412

บทที่ 412 ใส่ความ

พอความคิดนี้เกิดขึ้น เฝิงหนานก็เกือบจะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้

ความคิดอยากจะแก้แค้นอันบ้าคลั่งนี้ทำลายสติสัมปชัญญะของหล่อนไปจนหมด หล่อนพึมพำว่า

     “เพราะอะไร ทำไมแกจะต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันด้วย แกตั้งใจจะบีบบังคับฉันใช่ไหม”

     เจียงเซ่อมองดวงตาที่แดงก่ำของหล่อน ก็พลันวางแก้วเหล้าไว้ข้างสระเบาๆ ความรู้สึกอันว่องไวของเธอจับสังเกตคำพูดที่ว่า ‘มักจะตั้งตนเป็นศัตรูกับฉัน’ คำนี้ของเฝิงหนานได้ในทันที “ทำไมน่ะเหรอค่ะ”

เธอยิ้มพลางเลียนแบบน้ำเสียงของเฝิงหนานพลางพูดว่า

“แน่นอนว่าเพราะคุณแนะนำให้ฉันเข้าจวี้เฟิงบันเทิง และเพราะว่าตอนนั้นคุณเคยช่วยจูพ่านเหยียบย่ำฉันยังไงล่ะคะ”

เพราะเธอได้ครอบครองร่างของฉัน ได้ทุกอย่างของฉันไป แต่กลับไม่ถนอมรักษามันไว้ให้ดี กระทั่งทำให้เฝิงจงเหลียงหกล้มจนได้รับบาดเจ็บไงล่ะ

    “คุณอยากมีชื่อเสียงเหรอ อยากเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เหรอ” เจียงเซ่อเงยหน้ามองเธอด้วยดวงตาที่แสดงออกถึงความสงสาร พร้อมพูดว่า

“ถ้ามีฉันอยู่ คุณอย่าได้หวังเลย”

ถ้าหากเฝิงหนานเป็นคนตรงไปตรงมา หลังจากที่เกิดใหม่ในตระกูลที่ร่ำรวยแทนตัวเธอในเวลาเดียวกันนั้น หล่อนควรแบ่งเบาภาระที่ควรรับผิดชอบ ถึงแม้เจียงเซ่อจะไม่อยากแยกจากคุณปู่ และอดเสียดายอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นเธอยังคงพยายามพูดกับตัวเองให้ทำใจให้ได้ ว่าอย่าไปรบกวนความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิตของคนแก่

แต่เฝิงหนานกลับไม่ได้ทำแบบนั้น หล่อนเข้าวงการบันเทิง และลงมือทำร้ายเฝิงจงเหลียง

เจียงเซ่อยื่นมือไปจัดกระโปรงที่ดูน่าหัวเราะตัวนี้แทนเฝิงหนาน ปากคอยพูดยั่วเฝิงหนานไปพลาง แต่กลับไตร่ตรองอย่างใจเย็นไปพลาง  

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณนาย Federer นั้นมีเพียงผิวเผิน สามารถเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่พูดคุยกันได้แต่กลับไม่สนิทสนมคุ้นเคยกัน

     เธอได้ยินที่คุณนาย Federer กับคุณ Bueler ผู้ดูแล E.B กรุ๊ปคุยกันเรื่องการเปิดตัวนาฬิกาที่ Federer ร่วมงานกับทาง Steinway เธอเคยถามเซี่ยเชาวินแล้ว เลยได้รู้ว่าตอนนี้ยังไม่มีแบรนด์แอมบาสเดอร์

เจียงเซ่อต้องการแย่งชิงโอกาสนี้ แต่ถ้าเทียบกับความสัมพันธ์ของเธอกับ Federer ในตอนนี้แล้ว การจะคว้าโอกาสนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ตอนที่เธอจัดการกระโปรงให้เรียบร้อยแทนเฝิงหนานนั้น อยู่ๆ เฝิงหนานก็คิดถึงชาติที่แล้วที่ถูกเธอยั่วยุด้วยคำพูด ไหนเลยจะสามารถสกัดกั้นอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ได้？หล่อนยื่นมือออกไปตามสัญชาตญาณผลักเข้าที่หัวไหล่เธอ เจียงเซ่อถูกหล่อนผลักร่างกายก็ซวนเซนั่งพับลงไปที่ข้างริมสระน้ำพุ แก้วเหล้าค็อกเทลที่วางอยู่บนขอบสระก่อนหน้านี้ก็โดนเธอชนเข้าจนเหล้าหกกระเซ็นออกมาอาบชุดกระโปรงของเธอ

    แก้วเหล้าคริสตัลกลิ้งเป็นวงกลมข้างขอบสระอยู่สองรอบก่อนจะตกลงไปในสระเสียงดัง ‘ตุ๊ม’

     เจียงเซ่อต้องพยายามทรงตัวให้มั่นคงมาก จึงจะไม่หงายหลังตกลงไปในสระ

    “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” ชั่วพริบตาที่เธอยื่นมือมานั้น เฝิงหนานก็ควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว หลังจากที่ผลักเธอออกไป ถึงจะค่อยรู้สึกตัวว่าตนเองทำอะไรลงไป

คนไม่น้อยในสนามหญ้าที่กำลังยืนคุยกันอยู่ต่างก็อึ้งไปกับฉากนี้ เจียงเซ่อนั่งอยู่ข้างขอบสระ พยายามสะกดรอยยิ้มในแววตาเอาไว้ เฝิงหนานหัวสมองพลันขาวโพลน แต่จะชักมือกลับมาก็ไม่ทันเสียแล้ว

เหล้าค็อกเทลสีฟ้าอ่อนที่สาดโดนกระโปรงของเจียงเซ่อนั้นไหลลงตามขาอ่อนที่ขาวเนียนสะอาดของเธอ ทำให้ดูเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษราวกับเครื่องเคลือบสีขาว

    คุณนาย Federer ที่สวมเสื้อคลุมสีขาวรีบก้าวยาวๆ เข้ามา แม้ว่าใบหน้าจะประดับไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในแววตาก็พยายามข่มกลั้นไฟโทสะเอาไว้

“ไม่เป็นไรนะ”

     งานเลี้ยงที่เธอจัดเกิดเรื่องพรรค์นี้ เป็นเรื่องยากที่ Federer จะมีสีหน้าดีๆ ให้เห็น

เรื่องก่อนหน้านี้อยู่ในสายตาของคนไม่น้อย สุภาพสตรีสองคนนี้เกิดโต้เถียงกันขึ้นมา ภาพที่เฝิงหนานลงมือผลักคนก็อยู่ในสายตาของคนมากมาย ถ้าหากเจียงเซ่อไม่อดทนเอาไว้ ป่านนี้คงเกิดเรื่องวุ่นวายจนงานเลี้ยงคืนนี้คงต้องพังไม่เป็นท่าแล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะ” เจียงเซ่อส่ายหัว เหนือความคาดหมายของ Federer เจียงเซ่อไม่ได้มีท่าทีจะฟ้องแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอกลับยิ้มและพูดว่า

“เหล้ารสชาติดีมากไปหน่อย พอดื่มมากเข้าก็เลยเสียกริยาไป แล้วยังทำแก้วเหล้าตกลงไปในสระอีก หวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้ชดใช้นะคะ คราวหลังฉันจะส่งแก้วมาให้ชุดหนึ่งเป็นการชดเชย และจะทำความสะอาดสระน้ำเองค่ะ”

“แต่ก่อนหน้านั้น หวังว่าคุณจะให้ฉันยืมห้องน้ำทำความสะอาดตัวเองสักครู่นะคะ”

เธอไม่ได้ฟ้องเรื่องที่เฝิงหนาน ‘ผลัก ’เธอ เพราะเรื่องนี้ทุกคนต่างก็เห็นกันอยู่กับตา เฝิงหนานเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้อยู่แล้ว เจียงเซ่อเลยไม่จำเป็นตอกย้ำถึงเหตุการณ์นี้อีก แล้วยังสามารถเพิ่มความประทับใจที่ว่าเธอเป็นคนรู้จักผ่อนปรนรู้สถานการณ์ให้กับคุณนาย Federer ประทับใจได้อีกด้วย

การที่เธอรู้จักวางตัวแบบนี้ ทำให้คุณนาย Federer ถอนหายใจโล่งอก แววตาที่มองเธอดูอบอุ่นมากขึ้นทีเดียว หล่อนหยิบเสื้อคลุมบนร่างมาคลุมตัวเธอ พลางยิ้มพร้อมกับพูดว่า

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” คุณนาย Federer ยิ้มออกมา หล่อนไม่ได้มองไปที่เฝิงหนานที่อยู่ข้างๆ เลยสักนิดตอนพาเจียงเซ่อออกไปต่อหน้าเฝิงหนานนั้น เฝิงหนานก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่ได้สติแต่อย่างใด

เหตุสุดวิสัยเล็กๆ ครั้งนี้ คลี่คลายลงอย่างรวดเร็วด้วยวิธีแก้ปัญหาของเจียงเซ่อ

หลังจากเจียงเซ่อถูกพาตัวออกไป เฝิงหนานก็รู้สึกว่าตัวเองราวกับเป็นนักโทษที่รอคอยการลงทัณฑ์อย่างนั้น ทั้งๆ ที่หล่อนมาเกิดใหม่ในร่างของเฝิงหนานคุณหนูผู้แสนร่ำรวยแห่งวิสาหกิจจงหนานที่หล่อนเคยอิจฉามากที่สุดแล้วแท้ๆ

แต่ ณ เวลานี้ เธอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจของจ้าวซินหงแห่งเจียงหัวกรุ๊ปในชาติที่แล้วอย่างนั้น

เมื่อเห็นความเย็นชาในดวงตาสีเทาอมน้ำเงินของคุณ Bueler ที่เหมือนจะฆ่าหล่อนให้ตายนั้น หล่อนก็สั่นระริกไปทั้งตัว จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมา ตอนนั้นหล่อนยื่นมือออกไปผลักเจียงเซ่อได้ยังไงกันนะ?

‘จบแล้ว’ คำสองคำนี้ก้องสะท้อนไปมาอยู่ในหัวของหล่อน หล่อนนึกถึงคำพูดของเจียงเซ่อที่พูดกับหล่อนตอนนั้นอย่างสิ้นหวัง ‘คุณอยากมีชื่อเสียงเหรอ? อยากเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เหรอ? ถ้ามีฉันอยู่ คุณอย่าได้หวังเลย’

ก่อนหน้านี้หล่อนรู้สึกมาโดยตลอดว่าเจียงเซ่อในตอนนี้ไม่ใช่เจียงเซ่อในชาติที่แล้ว แต่ตอนนี้หล่อนกลับเริ่มสงสัยในความคิดของตัวเองขึ้นมาเสียแล้ว

งานเลี้ยงแบบนี้หล่อนไม่อยากจะอยู่ต่อไปอีกแล้วแม้แต่วินาทีเดียว แต่หล่อนกลับยังฝืนยืนหยัดเอาไว้ไม่ยอมจากไป เพราะหล่อนยังรอคอยปาฏิหาริย์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วปาฏิหาริย์นั้นไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น เฝิงหนานไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด

     เทียบกับเฝิงหนานที่วิญญาณหลุดลอยไปแล้ว เจียงเซ่อพูดคุยกับคุณนาย Federer อย่างสนุกสนาน กระทั่งยังรู้สึกเสียดายด้วยซ้ำที่เรื่องนี้ทำให้คุณนาย Federer ประทับใจในตัวเธอได้ธรรมดาไปหน่อย

     หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง ขากลับถึงแม้ว่าเซี่ยเชาฉวินจะรู้สึกคาดไม่ถึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นอย่างมาก แต่หล่อนก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจียงเซ่อจะสามารถใช้วิธีแบบนี้จนได้รับความรู้สึกดีๆ ของคุณนาย Federer มาได้อย่างง่ายดายแบบนี้

     แต่ตอนนี้หล่อนเองก็เริ่มพิจารณาว่าจะติดต่อไปยังคุณนาย Federer และทำจะยังไงเพื่อจะแย่งชิงตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนาฬิกาของพวกเขามาให้ได้

     แม้ว่าทาง Givenchy อาจจะตำหนิเรื่องที่ชุดในครั้งนี้ได้รับควาเสียหายเล็กน้อยแต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นมากกว่าที่ต้องจ่ายไปมากนัก

     ยิ่งกว่านั้นชื่อเสียงของเจียงเซ่อ สถานะทางสังคมที่เพิ่มขึ้น เรื่องเล็กแค่นี้ไม่อาจจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายได้

     หลังปลายเดือนมิถุนายน ก็มีข่าวดีก็ประดังเข้ามาเรื่อยๆ เจียงเซ่อตกลงรายละเอียดของหนังเรื่องใหม่กับจางจิ้งอาน โดยเซ็นสัญญากับกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เป็นมูลค่ากว่าห้าสิบล้าน ทางฝั่งนาฬิกา Federer ที่เจียงเซ่อมอบความประทับใจให้คุณนาย Federer ในวันนั้นก็นับว่าไม่เลวเลย

     หลังจากที่เซี่ยเชาฉวินออกหน้าพูดคุยกับคุณนาย Federer คุณนายท่านนี้ก็ตกลงว่าจะลองยื่นคำขอไปทางสวิตเซอร์แลนด์ให้เจียงเซ่อไปลองสัมภาษณ์ผู้มีคุณสมบัติของนาฬิกาข้อมือ Federer รุ่นล่าสุดดู แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็คงต้องวัดกันที่ความสามารถของเจียงเซ่อแล้ว

ผลออกมาแบบนี้ทำให้เจียงเซ่อรู้สึกเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก

     เมื่อเทียบกับเฝิงหนานที่อาจจะได้เซ็นสัญญากับ E.B ก่อนหน้านี้นั้น แต่สุดท้ายในงานเลี้ยงคืนนั้น

คุณ Bueler ก็ให้คนนำภาพของโอวเมี่ยวเซิงที่เฝิงหนานมอบให้ก่อนหน้านี้กลับคืนไป และปฏิเสธนัดทานอาหารของเฝิงหนานอย่างอ้อมๆ อีกด้วย

     ณ บ้านตระกูลเฝิง เสี่ยวหลิวใช้เวลาเกือบอาทิตย์ จนในที่สุดก็สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของเจียงเซ่อได้อย่างไม่ได้ขาดตกบกพร่องตามคำสั่งของเฝิงจงเหลียง