webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

618

บทที่ 618 ไม่จริง

นักแสดงต่างหากที่เป็นตัวตนของหล่อน มันไม่น่ากลัวหรอกที่จะต้องแพ้ให้กับการแย่งงานหรือแย่งกันเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เอาไว้ครั้งต่อไปลองมาสู้กันใหม่ก็ยังได้ แต่ถ้าหากว่ามีวันหนึ่ง ที่ฝีมือการแสดงของเจียงเซ่อมันไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวหล่อนแล้ว นั่นต่างหากที่เป็นสิ่งที่ทำให้ในใจของเถาเฉินเกิดความอิจฉา

หล่อนไม่ได้กลัวเรื่องที่เจียงเซ่อยังอายุน้อยกว่า และไม่ได้กลัวว่าผลงานของเจียงเซ่อจะได้รับความนิยมชมชอบมากกว่า หรือแม้กระทั่งได้รับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มากกว่าอะไร สิ่งที่หล่อนให้ความสนใจก็คือเรื่องฝีมือการแสดงของตัวเอง ว่าจะมีสักวันไหมที่ตัวเองจะต้องแพ้ให้กับเจียงเซ่อ

ความรู้สึกเหล่านี้ บางทีซ่งอี้อาจจะไม่มีทางที่จะเข้าใจมันได้เลย

ในตี้ตู บริษัทเจียงหนานบันเทิงในตอนนี้ เฝิงหนานเองก็ได้เห็นข่าวเหล่านั้นแล้ว ตัวอย่างหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ออกมาแล้ว ตอนที่หล่อนกดเข้าไปข่าว หล่อนก็รู้สึกหงุดหงิดและโกรธจนตัวสั่นไปหมด

แม้แต่ตัวอย่างหนังหล่อนก็ไม่ได้เปิดเข้าไปดูเลยด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตนี้ หล่อนไม่อยากจะเห็นหน้าของเด็กสาวที่แสนกำเริบเสิบสานคนนี้อีกต่อไป แต่บนโลกอินเทอร์เน็ตกลับมีแต่คนพูดถึงเจียงเซ่อ

ตั้งแต่ในงานหนังภาพยนตร์หัวเซี่ยในครั้งนั้น เป็นเพราะว่าเฝิงหนานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แถมยังโดนจ้าวจวินฮั่นพูดฉีกหน้า หล่อนจึงยังรู้สึกเจ็บใจมาจนถึงทุกวันนี้ และได้มีการหาอาจารย์สอนภาษาอังกฤษให้กับตัวเอง จนตอนนี้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องพอตัวแล้ว

แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างกลับไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นเลยสักนิด หล่อนยังคงต้องขลุกอยู่กับวงการบันเทิง ไม่ได้มีชื่อเสียงขึ้นมาเสียที

หนังที่ได้เล่นเป็นตัวหลักก็ถูกเลื่อนการเข้าฉายออกไปอีกนานอย่างไม่มีกำหนด แต่ทว่าเฝิงหนานไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าหนังแต่ละเรื่องที่ตัวเองรับเล่นไปนั้นมันจะเข้าฉายเมื่อไหร่ เพราะหล่อนยังคงไล่หาโอกาส คิดอยากที่จะลงทุนลงแรงกับมันให้มากที่สุด แต่ทว่าโอกาสเหล่านั้นกลับมาไม่ถึงหล่อนเลยสักอย่าง

ความวิเศษของชีวิตที่ได้มาเกิดใหม่ของหล่อน มันก็เริ่มที่จะลอยหายไปตามกาลเวลาจนชักจะเหลืออยู่ไม่มากแล้ว อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หล่อนก็ไม่สามารถที่จะรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นได้อีก

ตอนแรกก็คิดว่าสวรรค์คงจะเข้าใจในตัวหล่อนเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่หล่อนได้มาเกิดใหม่ก็ได้กลายเป็นเฝิงหนานคนที่ตัวเองอยากจะเป็นมาตลอดทั้งชีวิต มีวิสาหกิจจงหนานให้พึ่ง คุณปู่ก็เป็นถึงหนึ่งในคนที่รบเพื่อการเปิดประเทศของหัวเซี่ย เงินทองทรัพย์สินในบ้านก็มากมายก่ายกอง

มีคนที่เคยอยากจะได้ครอบครองแต่ไม่มีสิทธิ์ในชาติก่อนอย่างจ้าวจวินฮั่นมาเป็นคู่หมั้นของตัวเอง มีทั้งต้นทุน มีทั้งฐานะและมีเงิน ตอนแรกหล่อนคิดว่าถ้าหากตัวเองเข้าวงการบันเทิง ทุกอย่างมันจะต้องราบรื่นและดีงาม จะต้องมีโอกาสและคนที่พร้อมจะสนับสนุนเข้ามามากมาย

ในความคิดของหล่อน หล่อนสามารถใช้ความ ‘รู้ก่อน’ ที่ตัวเองมีมาในการทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ให้ตัวเองได้กลายเป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ ชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือทั้งในและต่างประเทศ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างมันจะกลายมาเป็นแบบนี้ไปเสียได้

ในทางกลับกัน คู่แค้นของตัวเองอย่างเจียงเซ่อกลับผ่านทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น ได้หมั้นหมายกับหลานชายตระกูลเผยที่เคยชอบ ‘ตัวเอง’ มาก่อน และได้รับความสนอกสนใจจาก ‘คุณปู่’ เฝิงจงเหลียง ได้เซ็นสัญญากับซื่อจี้หยินเหอ หรือแม้แต่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่เฝิงหนานจำได้ว่าเป็นหนังแห่งประวัติศาสตร์ เธอก็ยังได้ร่วมแสดงด้วย

คำวิจารณ์ภาษาอังกฤษบนอินเทอร์เน็ตหล่อนก็ได้ดูมันไปหลายข้อความแล้ว มีคนเริ่มถามต่อทีมงานหนังว่า เจียงเซ่อได้แสดงเป็นนางเอกในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ จริงหรือเปล่า ในตอนที่หล่อนเห็นแบบนั้น ในใจของเฝิงหนานก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที

นั่นมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หรอก ในชาติที่แล้วคนที่ได้เล่นเป็นนางเอกในหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็คือดาราฮอลลีวูดอย่างลาร่า ไม่มีทางที่จะเป็นเจียงเซ่อไปได้

แต่พอได้เห็นว่าเริ่มมีแฟนคลับของลาร่าเริ่มถามว่าทำไมในตัวอย่างหนังถึงได้ไม่มีลาร่าอยู่ในนั้น เฝิงหนานก็เริ่มนั่งไม่ติดขึ้นมาทันที

ที่จริงแล้วหล่อนไม่คิดที่จะเปิดตัวอย่างหนังดูเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะว่าเริ่มมีคนเดาว่าเจียงเซ่อนั้นอาจจะเป็นนางเอกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หล่อนก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจนสุดท้ายก็ต้องเปิดวีดิโอดู และสิ่งที่หล่อนเห็นได้ชัดทันทีก็คือบทที่เจียงเซ่อแสดงนั้นมันคือบทของลาร่า!

ในชาติก่อน หล่อนเองก็เคยได้เข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนัง และในหนังคนที่แสดงประกบคู่กับโดนัลด์ก็ควรที่จะเป็นลาร่าสิ มีรายละเอียดบางจุดจากชาติที่แล้ว ที่ตัวหล่อนเองก็หลงลืมมันไปเหมือนกัน แต่ความเป็นไปคร่าวๆ ของเนื้อเรื่องหนังหล่อนจำมันได้อย่างแน่นอน

บทของลาร่าถูกเจียงเซ่อแสดงแทนไปแล้วจริงๆ และเพราะว่ามันกลายเป็นแบบนี้ ทำให้ฉากบางฉากมันไม่ได้เป็นเหมือนที่หล่อนคิดเอาไว้อีก อย่างเช่นในฉากที่เจียงเซ่อต้องแสดงเป็น ‘ปีศาจ’ และสุดท้ายที่น้ำตาไหลออกมา รอยยิ้มที่แสดงออกมานั่น มันก็ไม่ได้แสดงเหมือนกับลาร่าอย่างที่หล่อนจำได้

ที่หล่อนกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป แม้แต่เนื้อหาในหนังก็ไม่ได้เหมือนกับที่หล่อนจำได้ด้วยซ้ำ

ภาพใบหน้าของเจียงเซ่อในหนังนั่นทำให้หล่อนรู้สึกอิจฉา สองคาแรคเตอร์ในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ไม่ว่าจะคาแรคเตอร์ที่ไร้เดียงสาบริสุทธิ์ในตอนแรกหรือว่าจะเป็นปีศาจในภายหลัง ก็ล้วนแล้วแต่ถูกเธอแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น และแสดงออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์

ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ไป ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าขนหลังมันลุกชันไปหมด

นี่มันไม่ควรที่จะเป็นเจียงเซ่อสิ! ในนาทีนี้ในหัวของเฝิงหนานมีแต่ความคิดแบบนั้นขึ้นมา เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจียงเซ่อ!

เธอไม่ควรที่จะได้เป็นนางเอกแบบนี้! กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ในชาติที่แล้วไม่มีแม้กระทั่งวิชาความรู้ เป็นแค่พวกคิดเพ้อเจ้อฝันลมๆ แล้งๆ และรอแต่จะชุบมือเปิบ หวังที่จะมาแทนที่หล่อน อยากที่จะคบกับจ้าวจวินฮั่น ในครึ่งแรกของชีวิตของผู้หญิงคนนั้น ช่างเป็นชีวิตที่เน่าเฟะและไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

แม่น้ำภูเขาสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่นิสัยคนมันไม่ได้เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ คนๆ หนึ่งจะต้องเปลี่ยนบุคลิกแบบไหนกัน ถึงจะสามารถเปลี่ยนไปได้จากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้?

เมื่อก่อนเฝิงหนานเอาแต่คิดว่า การเปลี่ยนแปลงของเจียงเซ่อ บางทีมันอาจจะเป็นเหมือนที่หล่อนเป็นอยู่ก็ได้ อาจเป็นเพราะว่าได้มา ‘เกิดใหม่’ ถึงได้รู้ว่าควรที่จะต้องเก็บ ‘สันดาน’ ของตัวเองอย่างไร และเรียนรู้ที่จะแสดงออกมาก็เท่านั้นเอง

แต่มันก็มีบางอย่าง ที่ไม่มีทางที่จะเลียนแบบได้ เช่นลักษณะท่าทาง บุคลิก สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลอกใครๆ ได้

หล่อนไม่เคยได้คิดพิจารณามาก่อนเลยว่า เจียงเซ่อในตอนนี้ แท้จริงแล้วใช่ ‘เจียงเซ่อ’ จริงๆ หรือเปล่า

ถ้าหากว่าสวรรค์ยังสามารถให้หล่อนโชคดีกลับมาเกิดเป็น ‘เฝิงหนาน’ ได้ สามารถได้ทุกอย่างที่หล่อนไล่วิ่งหาในความฝันของตัวเองมาโดยตลอด แล้วอย่างนั้นเจียงเซ่อในตอนนี้ ก็เป็นไปได้สูงว่าจะไม่ใช่ ‘เจียงเซ่อ’ ตัวจริง

พอเฝิงหนานคิดได้แบบนั้น หัวใจมันก็เต้นดัง ‘ตึกๆๆ’ หล่อนกัดฟันแน่นจนตัวสั่นไปหมด

แต่ไหนแต่ไรหล่อนไม่เคยคิดมาในทางนี้เลย พอมาเกิดความคิดเหล่านั้นขึ้นมาในตอนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเจียงเซ่อคนปัจจุบันดูแปลกไปมากจริงๆ

เฝิงหนานพยายามหวนนึกถึงเจียงเซ่อที่ตัวเองจำได้ และสิ่งที่จดจำได้แม่นและฝังลึกที่สุดก็คือ ‘เธอ’ ที่ฆ่าหล่อนอย่างโหดร้าย เรือนผมที่ถูกย้อมเป็นสีทองทั้งหัว สีหน้าท่าทางอำมหิต

ในตอนนั้นเธอคบกับจ้าวจวินฮั่นมาได้หลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าตอนที่เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ๆ จะสวยแค่ไหน แต่ก็เป็นเพราะว่าการใช้ชีวิตที่ไม่คำนึงถึงร่างกายตัวเองจนค่อยๆ เสื่อมสภาพไปก่อนเวลาถึงเจ็ดเท่า เธอสวมชุดวับแวบและเน้นแต่ความเซ็กซี่ พูดจาเหมือนพวกคนไม่มีความรู้ ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจ

เธอจมอยู่กับบุหรี่และของมึนเมา เพราะหลายปีก่อนหน้านี้เธอเอาแต่ยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ชายหญิง ทำให้ถึงแม้ว่าจะอายุแค่ยี่สิบห้ายี่สิบหก แต่กลับดูแก่กว่าวัยไปมากทีเดียว

ถึงขั้นที่ว่าถึงแม้จะให้แต่งหน้าหนาแค่ไหน ก็ยังเห็นได้ถึงสภาพผิวที่ไม่มีความเรียบเนียน และแววตาก็ดูขุ่นมัว

แต่เจียงเซ่อในตอนนี้ล่ะ? เฝิงหนานสั่นเทิ้มไปทั้งร่างกาย หล่อนเปิดรูปของเจียงเซ่อบนอินเทอร์เน็ตดู เธอมีฐานะที่สูงมากในหัวเซี่ย ชื่อเสียงก็โด่งดัง มีรูปของเธอขึ้นมามากมายแค่หล่อนพิมพ์ชื่อของเจียงเซ่อลงไป รูปสวยๆมากมายก็แสดงผลขึ้นมาแล้ว

มีบางรูปที่เป็นรูปเมื่อก่อนหน้านี้ มีรูปที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มีรูปที่ทางซื่อจี้หยินเหอเป็นคนลง และมีรูปที่แฟนคลับแอบตามถ่ายมา

แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปไหนๆ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอิริยาบถไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่ง หรือจะเป็นตอนยืนก็ดูโดดเด่นเหนือใครๆ โดยเฉพาะกับรูปที่แฟนคลับถ่ายมา เธอกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ ในรูปผิวของเธอขาวใสราวกับหิมะ กระจ่างใสจนแทบจะมองทะลุได้อยู่แล้ว

ดวงตาของเธอแบ่งสีขาวดำอย่างชัดเจน บุคลิกดูเรียบนิ่งและสง่างามราวกับต้นไผ่

สายตาของเฝิงหนานจ้องมองไปยังรูปของเจียงเซ่อที่ครั้งหนึ่งเธอได้ไปสัมภาษณ์เดี่ยวให้กับหัวเซี่ยจือซวิ่น และมันเป็นรูปที่มีความคมชัดสูง เธอถือไมค์เอาไว้ และนั่งตัวตรง ดวงตาหลุบลงเล็กน้อยเหมือนกำลังใช้ความคิด แววตาของเธอมันแวววาวและสดใสราวกับน้ำแร่ ฝังประดับอยู่บนใบหน้าที่เหมือนได้รับความรักจากสวรรค์ งดงามราวกับเทพสวรรค์