชิ้ง! ออร่าสายฟ้าระเบิดออกเสียงดังเปรี้ยง คลื่นพลังรอบกายเขาปรากฏเป็นรูปร่างหัวพยัคฆ์สายฟ้าขนาดใหญ่อยู่ด้านบน

ครืน~! ครืน~! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

บรรยากาศในโดมสายฟ้าตึงเครียดกดดันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีใครกล้าขยับแม้แต่ก้าวเดียว ทุกคนทำได้เพียงเฝ้าดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป...

"โทระ ไรเนะ..."

"เคล็ดเพลงดาบสายฟ้า เทพยุทธ์ที่ 5"

"[พยัคฆ์สายฟ้าคำรณ!]"

หัวพยัคฆ์เปล่งเสียงคำรามออกมาดังมาก ดังราวกับเป็นเสียงฟ้าผ่าผสมกับเสียงของอสูรร้าย

"โฮก-----------!!! เปรี้ยงงงงงง!!!"

"อ๊ากกกก!!" "อ๊าาาาาา!!"

ทุกคนเอามือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างโดยสัญชาตญาณ มันเป็นเสียงที่ดังขนาดสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน สะท้านไปทั้งท้องฟ้า อากาศภายในโดมสั่นไหวอย่างรุนแรง จนถึงขั้นที่กับดักโดมสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เริ่มแตกร้าวและพังทลายในที่สุด

เพล้ง!! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ........... ติ๊ง!

สมาชิกกิลด์ไฮเอนด์ในสนามรบทุกคนที่อยู่ภายในโดมสายฟ้ามีวินโดวส์เด้งขึ้นมาแจ้งเตือนกันอย่างถ้วนหน้า ทุกคนรวมทั้งรอธฟิลด์ที่ลอยอยู่ และพี่อาริเอลที่ยืนข้างผม ผมขยับไปหาเธอที่กำลังยืนมึนกระพริบตาปริบๆ อยู่ และอ่านหน้าต่างแจ้งเตือนของเธอ

คุณอยู่ในระยะของเอฟเฟ็กต์สกิล [พยัคฆ์สายฟ้าคำรน]

หากมีพลังชีวิตต่ำกว่า 30% คุณจะถูก "สตั๊นท์" เป็นเวลา 15 วินาที

ผมอ้าปากค้างเมื่อได้อ่านสกิลและหันไปมองเหล่าศัตรูนับร้อยที่ถูกสตันท์ ยืนแข็งทื่ออยู่ในขณะนี้ และแน่นอนว่าความเหลือเชื่อยังไม่จบแค่นี้แน่ เพราะผมไม่คิดว่ามาสเตอร์ลูจะสตันท์ศัตรูเอาไว้เฉยๆ สังเกตจากมุมปากของไนท์ฮอว์กที่ยิ้มกว้างจนจะถึงรูหู และสีหน้าของรอธฟิลด์ที่ขาวซีดลงอย่างกะทันหัน ทำให้ผมรู้ว่าสงครามครั้งนี้กำลังจะปิดฉากลงในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา

มาสเตอร์ลูเก็บดาบทั้งสองเล่มเข้าฝัก โน้มตัวไปข้างหน้า มือซ้ายกำปลอกดาบส่วนที่ติดกับกระบังมือเอาไว้แน่น นิ้วโป้งดันโก่งดาบไว้เล็กน้อย มือขวาประคองที่ด้ามจับ มาสเตอร์ลูตั้งท่า 'อิไอ' ได้อ่อนช้อยแต่หนักแน่น ออร่าสายฟ้าระเบิดออกมาอย่างเกรี้ยวกราดอีกครั้ง ทิ่มแทงไร้ทิศทางและหมุนวนรอบกายของเขาอย่างรุนแรง จนในที่สุดพลังสายฟ้าที่ส่งเสียงดังเปรี้ยงปร้างไม่ยอมหยุดนั้น ได้ถูกสูบเข้าสู่ดาบเล่มที่เขากำลังจะชักออกมา

เกิดความเงียบสงัดขึ้นชั่วครู่…...

เงียบขนาดที่นกยังหยุดร้อง สายลมยังหยุดพัด ผู้คนต่างลืมวิธีหายใจ จากนั้นมาสเตอร์ลูก็เอ่ยเสียงหนักแน่นเหี้ยมเกรียมออกมาเพื่อทำลายความเงียบ

"ซันดะโบรูโตะ ซัทซึจิน..."

"เคล็ดเพลงดาบสายฟ้า เทพยุทธ์ที่ 7"

"[ทัณฑ์อัสนีบาตสังหาร!!]"

แว่บ!

ฉัวะ! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ฉัวะ! ฉัวะ! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยงงงงง! เปรี้ย---ง!!!

มาสเตอร์ลูหายวับไปฟาดฟันเหล่าศัตรูที่ติดสตันท์อยู่ทั้งหมด ราวกับตัวเขาและดาบเล่มนั้นกลายเป็นพายุสายฟ้าโหมกระหน่ำเข้าสู่ร่างของนักผจญภัยนับร้อยคนอย่างพร้อมเพียงกัน ฟาดฟัน! ฟาดฟัน! ฟาดฟัน!

เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ย---ง!! เปรี้ยงงงงง!!!

ครืน... ครืน... ครื~น…

การโจมตีทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลาแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ในสนามรบแห่งนี้ไม่เหลือสมาชิกกิลด์ไฮเอนด์ที่ยืนอยู่อีกต่อไป สกิลท่าไม้ตายของหัวหน้าสมาคมโจรเร้นเงาช่างแสนงดงาม ร้ายกาจ และน่าพรันพรึงเป็นที่สุด วันนี้ผู้คนนับพันที่อยู่โดยรอบได้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของหนึ่งในตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่

ค่ำคืนแห่งสงครามที่ยาวนานมากสำหรับผมได้จบลงเช่นกัน พร้อมกับพระอาทิตย์ยามเช้าที่เริ่มโผล่ขึ้นมาทีละน้อยจากปลายขอบฟ้า ราวกับโลกใบนี้กำลังจะบอกว่า 'ได้เวลาเริ่มต้นใหม่แล้ว'

รอธฟิลด์ตัวสั่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา และเขากำลังจะหันหลังบินหนีไป แต่แน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้

ฟุ่บ!

"แกคิดจะหนีไปไหนงั้นเหรอ ไอ้ขี้ขลาด--!" ไนท์ฮอว์กกระโดดพุ่งตัวไปดักหน้ารอธฟิลด์อย่างรวดเร็ว และใช้หมัดชกเข้าที่หน้าเต็มเปา

ตูม!

รอธฟิลด์ปลิวตกลงที่พื้น แต่เขาก็รีบลุกทันที เขาตะเกียกตะกายวิ่งหนีอีกครั้ง แบบที่เรียกว่าหนีหัวซุกหัวซุนนั่นแหละ เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ไนท์ฮอว์กเรียกเชือกออกมาและเหวี่ยงไปรัดขาเอาไว้ เขาจึงสะดุดล้มหน้าทิ่มพื้นดังตึง เขาพยายามคลานหนีต่ออีก ไนท์ฮอว์กจึงออกแรงดึงสุดแรงลากรอธฟิลด์ไถกับพื้นกลับมา

ครืด~~ ครืด~~

รอธฟิลด์นอนอย่างหมดแรง เนื้อตัวมอมแมมด้วยเลือดและฝุ่น เสื้อผ้าหรูหราของเขาฉีกขาด หมดสภาพลอร์ดสูงศักดิ์ผู้หยิ่งทะนงโดยสิ้นเชิง และเมื่อเขาถูกลากมาจนสุดทาง ก็ถูกไนท์ฮอว์กเหยียบซ้ำที่หน้าอก ยันพื้นไว้ไม่ให้ลุกขึ้น

"อั่ก!... แฮ่ก แฮ่ก"

"แกแพ้แล้ว รอธฟิลด์ ข้าจะส่งตัวแกให้กับทางสำนักราชองครักษ์ พร้อมกับ..." ไนท์ฮอว์กดีดนิ้วดังเป๊าะมาทางผม ผมรีบส่งคริสตัลไดรฟ์ให้เขาทันที "...หลักฐานความชั่วของแกทั้งหมด แกจบเห่แน่ เคี๊ยก! เคี๊ยก!"

รอธฟิลด์เหม่อมองไปยังท้องฟ้าด้านบน ไม่ยอมสบตาไนท์ฮอว์ก และพูดว่า "ข้าประมาทแกไปจริงๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าโจรกระจอกอย่างแก จะวางแผนไว้ล้ำลึกขนาดนี้… แกวางแผนนี้มานานรึยัง?"

"นับตั้งแต่วันที่ข้ารู้ว่าแกเป็นคนฆ่าลอร์ดริชท์ อย่างที่แกเคยรู้ว่าข้าไม่ใช่คนที่ฉลาดนัก ข้าไม่ใช่คนเหลี่ยมจัดเหมือนแก ข้าจึงไม่เคยประมาทแกเลยแม้แต่น้อย ข้าคอยสืบ คอยตามดูแกอยู่ในเงามืดมาเป็นระยะเวลานาน บางครั้งข้าต้องทนดูแกย่ำยีคนอื่นต่อหน้าต่อตา แต่ข้าก็ต้องอดทนเอาไว้ให้ได้ จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในแผนการจะพร้อม"

"เชอะ! แกรู้ว่าข้ามี 'กิลด์คอมมานด์' อะไรบ้าง รู้หมดทุกอย่างเลยรึไง?!"

"ใช่ ข้าคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าสุดท้ายแกจะต้องใช้บัพ [ผู้ไม่มีวันดับสูญ] เป็น ไพ่ตายสุดท้าย เป้าหมายของข้าตั้งแต่ที่ต้องเปิดศึกกับทั้งกิลด์แบบนี้ จึงมีเพียงแค่สิ่งเดียว นั่นคือลดพลังชีวิตของทุกคนให้น้อยที่สุด และอัญเชิญมาสเตอร์ลูออกมาปิดฉาก"

"..."

"อัญเชิญกิลด์มาสเตอร์ออกมาได้ทุกเวลา [พยัคฆ์สายฟ้าจุติ] นั่นคือความลับของสมาคมพวกแกล่ะสินะ?"

"สกิลนี้ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวในหนึ่งเดือน และนี่ก็ไม่ใช่ตัวจริง เป็นเพียงร่างแยกเงาสมบูรณ์เท่านั้น"

"ฮึ! แสดงว่ามีเวลาจำกัดและไม่สามารถฟื้นฟูมานาได้งั้นใช่ไหม…?"

"บ๊ะ! ไอ้เวรนี่ แกจะถามอะไรมากมายนักหนา--!" ไนท์ฮอว์กเพิ่มแรงที่เหยียบอกของรอธฟิลด์ไปอีกขั้น

"อ่อก! ...อึ่ก!" รอธฟิลด์ถึงกับกระอักเลือดเล็กน้อย หลังจากนั้นผมรู้สึกเหมือนเขาแสยะยิ้มออกมาแวบหนึ่ง แต่ไม่ชัวร์ว่ามองผิดรึเปล่า

"ที่นี่ก่อเหตุวุ่นวายอะไรกัน?!!" อัศวินคนหนึ่งพูดขึ้น ขณะที่เดินนำเหล่าการ์ดอัศวินพิทักษ์เมืองประมาณ 30 คน เมื่อมาถึงพวกเขาเริ่มกระจายตัวตีกรอบล้อมพวกเราเอาไว้เป็นวงกลม ทำหน้าที่ทั้งเคลียร์สถานการณ์และห้ามพวกต่างโลกมุงที่กรูกันเข้ามาใกล้ๆ ไปด้วยในตัว ผมเกือบลืมไปว่าโดมสายฟ้าถูกมาสเตอร์ลูพังยับไปแล้ว

"นายกองอัศวิน 'บาร์เทล' ข้าจะเป็นคนอธิบายให้ท่านฟังเอง" มาสเตอร์ลูกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาหัวหน้าอัศวิน

"โอ้ ท่านมาสเตอร์ลูรึเนี่ย ได้ข่าวว่าท่านเกษียณตนเอง… เอ่อ ไม่คิดว่าท่านยังอยู่ที่อาณาจักรแห่งนี้"

บาร์เทลโค้งคำนับเป็นการทักทาย และมาสเตอร์ลูเริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นไม่นานเขาก็สั่งให้ลูกน้องเข้าเชิญตัวรอธฟิลด์ไปสอบสวน รวมทั้งขอหลักฐานจากไนท์ฮอว์กด้วย

"ท่านจะไม่ใส่กุญแจมือควบคุมมนตรากับรอธฟิลด์รึยังไง?" ไนท์ฮอว์กเอ่ยถาม

บาร์เทลขมวดคิ้วและตอบว่า "ข้าก็อยากทำเช่นนั้น แต่ในกรณีที่ชนชั้นสูงถูกกล่าวหา ก่อนที่จะตัดสินไต่สวนว่าผิดจริง ทางเราไม่มีสิทธิ์ใส่กุญแจมือผู้ที่ยศศักดิ์ชั้นลอร์ดขึ้นไป"

"...."

"งั้นข้าจะเป็นคนส่งคริสตัลไดรฟ์ด้วยมือตนเอง"

"ท่านในฐานะคู่กรณี ต้องตามไปให้ปากคำอยู่แล้ว ฉะนั้นเชิญตามมาได้เลยครับ"

ร่างของมาสเตอร์ลูเริ่มส่องแสงออกมา เขาเดินเข้ามาจับไหล่ของไนท์ฮอว์กและพูดว่า "ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยแล้ว ร่างแยกเงานี้หมดเวลาพอดี ฝากที่เหลือด้วยนะ นายกองบาร์เทล"

บาร์เทลพยักหน้าเป็นการตอบรับ

"...ขอบคุณครับ มาสเตอร์"

ไนท์ฮอว์กเอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมกับหันไปมองอีกทางหนึ่งไม่ยอมสบตามาสเตอร์ลู ผมเห็นมาสเตอร์ลูทำหน้าประหลาดใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็อมยิ้มเล็กน้อยและกลายเป็นแสงพุ่งวาบขึ้นสู่ท้องฟ้า

…...

"ไปๆ เดินไปได้แล้ว ไปคุยกันต่อที่สำนักฯ" บาร์เทลผลักรอธฟิลด์ให้เดินหน้านำเขาไป รอธฟิลด์ก้าวเดินออกมาพร้อมกับอัศวิน 4 คน ล้อมรอบด้านและจากมุมของผม ผมเห็นชัดเจนว่าเขาแอบยิ้มอย่าง

น่ากลัวออกมาแว่บหนึ่งอีกแล้ว เป็นรอยยิ้มที่ไม่ใช่สำหรับคนสิ้นหวัง และไม่ใช่สำหรับคนที่กำลังจนตรอก

รอธฟิลด์หยุดเดินและแหงนหน้ามองข้างบน "ช่างเป็นรุ่งอรุณที่สดใส แสงจากพระอาทิตย์วันใหม่ส่องประกายต้องกระทบกับปราสาทลอยฟ้าได้งดงามยิ่งนัก ข้าขอยืนชมวิวทิวทัศน์นี้สักครู่จะได้ไหมครับ? เป็นครั้งสุดท้าย..."

อัศวินทั้งหมดรวมถึงบาร์เทลเงยหน้าขึ้นมองปราสาทพร้อมกัน เป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นที่พวกเขาประมาท…...

"เปิดใช้งานไอเท็ม [กับดักแมงมุมสายฟ้า]"

แมงมุมสีม่วง 10 ตัว หล่นลงมาจากหน้าต่างระบบของรอธฟิลด์ พวกมันวิ่งกระจายตัวไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว

ผมรีบตะโกนบอกทันที "หัวหน้าบาร์เทล ระวังครับ!! รอธฟิลด์---!"