บทที่ 479 เชอรีน
ตารางงานที่ฝรั่งเศสของเชี่ยซ่าเหลยแน่นมาก คาดว่าจะอยู่ที่นี่ไม่นาน เวลาแคสติ้งที่เขาส่งมาคือช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้
บทของ ‘เชอรีน’ ใน ‘นักโทษ’ ที่เขายอมให้เจียงเซ่อไปแคสติ้ง ปรากฏตัวเพียงแค่ตอนเริ่มเรื่องเท่านั้น ถือเป็นตัวละครเล็กๆ ที่เป็นปมของเรื่อง แต่ว่าหนังเรื่อง ‘นักโทษ’ กำกับโดยเชี่ยซ่าเหลย หากในอนาคตเจียงเซ่อได้แสดงจริงๆ ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อหน้าที่การงานของเธอจะต้องมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะฉะนั้น หลังจากเจียงเซ่อกลับจากงานเลี้ยงการกุศลมาถึงที่โรงแรม ก็ได้เอาต้นฉบับของ ‘นักโทษ’ ออกมาอ่านอีกรอบ
นิยายเล่มนี้ เธออ่านมาหลายรอบมากๆ รายละเอียดในเรื่องเจียงเซ่อแทบจะท่องจากหลังมาหน้าได้อย่างคล่องแคล่วได้เลยด้วยซ้ำ
เรื่องราวของตัวละครหลักในเรื่องเธอก็จำได้เป็นอย่างดี แต่เจียงเซ่อก็อ่านมันตั้งแต่ต้นจนจบอีกหนึ่งรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอะไรผิดพลาดและจดฉากที่มี ‘เชอรีน’ เอาไว้ เตรียมศึกษาก่อนการแคสติ้ง
เชี่ยซ่าเหลยไม่ได้เอาบทหนังให้เธอ แต่เจียงเซ่อคิดว่า ด้วยความรักที่เขามีต่อ ‘นักโทษ’ มีความเป็นไปได้ไม่มากนักที่จะแก้ไขบทเสียใหม่ เค้าโครงและตัวละครส่วนใหญ่น่าจะเหมือนในบทประพันธ์เดิม
โม่อานฉีขนปากกาและกระดาษมาให้เจียงเซ่อ เพื่อให้เธอสะดวกในการจด เซี่ยเชาฉวินยังคงกำลังติดต่อกับคนในบริษัท เพื่อตรวจสอบคำวิจารณ์หลังจากที่ ‘Evil’ เข้าฉาย
ตอนนี้ที่หัวเซี่ยจะตีสามแล้ว ผู้ชมที่ดู ‘Evil’ รอบปฐมทัศน์จบ เริ่มวิจารณ์ลงในอินเทอร์เน็ต
ใน IMDB คะแนนของ ‘Evil’ ได้มากถึงเก้าสิบห้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีคนเสนอความคิดเห็นมากถึงสามหมื่นคน
ไม่จำเป็นต้องบอก ก็คงจะรู้ว่าสถานการณ์หลังหนังเข้าฉายเป็นอย่างไร ผู้ที่เข้ามาให้คะแนนจะต้องมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคะแนนจะต่ำลงเล็กน้อยเพราะผู้ที่เข้ามาประเมินเพิ่มมากขึ้น แต่จากสถิติ คงจะต้องมากกว่าเก้าสิบ ซึ่งถือเป็นมาตฐานที่สูงมากแล้ว
ใน IMDB นักวิจารณ์หนังจำนวนมากที่ดูหนังรอบปฐมทัศน์จบแล้วต่างก็เริ่มโพสต์
นักวิจารณ์หานรุ่ย : หนังตลอดทั้งเรื่องผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่ติดขัด การแปลงโฉมของหลิวเย่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฉากที่เผชิญหน้ากับจางยวี่ฉินที่แสดงโดยเจียงเซ่อเป็นครั้งแรกชวนตื่นเต้นจนขนลุก จำได้ติดตาเลยทีเดียว หลังจากดูจบแล้ว ถึงขั้นลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้หลิวเย่แสดงบทตัวดีบทไหนมาบ้าง ความประทับใจที่ทุกคนมีต่อตัวละครที่ชื่อ ‘ลั่วเซิ่น’ คงไม่ต้องพูดถึง เหมาะสมกับรางวัล ‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’ ของเทศกาลหนังฝรั่งเศสแล้ว แสดงความยินดีกับหลิวเย่ด้วย!
เฝิงไม่พูด : เพราะความตื่นเต้นทั้งในเชิงบวกและลบ ตอนที่ซูเพ่ยเอินชื่นชมหนังเรื่อง ‘Evil’ ผู้ชมในประเทศต่างกล่าวหาว่าเขาปิดกั้นตัวเองตั้งแต่ดูหนังเรื่องแรก ตอนนี้ค่อยรู้สึกได้ว่า สิ่งที่อาจารย์ซูพูดเป็นความจริง เจียงเซ่อสามารถถ่ายทอดความรักที่มีต่อลูกสาว ‘ความเสียใจ’ หลังจากสูญเสียลูกสาว ‘ความโหดเหี้ยม’ ตอนแก้แค้นของจางยวี่ฉินออกมาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้ฉันซาบซึ้งใจมากที่สุด นั่นก็คือฉากสุดท้ายของหนัง ใบหน้าของเธอแฝงรอยยิ้ม แต่ดวงตาคู่นั้นกลับไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ รางวัล ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ เทศกาลหนังฝรั่งเศสควรจะเป็นของเธอ ‘Evil’ ถือเป็นการแสดงขั้นสุดยอดของเจียงเซ่อแล้ว กลัวว่าต่อไปจะยากที่เธอจะสร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ได้อีก
นักวิจารณ์หนังที่ได้ข้อสรุปเหมือน ‘เฝิงไม่พูด’ มีไม่น้อยเลย ในคลังข้อมูล คนจำนวนมากชื่นชมฝีมือการแสดงของเจียงเซ่อเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน คนจำนวนมากก็คิดว่า หลังจากหนังเรื่อง ‘Evil’ เธอก็ยากที่จะเอาชนะตัวเองได้อีก
ถึงขั้นที่มีคนจำนวนมากคาดการณ์ว่า นี่อาจจะเป็นหนังที่ดีที่สุดในเส้นทางวงการบันเทิงของเจียงเซ่อ เป็นไปไม่ได้ที่เจียงเซ่อจะนำเสนอตัวละครตัวไหนได้ดีกว่า ‘จางยวี่ฉิน’ อีกแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีคำชื่นชมเกี่ยวกับความสมจริง ฉากที่พบศพจูจูที่คนจำนวนมากกรีดร้องออกมา
นักแสดงนำหญิงและชายยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทีมงานช่างแต่งหน้า ผู้ออกแบบล้วนใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งในเรื่องการวางบทและคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบ หนังเรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จได้ ทำให้หัวเซี่ยมีผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้
เซี่ยเชาฉวินอ่านความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตคร่าวๆ ความคิดเห็นที่เป็นไปในทางที่ดีเหมือนๆ กันของผู้ชมในประเทศ ทำให้ชื่อเสียง ฐานะของเจียงเซ่อเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้ง หลังจากที่ ‘Evil’ เข้าฉาย
สำหรับความคิดเห็นที่ชาวเน็ตบอกว่า หลังจากบท ‘จางยวี่ฉิน’ แล้ว ‘เจียงเซ่อ’ นั้นยากที่จะเอาชนะตัวเองได้อีกถูกเซี่ยเชาฉวินมองข้ามไป
สำหรับเจียงเซ่อแล้ว คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่ต้องโต้รุ่ง เธอยุ่งอยู่กับการอ่านนิยาย อยากเรียบเรียงเค้าโครงตัวละครที่ชื่อ ‘เชอรีน’ ในเรื่อง ‘นักโทษ’ ให้ละเอียด เพื่อรับมือกับบททดสอบของเชี่ยซ่าเหลยในวันพรุ่งนี้
โม่อานฉีเห็นความตั้งใจของเธอแล้วก็รู้สึกสงสาร ทางโรงแรมได้ส่งอาหารค่ำมาให้ แต่เจียงเซ่อต้องคุมน้ำหนักจึงไม่กล้ากิน
“เซ่อเซ่อ ในเมื่อผู้กำกับเชี่ยซ่าเหลยให้โอกาสเธอได้แคสติ้งและประทับใจในตัวเธอไม่น้อย นิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ เธอเองก็อ่านมาตั้งหลายรอบแล้ว ทำไมถึงยังต้องจดอีกล่ะ นอนเร็วหน่อยดีกว่าไหม พักผ่อนให้เพียงพอ จะได้เตรียมรับมือกับการแคสติ้งในวันพรุ่งนี้และทำได้ดีมากขึ้นไปอีกไงล่ะ”
เจียงเซ่อยุ่งอยู่กับการอ่านหนังสือ หล่อนกลับกำลังนวดไหล่ให้เจียงเซ่อ เพื่อให้เจียงเซ่อที่นั่งอยู่สบายตัวมากขึ้น
“เชี่ยซ่าเหลยให้โอกาสฉันได้แคสติ้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันได้แสดงเป็น ‘เชอรีน’ ในเรื่อง ‘นักโทษ’ แล้วเสียหน่อย ที่เขาประทับใจในตัวฉัน ก็เพราะเขาเห็นความจริงใจของฉันต่างหาก”
ตอนนั้น เรื่องที่เจียงเซ่อไปฝึกงานด้านโบราณคดีเพราะหนังเรื่อง ‘The Lost City’ ได้สร้างความประทับใจให้เชี่ยซ่าเหลยและเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขารับปากว่าจะให้เจียงเซ่อมีโอกาสได้แคสติ้ง
สำหรับผู้กำกับอย่างเชี่ยซ่าเหลยแล้ว นักแสดงหญิงที่มีฝีมือสามารถหาได้อย่างง่ายดาย แต่ที่เจียงเซ่อได้รับมิตรภาพจากเขาเพราะนิสัยตั้งอกตั้งใจและความประพฤติที่ดีเยี่ยม
“นักโทษ” มีพื้นฐานเป็นเรื่องของศาสนา เบื้องหลังของเรื่องมาจากอิตาลีในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา
ในตอนนั้น อิตาลีได้รับการปกครองจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนั้นผู้มีอำนาจต้องการที่จะขยายอำนาจและเขตแดน จึงทำการปกครองอิตาลีเพียงแค่ในนามเท่านั้น ทำให้อิตาลีเข้าสู่การแตกแยกทางการปกครอง คริสตจักรจึงฉวยโอกาสนี้ในการขยายอำนาจอย่างไม่กลัวเกรง เทวนิยมเข้ามาผูกขาด อำนาจของศาสนาเข้าครอบคลุมการปกครอง ผู้คนเชื่อในเทพเจ้าอย่างไม่มีข้อแม้ ถึงขั้นลุ่มหลงงมงาย
ในต้นฉบับ ต้องใช้คำพรรณนาค่อนข้างมาก อ่านครั้งแรกจะชวนให้รู้สึกเบื่อหน่าย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่นิยายเรื่องนี้ไม่โด่งดังหลังจากวางขายไปแล้ว
อังเดรเป็นบิชอปอยู่ในชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่ง นอกจากจัดการเรื่องในทางศาสนาและเผยแพร่คำสอนให้กับคนในชุมชนแล้ว ความปรารถนาอันสูงสุดของเขาคือการสามารถออกจากชุมชน ไปยังโบสถ์ที่ใหญ่กว่า เพื่อรับใช้พระเจ้า
จนกระทั่งในวันหนึ่ง หลังจากที่พวกเขารับ ‘เชอรีน’ ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการกวาดล้างพวกนอกรีตและแม่มดมาดูแล ชีวิตของเขาก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป
เขาช่วยเชอรีนเอาไว้ เพื่อเป็นการขอบคุณเชอรีนจึงได้บอกความลับที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของอังเดรได้ นั่นก็คือ ในระหว่างการกวาดล้างพวกนอกรีต เธอได้คาถาที่สามารถขอพรกับพระเจ้ามาโดยบังเอิญ โดยต้องใช้ ‘วิญญาณที่บริสุทธิ์ที่สุด’ ในการเซ่นสังเวยให้กับพระเจ้า แล้วจะสามารถแลกกับสิ่งที่ตนเองต้องการได้
หลังจากที่อังเดรรู้เรื่องนี้ก็ดีใจมาก
ชีวิตนี้เขาทำเพื่อศาสนามานาน ชาตินี้ถ้าไม่ใช่เพราะความบังเอิญหรือเกิดเรื่องไม่คาดฝัน การที่เขาจะเข้าสู่ศูนย์กลางของศาสนาและเลื่อนไปในขั้นที่สูงกว่านั้นเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ หลังจากรู้เรื่องนี้ เขาก็หลอกล่อให้เชอรีนเชื่อใจ ให้เธอบอกคาถาและใช้เชอรีนเป็นสิ่งสังเวย เพื่อแลกกับความปรารถนาที่จะได้เลื่อนตำแหน่งในศาสนาจากพระเจ้า จนท้ายที่สุดพระเจ้าก็ปรากฏตัวขึ้นจริง ๆ