webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

641-2

บทที่ 641-2 ตีเหล็ก

ตัวหนังมีการฉายทั้งแบบ 2D 3D IMAX3D และแบบอื่นๆ ที่สามารถทำได้ การโปรโมทนั้นได้ลามไปยังโรงหนังใหญ่ทุกที่ในอเมริกาเหนือ รูปของบรรยากาศภายในงานที่แสนคึกคักถูกสื่อภายในประเทศปล่อยออกมาเรื่อยๆ และนั่นก็ยิ่งทำให้แฟนหนังในประเทศมีความสนอกสนใจมากขึ้นกว่าเดิม

เถาเถาถือโอกาสในตอนที่หน้าที่การงานกำลังไปได้สวย ในการมาดูตัวหนัง The second coming of Jesus Christ’ ฉบับภาษาอังกฤษถึงที่อเมริกาเช่นกัน

ก่อนที่จะได้มาดูหนังจริงๆ หล่อนก็ได้ยินคำชื่นชมของหนังเรื่องนี้มากมายแล้ว มีทั้งจากมุมมองของสื่อด้วยกันเอง ชมว่าหนังนั้นมีความอลังการมากๆ และยังมีคำชื่นชมในเรื่องของคอสตูมการต่างกายในหนังจากสมาชิกของ ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ อีกด้วย บอกว่ามันงดงามสุดๆ

แต่คำชื่นชมเหล่านั้น มันก็เทียบไม่ได้กับการมาดูด้วยตา และสัมผัสด้วยตัวเองอยู่ดี

ตอนนั้นที่ได้ดูตัวอย่างหนังก็ว่าตื่นเต้นมากพอแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของตัวหนังจริงๆ เลยด้วยซ้ำ ฉากหนังที่น่าหวาดเสียวและลุ้นระทึกเหล่านั้น กับการที่ได้เข้าฉายในห้องฉายหนังที่ดีแบบนี้ ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้ามันรับความรู้สึกได้มากกว่าปกติเป็นหลายเท่าตัว ทุกๆ ซีนทุกๆ ฉากต่างก็ทำให้คนดูยังสามารถรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน

‘ปีศาจ’ ที่แสนชั่วร้าย กับนักบุญใจบาปอย่างอังเดร ความ ‘บริสุทธิ์’ ของบริตนีย์ ที่แปรเปลี่ยนกลายเป็น ‘ความชั่วร้าย’ ในภายหลัง มันเด่นชัดมากกว่าสิ่งใด

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะตัวหนังเป็นภาษาอังกฤษเพียวๆ บวกกับที่ตัวนักแสดงเองต่างก็มีสำเนียงการพูดเป็นของตัวเอง สำหรับเถาเถาแล้วการฟังอะไรแบบนี้ก็ถือว่ายากและเหนื่อยพอตัว แต่ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่สามารถเข้าใจในทุกๆ คำพูดในหนังได้ แต่การแสดงของนักแสดงก็สามารถทำให้คนดูเข้าถึงเนื้อเรื่องได้อย่างง่ายดาย

ถ้าพูดว่าก่อนหน้าที่จะมีการฉายหนังเรื่องนี้ ยังคงมีคนสงสัยในการได้รางวัลของหนังเรื่อง The second coming of Jesus Christ’ อยู่อีกละก็ งั้นความจริงทั้งหมดหลังจากที่หนังเข้าฉายแล้ว ก็คงมากพอที่จะทำให้ความสงสัยเหล่านั้นค่อยๆ เลือนหายไป

หลังจากวันที่ยี่สิบแปด ยอดขายบัตรหนังเรื่อง The second coming of Jesus Christ’ ในอเมริกาเหนือก็พุ่งขึ้นถึงหนึ่งพันเจ็ดร้อยล้านกับตัวเลขยอดขายจำนวนนี้ ก็ถือว่าได้ทำลายสถิติยอดขายอันดับที่หนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในอเมริกาไปแล้วเรียบร้อย

คำชื่นชมตัวหนังเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ และหลังจากนี้ก็คงจะสามารถเรียกกระแสจากมวลชนได้อีกระลอกใหญ่ทีเดียว

แนวโน้มของกลุ่มคนที่จะมารับชมหนังเรื่อง The second coming of Jesus Christ’ นั้น ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ จะไม่ใช่แฟนคลับของเชี่ยซ่าเหลยหรือแม้แต่ของนักแสดงหลักทั้งสองคนก็ตาม สำหรับหนังเรื่องนี้จึงไม่ได้เป็นที่สนใจของคนทั่วๆ ไปเสียเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะข้อวิพากษ์วิจารณ์และความสงสัยจากมวลชนมากกว่า ถึงได้เดินเข้ามาในโรงหนังกัน

กับการเริ่มต้นที่สูงขนาดนี้ มันก็เหมือนเป็นการปลุกกลุ่มนักลงทุนให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ ต่างก็รายงานเหตุการณ์ที่แสนยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ออกมา

ยิ่งในต่างประเทศมีผลลัพธ์ออกมาดีมากเท่าไหร่ กระแสตอบกลับภายในประเทศก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้นเท่านั้น

หนังยังไม่ทันจะได้เข้าฉาย แต่แค่ยอดขายบัตรหนังก็ได้ถูกบันทึกไว้ในสถิติเป็นประวัติการณ์เรียบร้อยแล้ว หลังจากเสร็จตารางงานในอเมริกา วันที่ยี่สิบเก้าเจียงเซ่อก็ต้องเข้าร่วมการโปรโมทรอบใหม่ของ The second coming of Jesus Christ’ กับทีมงานต่อทันที และยอดขายบัตรหนังภายในประเทศก็พุ่งขึ้นจนเกือบจะหกร้อยล้านแล้ว!

ผู้เชี่ยวชาญในประเทศได้คาดการณ์เอาไว้ว่า หลังจากที่หนังเรื่อง The second coming of Jesus Christ’ เข้าฉายแล้ว ภายในระยะเวลาสั้นๆ อาจจะเกิดเหตุการณ์หาซื้อบัตรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่ามันจะยิ่งทำให้คนเกิดสงสัยและสนใจในหนังเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก

ในขณะที่เจียงเซ่อทำงานติดๆ กันแบบไม่มีเวลาพัก ในตอนนี้เถาเฉินก็ได้กลับมาจากฝรั่งเศสมาถึงในประเทศพอดี

หล่อนได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองปรารถนาได้สำเร็จแล้ว หล่อนได้เป็นแบรนแอมบาสเดอร์ของแชมพูสระผม Carolus ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน ข่าวแบบนี้ก็คงจะใหญ่มากพอสำหรับหัวข้อข่าวภายในประเทศแล้ว เรื่องที่น่าสนใจที่สุด จะต้องเป็นข่าวแชมพูสระผม Carolus และตัวเถาเฉินเอง

สามารถแย่งงานการเป็นแบรนแอมบาสเดอร์ให้กับ Carolus มาจากเซี่ยเชาฉวินได้ มันก็มากพอที่จะยืนยันในศักยภาพของเถาเฉินได้แล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เถาเฉินจะต้องรู้สึกดีใจและพอใจกับเรื่องนี้มากแน่ๆ และมองว่านี่ก็คือหนึ่งในสิ่งที่ได้รับจากการต่อสู้มานานหลายปี

แต่กับในสถานการณ์ตรงหน้าที่มองไปทางไหนก็มีแต่ข่าวที่เกี่ยวกับ ‘ ‘The second coming of Jesus Christ’ ผลงานของนักแสดงหลักหญิงอย่างเจียงเซ่อได้รับรางวัลสุดยอดภาพยนตร์จากงาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’’ แน่นอนว่าเถาเฉินไม่มีทางที่จะดีใจออกแน่นอน

การเซ็นสัญญาระหว่างหล่อนและ Carolus นั้น มันถูกตั้งในสกู๊ปข่าวเล็กๆ ในมุมๆ หนึ่งเท่านั้น และคนที่กดเข้าไปดูเข้าไปอ่านก็หรอมแหรมบางตา

ทางซื่อจี้หยินเหอเองก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมตารางการโปรโมทหนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ ราวกับว่าแสงเปล่งประกายที่เคยส่องสว่างให้กับเถาเฉินในวันวาน มันได้กลายไปเป็นของเจียงเซ่อหมดแล้วอย่างไรอย่างนั้น

ความจริงวงการมันก็เป็นแบบนี้ ในตอนที่คนในบริษัทไม่ได้มองว่าเรื่องที่เถาเฉินกลับมาประเทศเป็นเรื่องใหญ่อีกต่อไป ในตอนที่ลัวอ้าวและกลุ่มผู้บริหารชั้นสูงไม่ได้เห็นว่าหล่อนน่าสนใจเท่ากับเจียงเซ่ออีก ในตอนที่ท่านประธานบริษัทลัวหยิ่นยอมที่จะแบ่งหุ้นของตัวเองให้กับเจียงเซ่อ แต่ตัวหล่อนกลับต้องต่อสัญญาระยะยาวและรอไปก่อน ถึงจะแลกมาได้ซึ่งการให้ความสำคัญจากบริษัท ในใจของเถาเฉินมันรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมเต็มไปหมด

ถ้ามองในด้านใดด้านหนึ่ง หล่อนและเจียงเซ่อก็ถือว่าจัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ความปรารถนาที่เธอได้เข้าซื่อจี้หยินเหอมา มันชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็เพื่อที่จะเป็น ‘คนมาหลัง’ ที่ ‘ดีที่สุด’ และ ‘โดดเด่นที่สุด’

การที่หล่อนอยู่ซื่อจี้หยินเหอต่อ มันก็ไม่ใช่เพราะว่าจะได้อยู่เป็นที่เปรียบเทียบให้ใคร ถึงแม้ว่าในภายหลังจะมีการต่อสัญญาระยะยาวต่อกัน บริษัทเองก็เคยตกลงส่วนแบ่งกับตัวศิลปินนักแสดง โดยการยอมยกส่วนแบ่งที่มากกว่าให้กับหล่อน แต่ ‘กิตติมาศักดิ์’ เหล่านั้น เมื่อเทียบกับหุ้นที่ลัวหยิ่นแบ่งให้เจียงเซ่อแล้ว มันก็ทำให้ในใจเถาเฉินรู้สึกว่ามันไม่แฟร์

หล่อนติดต่อไปยังบริษัทด้วยตัวเอง และต้องการที่จะเข้าพบลัวหยิ่นให้ได้

ปลายสายเป็นลัวอ้าวรับ หลังจากได้ฟังน้ำเสียงของหล่อนแล้ว ลัวอ้าวก็เลือกที่จะพูดแสดงความยินดีกับการที่หล่อนสามารถคว้าการเป็นแบรนแอมบาสเดอร์ให้กับ Carolus ได้ก่อน จากนั้นพอรู้ว่าหล่อนกำลังคิดจะทำอะไร ก็ค่อยๆ พูดปฏิเสธอ้อมๆ ออกไป

“หลายวันที่ผ่านมานี้อากาศเย็นลงมาก หลายปีมานี้ร่างกายของท่านประธานลัวก็ไม่ค่อยแข็งแรง คุณหมอสั่งว่าหลังปีใหม่นี้ท่านจะต้องไปทำการรักษาที่ต่างประเทศสักระยะหนึ่ง อาจจะไม่มีเวลามาเจอคุณแล้วล่ะครับ”

แต่ไม่ว่าอย่างไรเถาเฉินก็จะขอเข้าพบกับลัวหยิ่นให้ได้ สุดท้ายลัวอ้าวก็จนปัญญา และแจ้งเรื่องนี้ไปที่ลัวหยิ่นทันที หลังจากเวลาและสถานที่เรียบร้อยแล้ว ที่นัดเจอก็คือบ้านพักตากอากาศของลัวหยิ่นนั่นเอง

หลังจากที่กลับมาจากฝรั่งเศส เถาเฉินลงจากเครื่องแล้วก็ตรงไปที่บ้านของลัวหยิ่นในทันที หล่อนถูกคนเชิญไปยังที่โถงใหญ่ ลัวหยิ่นเองก็รี่ตามองพิจารณาดาราสาวคนโปรดที่เคยโดดเด่นเปล่งประกายกว่าใครๆ ของซื่อจี้หยินเหอ หล่อนสวมรองเท้าส้นสูง ชุดคลุมขนแกะสีดำที่ใส่มาก็ถูกถอดออกตั้งแต่เข้าประตูมาและส่งให้คนรับใช้ที่รออยู่

ใบหน้าของหล่อนมันปกปิดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางเอาไว้ไม่มิดเลย ดวงตาคู่นั้นยังคงเปล่งประกายดึงดูดคนเช่นเดิม ทำให้เขานึกถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับเถาเฉิน

ในห้องโถงเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ กลิ่นหอมๆ ของชาที่มันอบอวลยิ่งทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นขึ้น ช่วงนี้ลัวหยิ่นรู้สึกหลงใหลในชาไม่น้อย บนจานที่รองถ้วยชา มีกาต้มน้ำที่กำลังเดือดจนเกิดเสียง ไอควันร้อนลอยตัวหมุนเป็นเกลียวขึ้นไปปกคลุมห้องที่เต็มไปด้วยของหรูหราจนเหมือนถูกรมควัน ดูเหมือนว่าความกดดันและความเย็นเยือกในช่องว่างขนาดใหญ่ได้ลดลงแล้ว และมีความเป็นจริงมากขึ้น

“กลับมาแล้วหรือ? ได้ยินจากลัวอ้าวมาว่าได้เป็นแบรนแอมบาสเดอร์ให้กับ Carolus แล้วนี่?”

ใบหน้าของลัวหยิ่น ดูเหมือนไม่รู้เลยสักนิดว่านี่มันคือการแย่งการเป็นแบรนแอมบาสเดอร์และการแย่งงานกันของนักแสดงหญิงทั้งสอง แถมยังดูอารมณ์ดีอีกด้วย

ผมของเขาถูกหวีไว้เป็นทรงอย่างเรียบร้อย ดูเหมือนกำลังรับแขกที่ไม่ได้สนิทกัน แต่ก็เหมือนกำลังต้อนรับเพื่อนสนิทอยู่ สวมเสื้อผ้าธรรมดา บนขามีผ้าคลุมผืนหนาห่มเอาไว้

เถาเฉินเดาว่า ลัวหยิ่นเองก็คงจะเดาถึงสาเหตุการมาของหล่อนได้

“ก่อนที่เธอจะมา ฉันก็กำลังเตรียมใบชา ต้มน้ำอยู่พอดีเลย มาได้จังหวะดีจริงๆ”

เขาค่อยๆ ต้มชาเองไปอย่างชอบอกชอบใจ ทุกๆ การกระทำผ่านไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ไม่มีการเรียกให้ใครมาช่วย เถาเฉินเข้าไปจะช่วยเขาเทน้ำ แต่ก็ถูกลัวหยิ่นหยุดเอาไว้ ในตอนที่ยกแก้วชาใส่มือหล่อน ลัวหยิ่นก็พูดออกมาอย่างมีความหมาย

“ชาแก้วนี้ฉันชงให้เธอเองกับมือ ใครก็ดื่มไม่ได้ทั้งนั้น มีแค่เธอเท่านั้นที่ดื่มมันได้!”

ประโยคนั้น ทำเอาเถาเฉินชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ