491

บทที่ 491 ความรู้สึก

หลังจากเจียงเซ่อแต่งหน้าเสร็จแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นดีไม่น้อย ภาพแรกๆ ที่เริ่มถ่ายก็เป็นไปตามรูปแบบของโฆษณานาฬิกาข้อมือ Federer ที่เคยมีมา

แต่ทว่าผู้ดูแลคนนี้ยิ่งดูกลับยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ภาพถ่ายเหล่านี้ไม่แตกต่างจากภาพโฆษณาที่ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกัน นั่นคือใบหน้าของนางแบบเท่านั้น

ครั้งนี้ ที่บริษัท Federer ยอมใช้ดาราของหัวเซี่ยเพื่อที่จะตีตลาดหัวเซี่ย แต่โฆษณาถ่ายออกมาได้แค่นี้ ผู้ดูแลท่านนี้จึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างเหลืออด

“ฉันไม่รู้ว่าความหมายในการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้อยู่ที่ไหน”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนคิดตาม แล้วก็มีคนรวบรวมความกล้าและพูดว่า

“มิสเตอร์ครับ ก่อนหน้านี้เราเคยพิจารณาว่าจะให้สาวหัวเซี่ยถ่ายในชุดกี่เพ้า แต่สุดท้ายที่ล้มเลิกความคิดนี้ เพราะมันเป็นศิลปะอันคลาสสิคของหัวเซี่ย ไม่เหมาะกับรูปแบบของ ‘Prince’”

ผู้รับผิดชอบออกแบบโฆษณานี้ เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็หยิบรูปวาดของเจียงเซ่อในแฟ้มข้อมูลออกมารูปหนึ่ง ในรูปเธอสวมชุดกี่เพ้าและนาฬิกาข้อมูลคอลเลคชั่นใหม่ ‘Prince’ จาก Federer ซึ่งรูปแบบมันเข้ากันไม่ได้จริงๆ

“เราเคยเห็นภาพของเธอใน ‘The Occasion of Beiping' และไปสืบมาแล้ว การแต่งกายของเธอได้รับคำชื่นชมจากหัวเซี่ยเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับสื่อยุโรปได้ด้วย” ผู้รับผิดชอบออกแบบโฆษณาพูดถึงตรงนี้ก็พลันพยักหน้า แล้วหยิบรูปออกมาอีกหลายรูป

“แต่ลองมาหลายครั้งแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับ ‘Prince’”

ระหว่างที่พูดก็ยื่นภาพร่างมาอีกหลายรูป บรรดารูปเหล่านั้น นาฬิกาไม่ค่อยเข้ากับรูปแบบนี้ เพราะฉะนั้น หลังจากผ่านการประชุม ท้ายที่สุด การที่เจียงเซ่อจะสวมชุดกี่เพ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของหัวเซี่ย ก็ถูกยกเลิกไป

การประชุมในครั้งนี้ คงยังไม่จบลงเร็วๆ นี้ สิ่งที่เจ้านายไม่พอใจ ไม่ใช่เจียงเซ่อ แต่เป็นรูปแบบของโฆษณา ปัญหาแบบนี้เป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ ทุกคนล้วนหน้าเสีย ผู้ดูแลท่านนี้ของ Federer กลับหันไปมองที่เจียงเซ่อ

เธอเอนตัวลงบนโต๊ะด้วยท่าทางดูเกียจคร้าน เพราะใส่รองเท้าส้นสูงมาทั้งวัน เธอยกขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อให้ขาของตนเองได้พัก

ท่าทางไม่สง่าแบบนี้ กลับไม่ดูไม่เหมาะสมแต่อย่างใด ในทางกลับกัน เหมือนเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผล

แอร์ในสตูดิโอเย็นมาก ผู้ช่วยของเธอได้เอาผ้าคลุมสีขาวมาคลุมให้เธอ ผมที่อยู่กลางหลัง เพราะท่าที่เอนตัวลงกับโต๊ะของเธอในตอนนี้ ทำให้ผมต้องรวบมารวมอยู่ข้างเดียวกันและกระจายลงบนโต๊ะทับผ้าคลุมเอาไว้

ตอนที่ไม่ได้อยู่ในเวลางาน ใบหน้าของเธอไม่ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนตอนอยู่ตรงหน้าช่างภาพ ท่าทางดูเย็นชา สายตาแนบนิ่ง มือที่ลูบนาฬิกาไปมา ราวกับเป็นการเล่นของเล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

“แบบนี้ก็ดี”

ไม่ได้มีการแต่งเต็ม ไม่ได้ดูสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ได้พยุงนาฬิกาเหมือนเป็นสมบัติอันล้ำค่าเหมือนการถ่ายทำในตอนแรก เพียงแค่ใส่ไว้บนข้อมือ ยิ่งทำให้ดูสมจริงและน่าประทับใจมากกว่า

ตอนที่ปลายนิ้วของเธอวางอยู่บนนาฬิกา ท่าทางสงบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึก พร้อมทั้งความเย็นชาและเคร่งขรึม

“เอาแบบนี้!”

เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น

แม้นาฬิกาจะแพงเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือของมนุษย์ ไม่ใช่ของวิเศษที่ต้องยกขึ้นสูง

ความสง่างามไม่ได้ขึ้นอยู่ในเสื้อผ้าที่งดงาม สายตาอันเย่อหยิ่งหรือท่าที่โพสออกมา

รูปแบบที่แตกต่างจากดารายุโรป ไม่จำเป็นต้องเป็นกี่เพ้า ยังมีอีกหลายวิธีในการนำเสนอ ความหรูหราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเท่านั้น บางทีท่าที่โพสก็สามารถทำให้สมบูรณ์แบบได้เกินบรรยาย

ผู้เข้าร่วมประชุมขนาดย่อมหันไปมองเจียงเซ่อตามคำพูดของผู้ดูแลท่านนี้ เธอพิงอยู่ข้างโต๊ะ ส่วนบนของร่างกายเอนเข้าหาโต๊ะ มือพยุงร่างของตนเองเอาไว้ นาฬิกาข้อมือคล้องอยู่บนปลายนิ้วของเธอ ต่างหูก้อยลงมา เธอก้มหน้าลงมองนาฬิกาข้อมือ ผ้าพันคอหลุดลงมาอยู่ตรงแขน เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าอันได้รูป และท่าทางที่ดูผ่อนคลาย

เธอคุยอยู่กับผู้ช่วย ผมเงาดำของเธอถูกรวบมาไว้ข้างเดียว ราวกับสิ่งที่อยู่ในมือไม่ใช่นาฬิกา Federer ที่ราคาเกือบเจ็ดแสนหยวนและเป็นนาฬิกาที่มีเงินก็ยังยากที่จะได้ครอบครองเพราะมีจำนวนจำกัด แต่เหมือนเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้มีค่าอะไร

ท่าโพสแบบนี้แตกต่างไปจากโฆษณาตัวอื่นๆ ของ Federer แต่ช่างภาพก็ต้องยอมรับเลยว่า ภาพนี้ทำให้คนไม่สามารถละสายตาไปได้จริงๆ

ไม่ได้จงใจโพสท่าให้ดูเจ้าเสน่ห์ ถึงขั้นที่เธอไม่ได้ยิ้มแย้มเพื่อเอาใจผู้ชม เรียบๆ นิ่งๆ แต่กลับสามารถดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้อย่างง่ายดาย

นักแสดงหญิงจากหัวเซี่ยคนนี้ ราวกับมีพรสวรรค์อันโดดเด่นบางอย่าง ทุกอิริยาบถ ทุกรอยยิ้มล้วนมีเสน่ห์ชวนมอง

เมื่อช่างภาพเห็นฉากนี้ก็อยากลองถ่ายมาก เขายืนขึ้น แล้วผู้ดูแล Federer ก็เห็นว่าเขากลับเข้าที่ของตนเองไปด้วยความตื่นเต้น

โม่อานฉีกำลังคุยกับเจียงเซ่อ ตอนแรกคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้ในการให้เธอได้พักผ่อนสักครู่หนึ่ง กำลังจะถามเจียงเซ่อว่ากินอะไรหน่อยไหม ก่อนจะถ่ายทำต่อ แต่คิดไม่ถึง ว่าตรงหางตาจะเห็นใครคนหนึ่งมุ่งหน้าเข้ามาหาตนเองและทำท่าให้เธอถอยห่างออกไป

ช่างไฟเคลื่อนอุปกรณ์ไปอย่างไร้พิรุธ ช่างภาพลองถ่ายก่อนสองรูปเพื่อหาอารมณ์

เจียงเซ่อเป็นคนความรู้สึกไวขนาดนั้น จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคนกำลังถ่ายตัวเองอยู่ แต่ไม่มีคนสั่งให้เธอโพสท่า ถึงขั้นที่ช่างภาพไม่สั่งว่าเธอต้องแสดงอารมณ์ไหน เห็นได้ชัดว่าอยากให้เธอถ่ายตามที่ตนเองต้องการอย่างผ่อนคลาย

เธอรู้ตัวและรีบทำให้ร่างกายดูผ่อนคลายกว่าเดิม ยกนาฬิกาข้อมือให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ช่างภาพถ่ายได้ง่ายขึ้น

ตอนที่ผู้ดูแลบริษัท Federer เห็นภาพนี้ ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มทันที แอบชื่นชอบความฉลาดของผู้หญิงคนนี้

ใต้แสงไฟ ผิวของเธอขาวเรียบเนียน ท่าทางสุขุม แม้ว่าผ้าพันคอจะหลุดลุ่ยก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะจัดมัน ดูเรียบง่ายแต่แฝงความหรูหรา ซึ่งมันดีกว่าท่าโพสก่อนหน้านี้มาก

เสียงชัดเตอร์ ‘แชะ แชะ’ ดังไม่หยุด ครั้งนี้ผู้ดูแลของบริษัท Federer ไม่เพียงแค่ไม่ขมวดคิ้ว แต่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

กระเป๋าของเจียงเซ่ออยู่กับเธอ ข้างในมีเสียงสั่นจากโทรศัพท์ เธอเปิดกระเป๋าแวบหนึ่ง นี่เป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของเจียงเซ่อ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน เซี่ยเชาฉวินจึงไม่รับ

โทรศัพท์สั่นครู่หนึ่ง ไม่นานก็เงียบไป

หลังจากที่ผู้ดูแลเข้ามาขัดจังหวะการถ่ายทำของเจียงเซ่อ ทุกอย่างก็ราบรื่นในเวลาอันสั้น ประมาณสี่ทุ่มกว่า ในที่สุดงานในวันนี้ก็ถ่ายทำเสร็จ

สำหรับการทำงานในช่วงหลังของวันนี้ ผู้ดูแลบริษัท Federer พอใจมาก รวมทั้งการประพฤติตัวที่ดีของเจียงเซ่อในวันนี้ ชนะใจผู้บริหารระดับสูงที่ชื่อเวร์เนอร์ท่านนี้ได้สำเร็จ หลังจากเสร็จงานแล้ว ถึงขั้นที่แลกช่องทางการติดต่อกับเจียงเซ่อ และชื่นชมการถ่ายทำของเธอในวันนี้อย่างไม่ขาดปาก

หลังจากเจียงเซ่อเสร็จจากงานและกลับไปถึงโรงแรมก็เป็นเวลาเกือบตีสอง เมื่อเธอถอดรองเท้าออกก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่

เธอใส่รองเท้าส้นสูงมาทั้งวัน ตอนนี้ทั้งส้นเท้าและนิ้วเท้าล้วนถลอกและมีคราบเลือดติดอยู่

โม่อานฉีทำแผลให้เธอ เซี่ยเชาฉวินจึงบอกเจียงเซ่อว่า

“ตอนที่เธอทำงาน มีคนโทรมา”

คนที่รู้เบอร์มือถือส่วนตัวของเจียงเซ่อมีไม่มากนัก เธออดกลั้นต่อความเหน็ดเหนื่อย ยื่นมือไปรับกระเป๋าที่เซี่ยเชาฉวินยื่นเข้ามา ในโทรศัพท์สายที่ไม่ได้รับเป็นสายจากเผยอี้ เมื่อหกชั่วโมงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ที่ฝรั่งเศสตีหนึ่งกว่าแล้ว ในประเทศก็คงจะเช้าแล้ว เธอจึงโทรกลับอย่างไม่ลังเล