webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

642-2

บทที่ 642-2 เสือสองตัว

ลัวหยิ่นเผยถึงเบื้องหลังออกมา ทำเอาผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆ สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที ท่านประธานแบ่งหุ้นในมือออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ส่วนเล็กส่วนน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่มหาศาลทีเดียว

แต่ท่าทางของเถาเฉินกลับไม่ได้รู้สึกดีอกดีใจเลยสักนิดเดียว กลับกันหล่อนกลับนิ่งและดูเฉยชากว่าที่เป็น

ตอนที่หล่อนได้ยินแบบนั้น หล่อนก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเย้ยออกมา

“ถ้าหากว่าการที่เชาฉวินได้หุ้นไปในตอนนั้นคือปัจจุบัน เจียงเซ่อที่ได้หุ้นไปหมายถึงอนาคต แล้วดิฉันละคะ คืออดีตที่คุณพูดถึงใช่ไหมล่ะ?”

แววตาของลัวหยิ่นประกายวับขึ้น และถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมามองหล่อนบ้าง เอวของเธอตั้งตรงราวกับดินสอ สายตาจดจ้องมาที่ลัวหยิ่น และดูเหมือนจะไม่คิดที่จะหลบสายตาเลยด้วย

“คุณลัว สิ่งที่ดิฉันเป็น คืออดีตใช่ไหมล่ะคะ?”

เมื่อหล่อนรู้ถึงคำตอบนั้นได้ ลัวหยิ่นเองก็เผลอกัดฟันแน่นอยู่เงียบๆ นิ่งไปอยู่ครู่ใหญ่ถึงค่อยพูดต่อ

“ในอนาคตไม่ว่าเธอจะมองมันยังไง แต่อย่างน้อยคุณงามความดีที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี”

เขาไม่ได้พูดให้กระจ่าง แต่ความหมายที่อยู่ในคำพูดนั้นมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เถาเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“คุณลัว ดิฉันต้องขอบคุณคุณจริงๆ นะคะ”

หล่อนหมายความอย่างนั้นจริงๆ พูดจบก็ถอนหายใจยาวออกมา

“ฉันรู้ว่าคุณยินดีที่จะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา ยินยอมที่จะแบ่งหุ้นของตัวเองเพื่อให้ดิฉันอยู่ต่อ ซึ่งมันก็เป็นการให้ความมั่นใจกับฉันที่ดีทีเดียว และดิฉันก็ต้องขอบคุณที่คุณไม่คิดจะปิดบังดิฉัน ไม่ได้ใช้คำพูดสวยหรูอะไรเพื่อมาหลอกดิฉันอีก” ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นของหล่อน มันเริ่มเปล่งประกายมากกว่าเดิม

“แต่ว่าฉันจะทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”

สิ่งที่เถาเฉินเลือก มันทำให้ผู้ช่วยยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลย เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แววตาของเถาเฉิน ราวกับว่าหล่อนบ้าไปแล้ว

“หือ?”

คำตอบของเถาเฉินสำหรับลัวหยิ่นนั้น ก็ไม่ใช่คำตอบที่คาดคิดเอาไว้เหมือนกัน แถมยังรู้สึกฉงนใจอีกด้วย

“ถ้าหากว่าบริษัทต้องการที่จะรั้งฉันเอาไว้ เพราะเล็งเห็นถึงการพัฒนาของดิฉันในอนาคตแล้วละก็ ดิฉันก็เชื่อว่าในอนาคตจะต้องมีแค่ฉันเท่านั้นที่สามารถเป็นตัวแทนของบริษัทได้ อย่างนั้นตัวส่วนแบ่งหุ้นนี้ ก็คงไม่จำเป็นที่จะให้คุณมากำนัลให้ เพราะตัวดิฉันสามารถหาเองได้”

เธอส่ายหน้า “มีของบางอย่าง ก็ไม่ควรที่จะได้มาจากการทำทาน”

ทั้งส่วนแบ่งหุ้นและคำสัญญาพวกนี้ หล่อนได้รับมันมานานหลายปีแล้ว และในที่สุดตอนนี้ลัวหยิ่นก็ปล่อยมันออกมา และได้ให้คำตอบแก่หล่อน แต่ที่น่าแปลกก็คือ เถาเฉินพบว่าพอตัวเองได้ยินแบบนั้นแล้ว หล่อนกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดเดียว แถมยังรู้สึกผิดหวังกว่าที่เป็นด้วยซ้ำ

หล่อนเองก็มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง ต้องการที่จะเป็นที่หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร และไม่คิดที่จะก้มหน้าวิงวอน

“ต้องขออภัยคุณลัวด้วยนะคะ แต่ดิฉันต้องการที่จะเจรจากับคุณเรื่องการยกเลิกสัญญา”

การที่หล่อนมาในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะคุยถึงเรื่องนี้ต่อลัวหยิ่นตรงๆ

เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ หล่อนอยู่ในซื่อจี้หยินเหอไม่ได้อีกต่อไป ระหว่างหล่อนและเจียงเซ่อ แน่แล้วว่าไม่สามารถที่จะทำใจเย็นอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันได้อีก

“ส่วนเรื่องการผิดสัญญา หลังจากนี้ฉันจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางทนายความแทน”

แต่แค่เป็นเพราะว่าเป็นมิตรกันมาหลายปีและเห็นแก่มารยาท หล่อนจึงตั้งใจที่จะมาบอกกับลัวหยิ่นด้วยตัวเอง

หล่อนคิดว่าลัวหยิ่นคงจะโมโหและโกรธกันแน่ๆ หล่อนคิดว่าถ้าลัวหยิ่นเห็นว่าตัวเองไม่ยินดียินร้ายแบบนี้ จะต้องมีการตะโกนดุด่า แต่สุดท้ายแล้วลัวหยิ่นกลับทำแค่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น จากนั้นก็ถามเธอกลับ

“เธอคิดดีแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“ฉันคิดดีแล้วค่ะ”

เถาเฉินเดินมาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งที่พึ่งก็ไม่ใช่โชคชะตา ทุกๆ อย่างที่หล่อนตัดสินใจออกไป ล้วนแล้วผ่านการทบทวนและไตร่ตรองเป็นอย่างดี

“แล้วหลังจากนี้วางแผนจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ?”

ลัวหยิ่นถามขึ้น “ในวงการนี้ เธอเองก็อยู่ในบริษัทมานาน สัมผัสกับงานระดับท็อปมาก็เยอะ รู้ว่าต้นทุนงานและโอกาสต่างๆ ของบริษัทมันมีมากกว่าที่ไหนๆ บทหนังที่ดีที่สุด งานพรีเซนเตอร์ที่ดีที่สุดก็ล้วนแล้วถูกคัดเลือกมาให้ศิลปินในบริษัททั้งนั้น”

หลังจากที่ออกจากซื่อจี้หยินเหอไปแล้ว การที่เถาเฉินจะต้องยืนหยัดไปคนเดียวนั้น บางทีเส้นทางในอนาคต มันอาจจะไม่ได้ราบรื่นก็ได้

“ดิฉันรู้อยู่แล้วล่ะค่ะ” เธอยิ้มๆ หลังจากออกจากซื่อจี้หยินเหอแล้ว หล่อนเองก็คงจะยังเดินไปในเส้นทางเดิม ถึงแม้ว่าจะไม่มีบริษัทคอยปกป้อง แต่การที่เถาเฉินจะต้องสู้ไปคนเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตหล่อนจะต้องยอมแพ้นี่

“ดิฉันคิดว่า บางทีการเดินทางในครั้งใหม่ของดิฉัน อาจจะมีอนาคตรอดิฉันอยู่ก็ได้ค่ะ” ความทะเยอทะยานมันฉายชัดอยู่มนแววตาของหล่อน “และฉันจะรอให้คุณยื่นส่วนแบ่งหุ้นของคุณเพื่อดึงฉันกลับไป”

ประโยคนั้นทำเอาลัวหยิ่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ถึงแม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของผลประโยชน์ แต่ลัวหยิ่นเองก็ไม่ได้คิดที่จะทำให้เธอต้องลำบากใจ หลังจากที่รู้ว่าหล่อนต้องการที่จะออกจากบริษัทเพื่อฉายเดี่ยว เขาก็ไม่คิดที่จะพูดกดหรือใช้อำนาจคุกคาม

การเจรจาในครั้งนี้มันดูผ่อนคลายกว่าที่เถาเฉินคาดเอาไว้ ตั้งแต่ที่เจียงเซ่อแสดงหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ และได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ ไป ความกดดันที่กดทับแน่นอยู่ในใจของหล่อนจนกลายเป็นความทุกข์ จนกระทั่งวันนี้ที่ได้มาพบหน้ากับลัวหยิ่น มวลหมอกเล่านั้นก็ได้สลายตัวออกไปแล้ว

หลังจากนี้ก็จะเป็นการปรับเปลี่ยนอำนาจในบริษัท แน่นอนว่าโจวเซิงและคนอีกจำนวนหนึ่งจะต้องออกจากบริษัทไปพร้อมกับเถาเฉิน ตามเธอไปฉายเดี่ยว

ผู้การส่วนตัวที่มีอยู่ และกลุ่มคนที่หล่อนคุ้นเคยก็จะพาไปด้วย และในคำพูดต่างๆ ของลัวหยิ่นก็ไม่ได้ทำให้หล่อนลำบากใจเลยแม้แต่น้อย แต่ในเรื่องของตัวเงินของการทำผิดสัญญาก็ยังต้องมีการรับผิดชอบ

กับค่าตัวของหล่อนในตอนนี้ ตัวเลขเหล่านั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากทีเดียว แต่สิ่งที่ทำให้เถาเฉินรู้สึกโล่งใจก็คือ ลัวหยิ่นไม่ได้กดดันหล่อน อย่างน้อยในการฉายเดี่ยวครั้งนี้ ก็ไม่ได้ขรุขระและยากลำบากไปมากกว่านี้

ตอนที่หล่อนเดินออกมาจากบ้านพักของลัวหยิ่น ผู้จัดการส่วนตัวของหล่อนอย่างซ่งอี้ก็กำลังรอหล่อนอยู่ในรถ ตอนที่เห็นเธอเดินออกมา ซ่งอี้ก็ถอนหายใจโล่งอก และรีบถามออกไปทันที

“คุณเถา การเจรจากับคุณลัวเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

ท่าทางของหล่อนดูฮึกเหิม เหมือนกับว่าได้นึกถึงเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ที่เพิ่งจะเข้าวงการ

“ก็เกือบเรียบร้อยหมดแล้วล่ะ” หล่อนเสยผม แล้วนึกถึงช่วงที่ผ่านมาทุกๆ หน้าข่าวล้วนแล้วเกี่ยวกับเจียงเซ่อและหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่มีดารานักแสดงคนไหนกล้าที่จะแสดงความสามารถออกมา กับหนังที่เข้าฉายในช่วงเดียวกันแน่นอนว่าไม่มีทางที่จะสู้ได้

แต่ในตอนนี้เถาเฉินกลับยิ้มออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ

“หัวข้อข่าวในหัวเซี่ย เจียงเซ่อยึดมันมามากพอแล้ว มันถึงเวลาของฉันบ้างแล้ว!”

ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงความสามารถเพื่อที่จะแย่งตำแหน่งกับเจียงเซ่อ แต่เถาเฉินทำได้

ถึงแม้ว่าหลายๆ คน รวมไปถึงในสายตาของลัวหยิ่นเอง จะคิดว่าหล่อนยังอ่อนเกินไป แต่ในสถานการณ์แบบนี้ คนที่จะสามารถฉุดยื้อกับเจียงเซ่อได้ ก็ยังคงเป็นแค่หล่อนคนเดียว ลัวหยิ่นจะต้องเห็นมัน!

วันที่ยี่สิบเก้าเดือนธันวาคม หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เริ่มเข้าฉายทั่วโลก เข้าฉายในอเมริกาเหนือไปสี่วัน ยอดขายบัตรหนังพุ่งขึ้นสูงถึงสามพันแปดร้อยล้านเหรียญสหรัฐ และมันก็ทะลุจากยอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์เรียบร้อยแล้ว ทำเอาคนในวงการสั่นสะเทือนกันไปหมด

ในหัวเซี่ย กระแสของ ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็แรงไม่แพ้กัน ทางทีมงานหนังได้เริ่มเดินสายโปรโมทในตี้ตูเป็นที่แรกในหัวเซี่ย แขกที่ได้รับเชิญมาในงานหนังรอบปฐมทัศน์นั้น ล้วนแล้วมีคนคอยพยายามหาตำแหน่งที่นั่งที่ดีที่สุดให้ทั้งนั้น

ตามที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ได้รับคำชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ ตั๋วหนังเองก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการมากขึ้น ยังเหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าหนังจะเข้าฉาย แต่ตั๋วหนังที่ถูกเปิดขายตามโรงภาพยนตร์กลับถูกขายจนหมดเกลี้ยง

ถึงแม้ว่าทางโรงภาพยนตร์จะเพิ่มรอบการฉายแล้วก็ตาม แต่ตั๋วหนังก็ยังหายากอยู่ดี

ตามเว็บเพจออฟฟิเชียลต่างๆ ของเจียงเซ่อ เว็บเพจของหนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ เวยป๋อจนไปถึงสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ต่างก็มีข่าวที่เกี่ยวกับตัวหนัง และเต็มไปด้วยข้อความจากแฟนหนังที่ขอซื้อบัตรหนังต่อด้วยราคาที่สูง

ตอนนี้กลายเป็นว่าเหมือนทุกคนกำลังให้ความสนใจและพูดถึงหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ และจียงเซ่อเป็นอย่างมาก เถาเถาเองก็ยุ่งจนไม่มีเวลาพูดคุยเลยด้วยซ้ำ หล่อนกลับประเทศมาก่อน เจียงเซ่อหนึ่งวัน แต่เป็นเพราะว่า ‘The second coming of Jesus Christ’ ได้รับรางวัล หล่อนเองที่เป็นถึงสื่อข่าวที่ได้ไปดูหนังกับตาตัวเอง ช่วงนี้จึงกำลังมุ่งมั่นอยู่กับการทำคอลัมน์การไปอเมริกา

ตอนนี้ผู้คนกำลังให้ความสนใจและชอบที่จะดูข่าวที่เกี่ยวกับเจียงเซ่อ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหัวข้อเดิมๆ แต่ก็ชอบที่จะหยิบเอาขึ้นมาคุยซ้ำๆ แค่อัพเดทความเคลื่อนไหวของเจียงเซ่อเพียงเล็กน้อย ก็สามารถดึงดูดให้คนหันมาสนใจได้มากแล้ว

หล่อนยุ่งถึงขนาดที่ว่าบริษัทแทบจะเป็นบ้านของตัวเอง เขียนอะไรมากมายที่เกี่ยวกับตัวเจียงเซ่อ และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย อีกทั้งคำชมจากหัวหน้าก็ได้รับ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถอนหายใจให้โล่งอก ก็ได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ครั้งก่อนเว็บพนัน C B ของประเทศอังกฤษ ช่วงนี้ไม่รู้ว่ามีชาวเน็ตตั้งเท่าไหร่ที่ขาดทุนไป!”

“พี่ซู พี่ยังจำได้มั้ย บนเว็บครั้งก่อน มีคนลงไปตั้งห้าแสนเลยนะ ลงข้างหนังที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ น่ะ?”

ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน เด็กสาวคนหนึ่งกระตือรือร้นขึ้นมา “ตอนนั้นหนูแอบไปดูมา พวกชาวเน็ตต่างชาติยังพูดกันอยู่เลยว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้! แต่สุดท้ายก็ได้ผลกลับกันไม่ใช่เหรอ?”

เถาเถางานยุ่งสุดๆ พอได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดแบบนั้น ก่อนจะเผลอสูดหายเข้าเสียงดัง เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้!