581

บทที่ 581 หนทางคับแคบ

คุณกาโรมาคุมการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนผู้กำกับเองก็เคร่งครัดในเรื่องของรายละเอียดมากอยู่แล้ว แต่หลังจากคุณกาโรมาก็ยิ่งเคร่งมากกว่าเดิม

ระหว่างการถ่ายทำ คุณกาโรจะต้องออกจากกรุงโรมเป็นเวลาเกือบสัปดาห์เพราะมีงานต่อ พอกลับมาก็มาคุมการถ่ายทำต่อจนจบ

เวลาการถ่ายทำที่คาดการเอาไว้ในตอนนี้ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ผู้กำกับเก็บทุกรายละเอียดจนถึงขั้นจับผิด นอกจากค่าใช้จ่ายที่มากกว่าที่คาดการเอาไว้เป็นอย่างมากแล้วก็ยังทำให้เจียงเซ่อเสียเวลาอีกด้วย

โชคดีที่เจียงเซ่อถูกบริษัทสั่งให้ ‘พักผ่อน’ เพราะเรื่องแย่งโน้ตเปียโนกับเถาเฉินในงานเลี้ยงการกุศลก่อนหน้านี้ จึงมีเวลาเหลือเยอะมาก เพราะฉะนั้นเมื่อทางบริษัท ELYSEES ขอให้เธอถ่ายใหม่ เธอจึงทำตามได้โดยไม่บ่นสักคำ

บางครั้ง แม้กระทั่งมิเชลล์จากบริษัท ELYSEES ในอิตาลียังเห็นใจเธอ แต่ทุกครั้งที่ผู้กำกับสะบัดมือ และพูดว่า ‘NO GOOD’ เธอกลับทำเพียงแค่เงียบและกลับไปยืนตำแหน่งเดิมของตนเอง เพื่อเตรียมถ่ายอีกครั้ง

สปิริตในการทำงานแบบนี้ของเธอ ทำให้คุณกาโรประทับใจอย่างคาดไม่ถึง การถ่ายทำในช่วงหลัง คุณกาโรไม่ได้ดูเกรงใจและห่างเหินกับเจียงเซ่อเหมือนครั้งแรกที่พบกันอีกต่อไป

แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ท่าทางของคุณกาโรเปลี่ยนไป คือโฆษณาที่เจียงเซ่อถ่ายออกมา

งานช้าแต่ได้งานที่ละเอียด เหตุผลนี้ใช้กับทั้งหัวเซี่ยและต่างชาติ รูปแบบโฆษณานี้ทางบริษัทได้จัดการทีมงานเฉพาะทางมาปรับแก้อย่างละเอียดรอบคอบเป็นเวลาสี่เดือน ความตั้งใจและความรับผิดชอบของทีมถ่ายถึงขั้นให้ความรู้สึกเหมือนหนังโฆษณา

ในสถานการณ์ที่บริษัท ELYSEES ยอมทุ่มเงินเพื่อการตัดต่อในช่วงหลังบวกกับการเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่มีภาพลักษณ์และบุคลิกเหมาะสมกับรถรุ่น leopard ถ้าโฆษณาที่เป็นของ leopard โดยเฉพาะนี้ถูกเปิดตัว คงจะทำให้คนรักรถสปอร์ตจำนวนมากตื่นเต้น

เจียงเซ่อเสร็จจากการถ่ายทำก็เดือนพฤศจิกายนแล้ว

หลังจากเดินเล่นอยู่ในอิตาลีหลายวัน ซื้อของที่จะเอาไปฝากทุกคน เจียงเซ่อจึงเตรียมตัวเดินทางกลับ

“เธอต้องเตรียมใจเอาไว้บ้างนะ”

ก่อนขึ้นเครื่องกลับประเทศ เซี่ยเชาฉวินเน้นย้ำเจียงเซ่อ

“คนจำนวนมากในประเทศอาจจะไม่เป็นมิตรกับเธอมากนัก”

เพราะเจียงเซ่อเสร็จจาการถ่ายโฆษณาของ ELYSEES แล้ว และหลังจากชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยในหัวเซี่ยถกเถียงกันเรื่องที่ ELYSEES เปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์หรือไม่กันอย่างดุเดือดมาเกือบครึ่งปี ในที่สุด ELYSEES ก็ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการ

หน้าเว็บไซต์ของ ELYSEES ในหัวเซี่ยได้พูดถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ ELYSEES ว่าได้เซ็นสัญญากับเจียงเซ่อเป็นเวลาสองปีและเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพียงคนเดียวของ leopard ในหัวเซี่ย

ทันทีที่ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป หน้าเว็บ ELYSEES ก็โดนโจมตีภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง แฟนคลับจำนวนมากของเถาเฉินและเจียงเซ่อทะลักเข้ามาในหน้าหลักของเพจ ความคิดเห็นแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย

นอกจากฝ่ายที่ยังคงไม่เชื่อว่าเจียงเซ่อสามารถรับมือกับรถสปอร์ตหรูของ ELYSEES ได้ ยังมีแฟนคลับของเจียงเซ่อที่เข้ามาปฏิเสธและเอาหลักฐานผลลัพธ์การเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ผ่านมาของเจียงเซ่อออกมายืนยันความสามารถของเธอ

รถสปอร์ตของ ELYSEES ถือได้ว่าเป็นสินค้าที่หรูหราที่แพงที่สุดเท่าที่เจียงเซ่อเคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ตั้งแต่เข้าวงการมา แม้ว่าตอนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนาฬิกาข้อมือ Federer เป็นการบริการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม แต่มูลค่าของรถสปอร์ตมากกว่านาฬิกาข้อมือ Federer เป็นไหนๆ

นอกจากแฟนคลับของเถาเฉิน ผู้คนที่เกาะกระแสจำนวนมากก็ไม่พอใจกับยอดขายของ ELYSEES หลังจากได้เจียงเซ่อไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

ทั้งสองฝ่ายถกเถียงกันอย่างดุเดือด อาจจะเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในสัปดาห์นี้ แล้วก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลงในเวลาอันสั้นนี้ด้วย

“แต่เรื่องราวก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่ไม่ดีทั้งหมดหรอกนะ” พวกเขาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง อีกพักใหญ่กว่าจะได้ขึ้นเครื่อง เจียงเซ่อนั่งอยู่ในห้องรับรองแขก VIP เซี่ยเชาฉวินเอาผ้าปิดตาออกมา ซึ่งหมายความว่าต้องการให้เธอพักผ่อนสักครู่

“เรื่องของเถาเฉินกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว แฟนคลับต่อต้านกันอย่างรุนแรง”

แฟนคลับจำนวนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นออกมาอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดผลลัพธ์ในด้านลบ ตอนนี้ ELYSEES เริ่มเสียหาย ยอดขายของ ELYSEES ลดลง นอกจากทำให้ทางบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษแล้วและยังทำให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ELYSEES ไม่พอใจกับเรื่องนี้ด้วย

“รถของ ELYSEES ไม่ได้เป็นแค่สินค้าแบรนด์ระดับสูงทั่วไป เพราะเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน นอกจากให้ความสำคัญกับการขายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมูลค่าของสินค้า”

เถาเฉินไม่ได้ถูกเอาชื่อออกจากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES สำหรับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ELYSEES แล้ว เธอยังคงเป็นตัวแทนแบรนด์แอมบาสเดอร์ในหัวเซี่ย แค่เธอไม่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพียงคนเดียวอีกต่อไปก็เท่านั้น

ความรักที่แฟนคลับของเถาเฉินมีต่อเธอ กลับกลายเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เถาเฉินไม่น้อย ทำให้มิตรภาพระหว่างเธอและ Piech ที่ประคับประคองมาเกือบสิบปีเกิดสั่นคลอน

“หลายวันก่อน เถาเฉินไปขอโทษ Piech และผู้จัดการในเอเชียของ ELYSEES พยายามจะกอบกู้ความประทับใจที่ ELYSEES มีต่อเธอกลับคืนมา”

บางทีแฟนคลับของเถาเฉินเองก็คงไม่รู้ว่าการที่พวกเขาออกมาปกป้องเถาเฉิน จะสร้างความเดือดร้อนให้เถาเฉินมากถึงเพียงนี้

หลังจากเรื่องนี้ ไม่เพียงแค่จะกระทบต่อการร่วมงานระหว่างเถาเฉินกับ ELYSEES ยิ่งไปกว่านั้นคือ พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ ทำให้แบรนด์ต่างๆ ที่อยากร่วมงานกันเถาเฉินล้มเลิกความคิดนั้นไป

เจียงเซ่อถอนหายใจ รับผ้าปิดตาที่เซี่ยเชาฉวินยื่นให้ แต่ยังไม่ทันใส่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก

เธอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นกลุ่มคนอีกกลุ่มเดินเข้ามาจากประตู ข้างหน้าสุดคือผู้หญิงที่ใส่เสื้อกันหนาวสีขาว แขนข้างหนึ่งมีกระเป๋าคล้องอยู่ อีกข้างถูกหญิงสาวคนหนึ่งคล้องเอาไว้ ตอนที่เห็นเจียงเซ่อ หล่อนอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่นานรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าก็จางหายไป

เธอเอาแว่นกันแดดออกมากระเป๋าอย่างไม่เร่งไม่รีบ พร้อมหันไปสั่งกำชับผู้ช่วยหลายคำ

ผู้ช่วยคนนั้นมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง ใบหน้าแสดงถึงความนับถือ ก่อนจะหันหลังและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“โลกกลมจริงๆ เลย”

คนที่บังเอิญเจอเจียงเซ่อในห้องรับรองก็คือคุณนายและลูกสาวคนโตของโจวเหวยจากอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ สองแม่ลูกนี้เป็นแฟนคลับของเถาเฉิน เธอเป็นผู้ที่เริ่มออกมาต่อต้านรถสปอร์ตแบรนด์ ELYSEES อย่างเปิดเผย หลังจากรู้ว่าเจียงเซ่อเซ็นต์สัญญากับ ELYSEES

หลายเดือนมานี้ เธอยังได้แสดงความคิดเห็นในพื้นที่สาธารณะอย่างเปิดเผยหลายครั้ง คิดว่าการที่ ELYSEES เซ็นสัญญากับเจียงเซ่อ จะทำให้คุณค่าในตัวของ ELYSEES ลดลง ประกาศว่าภายในอีกสองปี ที่เจียงเซ่อติดสัญญากับ ELYSEES เธอ ลูกสาวและสามีจะไม่ซื้อรถของ ELYSEES เด็ดขาด

คุณนายโจวมีฐานะและเป็นที่รู้จักในหัวเซี่ย เป็นแกนนำของคุณนายเศรษฐีจำนวนมาก คำพูดของเธอส่งผลกระทบต่อเพื่อนๆ และหุ้นส่วนทางธุรกิจของเธอ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ครึ่งปีมานี้ยอดขายของ ELYSEES ลดลง

“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนะ”

โม่อานฉีขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบคุณนายโจว พอมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ บรรยากาศของทั้งสองฝ่ายก็ดูตึงเครียดขึ้นมา

ลูกสาวของคุณนายโจวท่าทางดูไม่เป็นมิตรนัก พนักงานกำลังอธิบายให้กับสองแม่ลูกฟังย่างใจเย็น แม้ห้องรับรองจะใหญ่ แต่ข้างในคนไม่เยอะ ดังนั้นจึงเงียบมาก เจียงเซ่อได้ยินลางๆ ว่าคุณนายโจวขอ ‘พักผ่อนเงียบๆ กับลูกสาวโดยลำพังเพื่อรอขึ้นเครื่อง’

พนักงานเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ แต่คนที่สามารถเข้ามาใช้ห้องรับรอง ส่วนมากล้วนไม่ใช่คนที่ควรมีเรื่องด้วย พนักงานลำบากใจ คุณนายโจวกลับดื้อดึงมาก

เจียงเซ่อเผยรอยยิ้มจางๆ และเล่นผ้าปิดตาในมือ คุณนายโจวไม่ยอมเจรจากับพนักงาน เมื่อผู้ช่วยทั้งสองของเธอคุยกับหญิงสาวที่ในห้องรับรอง VIP ครู่ใหญ่แล้วยังไม่เกิดผล หลังจากลังเลครู่หนึ่งจึงเดินตรงเข้ามาหาเจียงเซ่อและโน้มตัวลง

“ขอโทษด้วยนะคะ คุณเจียง”

ผู้ช่วยทั้งสองใส่เสื้อสูทสีดำ ในมือถือกระเป๋าหลายใบ ในนั้นคงจะมีของใช้ส่วนตัวที่มีมูลค่ามหาศาลของคุณนายโจว

“ขอรบกวนเจรจากับคุณหน่อยได้ไหมคะ พอดีห้องรับรองที่อยู่รอบๆ มีคนนั่งอยู่แล้ว ทางโน้นเป็นภรรยาและลูกสาวของคุณโจวเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ รบกวนพวกคุณออกไปหาห้องรับรองอื่นได้หรือเปล่าคะ”

ผู้ช่วยที่เข้ามาพูดน้ำเสียงอ่อนโยน แต่คำพูดที่พูดออกมากลับทำให้เจียงเซ่อรู้สึกอยากจะหัวเราะ โม่อานฉีและผู้ช่วยคนอื่นๆ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ด้วยความคิดที่อยากปกป้องเจียงเซ่อ เฉินซั่นจึงพูดออกมาตรงๆ ว่า

“เรามาก่อน! มีเหตุผลหน่อยสิ ถ้าจะต้องออกไป คนที่ควรจะออกไปก่อนคือพวกเธอไม่ใช่เหรอ”

ผู้ช่วยคนนั้นเผยรอยยิ้ม ทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเฉินซั่น มองแค่เจียงเซ่อและมองข้ามคนอื่นๆ ไป

“ได้ไหมคะ คุณเจียง”

“คงจะไม่ได้”

เจียงเซ่อเงยหน้าขึ้นมองเธอ ผู้ช่วยคนนั้นได้ยินคำพูดของเธอก็อึ้งไป ก่อนจะย้ำอีกครั้งว่า

“ถ้าคุณออกไป เราจะรู้สึกขอบคุณมาก”

“ความจริง ถ้าพวกคุณอยู่เงียบๆ สักพัก และไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของฉัน ฉันจะชอบคุณยิ่งกว่าอีกค่ะ”

เธอพูดถึงตรงนี้ก็พลันใส่ผ้าปิดตา เซี่ยเชาฉวินลุกขึ้นยืน ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้ช่วยอย่างเฉินซั่นทะเลาะกับเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะโดนผู้คนหัวเราะเยาะเท่านั้น

คนที่เดินผ่านหน้าห้อง มีหลายคนที่กลับประเทศก็สังเกตเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าคนหัวเซี่ยหลายคนที่เดินผ่านจำคุณนายโจวที่ยืนอยู่หน้าประตูได้

คุณนายคนนี้เป็นคนดังในนิตยสารเศรษฐกิจ นอกจากธุรกิจส่วนตัวของสามีแล้ว เธอเองก็มีธุรกิจความงามของตนเอง ที่เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก มีทรัพย์สินจำนวนไม่น้อยและมีสาวๆ ติดตามจำนวนมาก

ถ้ารูปถูกเผยแพร่ จะไม่เป็นผลดีกับทั้งเจียงเซ่อและคุณนายโจวแน่

ใบหน้าของเซี่ยเชาฉวินดูเย็นเยียบ ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าจะไม่เจรจาเรื่องนี้ “ถ้าคุณนายโจวไม่ชอบให้ในห้องรับรองมีคนอื่นอยู่ด้วย ดิฉันคิดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณโจวก็ควรจะขยายตัวมากกว่านี้หน่อยนะคะ อย่างน้อยก็เหมาห้องรับรองในสนามบินของทุกประเทศเอาไว้ เพื่อให้ภรรยาใช้โดยเฉพาะ”

คนที่คุ้นเคยกับเซี่ยเชาฉวินล้วนรู้แล้วว่า นี่เป็นท่าทางไม่พอใจของเธอแล้ว

ท่าทางของเธอเทียบไม่ได้กับเฉินซั่น ทันทีที่เปิดปากพูด ก็ทำให้ผู้ช่วยของคุณนายโจวนิ่งไปทันที

รวมทั้งเซี่ยเชาฉวินก็ไม่ใช่ธรรมดา ยังไม่ต้องพูดถึงฐานะของเธอในซื่อจี้หยินเหอ แม้แต่ตัวเธอเองก็มาจากตระกูลชั้นสูง ฐานะไม่ได้น้อยไปกว่าคุณนายโจวเลย

ท่าทีของเซี่ยเชาฉวินทำให้ผู้ช่วยคนนั้นหน้าเสียทันที ใบหน้าแดงก่ำ รีบโค้งตัวลงอย่างทำอะไรไม่ถูก พลันกล่าวคำขอโทษแล้วเดินออกไป

หลังจากเรื่องนี้ พวกของคุณนายโจวเองก็รู้ว่าจะมาเอะอะโวยวายต่อหน้าธารกำนัลไม่ได้ จึงหาที่นั่งเงียบๆ ที่ห่างจากเจียงเซ่อไปไกลมากแล้วนั่งลง

ผู้ช่วยคนนั้นไปแล้ว แต่ความโกรธของเฉินซั่นยังคงไม่จางหายและถึงขั้นโกรธจนเจ็บหน้าอก

“คนแบบไหนกัน!”

โม่อานฉีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหาข้อมูลอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดเบาๆ ว่า

“สองแม่ลูกคู่นี้ถูกเชิญให้ไปชมแฟชั่นโชว์ที่มิลาน หลังจากเสร็จงานก็บินมาที่โรมและจะกลับประเทศวันนี้พอดี ไม่คิดว่าเจียงเซ่อจะมาเจอเข้า ซวยจริงๆ เลย”

เธอเหมือนคิดอะไรออก พลันลุกขึ้น แล้วกระซิบเซี่ยเชาฉวินว่า

“พี่เซี่ย ฉันจะไปสืบข้อมูลตั๋วเครื่องบินของพวกเธอนะคะ”

จากอิตาลีไปหัวเซี่ยไม่ใกล้เลย ถ้าระหว่างทางมีผู้หญิงคนนี้อยู่ในสายตาทุกครั้งที่ลืมตา ก็ถือว่ากระทบต่อจิตใจมากแล้ว

พอได้รับอนุญาตจากเซี่ยเชาฉวิน เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ประมาณครึ่งชั่วโมงเธอก็เดินกลับมา ด้วยสีหน้าย่ำแย่

“เธอเปลี่ยนไฟลท์ไปแล้ว”

การกระทำของคุณนายโจว ทำให้โม่อานฉีโกรธมาก การที่เธอใช้การกระทำมาดูถูกเจียงเซ่อทำให้รู้สึกแย่มากเสียกว่าเข้ามาด่าตรงๆ เสียอีก

“ฉันบอกคนในประเทศแล้ว ว่าให้เฝ้าดูข่าวหลังจากนี้อย่างใกล้ชิด”

การเผชิญหน้าระหว่างคุณนายโจวกับเจียงเซ่อก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างก็เห็น เพื่อไม่ให้ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป โม่อานฉีได้โทรไปบอกผู้ช่วยของเจียงเซ่อที่หัวเซี่ยแล้ว เซี่ยเชาฉวินพยักหน้า

ก่อนกลับประเทศต้องมาเจอกับเรื่องชวนอารมณ์เสียแบบนี้ ทำให้ทีมผู้ช่วยของเจียงเซ่อที่กำลังดีใจเพราะถ่ายทำโฆษณาของ ELYSEES เสร็จต้องขุ่นมัว

พอมาถึงสนามบินหัวเซี่ยก็ถูกนักข่าวจำนวนมากล้อมเอาไว้ สำหรับประเด็นที่ร้อนแรงในตอนนี้ เจียงเซ่อไม่ยอมตอบอะไรมาก

บอดี้การ์ดที่เซี่ยเชาฉวินเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้เข้ามาคุม เจียงเซ่อจึงออกจากวงนักข่าวมาได้

เธอโทรไปรายงานตัวกับเฝิงจงเหลียงและเผยอี้ก่อนเป็นอันดับแรก และโทรไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับตระกูลเผยตามลำดับ

หลังจากปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่ต่างกันโดยชิ้นเชิงและพักผ่อนอยู่สองวัน เจียงเซ่อจึงไปเยี่ยมคุณปู่และเอาของฝากที่ตนเองเอากลับมาให้ผู้ช่วยไปแจกให้ผู้ใหญ่และคนที่มีส่วนร่วมในงาน แล้วตนเองก็โทรบอกตระกูลเผยว่าจะเข้าไป หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ก็เอาของฝากที่จะให้คนตระกูลเผยมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลเผย

คนตระกูลเผยให้ความสำคัญกับมารยาทและต้องมีพิธีรีตองที่พิถีพิถัน

ประสบการณ์การเป็นเฝิงหนานก่อนที่จะมาเกิดใหม่นั้นช่วยเจียงเซ่อได้มาก ทุกคนในบ้านตระกูลเผยเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอที่ใกล้ชิดมากที่สุด ของที่เธอเอากลับมาฝาก ส่วนมากเป็นของที่เธอเลือกเองและมีให้กับทุกคนในบ้านตระกูลเผย

ของขวัญที่คุณย่าเผยได้รับคือรองเท้าหนังที่เธอสั่งทำโดยเฉพาะ ภายนอกอาจจะดูไม่สะดุดตา แต่มาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ที่สำคัญไม่ใช่แค่ราคาเท่านั้นที่ไม่ธรรมดา เพราะรองเท้าที่เธอให้ทำให้คุณย่าเผยรู้ว่าเธอให้ความสำคัญกับตนเอง มิเช่นนั้นจะจำไซส์รองเท้าของเธอแม่นขนาดนี้ได้อย่างไร ความตั้งใจนี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด

และของขวัญที่คุณปู่เผยได้รับก็คือกาน้ำชาจื่อซา มาจากท่านอาจารย์จางหัวยี่ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งในอดีตท่านเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในหัวเซี่ย รูปแบบงดงามประณีต เจียงเซ่อพลางพูดพร้อมรอยยิ้มว่า

“กาน้ำชานี้ใช้ชงชาต้าหงเผาชั้นเลิศมาตลอด ทำให้ดูเงางามเปล่งประกาย อาอี้บอกว่าคุณปู่โปรดปรานการดื่มชาเพื่อสุขภาพ หนูเลยคิดว่ามันเหมาะกับคุณปู่ค่ะ”

พอคุณปู่เผยได้รับก็ยิ้มไม่หุบทันที

เขาในตอนนี้ที่มีพร้อม ทั้งอำนาจ ฐานะและชื่อเสียง แต่ของที่เจียงเซ่อให้กลับถูกใจเขามาก

กาน้ำชานี้เป็นผลงานของบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ตอนนั้นเพราะผลงานชิ้นนี้ทำให้จางหัวยี่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งหัวเซี่ย กาน้ำชาของเขา แม้มีเงินทองก็ยากที่จะได้ครอบครอง

หลังจากเขาเสียชีวิต สิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ จึงมีเพียงชิ้นเดียวในโลก

สิ่งสำคัญคือ กาน้ำชานี้ถูกเก็บเอาไว้หลายปีแล้ว ภายนอกงดงาม ภายในมีคุณค่า เรียบง่ายแต่ก็หรูหรา

กลิ่นน้ำชาที่ส่งกลิ่นหอมออกจากกา เก็บไว้อีกหน่อย ก็ถือเป็นสมบัติตระกูลได้แล้ว คุณปู่เผยยิ่งดูก็ยิ่งชอบ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเซ่อน่ารักน่าเอ็นดู

*冤家路窄 แปลว่า ศัตรูและทางแคบ เปรียบเทียบสำหรับศัตรูที่ไม่อยากเจอเรากลับไปไหนก็เจอเหมือนทางแคบ