webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

582

บทที่ 582 พบกันอีกครั้ง

คุณย่าเผยเห็นคุณปู่เผยดูชอบใจก็เม้มปากอย่างอดไม่ไหวแล้วพูดว่า

“หายากนะที่อาอี้จะเป็นห่วงสุขภาพของปู่เขาน่ะ โดยเฉพาะเธอที่อุตส่าห์ตามหากาน้ำชาแบบนี้มาให้”

“กาดี!” ในขณะที่คุณปู่เผยเล่นกาน้ำชาในมือไปมานั้น พอได้ยินคำพูดของคุณย่าเผยก็พูดแทรกขึ้นมา

เป็นกาน้ำชาดีจริงๆ นั่นล่ะ กาน้ำชาแบบนี้ หากตกมาอยู่ในมือของนักสะสมคงจะทะนุถนอมดูแลเอาไว้หลายปี แน่นอนว่าไม่มีทางเอาออกมาขายง่ายๆ แน่ ที่เจียงเซ่อสามารถซื้อมาได้ เงินเป็นปัจจัยรอง แต่ที่เห็นได้ชัดคือเธอทุ่มเทแรงกายแรงใจมาก จึงทำให้ได้รับความรักและความเอ็นดู

คุณปู่เผยถือกาน้ำชาเอาไว้อย่างชอบใจจนไม่ยอมวาง ทั้งยังชวนลูกชายมาร่วมชื่นชมกับเขาดด้วย

คุณแม่ของเผยอี้ถามถึงเรื่องงานในต่างประเทศของเจียงเซ่อ พักใหญ่ ก็ถามขึ้นเล่นๆ ว่า “หลายวันก่อนตอนกลับประเทศ ที่สนามบิน มีคนทำให้เธอลำบากใจเหรอ”

คุณนายรองได้ยินคำพูดนี้ แต่ก็ไม่พูดอะไร คุณย่าเผยมองเจียงเซ่อ เจียงเซ่อจึงพูดว่า

“ก็ไม่ถือว่าทำให้ลำบากใจหรอกค่ะ เพียงแค่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น”

เธอมาที่บ้านตระกูลเผยพร้อมของฝากจำนวนมากมาย แถมยังเป็นของที่ถูกใจทุกคนมากด้วย แต่เธอก็ไม่ได้ฉวยโอกาสนี้เพื่อฟ้อง บอกให้คนตระกูลเผยช่วยเธอแก้ปัญหา อุปนิสัยแบบนี้ ทำให้สายตาของคุณนายใหญ่เผยอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิม

เผยอี้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ ซึ่งเธอทะนุถนอมมาเป็นอย่างดีตั้งแต่เกิด เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธอ

ตอนยังเป็นหนุ่มน้อยเขาหลงใหลเฝิงหนาน คนหนึ่งดูโตเร็วเกินไป อีกคนกลับดูไร้เดียงสา ความจริงเธอเคยกังวลเรื่องลูกชายเป็นอย่างมาก

เผยอี้เป็นคนซื่อ ตอนนั้นทุ่มเททั้งกายและใจให้เฝิงหนาน คุณนายเผยยังเสียดายแทนเขาตั้งนาน เพราะอายุของทั้งสอง ตอนนั้นเฝิงหนานจึงเห็นเขาเป็นน้องชายมาโดยตลอด

ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนสมัยเด็กนี้จะยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าจะจบลงอย่างไร คิดไม่ถึงว่าเผยอี้จะถอดใจ แล้วหันมาจีบเจียงเซ่อแทน

จีบไปเรื่อยๆ ก็เกิดจริงจังขึ้นมา

ตอนแรก คุณนายเผยต่อต้านเจียงเซ่อ เพราะปูมหลังชีวิตของเธอไม่ดีนัก ทั้งเข้าสู่วงการบันเทิงและดูสวยเกินไป กลัวว่าที่เธอมาพัวพันกับเผยอี้ จะเป็นเพราะโลภในชื่อเสียงเกียรติยศ

ใจจริงเธอชอบนิสัยของเฝิงหนานมากกว่า สงบเสงี่ยม มีความรู้ถึงพร้อมด้วยมารยาท สง่างามและอ่อนโยน ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี รู้จักกาลเทศะ

แต่ทว่า ครั้งแรกที่เผยอี้พาเจียงเซ่อมาที่บ้าน คุณนายเผยก็รู้สึกแล้วว่าเจียงเซ่อไม่เหมือนอย่างที่เธอจินตนาการเอาไว้

ก่อนที่เธอจะมาบ้านตระกูลเผย ก็คงจะรู้ฐานะทางบ้านของเผยอี้อยู่บ้าง แต่ว่า พอมาถึงก็ไม่ได้แสดงอาการดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อเปรียบกับเฝิงหนานมาถึงบ้านตระกูลเผยก็พูดไม่หยุดในครั้งนั้น แล้ว การกระทำของเธอไม่เพียงแค่ไม่แย่ไปกว่าของเฝิงหนาน แต่ยังดึงดูดสายตาของคุณนายเผยได้เป็นอย่างมากอีกด้วย

สิ่งที่คนในตระกูลเผยไม่ชอบมากที่สุดคือคนโอ้อวด หลังจากนั้นหลายปี ในขณะที่เธอคบหากับเผยอี้ แม้ว่าเธอจะเป็นคนในวงการบันเทิง ทุกการกระทำล้วนอยู่สายตาของนักข่าว แต่ความรักระหว่างเธอกับเผยอี้ก็ยังไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน

การกระทำแบบนี้ ไม่ว่าเธอจะจริงใจหรือไม่ ก็ได้ใจคนในตระกูลเผยไปแล้ว

รวมทั้งภาพลักษณ์ในวงการบันเทิงของเธอก็ดีงาม เป็นที่รู้จักในทางที่ดี น้อยมากที่จะมีข่าวฉาว ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังโด่งดัง ชีวิตก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย นิสัยยังคงไม่เปลี่ยน ยิ่งทำให้คนในตระกูลเผยประทับใจในตัวเธอมากกว่าเดิม จนอนุญาตให้เผยอี้ขอเธอแต่งงานในที่สุด

การไม่รู้ถึงความสวยและความสามารถของตนเอง รักษาการถ่อมตนและเรียบง่ายถือเป็นคุณธรรมที่ดีอย่างหนึ่ง

แต่ว่า ถ้ารู้จุดเด่นของตนเอง รู้ว่าตนเองมีความงดงามและความสามารถ แต่ก็ยังสามารถถ่อมตนและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายได้ สำหรับคุณนายเผยแล้ว นี่ถือว่าดีกว่าข้อก่อนหน้านี้อยู่มาก

หลายปีมานี้ เพราะการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ทำให้เกิดหลายประเด็นกับเธอ มีทั้งคนที่ต่อว่าเธอ คิดว่าเธอไม่สามารถรับมือกับรถแบรนด์หรูเก่าแก่ได้ คนที่ยังคงเกิดความสงสัยก็ไม่น้อย เธอสามารถอยู่อย่างสงบเสงี่ยมและไม่กระวนกระวายท่ามกลางข่าวพวกนี้ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่านับถือ

การต่อต้านของกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้เศรษฐีในหัวเซี่ย คุณนายเผยก็ได้ยินมาบ้าง หลังจากเจียงเซ่อทำงานเสร็จ ก่อนนั่งเครื่องกลับประเทศ เธอได้พบกับคุณนายโจวและถูกคุณนายโจวดูถูกกลั่นแกล้ง ตอนนี้เธอได้มาพบผู้ใหญ่ของเผยอี้ที่ได้หมั้นหมายกันไว้แล้ว แต่กลับไม่ได้อ้างตระกูลเผย ยังคงอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ยิ่งทำให้คุณนายใหญ่เผยรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม

ตอนนี้พอเจียงเซ่อพูดถึงคุณนายโจว น้ำเสียงก็พลันเรียบนิ่งและอธิบายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสั้นๆ ความมีกาลเทศะเช่นนี้ สำหรับคุณนายเผยแล้ว ถือว่าเหนือกว่าคุณนายโจวอยู่มาก

ไม่รู้ว่าทำไมสภาพแวดล้อมอย่างบ้านตระกูลตู้ถึงได้สามารถสอนลูกให้ออกมาเป็นคนที่โดดเด่นแบบนี้ได้ ไม่แปลกเลยที่อาอี้ของเธอเห็นเจียงเซ่อแล้วจะรักจนถอนตัวไม่ขึ้น

เมื่อเปรียบกับลูกคนอื่น ๆ ในบ้านแล้ว เผยอี้ตาแหลมจริงๆ

“เธอพูดถูก”

คุณนายเผยยื่นมือออกไปจับผมยาวของเจียงเซ่อทีหนึ่ง แล้วนำไปทัดที่หลังหูของเธอ พลันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่ต้องไปถือสาเธอหรอก ถึงเอาชนะไปก็ไม่มีประโยชน์ จะยิ่งทำให้เธอดูแย่ลงเสียเปล่าๆ”

เจียงเซ่อพยักหน้ารับ เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม

“คนในตระกูลเราไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเธอมากนัก เพราะคิดว่าไม่เป็นจำเป็น แต่ปู่เธอเป็นคนที่ออกตัวปกป้องมากที่สุด ในเมื่อเธอเข้ามาหาเรื่อง เราจะทนอยู่เฉยไม่ได้”

คำพูดที่พวกคุณนายโจวและ ‘กลุ่มสะใภ้เศรษฐีพูด’ สำหรับคุณนายเผยแล้ว เป็นเพียงแค่การทะเลาะวิวาทกันของ ‘เด็กๆ’ จึงไม่อยากใส่ใจ

แต่ถ้าคุณนายโจวทำเกินไป ก็ถือว่ามารังแกเด็กๆ ข้ามหัวผู้ใหญ่แล้ว

เจียงเซ่อแปลกใจ ‘คุณปู่’ ที่คุณนายเผยพูดถึงไม่ใช่เฝิงจงเหลียงแน่ น่าจะเป็นคุณปู่เผย เธอรู้สึกอึดอัดใจ เพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ของตนเอง จะต้องถึงขั้นให้คุณปู่เผยจะลงมือด้วยตัวเองเลยหรือ?

“คุณปู่ทำอะไรเหรอคะ?”

“ปู่เธอบอกว่า ความขัดแย้งของเด็ก เด็กก็ต้องจัดการกันเอง ผู้ใหญ่จะเข้าไปยุ่งไม่ได้ ถ้าผู้ใหญ่เข้าไปยุ่งถือว่าผิดกฎ”

คุณย่าเผยพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ตอนเจ้าพวกนี้ยังเด็ก อาอี้กับพวกของหรูหนิงเคยมีเรื่องชกต่อยกัน ผู้ใหญ่จะเข้าไปช่วย คุณปู่ของเธอก็ห้ามอย่างเด็ดขาด ยังพูดอีกว่า ‘ถ้าใครกล้าลงมือ ท่านก็จะลงมือด้วย’”

เจียงเซ่อได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

เผยอี้เรียนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก สมรรถภาพร่างกายดีมาก พวกเนี่ยต้านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ถึงขั้นที่แทบจะถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว

เด็กๆ ที่ตีกัน ทั้งเนี่ยต้าน เฉินหรูหนิงและคนอื่นๆ ถูกตีจนร้อง ‘แงแง’ ทุกครั้ง ผู้ใหญ่คงจะสงสาร อยากแยกเด็กออกจากกัน

ถ้าคุณปู่เผยออกมาห้าม ก็จะถือว่าเป็นการโกงและจงใจใช้หลานชายเป็นเครื่องมือในการ ‘รังแกผู้คน’

เพราะฐานะของเขา ถ้าเขาบอกว่า ‘เรื่องของเด็ก เด็กต้องจัดการกันเอง’ แล้วยังจะมีใครกล้าพูดอะไรอีกเล่า

บางทีอาจจะเป็นเพราะตอนเด็กถูกอัดมากเกินไป ทำให้หลังจากโตขึ้นเพื่อนๆ ทุกคนต่างเกรงกลัวเผยอี้และเชื่อฟังเขา แม้กระทั่งจะไปหาเรื่องใครก็มักจะมีเผยอี้เป็นหัวโจก

เธออดยิ้มไม่ได้ คุณย่าเผยเองก็ยิ้มเพราะนึกถึงเรื่องตอนเด็ก ก่อนจะพูดถึงเรื่องตระกูลโจว

“เพราะงั้นปู่เธอก็เลยไปหาอะไรให้ตระกูลโจวทำ พวกผู้ใหญ่จะได้ไม่ว่าง”

เจียงเซ่อคิดไม่ถึงว่าคุณปู่เผยจะทำแบบนี้ เธอเห็นว่าเผยอี้มีผู้ใหญ่คอยให้ท้ายมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่คิดว่าตนเองก็กลายเป็นอีกคนที่คุณปู่เผยให้ท้าย จึงซบไปที่ไหล่คุณย่าเผยอย่างอดไม่ได้

“คุณปู่ดีกับหนูเหลือเกินค่ะ” ความใกล้ชิดแบบนี้ของเธอ ทำให้คุณย่าเผยรู้สึกดีมาก พลันดึงมือเธอเข้ามาและพูดอย่างสนิทสนมว่า

“อาอี้ของเราชอบเธอ เราไม่ดีกับเธอ แล้วจะไปดีกับใครล่ะ”

เจียงเซ่อรู้ดีแก่ใจ แล้วก็ถามอีกว่า คุณปู่เผยทำอะไร คุณย่าเผยจึงพูดว่า

“ตระกูลโจวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหลายปีมานี้กำลังให้ความสำคัญกับมณฑลหนานตงเป็นหลัก”

หลายปีมานี้จิ่งไท่กรุ๊ปทำเกี่ยวกับที่ดินปลูกบ้าน ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองมาก หลายปีก่อนหน้านี้โจวเหวยมีทั้งความคิดอันหลักแหลมและรู้ทันข่าวสาร แล้วเข้าทางเบื้องบนจนรู้ว่าในอนาคตทางรัฐจะมุ่งพัฒนามณฑลหนานตง อสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่จึงเบนความสำคัญไปที่ไว้ที่นั่น

หลายปีมานี้ เศรษฐกิจของหนานตงเจริญรุ่งเรือง ราคาบ้านของจิ่งไท่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาหุ้นของจิ่งไท่สูงขึ้น เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ค่าตัวของโจวเหวยสูงขึ้น

การจะหยุดการพัฒนาของจิ่งไท่ สำหรับคนอื่นแล้วเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตาม จิ่งไท่ก็เข้าสู่หนานตงมานานแล้ว มีพื้นฐานที่มั่นคง หลายปีมานี้ได้พัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวหน้า ทั้งเป็นที่พูดถึงและชื่อเสียงก็เป็นไปในทางที่ดีมาก

แต่สำหรับตระกูลเผยแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก โดยเฉพาะถ้าคุณปู่เผยลงมือด้วยตัวเอง

เขาเพียงแค่สั่งให้ทางรัฐของหนานตงปล่อยที่ดินออกมาจำนวนหนึ่ง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

จิ่งไท่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในหนานตงมาโดยตลอด ส่วนแบ่งการตลาดก็มีมาก พูดง่ายๆ ก็คือ โจวเหวยกินเนื้อ แต่เจ้าอื่นๆ กินซุป

ทางรัฐบาลควบคุมที่ดินเอาไว้อย่างดี ที่ดินจำนวนน้อยที่ปล่อยออกมาล้วนตกอยู่ในครอบครองของจิ่งไท่ ทำให้เกิดวิกฤตที่ดิน ราคาบ้านสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนการจะซื้อบ้านสักหลังกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก

หลายปีมานี้ ธุรกิจของโจวเหวยเจริญรุ่งเรือง ขึ้นปกนิตยสารเชิงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นบุคคลมากความสามารถในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

แต่ว่า การกระทำของคุณปู่เผย เห็นได้ชัดว่าต้องการทำลายแนวโน้มการผูกขาดของเขา

ถ้าทางรัฐปล่อยที่ดินออกมา แล้วคนที่อยากทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในหนานตงคว้าโอกาสซื้อที่ดินเอาไว้ได้ ก็จะทำให้แผนการของจิ่งไท่ในหนานตงพังทลายลง

ประการที่หนึ่งสามารถแก้ไขปัญหาราคาบ้านที่สูงมากจนเกินไปได้ ประการที่สองสามารถทำลายอิทธิพลแต่เพียงผู้เดียวของจิ่งไท่ลงได้ ในขณะเดียวกันช่วยคนที่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อแก้ปัญหา กดราคาบ้านให้ต่ำลง เป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไป

คนเดียวที่ต้องปวดหัวก็คงจะเป็นเจ้าของจิ่งไท่อย่างโจวเหวย แล้วใครใช้ให้ภรรยาของเขาว่างขนาดนั้นเล่า หาเรื่องให้เขาทำเสียหน่อย ถ้าปัญหาเยอะ ลูกเมียของเขาก็คงไม่มีกะจิดกะใจมาจ้อง ‘เด็กๆ’ ไม่ยอมปล่อยอีก

ขิงแก่อย่างไรก็เผ็ดกว่า สิ่งที่คุณปู่เผยทำ มันสะใจมากกว่าการที่เจียงเซ่อไปต่อสู้เอาชนะกับคุณนายโจวเสียอีก

“ประเด็นหลักอยู่ที่มนุษย์นี่แหละพอมีอำนาจขึ้นมาเสียหน่อยก็ลืมหลงความลำบากที่เคยผ่านมา”

คุณย่าเผยตบมือเจียงเซ่อหลายทีและไม่พูดถึงเรื่องตระกูลโจวอีก

หลังจากที่ทางเว็บไซต์ของ ELYSEES ใส่ชื่อเจียงเซ่อเข้าไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการและกำหนดวันเปิดขายเป็นวันที่สิบเอ็ดเดือนกุมภาพันธ์ตามเวลาในหัวเซี่ย ซึ่งเป็นสองวันก่อนตรุษจีนพอดี

ในขณะเดียวกันก็คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ยี่สิบห้าเดือนธันวาคม ทางเว็บไซต์และช่องทางต่างๆ จะเปิดฉายโฆษณาที่เจียงเซ่อถ่ายกับ leopard ในขณะเดียวกันรถที่เจียงเซ่อขับในโฆษณาก็จะถูกเอาออกมาโชว์เพื่อให้ลูกค้าในหัวเซี่ยได้จองกันอีกด้วย

สถานที่ถูกกำหนดให้อยู่ที่ศูนย์แสดงหมิงจูหน้าสนามแห่งกาลเวลาหัวเซี่ย ส่วนบัตรเชิญจะตามมา อีกไม่นาน

ทันทีที่ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งหน้าเว็บของ ELYSEES และเพจสาธารนะล้วนถูกชาวเน็ตรุกราน

เพราะความขัดแย้งระหว่างเถาเฉินและเจียงเซ่อทำให้รถสปอร์ตรุ่นนี้ของ ELYSEES มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในหัวเซี่ย หลังจากนั้นก็มีความคิดเห็นของกลุ่มคุณนายโจวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้รถยังไม่ทันได้เปิดขายก็เป็นที่รู้จักไปทั่วแล้ว

คนจำนวนมากล้วนกำลังคาดการณ์ว่ารถที่บริษัท ELYSEES ยอมจ่ายค่าจ้างหลักสิบล้านและยอมทำให้เถาเฉินไม่พอใจ ขัดใจแฟนคลับของเถาเฉิน ทั้งที่มีคำข่มขู่แล้วว่าจะ ‘เลิกซื้อ’ ของกลุ่มคุณนายโจว แต่ก็ยังยืนยันที่จะใช้เจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มันจะเป็นอย่างไร

แต่ทางบริษัทได้เก็บทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและคุณสมบัติของรถเป็นความลับ ตอนนี้รถรุ่นนี้ยัง เหมือนมีผ้าคลุมอันลึกลับคลุมเอาไว้และไม่ถูกเปิดออก

ผู้คนในวงการรถไม่เห็นด้วยกับการขายรถรุ่นนี้ของ ELYSEES เพราะคิดว่าบริษัททำให้ลูกค้าระดับสูงจำนวนมากไม่พอใจ แม้ว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็คงจะยากที่จะกอบกู้อำนาจของพวกเขาในหัวเซี่ยกลับมาได้

แม้ทางเว็บไซต์ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเข้างานงานนี้ แต่ก็ถูกเพิ่มราคาขึ้นสูงมากนอกจากราคาแล้ว ยังจะต้องพึ่งคอนเนคชั่นด้วยถึงจะได้มาไว้ในครอบครอง

ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES แน่นอนว่าเจียงเซ่อต้องไปงานนี้

ก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ ELYSEES ก็ได้แจ้งเรื่องนี้กับเธอไว้แล้ว เซี่ยเชาฉวินได้เตรียมชุดที่จะใส่ในงานนี้ให้เธอเอาไว้ตั้งนานแล้ว งานในครั้งนี้เธอไปร่วมในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ถือว่าขัด ‘คำสั่ง’ ที่บริษัทมีต่อเธอ

หลายวันก่อนไปออกงาน เซี่ยเชาฉวินเคร่งในเรื่องอาหารและเวลานอนของเธอเป็นอย่างมาก ในวันงานเปิดตัวของ ELYSEES นอกจากจะเชิญผู้มีชื่อเสียงจากสายงานต่างๆ นักข่าวก็ได้รับเชิญมาอีกด้วย อีกคนที่ไปงานนี้คือเถาเฉิน ในขณะที่ทุกคนกำลังรอหัวเราะเยาะเจียงเซ่อ เธอกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

เถาเฉินเองก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัว ทาง ELYSEES ได้จัดการเปิดตัวให้ leopard โดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสสำหรับเธอ

เธอแปะแผ่นมาสก์หน้า พลันหลับตาฟังซ่งอี้

“คุณเถาครับ ทางบริษัท ELYSEES ได้ส่งการ์ดเชิญงานเปิดตัว leopard มาให้ครับ ในครั้งนี้งานจัดขึ้นยิ่งใหญ่มาก การสร้างกระแสในตอนต้นของ ELYSEES ถือว่ามาถูกทางแล้ว”

หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ บัตรเชิญของ ELYSEES ก็หายากมาก เพราะฉะนั้น คนใหญ่คนโตที่ได้รับการ์ดเชิญของ ELYSEES ในครั้งนี้ ต่างก็จะต้องเดินทางมาร่วมงาน

“นี่คือรายชื่อคนที่ได้รับการ์ดเชิญงานนี้ มีคุณนายโจวและลูกสาว คุณนายเวิงจากบริษัทเหมยเทียน...”

เขาอ่านรายชื่อติดต่อกัน คนเหล่านี้ล้วนเป็นแฟนคลับของเถาเฉินและเป็นเพื่อนของคุณนายโจวที่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับ ELYSEES ในครั้งนี้ว่าไม่เห็นด้วยกับการเอาเจียงเซ่อมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ leopard

“พวกเขาต่างแสดงความเห็นว่า จะต่อต้านเจียงเซ่อ ต่อต้านรถสปอร์ต leopard ในงานเปิดตัวของELYSEES ก็จะจองรถรุ่นอื่นๆ ของ ELYSEES ให้มากที่สุดเพื่อคุณ ให้ ELYSEES เห็นคุณค่าของคุณ”

ตอนที่ซ่งอี้พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงพลันดีใจขึ้นมา

“ถ้าในงานเปิดตัวของ ELYSEES แฟนคลับของคุณเถาร่วมมือร่วมใจกันซื้อรถรุ่นอื่นๆ ของ ELYSEES ทำให้ไม่มีใครพูดถึงรถรุ่น leopard ที่ต้องการจะเปิดตัว และยอดขายก็สู้รถรุ่นอื่นๆ ไม่ได้เจียงเซ่อก็จะต้องเสียหน้าเป็นอย่างมากแน่”

ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนของทางบริษัท ELYSEES เห็นความสำคัญของเถาเฉินและชั่งน้ำหนักความสำคัญว่าใครกันแน่ที่สำคัญมากกว่า

และโม่อานฉีในตอนนี้ก็กำลังกังวล เรื่องที่ซ่งอี้ทำ ความจริงเธอคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

แต่เซี่ยเชาฉวินกลับไม่ได้ทำอะไรเลย โม่อานฉีเองก็เป็นแค่ผู้ช่วย แม้จะบอกว่าหลายปีมานี้เพราะทำงานให้เจียงเซ่อทำให้รู้จักคนมากมายในวงการ แต่ราคารถสปอร์ตที่บริษัทจะเปิดตัวแม้จะยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่การลงทุนจ้างเจียงเซ่อมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทุกคนก็คงจะจินตนาการราคาไว้บ้างแล้ว

นี่ไม่ใช่ไข่ไก่หรือต้นหอมในท้องตลาดที่คนธรรมดาสามารถซื้อได้ แม้ว่าเธอจะเร่งรีบไปเชิญใครมาร่วมงาน แม้พวกเขาจะสามารถเข้างานเปิดตัวที่ ELYSEES จัดขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะมีอำนาจซื้อรถสักคันหนึ่งได้

สำหรับเรื่องนี้ เถาเฉินที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES มานานหลายปี และเป็นผู้มีชื่อเสียงในหัวเซี่ย ได้เปรียบมากกว่าเจียงเซ่ออยู่มาก