579

บทที่ 579 สักหน่อย

หลังจากงานเลี้ยงปิดกล้องหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ เจียงเซ่อก็รีบบินจากซูโจวไปอิตาลีทันที

เมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่เจียงเซ่อยังถ่ายหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ อยู่ เซี่ยเชาฉวินก็ได้รับข่าวจาก ELYSEES แล้วว่า โครงร่างโฆษณาออกมาแล้ว รอเพียงแค่เจียงเซ่อปิดกล้องตอนเดือนกันยายน ก็ต้องเดินทางไปเตรียมตัวถ่ายโฆษณาของ ELYSEES ที่อิตาลีทันที

สำหรับโฆษณาในครั้งนี้ ทั้งเจียงเซ่อและ ELYSEES ต่างก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ตอนที่เจียงเซ่อถ่ายหนัง น้อยมากที่จะออกมาพบปะประชาชนและไม่ติดตามข่าวสาร

ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เธอได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก ตอนนั้นเบาะแสที่หัวเซี่ยจือซวิ่นเผยแพร่ออกมาได้ดึงดูดความสนใจจากคนจำนวนมาก ตอนแรกชาวเน็ตในหัวเซี่ยยังอยู่ในสถานการณ์ที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่ว่า ทั้งสามฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างก็เงียบ ไม่ออกมาชี้แจงและอธิบายความจริง ชาวเน็ตที่มีไหวพริบก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติแล้ว

ตอนนี้ในเพจทางการของบริษัท ELYSEES เต็มไปด้วยคำต่อว่าจากแฟนคลับของเถาเฉิน ที่หนักที่สุด คงจะเป็นการรวมกลุ่มต่อต้าน ELYSEES ของสะใภ้เศรษฐีและกลุ่มคุณนาย

โดยมีภรรยาของโจวเหวยประธานนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจิ่งไท่เป็นแกนนำ โดยประกาศว่าจะต่อต้านบริษัท ELYSEES ที่เปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์ เมื่อตอนที่เธอไปออกงานการกุศลเมื่อครั้งที่แล้ว

ทั้งสองแม่ลูกต่างเป็นแฟนคลับตัวยงของเถาเฉิน เมื่อสิบปีที่แล้ว ELYSEES เข้าตีตลาดหัวเซี่ย และหลังจากเถาเฉินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ นอกจากหลายครั้งที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าภาพลักษณ์ของเถาเฉินเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของ ELYSEES มากที่สุดแล้ว ยังแสดงออกด้วยการกระทำ ก็คือบรรดารถยนต์ที่เก็บสะสมในบ้าน เพราะมีเกือบทุกรุ่นของบริษัท ELYSEES ถือว่าเป็นผู้บริโภคที่สนับสนุนสินคิ้ของแบรนด์ ELYSEES อย่างแท้จริง

ท่ามกลางการนำขบวนของคุณนายโจว ในวงการสังคมกลุ่มสะใภ้เศรษฐีของเมืองหลวงในหัวเซี่ย คนจำนวนไม่น้อยล้วนเคยซื้อรถของ ELYSEES

เพราะอำนาจการซื้อของแฟนคลับของเถาเฉินมีมาก ทำให้หลังจากเข้าสู่หัวเซี่ย จึงทำรายได้สูงขึ้นกว่าร้อยละหกสิบ เพราะฉะนั้นปีที่หกหลังจากเถาเฉินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ บริษัท ELYSEES จึงได้มอบรถให้เธอคันหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญ ตอนนั้นเรื่องนี้จึงสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก

ตอนนี้การต่อต้านของกลุ่มคุณนายโจวและกลุ่มคนในขบวนการที่บริษัท ELYSEES ใช้เจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ ELYSEES เป็นอย่างมาก

สำหรับแบรนด์รถสปอร์ตระดับสูงระดับโลกแล้ว ตอนนี้รถของ ELYSEES ยังคงเป็นตัวแทนของรถสปอร์ตระดับสูง จากการสืบทอดของวัฒนธรรมและช่างฝีมือของแบรนด์ แน่นอนว่าไม่ใช่ราคาที่ประชาชนจะรับมือได้ กลุ่มลูกค้าหลักจึงเป็นกลุ่มคนที่มีฐานะระดับสูง

การรวมกลุ่มต่อต้านของคุณนายโจวและกลุ่มสะใภ้เศรษฐีในพื้นที่หัวเซี่ย ทำให้บริษัท ELYSEES กดดันในระดับหนึ่ง

เพราะเซี่ยเชาฉวินรู้จักกับ Piech จึงเข้าใจสถานการณ์ภายในของบริษัท ELYSEES อยู่บ้าง

ในจำนวนยอดขายของบริษัท ELYSEES มากกว่าร้อยละหกสิบมาจากหัวเซี่ย เพราะฉะนั้น ความคิดเห็นของกลุ่มคุณนายโจวไม่บอกก็รู้ว่ารุนแรงมากเพียงใด

เวลาเพียงไม่กี่เดือน รายได้ของบริษัท ELYSEES ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความจริงการที่บริษัท ELYSEES เปลี่ยนตัวแทนแบรนด์แอมบาสเดอร์ในหัวเซี่ยก็ส่งผลกระทบต่อสินค้าของ ELYSEES เช่นกัน

ตอนนี้ทางแบรนด์มุ่งความสำคัญไปที่โฆษณาของเจียงเซ่อ หวังเพียงแค่ว่าหลังจากเปิดตัวโฆษณา จะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงและทำให้ช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้น

นี่ถือเป็นโอกาสและยังถือเป็นการเดิมพัน

อิทธิพลของเถาเฉินสูงมาก ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยในหัวเซี่ย เธอเหมือนถูกผูกติดกับสินค้าของบริษัท ELYSEES ในใจของกลุ่มสะใภ้เศรษฐีส่วนใหญ่ที่นำทีมด้วยคุณนายโจวจึงรู้สึกว่าเจียงเซ่อเป็นคนมาทีหลัง

ไม่ว่าจะอายุหรือฐานะของเธอ ในสายตาของบรรดาสะใภ้เศรษฐีและคุณนายแล้วยังต่างกับเถาเฉินอยู่มาก

หลายปีมานี้ แม้เจียงเซ่อจะโด่งดังขึ้นมาเพราะหนังจำนวนมาก แต่คุณนายโจวก็ยังคงรู้สึกว่าพื้นฐานของเธอไม่มั่นคง ทั้งภาพลักษณ์ เบื้องหลังครอบครัวก็ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่คุณนายโจวเป็นแฟนคลับของเถาเฉิน จึงต้องแอบเข้าข้างเถาเฉินอยู่แล้ว

ถ้าโฆษณาของเจียงเซ่อถ่ายออกมาได้ไม่ดี หลังเปิดตัวไปแล้วได้รับผลตอบรับที่ไม่ดี ไม่สามารถกอบกู้รายได้ที่ต่ำลงเพราะ ELYSEES เซ็นสัญญาให้เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ได้ ถ้าเช่นนั้น หลังสัญญาสองปีหมดไป รถสปอร์ตของ ELYSEES คงไม่มีทางให้โอกาสเจียงเซ่ออีกแน่

ในขณะเดียวกัน คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ก็จะเปลี่ยนเป็นเถาเฉิน เธอจะใช้การกระทำในการยืนยันคุณค่าในตัวผลงานของตนเอง สินค้าระดับสูงจำนวนมากก็จะเห็นความสำคัญของเธอมากขึ้น

เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรก็เป็นการยืนยันว่าฐานะของเธอคือนักแสดงหญิงอันดับหนึ่งของประเทศ

เมื่อเทียบกันแล้ว ถ้าการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้ของเจียงเซ่อล้มเหลว ถ้าอย่างนั้นสำหรับเธอแล้วมันคือความอับอายขายหน้าครั้งใหญ่

แม้ว่าบุคคลภายนอกจะลือกันว่าตอนนี้เธอมีชื่อเสียงเทียบเท่าเถาเฉิน และตอนที่เซ็นสัญญากับบริษัท บริษัทได้ใช้หุ้นส่วนในการยื้อเธอเอาไว้ แต่ตัวเลขทางการตลาดไม่สามารถปลอมแปลงได้ นี่ต่างหากที่เป็นตัวยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของเธอ ซึ่งเป็นความจริงมากกว่าความคิดเห็นของคนส่วนน้อย

ในขณะเดียวกันถ้าเจียงเซ่อไม่สามารถยืนยันอิทธิพลของตนเอง ทำให้รถสปอร์ต ELYSEES ตัดสินใจผิด ถูกประชาชนเยาะเย้ยก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเจียงเซ่อ เรื่องราวไม่ได้จบลงทันทีหลังจากเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ บทเรียนนี้อาจจะทำให้แบรนด์หรูหลายแบรนด์ที่อยากร่วมงานกับเจียงเซ่อหยุดความคิดนั้นลง

ผลกระทบจะรุนแรงมากแค่ไหน เซี่ยเชาฉวินและเจียงเซ่อต่างก็รู้ดีแก่ใจ

เพราะฉะนั้น สำหรับการถ่ายโฆษณาของ ELYSEES ในครั้งนี้เจียงเซ่อก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ความจริงหลังจากถ่ายหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ เธอมีเวลาเหลือเพื่อพักผ่อนที่ซูโจวหลายวัน แต่เธอยังคงเลือกที่จะออกนอกประเทศก่อนเวลา จะได้มาทำความคุ้นชินกับรถสปอร์ตของ ELYSEES ที่เธอมาเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้

ทันทีที่เจียงเซ่อถึงกรุงโรมก็ติดต่อกับทาง ELYSEES ซึ่งหลังจากพักผ่อนครึ่งวันและจัดเตรียมของเสร็จแล้ว เจียงเซ่อก็ได้รับเชิญไปดูงานที่โรงงานของ ELYSEES ในอิตาลีทันที

ELYSEES จะเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ชื่อ leopard ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดขายอย่างเป็นทางการ ทั้งรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และข้อมูลต่างๆ ก็ยังคงเป็นความลับ เจียงเซ่อจึงถือว่าเป็น ‘แขก’ ที่ได้เห็นเป็นคนแรก

สำหรับรถแข่ง เจียงเซ่อไม่ได้สนใจเหมือนเผยอี้ตอนเด็กๆ นิสัยของเธออยู่ในกรอบมาโดยตลอด เมื่อตอนเป็นเฝิงหนาน ไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถคอยขับรถให้ แต่ก็เคยนั่งรถสปอร์ตของเผยอี้อยู่หลายครั้ง

ความรู้ส่วนมากเกี่ยวกับรถสปอร์ตของเจียงเซ่อมาจากเผยอี้ แต่ทว่า รถสปอร์ตรุ่นใหม่ leopard ที่ ELYSEES เปิดตัว หลังจากเห็นแวบแรกก็ถูกสายตาของเธอดึงดูดในทันที

รถคันสีดำล้วน leopard จอดนิ่งอยู่ในโรงงาน การออกแบบโฉบเฉี่ยว เหมือนเสือที่นอนนิ่งอยู่ในเงามืด งดงามและสง่างาม เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาได้แล้ว

สีดำคลาสสิกราวกับมีชีวิต ทุกก้าวที่เดินล้วนเห็นเงาระยิบระยับที่เหมือนฟื้นจากการหลับใหล เหมือนแสงเงาลื่นไหลไปเรื่อยๆ

“รถ leopard คันนี้เพิ่งจะผลิตเสร็จเมื่อสามเดือนที่แล้ว เป็นสินค้าที่คุณต้องใช้ในการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้”

ผู้แทนของบริษัท ELYSEES ที่รับผิดชอบมาต้อนรับเจียงเซ่อแนะนำพร้อมรอยยิ้ม ในขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยเปิดล็อกรถ เพื่อแนะนำคุณสมบัติพิเศษของ leopard “รถ leopard ที่เปิดตัวในครั้งนี้ มีสีดำ ขาว เหลืองและแดงทั้งสี่สีนี้เป็นหลัก แต่ว่าตอนนี้ทางบริษัทจะเปิดตัวสีดำก่อน”

เหมือนเปรียบกับสีสันที่สดใสแล้ว ความจริงสีคลาสสิกสำหรับรถของบริษัท ELYSEES ก็ยังคงเป็นสีดำ อยู่กับรถมานานหลายปี คุณสมบัติของรถของบริษัท ELYSEES และการทดสอบในด้านต่างๆ ล้วนอยู่ในระดับที่สูงสุด เพียงแค่ความรู้สึกที่สีดำแบบนี้ให้ ไม่ใช่สิ่งที่รถธรรมดาจะทำได้

ยิ่งธรรมดาก็ยิ่งยากที่จะโดดเด่น เจียงเซ่อสามารถจินตนาการได้ว่า หลังจากรถรุ่น leopard เปิดตัว คนรักรถจำนวนมากจะต้องเป็นที่ติดตามแน่

หลังจากเปิดประตูรถ ผู้ดูแลยื่นมือออกมาเชิญเจียงเซ่อให้เข้าไปนั่งด้านในรถ

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างข้างในตัวรถกับรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว นอกจากให้ความสวยงามแล้ว ยังคำนึงความสบายของคนขับหลังจากเข้ามานั่งในรถ ทันทีที่นั่งลงบนเบาะ ให้ความรู้สึกเหมือนร่างกายถูกห่อหุ้มเอาไว้ แม้จะเป็นรถใหม่ที่เพิ่งออกจากโรงงาน แต่ไม่ได้มีกลิ่นเหม็นที่แสบจมูก ตรงหน้าพวงมาลัยมีตราสัญลักษณ์ของบริษัท ELYSEES ทันทีที่สตาร์ตรถก็จะเกิดเสียงเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ที่อยากพุ่งทะยานออกจากกรง

เพราะรายละเอียดของรถยังต้องเก็บเป็นความลับ เจียงเซ่อจึงเพียงแค่ทำความคุ้นเคยเพียงเล็กน้อย ไม่ได้จะลองขับจริงๆ

ELYSEES กำหนดให้รถ leopard เป็นผลงานอีกชิ้นที่มีจำนวนจำกัดของแบรนด์ หลังจากเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ในสถานการณ์ที่รูปลักษณ์ภายนอกและคุณสมบัติพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จนทำลายสถิติ จึงไม่แปลกที่ต้องการเซ็นสัญญากับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ เพื่อเป็นตัวแทนของรถรุ่น leopard

บางทีสิ่งที่ ELYSEES ต้องการจะสื่อ อาจจะเป็นรถสปอร์ตที่พัฒนาขึ้นใหม่และแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ เพื่อเป็นการยืนยันว่ารถสปอร์ต ELYSEES ได้เข้าสู่ยุคใหม่แล้ว

การมาเยี่ยมชมโรงงานของ ELYSEES ในครั้งนี้ คนที่มาด้วย นอกจากตัวแทนที่มาต้อนรับ วิศวกรเครื่องยนต์และพนักงานอีกมากมายแล้ว ยังมีฝ่ายครีเอทีฟของโฆษณาในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเพิ่งจะพบกันครั้งแรก เมื่อได้พูดคุยกับ การร่วมงานในลำดับต่อไปจะต้องราบรื่นอย่างไม่ต้องสงสัย

หลังจากเจียงเซ่อเห็นรถสปอร์ตในใจก็คิดเอาไว้บ้างแล้ว ตอนฝ่ายครีเอทีฟเห็นเจียงเซ่อตัวจริง ก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโฆษณาเล็กน้อย

เมื่อก่อนทีมงานรู้จักเจียงเซ่อผ่านรูปถ่ายและคลิปวิดีโอ พอมาเห็นตัวจริง กลับให้ความรู้สึกอีกแบบ

หลังจากการหารือเพื่อปรับแก้รูปแบบเป็นเวลาสิบวัน ระหว่างนั้น เสื้อผ้าที่ทีมงาน ELYSEES เตรียมไว้ให้เจียงเซ่อได้ถูกส่งมาแล้ว เวลาถ่ายทำจริงๆ ถูกกำหนดให้อยู่ในวันที่หกเดือนตุลาคม คิดว่าใช้ระยะเวลาการถ่ายทำทั้งหมดสามสิบห้าวัน

ฝ่ายบริหารของบริษัท ELYSEES เองก็ให้ความสำคัญกับการถ่ายทำในครั้งนี้เป็นอย่างมาก CEO ของบริษัท ELYSEES อย่างคุณกาโรก็วางภารกิจในมือลง มาถึงอิตาลีก่อนการถ่ายทำจะเริ่มสองวันและคุมงานตลอดการถ่ายทำ

ซึ่งเป็นการให้กำลังใจทีมงานอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะเดียวกันก็ทำให้ทีมงานกดดัน หลายวันมานี้ เจียงเซ่อล้วนกำลังทำความคุ้นเคยกับรถของ ELYSEES และถึงขั้นเคยทดลองขับในบริเวณเล็ก ๆ ของโรงงาน

ใกล้วันถ่ายทำเข้ามาเรื่อยๆ เหล่าผู้ช่วยของเจียงเซ่อล้วนตื่นเต้น เจียงเซ่อกลับรักษาความนิ่งสงบจัดการอารมณ์ของตนเองเพื่อรับมือกับการถ่ายทำในลำดับต่อไป

เวลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คุณกาโรที่คาดว่าจะถึงโรมในต้นเดือนตุลาคม กลับต้องเลื่อนเวลาออกไปเพราะติดงาน ทำให้ตารางเวลาถูกเลื่อนออกไป

ที่เจียงเซ่อถ่ายก่อนหน้านี้คือโฆษณาภาพนิ่ง ตอนหลังจึงจะเป็นโฆษณาแบบวิดีโอ

ด้านการถ่ายทำภาพนิ่ง เจียงเซ่อมีประสบการณ์มากแล้ว หลายปีมานี้นอกจากถ่ายรูปโฆษณาให้สินค้าที่เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แล้ว เธอยังมีประสบการณ์จากการขึ้นปกนิตยสารชื่อดังมากมาย เพราะฉะนั้นการถ่ายภาพในช่วงแรกผ่านไปอย่างรวดเร็วและถ่ายเสร็จเกือบเดือนแล้ว ความยากลำบากอยู่ที่การถ่ายวิดีโอในช่วงหลัง

บริษัท ELYSEES ได้เตรียมการเพื่อถ่ายโฆษณาในครั้งนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว วันถ่ายทำ ถนนได้ถูกปิด ตอนที่เจียงเซ่อนั่งรถไปสถานที่ถ่ายทำ สองข้างทางก็เต็มไปด้วยผู้ที่มาหยุดเพื่อดูการถ่ายทำอยู่แล้ว

รถสปอร์ตของ ELYSEES ไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในหัวเซี่ย ในต่างประเทศก็มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก รถสปอร์ต leopard ที่จอดอยู่ข้างทาง ทำให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างตื่นเต้น

ในห้องแต่งตัวชั่วคราว ช่างแต่งหน้าก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากพูดคุยกันโดยคร่าวๆ ก็เริ่มลงรองพื้นให้เจียงเซ่อก่อนเป็นอันดับแรก

ในระหว่างการเตรียมงาน ผู้ช่วยช่างภาพเอาตารางลำดับการถ่ายทำเข้ามา ท่าทางดูอึดอัด และกำลังคุยกับผู้รับผิดชอบการถ่ายโฆษณาทำภาคสนามในครั้งนี้ ในขณะที่พูดก็มองมาที่เจียงเซ่อหลายที ผู้รับผิดชอบการถ่ายโฆษณาชื่อมิเชลล์ เป็นหญิงสาวที่มีความสามารถในการทำงานเป็นอย่างมาก ตอนนี้ใบหน้าของเธอกลับแสดงความโกรธเคืองออกมา

เจียงเซ่อคิดทบทวนครู่หนึ่ง จึงส่งสัญญาณให้โม่อานฉีเข้าไปถามว่างานในวันนี้มีเรื่องไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

ตอนที่โม่อานฉีเดินเข้าไป มิเชลล์พยายามควบคุมอารมณ์ จากนั้นก็เม้มปาก ยกมือทั้งสองขึ้นลูบผมทีหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ

“ล่ามทั้งสองคนที่จ้างมา คนหนึ่งทางบ้านมีธุระด่วน ยังไม่สามารถมาได้ อีกคนเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยระหว่างทาง ทำให้ไม่สามารถทำร่วมงานถ่ายทำโฆษณาในครั้งนี้ได้”

เธอเลียริมฝีปากหลายที ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ และฝืนรอยยิ้มออกมา

“แต่ฉันติดต่อทางบริษัทแล้ว ทางบริษัทได้จัดการล่ามเอาไว้ เวลามากที่สุดหนึ่งชั่วโมงจึงจะถึงที่นี่”

วันนี้เป็นการเริ่มถ่ายทำครั้งแรก แต่ต้องเสียเวลาเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ทำให้เธอยากที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาได้ โม่อานฉีได้ข่าวว่าคุณกาโร CEO ของ ELYSEES จะมาถึงกรุงโรมเย็นนี้ แต่ตารางงานในวันนี้ของ CEO ท่านนี้ไม่ต้องมาดูการถ่ายทำโฆษณาภาคสนาม

แต่แม้คุณกาโรจะไม่มา เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ทำให้เสียอารมณ์จริงๆ ถ้าตัวแทนในบริษัทได้ยินเรื่องแบบนี้จะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน

หลังจากโม่อานฉีฟังเธอพูดจบ จึงถามว่า

“ล่ามหรือคะ”

“ใช่ค่ะ!” มิเชลล์พยักหน้า

“เพราะทีมงานส่วนมากในทีมเป็นคนอิตาลี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการสื่อสารที่อาจจะเกิดขึ้น ทางบริษัทจึงเตรียมล่ามเอาไว้สองคน”

ตอนแรกที่เตรียมสองคนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ไม่คาดฝัน แต่ไม่คิดว่าทั้งสองจะมีปัญหาพร้อมกัน ทำให้ต้องหาล่ามอย่างเร่งด่วน

ตอนที่เธอพูด ได้ชี้ไปที่ผู้ช่วยช่างภาพที่อยู่อีกข้าง ชายหนุ่มหล่อเหลาคนนั้นไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร จึงโบกมือตอบ

“ถ้าทีมงานเป็นชาวอิตาลี ฉันคิดว่าไม่มีล่ามก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ” ตอนแรกโม่อานฉีคิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น แต่พอได้ยินคำพูดแบบนี้ ก็อดยิ้มไม่ได้

“ก่อนหน้านี้เจียงเซ่อเคยร่วมงานกับเชี่ยซ่าเหลยผู้กับชาวอิตาลี ตอนถ่ายทำหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Chrit’ ได้ไปเรียนภาษาอิตาลีอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันคิดว่าการสื่อสารพื้นฐานไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ”

พวกคำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับรถ เจียงเซ่อก็ได้ทบทวนหลังจากมาถึงกรุงโรมแล้ว ระหว่างการถ่ายทำความจริงแล้วไม่ต้องมีล่ามก็ได้

เพียงแต่ว่าคนของบริษัท ELYSEES ไม่รู้ หลังจากเจียงเซ่อมาที่อิตาลีตอนที่ทุกคนพูดคุยกับเธอ ต่างก็หาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมาสื่อสารกับเธอเท่านั้น พอมิเชลล์ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากโม่อานฉี ก็ถามอย่างเหลือเชื่อว่า

“จริงเหรอคะ”

“จริงค่ะ”

โม่อานฉีรับคำ มิเชลล์ทั้งเชื่อและไม่เชื่อในขณะเดียวกัน จึงส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยช่างภาพไปลองคุยกับเจียงเซ่อก่อนการถ่ายทำ

ชายหนุ่มคนนั้นยังคงสงสัย แต่ก็ลองทักทายกับเจียงเซ่อ แล้วก็รับได้การตอบกลับจากเจียงเซ่ออย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่เพียงแค่เขาที่โล่งอก แม้แต่ใบหน้าของมิเชลล์ก็เผยรอยยิ้มออกมา