webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

498

บทที่ 498 สนามบิน

คืนนี้เฝิงจงเหลียงได้รับข้อความที่เหนือความคาดหมาย อารมณ์จึงดีเป็นพิเศษ ถึงขึ้นที่เปลวเพลิงที่ถูกจุดประกายขึ้นมาเพราะสิ่งที่เสี่ยวหลิวบอกคนตระกูลเฝิงในฮ่องกงก็ดับไปสิ้น เขาลุกขึ้นมาสั่งเสี่ยวหลิวซึ่งน้อยครั้งจะทำเช่นนี้

“ไปเทเหล้าโสมมาให้ฉันสักแก้ว”

ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้ม แม้เสี่ยวหลิวจะไม่รู้ว่าเขาดูอะไร แต่เป็นข้อความจากเจียงเซ่อ เพียงข้อความเดียวก็สามารถทำให้คุณท่านยิ้มได้ขนาดนี้ เสี่ยวหลิวจึงอดคิดไม่ได้ว่า ก่อนหน้านี้ตนเองผิดไปแล้วจริงๆ

เฝิงจงเหลียงชอบจียงเซ่อจริงๆ เขายอมแหกกฎที่ตนเองวางไว้มากมายเพราะเจียงเซ่อ

ไปดูหนังในโรงหนังเป็นครั้งแรก ดูหนังที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเป็นครั้งแรก และกลับมายังคงพูดถึงด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็ไปดูหนังในโรงอีกหลายครั้ง นอกจากนั้นยังย้อนดูหนังเรื่อง 'The Occasion of Beijing' ที่เจียงเซ่อแสดงก่อนหน้านี้อีก เหมือนเป็นแฟนคลับตัวยงของเจียงเซ่อ ที่ติดตามข่าวของเจียงเซ่อในอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดและดูมีความสุขกับมันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางทีดึกๆ ดื่นๆ ก็ยังไม่ยอมนอน

ตอนแรก คืนนี้เฝิงจงเหลียงโมโหเพราะตนเองทำอะไรไม่ปรึกษา แต่ความโกรธกลับดับมอดไปหมดเพราะข้อความเดียวจากเจียงเซ่อ

ชอบเจียงเซ่อจนถึงขั้นที่แม้รู้ดีว่าพ่อของเธอคือเจียงจื้อหยวนคนที่เคยลักพาตัวและทำร้ายเฝิงหนานในตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความชอบนี้น้อยลงเลย

หากตนเองไปขอร้องเจียงเซ่อให้ช่วยพูดให้ เฝิงจงเหลียงก็จะเปลี่ยนใจไม่ส่งตนเองกลับฮ่องกงใช่หรือไม่

คิดได้แบบนี้ เสี่ยวหลิวก็ดีใจจนควบคุมตนเองไม่ได้

เขาอยู่กับเฝิงจงเหลียงมาสิบยี่สิบปีแล้ว ถ้าให้เขาไปจากเฝิงจงเหลียงเขาไม่ไว้ใจจริงๆ คุณท่านๆ นี้นิสัยดื้อรั้น และไม่ใช่คนที่สนิทกับใครง่ายๆ สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง มีโรคประจำตัว ยาที่ต้องกินในแต่ละวันก็เยอะมากพอควร

เสี่ยวหลิวเป็นห่วงว่าคนอื่นจะดูแลเขาไม่ดี กลัวว่าคนอื่นไม่รู้นิสัยของเขา จนต้องออกไปเพราะอดทนเขาไม่ได้

เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว และรีบไปเทเหล้าให้เฝิงจงเหลียง

วันหยุดของเจียงเซ่อมีเพียงสามวัน เวลาของเผยอี้เองก็มีจำกัด ทริปบอร์โดในครั้งนี้จึงสั้นมาก แม้เจียงเซ่อจะหลงรักชีวิตที่นี่ แต่หลังจากวันหยุด เธอกลับทำให้ตนเองกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วและขึ้นเครื่องเพื่อกลับประเทศพร้อมเผยอี้

ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัวที่สนามบินตี้ตู นักข่าวที่แฝงตัวอยู่ในสนามบินก็รู้ตัวทันที

หลังจากออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองก็มีคนจับจ้องเจียงเซ่อทันที ตอนที่เธออยู่กับเผยอี้ รูปลักษณ์ภายนอกดูโดดเด่นมาก ผมยาวของเธอม้วนขึ้นบนศีรษะ ใส่เสื้อสายเดี่ยวแนบเนื้อ คลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำตัวบาง ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนขาเดฟจากแบรนด์ Adeele เผยให้เห็นขาอันเรียวยาวสวยอย่างไม่ปกปิด

เจียงเซ่อไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวให้โดดเด่น แต่เมื่อเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน กลับยังคงทำให้ทุกคนจำได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นอยู่ดี

เธอกับเผยอี้จับมือกัน ทั้งสองไม่ได้คุยกับมากนัก แต่ความสนิทสนมแบบนั้นกลับเห็นได้ชัดตั้งแต่แวบแรกที่เห็น

นักข่าวที่แฝงตัวอยู่ในสนามบินจำเผยอี้ได้ในทันที ตอนนั้นเขาออกสื่อเป็นครั้งแรกในฐานะคนรักลับๆ ของเจียงเซ่อ และเคยสร้างความฮือฮามาแล้ว ผู้รับผิดชอบของแต่ละสำนักข่าวใหญ่ๆ ล้วนถูกกระทรวงวัฒนธรรมสอบสวน รูปที่ขึ้นหน้าหนึ่งในตอนแรกถูกลบทั้งหมด เป็นการยืนยันว่าฐานะของคนรักของเจียงเซ่อไม่ธรรมดา

อวี๋จือหลินนักข่าวจากสำนักข่าวหัวเซี่ยจือซวิ่นก็อยู่ท่ามกลางผู้คน วินาทีที่เห็นเจียงเซ่อ เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสะกิดเพื่อนร่วมงาน เพื่อส่งสัญญาณให้มองไปทางเจียงเซ่อ

ช่วงนี้ที่หัวเซี่ยเจียงเซ่อโด่งดังมาก รายได้ของหนังเรื่อง ‘Evil’ สูงขึ้นเรื่อยๆ และเจียงเซ่อก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขา ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ ในเทศกาลหนังฝรั่งเศสเหมือนนักแสดงแถวหน้าอย่างเถาเฉิน เรื่องนี้ได้ทำให้ผู้ชมหัวเซี่ยจำนวนไม่น้อยตื่นเต้นมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่า เธอยังไม่กลับประเทศเสียที ข้อมูลของทางซื่อจี้หยินเหอ บอกว่างานที่ฝรั่งเศสของเธอยังไม่เสร็จ เร็วๆ นี้จึงยังไม่สามารถกลับมาโปรโมทหนังสือ ‘Evil’ ในประเทศได้ ตอนนี้เธอกลับประเทศมาอย่างเงียบๆ และไร้เงาผู้จัดการ หากเป็นข่าว แฟนคลับก็จะตื่นตระหนกกันอีก

อวี๋จือหลินเองก็เคยดูหนังเรื่อง ‘Evil’ และกำลังเป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้เจียงเซ่อคนหนึ่ง เธอจำเผยอี้ได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น จำค่ำคืนที่เปียโน Steinway จัดงานครบรอบได้ คนที่ไปร่วมงานพร้อมกับเจียงเซ่อน่าจะเป็นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้

เธอแอบยกมือขึ้นมา เพื่อนร่วมงานเห็นการกระทำของเธอ จึงรีบห้ามเธอ

“จือหลิน อย่าถ่าย”

เพื่อนร่วมงานของเธอก็ดูออกว่าเป็นเผยอี้ เบื้องหลังของคนๆ นี้ไม่ธรรมดา รูปก็ออกสื่อไม่ได้เช่นกัน หากถ่ายกลับไป บางทีอาจจะไม่ใช่แค่ได้ผลงาน แต่ยังโดนด่าอีกด้วย

อีกอย่างที่ทั้งสองมาที่นี่ก็ไม่ใช่เพราะเจียงเซ่อและเผยอี้ ทั้งสองไม่ได้เป็นนักข่าวบันเทิง แต่มีนักข่าวเกี่ยวกับดนตรีและศิลปะ วันนี้เพราะรู้ว่ามีวงดนตรีจากนอร์เวย์จะมาที่ตี้ตู แล้วก็จะจัดการแสดงเป็นเวลาสิบสองวัน จึงมารอรับ แต่ว่า เพราะเครื่องจากนอร์เวย์ดีเลย์ จึงทำให้ทั้งสองมีโอกาสได้เจอเผยอี้และเจียงเซ่อ

“ไม่เป็นไร ฉันแค่แอบถ่ายเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่เอาไปออกสื่อคงไม่เป็นไรหรอก”

อวี๋จือหลินพูดด้วยความตื่นเต้น และถ่ายรูปเจียงเซ่อและเผยอี้เอาไว้สองรูป ก่อนจะเอามาชื่นชมอย่างควบคุมตนเองไม่ได้

แม้จะเป็นการแอบถ่าย แต่ในรูปเจียงเซ่อยังคงเป็นดั่งเทพธิดา ใบหน้าดูประณีต ความงดงามไม่น้อยลงเลย

แต่ว่า เผยอี้ที่อยู่ข้างๆ กลับได้เปรียบในเรื่องความโดดเด่น สายตาของอวี๋จือหลินโฟกัสไปที่มือที่จับกันแน่นของทั้งคู่ เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง จึงอุทาน ‘อืม’ ทีหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะขยายรูปให้ใหญ่ขึ้น ก่อนจะเห็นว่าบนนิ้วมือของทั้งสองที่จับกันแน่น เหมือนมีแหวนสวมอยู่

การค้นพบนี้ ทำให้เธอตื่นเต้นมาก เธออดไม่ได้ที่จะเอาโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนร่วมการที่อยู่ข้างๆ ดูอ

“เธอ เธอดูสิ นี่ใช่แหวนไหม”

เธอขยายรูปเข้าไปมากกว่าเดิม เพราะเป็นภาพซูมจึงไม่ชัดอยู่แล้ว แต่ก็เห็นอย่างเลือนรางว่า บนนิ้วของเจียงเซ่อเหมือนสวมอะไรบางอย่างไว้

เพื่อนร่วมงานมองแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า อวี๋จือหลินตะลึง

“เธอแต่งงานแล้วหรือ”

แต่ว่า ในรูปไม่ค่อยชัด เธอค้างคาใจมากและหันมองคู่รักที่จับมือกันในบริเวณที่ไกลออกไป เสียดายที่ทั้งสองจูบมือกันพลันหยอกล้อกันไปด้วยและเดินไวมาก ราวกับไม่สนใจนักข่าวและแฟนคลับที่แอบมองดูอยู่ในที่มืดเลยแม้แต่น้อย เพียงครู่หนึ่งก็เดินห่างไปไกลมากแล้ว เห็นไม่ชัดว่าสวมแหวนอยู่จริงๆ หรือเปล่า

“ไม่รู้” เพื่อนร่วมงานส่ายหน้า และเกิดสงสัยขึ้นมา

“แต่ว่าดาราดังอย่างเจียงเซ่อ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานจริงๆ ก็คงไม่เปิดเผย”

อวี๋จือหลินกัดฟัน อยู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรออก พลันตบไหล่เพื่อร่วมงานหลายที

“เธอ เฝ้าอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ฉันคิดว่าคงอีกสักพักกว่าวงดนตรีจะมา ฉันจะลองไปถามดู”

เธอพูดจบ ก็วิ่งเข้าไปหาคู่ของเจียงเซ่อ เพื่อนร่วมงานตกใจกับการกระทำของเธอ กำลังจะยื่นมือออกไปห้าม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอวิ่งไปอยู่ตรงหน้าเจียงเซ่อแล้ว และไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหนไปขวางเจียงเซ่อเอาไว้

“ไฮ เซ่อเซ่อ” อวี๋จือหลินวิ่งจนเหนื่อยหอบ และหยุดตรงหน้าเจียงเซ่อและเผยอี้ ต่อหน้าเจียงเซ่อ เผยอี้ไม่ได้โมโห แต่สำหรับผู้หญิงที่เข้ามารบกวนเวลาส่วนตัวของทั้งสองอย่างเสียมารยาทเขากลับไม่ชอบใจนัก