webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

617

บทที่ 617 โปรโมท

ประโยคนี้ทำให้กลุ่มคนที่กำลังนั่งคุยเล่นเรื่อยเปื่อยต่างก็เงยหน้าขึ้นมามองกันเลิกลั่ก และไม่มีใครพูดอะไรออกทั้งนั้น

อย่างไรเสียก็เคยเป็นนักแสดงหญิงชาวหัวเซี่ยที่เคยได้แสดงหนังของเชี่ยซ่าเหลยเหมือนกัน เมื่อปีก่อนหน้านี้เถาเฉินก็เพิ่งจะถ่ายหนังเรื่อง ‘The Lost City’ ไป แถมยังมีการโปรโมทไปทั่วทุกพื้นที่อีกด้วย จึงทำให้เป็นที่รู้และจดจำกันอย่างถ้วนหน้า

เมื่อเทียบกันแล้ว ถ้าเจียงเซ่อได้เป็นนางเอกของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ จริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักอย่าง จนกระทั่งการโปรโมทเริ่มขึ้น ถึงจะค่อยได้เห็นว่าเธอเป็นเด็กที่พนสวรรค์ที่โดดเด่นมากแค่ไหน

ตามเวลาที่ ‘The second coming of Jesus Christ’ กำลังจะเข้าฉาย ยอดการกดเข้าดูตัวอย่างหนังที่ได้ปล่อยออกมาก็ถือว่าเป็นการยืนยันถึงแรงสนใจที่มหาศาลแล้ว

ขอแค่ตัวหนังทั้งเรื่องมันไม่แย่มาก ก็สามารถอาศัยกระแสนี้ได้ การพูดถึงเรื่องพวกนี้ เมื่อหนังเข้าฉาย ยอดขายบัตรก็คงจะมีการจองจนยอดขายบัตรในประเทศคงชนะเลิศไปเลยแน่ๆ

ในหลายปีที่ผ่านมานี้เจียงเซ่อมีกระแสตอบรับที่ดีมาก ยอดขายบัตรหนังในแต่ละเรื่องก็ดีสุดๆ ถ้าหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ออกฉายเมื่อไหร่ ระยะห่างระหว่างเธอและเถาเฉินก็คงถูกดึงเข้ามาอีกแน่ๆ

ถ้าหากบอกว่าเถาเฉินอาศัยระยะเวลาตั้งแต่ที่เข้าวงการ จำนวนหนังที่ได้เล่น และยอดขายรวมๆ กันในการเหนือกว่าเจียงเซ่อแล้วล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นเมื่อไหร่ที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เข้าฉายยอดขายบัตรจากทั่วโลกก็อาจจะดึงให้ระะห่างระหว่างเจียงเซ่อและเถาเฉินใกล้เข้ามาอีกจนอาจจะแซงหน้าเถาเฉินไปไกลเลยก็ได้

อย่างไรเสียในหนังเรื่องนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเจียงเซ่อจะแสดงได้ดีหรือไม่ ยังไงก็ยังมีชื่อเสียงของเชี่ยซ่าเหลยและโดนัลด์ แค่ในต่างประเทศยอดขายก็คงสูงมากอยู่แล้ว

หลังจากที่หนังเข้าฉาย มันก็จะช่วยดึงชื่อเสียงของเจียงเซ่อขึ้นไปอีก ตอนนี้บนโลกโซเชียลของต่างชาติ คำว่า ‘เจียงเซ่อ’ กลายเป็นหัวข้อข่าวใหม่ที่ถูกพูดถึงในวันนี้แล้ว

บทเว็ปเพจนิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ของอเมริกา ได้มีการพิมพ์ข่าวของเจียงเซ่อลงไปแล้ว เรียกเธอว่า ‘เจ้าหญิงของหัวเซี่ยที่เชี่ยซ่าเหลยเลือก’ และคิดว่าในอนาคต ‘ใบหน้าชาวหัวเซี่ย’ คนนี้อาจจะได้ไปอยู่ในทุกๆโรงภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือ

ถึงแม้ว่าจะมีนักลงทุนออกเงินในการโปรโมทแล้วก็ตาม แต่ตัวเจียงเซ่อเองก็มีปัจจัยที่ดีเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ถึงได้มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำให้ทั้งบอร์เจีย ฮว๋านเต่าจนรวมมาถึงบริษัทภายในต่างประเทศอย่างซื่อจี้หยินเหอและหัวอิ่งร่วมมือกันเพื่อเธอได้ขนาดนี้

ตอนนี้ใช่ว่าเถาเฉินเองจะไม่รู้ข่าวที่เจียงเซ่ออาจจะเป็นนางเอกของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ และอาจจะส่งผลด้านลบกับตัวหล่อนเอง เพราะตอนที่ตัวอย่างหนังของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ออกมา หล่อนก็ได้ดูมันแล้วเหมือนกัน

หล่อนรู้ว่านิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ ในมุมมองของเชี่ยซ่าเหลยนั้น มันมีความหมายที่แตกต่างออกมา และหล่อนก็รู้ว่าทั้งบอร์เจียและฮว๋านเต่าต่างก็ใช้เงินลงทุนไปมหาศาลกับการสร้างหนังเรื่องนี้ออกมา หล่อนจึงคิดว่าหนังเรื่องนี้คงจะไม่เลวแน่ๆ

แต่สิ่งเดียวที่หล่อนไม่เคยคิดถึงเลยก็คือ หลังจากที่ตัวอย่างหนังของหนังเรื่องนี้ออกมาแล้ว ไม่เพียงแค่ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีมากเท่านั้น เพราะว่ามันดีกว่าที่หล่อนคาดการณ์เอาไว้เสียอีก

กับการเป็นหนังที่มีการลงทุนสูงขนาดนี้ ตัวเชี่ยซ่าเหลยเองก็ไม่ได้ทำให้เงินมันสูญเปล่า ในทุกๆ นาทีในตัวอย่างหนัง ทุกอย่างล้วนแล้วขึ้นอยู่กับเงินทั้งนั้น เจียงเซ่อได้ออกฉากมาถึงสองครั้ง และมันก็มีประโยชน์อย่างมากในการกำหนดความเป็นไปของเนื้อเรื่องหนัง การปะทะกันระหว่างตัวเธอและโดนัลด์รวมไปถึงบทพูด มันทำให้เถาเฉินที่ได้เห็นต้องนิ่งเงียบไปอยู่นาน

สองชั่วโมงแล้วที่ตัวอย่างหนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ ออกมา แต่หล่อนก็ยังนั่งดูตัวอย่างหนังวนอยู่แบบนั้น ทำแบบนั้นซ้ำๆ อยู่ที่เดิม

ซ่งอี้และคนอื่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ออกมา ไม่กล้าที่จะไปหยุดหล่อน และไม่กล้าที่จะพูดปลอบใจหล่อนด้วย ในคืนนี้ทุกการพูดถึงของเหล่ามวลชนล้วนแล้วพุ่งเป้าไปที่ตัวเจียงเซ่อ การค้นหาสูงสุดก็เป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับเจียงเซ่ออย่าง ‘เจียงเซ่อคือนางเอกของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ใช่หรือไม่?’

แต่เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้มีข่าวระหว่างตัวเถาเฉินและเจียงเซ่อออกมา ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนพูดถึงเถาเฉินขึ้นมาด้วย และมีแฟนคลับของหล่อนบางคนที่ไม่พอใจออกมาโต้แย้งว่าเจียงเซ่อและเถาเฉินนั้นไม่มีอะไรที่จะมาเทียบกันได้ แต่การโต้แย้งเหล่านั้น กับในคืนนี้ที่เจียงเซ่อได้เป็นที่สนใจ ทำให้ข้อความเหล่านั้นถูกกลบไปอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์แบบนี้ถ้าเถาเฉินได้ยินจะต้องไม่สบอารมณ์แน่ เพราะแม้แต่ซ่งอี้เองก็นิ่งเงียบไปเหมือนกัน

เขาเองก็ลองพยายามติดต่อสื่อในประเทศดูแล้ว เพื่อที่อยากจะเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่

การที่เป็นถึงนักแสดงหญิงที่ได้เล่นหนังของต่างประเทศ แถมยังได้แสดงประกบคู่กับโดนัลด์ตั้งแต่เรื่องแรกแบบนี้ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าให้แฟนหนังในประเทศให้ความสนใจและสรรเสริญจริงๆ

เถาเฉินนั่งดูยอดวิวการเข้าชมตัวอย่างหนังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชาวเน็ตที่เข้ามาดูก็ล้วนแล้วพากันทิ้งข้อความคอมเมนท์กันอย่างล้นหลาม ข่าวตามเว็ปเพจในต่างประเทศล้วนแล้วพาดหัวข่าวที่เกี่ยวกับ ‘เจียงเซ่อ’ หรือแม้แต่ตามข่าวท้องถิ่นในช่วงบ่ายของปารีส หัวข้อข่าวก็คือ เด็กสาวขาวหัวเซี่ยขึ้นแท่นนางเอก ‘The second coming of Jesus Christ’ แทนลาร่า ประกบคู่โดนัลด์

ซ่งอี้ดูมันครู่หนึ่ง ข่าวแบบนี้มันน่าตกใจมากจริงๆ ข่าวเพิ่งจะออกมาได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง ยอดคนที่เข้ามาดูก็พุ่งสูงถึง 2.4 ร้อยล้านกว่าแล้ว แค่คิดก็รู้แล้วว่าในวันพรุ่งนี้ กับข่าวใหม่ๆ ที่ออกมา จำนวนที่สูงในตอนนี้จะต้องสูงกว่านี้ไปอีกหลายเท่าตัว

เถาเฉินเพิ่งจะนั่งดูตัวอย่างหนังจบไปอีกรอบราวกับหุ่นยนต์ และทำท่าเหมือนว่าจะเปิดดูมันอีกรอบ หล่อนทำแบบนั้นอยู่หลายรอบแล้ว ไม่พูดอะไรสักคำ ซ่งอี้ทนดูไม่ไหวอีกต่อไป เขาถอนหายใจออกมา แล้วเดินเข้าไปพูดเบาๆ ข้างๆ เธอ

“คุณเถา หยุดดูมันเถอะครับ”

บนหน้าจอฉายภาพใบหน้าของเจียงเซ่อขึ้นมา คืนนี้หล่อนเพิ่งจะไปทานมื้อค่ำกับทาง Carolus มา กลับมาถึงแม้แต่เครื่องสำอางบนใบหน้าก็ยังไม่ทันได้เช็ดน้ำก็ยังไม่ได้อาบ ก็มานั่งนิ่งๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ แม้แต่ผ้าคลุมไหล่ผู้ช่วยอีกคนก็ต้องมาช่วยถอดให้

“แค่คุณคลิกไปสองที มันก็เป็นการไปช่วยเพิ่มยอดวิววีดีโอแล้วนะครับ” เขาพยายามที่จะกล่อมเถาเฉิน “ตอนนี้มันก็แค่ตัวอย่าง ในมุมมองของผมแล้ว เพราะหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ใกล้เข้าฉาย ทางนั้นก็เลยรีบปล่อยตัวอย่างออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนี้จะดีเสียหน่อยนี่ครับ”

ตอนที่ซ่งอี้พูดแบบนั้นขึ้นมา ก็หันไปมองสีหน้าของเถาเฉินด้วย

“แต่ก่อนในหนังเรื่องนี้ เพราะว่าจุดสนใจส่วนใหญ่มาอยู่ที่ตัวอย่างหนังแล้ว ทำให้ตัวอย่างหนังมันดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ตัวหนังจริงๆ อาจจะโดนด่าเละเลยก็ได้นะครับ”

ท่าทางของเถาเฉินยังดูนิ่งเงียบไม่สนใจอะไร และไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาได้พูดไป หล่อนได้ยินมันบ้างหรือเปล่า

ซ่งอี้หันหน้าไป และพูดต่อ

“ถ้าหากว่าตัวหนังจริงๆ มันไม่ได้โดดเด่นเหมือนอย่างในตัวอย่าง ยอดขายบัตรก็คงจะไม่เป็นอย่างที่คิดแน่ๆ”

พอเขาพูดถึงตรงนี้ ในที่สุดเถาเฉินก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว แต่หล่อนกลับไม่ได้มีท่าทีว่าจะหงุดหงิดอย่างที่ซ่งอี้คิดเอาไว้เลยสักนิด หล่อมเม้มปาก และเหมือนจะพยายามหัวเราะออกมา

“นายคิดว่า สิ่งที่ฉันกังวล คือยอดขายของ ‘The second coming of Jesus Christ’ จะทะลุยอดขายที่ตัวฉันทำได้งั้นหรือ?”

แล้วไม่ใช่งั้นหรือ? ซ่งอี้ที่ได้ยินหล่อนพูดแบบนั้น ก็งงงวยขึ้นมาทันที

“งั้นคุณ...”

“ฉันกำลังอิจฉาเธอต่างหาก” หล่อนพูดออกมาอย่างสงบ “ถ้าพูดออกมาแบบนี้ นายอาจจะไม่อยากจะเชื่อก็ได้ สิ่งที่ฉันกำลังอิจฉามันไม่ใช่ยอดการเข้าดูตัวอย่างหนังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ และไม่ได้อิจฉาว่ายอดขายของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ จะได้สักเท่าไหร่”

หล่อนกลืนน้ำลายลง แล้วสูดหายใจเข้าลึก สันกระดูกไหปลาร้านูนขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน

“เทียบกับเธอที่ได้ร่วมงานกับโดนัลด์ ได้เป็นนางเอกของเชี่ยซ่าเหลยแล้ว ที่ฉันสนใจมากกว่านั้น ก็คือกลัวว่าเธอจะแสดงออกมาได้ดีกว่าฉันต่างหากล่ะ”

พอพูดออกไปแบบนั้นแล้ว ถ้าในเวลาปกติ ไม่มีทางแน่ๆ ที่เถาเฉินจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา

ระหว่างหล่อนและเจียงเซ่อ แต่ไหนแต่ไรมาก็เหมือนเป็นคู่แข่งมาโดยตลอด ทั้งเรื่องพรีเซ็นเตอร์ เรื่องงานต่างก็มีจำกัดกันทั้งนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วต้องแย่งชิงกัน ทั้งสองฝ่ายเหมือนกับถ้าเธอมาฉันจะไป มีแพ้มีชนะ และนั่นก็เป็นเรื่องปกติของวิธีการ

ในเรื่องของพรีเซนเตอร์และเรื่องานต่างๆ เถาเฉินอาจจะชนะได้เพราะเครดิตส่วนตัวและฐานะ แต่ก็อาจจะต้องแพ้เพราะว่าเจียงเซ่อมีเซี่ยเชาฉวินเป็นคนนำทัพ

แต่ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่เถาเฉินรู้ว่าตัวเองมีอุปสรรคขนาดนี้มาก่อน