บทที่ 410 แขกแย่งซีน
ตอนที่เจียงเซ่อเห็นเฝิงหนาน ก็เกือบจะกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เฝิงหนานยืดตัวตรง แสดงชัดว่าเมื่อมองเห็นเจียงเซ่อเหมือนกัน
หล่อนแปลกใจเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็สังเกตเห็นชุดที่อยู่บนเรือนร่างของเจียงเซ่อ พลันดวงตาก็ฉายแววลำพองภาคภูมิใจ
ชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงินไพลินที่สวมใส่อยู่บนตัวหล่อนนั้นเปล่งออร่าเด่นสะดุดสายตา หล่อนคล้องแขนมีมือของคุณ Bueler ผู้จัดการของ E.B กำลังจูงมือเธออยู่ ทุกๆ ก้าวที่เดินนั้นทำให้เสื้อคลุมด้านหลังของชุดกระโปรงลากผ่านพื้นสนามหญ้าช้าๆ ดูงดงามหรูหรา
ในมือของ Bueler ยังถือของขวัญอยู่ด้วย ตอนที่พูดคุยกับหล่อน ก็เหมือนว่าราวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่เลวเลยทีเดียวที่สนิทสนม
นับว่าเฝิงหนานเองก็มีความสามารถ ที่สามารถพูดหลอกล่อผู้จัดการของ E.B แห่งหัวเซี่ยได้เสียอยู่หมัดเรียบๆ ร้อยๆ
งานเลี้ยงครั้งนี้ที่ Federer เป็นผู้จัด เป็นงานเลี้ยงส่วนตัวแขกผู้มีเกียรติจึงมีไม่มาก ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นหล่อนที่สนามหญ้าจากลานจอดรถได้ หากไม่สนิทสนมจริงๆ เกรงว่าจะไม่ได้รับบัตรเชิญ แต่ Bueler กลับพาเฝิงหนานมา การทำแบบนี้แบบนี้ก็ตื่นเต้นดี ก็พอจะพิสูจน์ได้ว่าถึงความทับใจที่ Bueler ประทับใจในตัวเฝิงหนานค่อนข้างมากทีเดียวมีต่อเฝิงหนานเป็นอย่างดี
“พี่เชาฉวิน ฉันจำได้ลางๆ ว่าซีรีส์เครื่องสำอาง Magic Dream ของ E.B ก่อนหน้ามีฟ่านจืออวิ๋นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ใช่เหรอคะ”
เซี่ยเชาฉวินเองก็สังเกตเห็นเฝิงหนานด้วย พอได้ยินคำถามของเจียงเซ่อ ก็พยักหน้าลง
เป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ต่างก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาแต่ไหนแต่ไร เหล่านักแสดงหญิงต่างก็ใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ได้
E.B ถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางของสวิตเซอร์แลนด์ ทุกๆ สองปีจะเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์ครั้งหนึ่ง เซี่ยเชาฉวินจำเวลาหมดอายุสัญญาแบรนด์นี้ได้อย่างแม่นยำ โดยส่วนตัวเคยได้เห็นข้อมูลของดาราที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มาหลายตัวแล้วเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเลือกเฟ้นโฆษณาที่เหมาะสมให้กับเจียงเซ่อแล้วยิ่งเป็นโฆษณาที่เจียงเซ่อเลือกด้วยแล้ว
“ปีนี้คงเปลี่ยนแล้วล่ะ” เซี่ยเชาฉวินลูบรอยยับเล็กๆ ที่อยู่บนชุดให้เจียงเซ่อแล้วตอบเสียงเบา
“คาแรกเตอร์ของฟ่านจืออวิ๋นน่ะสง่างาม ความจริงแล้วให้ความรู้สึกไม่เหมาะกับเครื่องสำอางซีรีส์ Magic Dream ของ E.B เท่าไหร่ “จริงๆ แล้ว รู้สึกว่าภาพลักษณ์ที่สง่าของฟ่านจืออวิ๋น จะเข้าคอนเซ็ปกับ Series ความงามนิรันดร์ของ E.B ตอนแรกผู้จัดการของเธอพยายามสุดแรงเพื่อให้เธอได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์นี้ เป็นข่าวตรงกันข้ามกลับยิ่งครึกโครมกันทั้งประเทศอยู่พักหนึ่ง แต่ว่าสุดท้ายเรื่องดีๆ ก็อยู่ได้ไม่นานทว่าทัศนียภาพสวยๆไม่นานก็จางหาย” เซี่ยเชาฉวินพูดในแง่ของการทำงาน แต่ถึงแม้ว่าจะพูดคุยเล่นเป็นการส่วนตัวกับเจียงเซ่อ เซี่ยเชาฉวินก็ยังคงจริงจังความรับผิดชอบและมีความละเอียดรอบคอบอยู่เสมอ
“หลังจากภาพยนตร์เรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เข้าฉาย ผ่านไปซักพักเธอในบทนางเอกก็ก็นักแสดงนำดังอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียวหญิงชื่อดังเลยทีเดียว แต่ด้วยภาพลักษณ์ของเธอกำหนดให้บทบาทที่ได้รับแคบเข้าไปอีก ปีนี้งานก็เลยไม่มากเท่าเมื่อก่อน”
เธอพูดต่ออีกว่า
“ในช่วงที่เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ E.B นั้น ยอดขายของ Magic Dream Series ก็ไม่ได้พุ่งสูงอะไรมากมาย บริษัทต้นสังกัดของเธอกำหนดให้ภาพลักษณ์เธอเป็นผู้หญิงที่สวยเรียบร้อยซึ่งไม่สอดคล้องกับกับความหรูหรา Series เครื่องสำอางของ E.B ”
และก็พูดได้ว่าฟ่านจืออวิ๋นไม่ได้ช่วยเรื่องยอดขายของช่วยสถานการณ์การขายของ E.B เท่าไหร่นัก “น่ากลัวว่า จะไม่ได้เซ็นสัญญาต่อแล้วในปีนี้”
ข่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นความลับในวงการ แม้ด้านฟ่านจืออวิ๋นจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ความเป็นไปได้ที่จะได้ต่อสัญญาก็ริบหรี่มาก ดังนั้นดาราหญิงไม่น้อยจึงจับตามองแบรนด์นี้อย่างกระตือรือร้น
“ดูเหมือนเฝิงหนานจะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นี้สินะบทเรียนจากเหตุการณ์นี้แล้วล่ะ”เจียงเซ่อพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มก็กดลึกขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย มองเฝิงหนานที่คล้องแขน Bueler มองมือของ Bueler ที่ควงเฝิงหนานเดินผ่านไป ทั้งสองสังเกตเห็นแล้วว่าเซี่ยเชาฉวินกับเจียงเซ่อยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนแล้ว ดูเหมือนว่าระหว่าง Bueler กับเซี่ยเชาฉวินจะเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อน เขาจึงพาเฝิงหนานเดินมาทางนี้แล้ว
ท่าทางเย่อหยิ่งของเธอตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะสามารถรักษาไว้ได้นานแค่ไหน
คุณ Bueler สามารถได้รับคำเชิญของถูก Federer ให้มาเชิญไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ และเพราะทั้งสองคนต่างก็มาจากสวิตเซอร์แลนด์เหมือนกันอีก แสดงว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนจึงทำให้ทั้งสองสนิทสนมเป็นการส่วนตัว
ได้แต่หวังว่าคุณนาย Federer จะไม่ได้สวมชุดสีน้ำเงินที่ใส่อยู่เป็นประจำนะ มิเช่นนั้นเฝิงหนานที่สวมชุดนี้อยู่ที่สวมอยู่นี้ ถึงเวลานั้นคงมีละครสนุกๆ ให้ดูแน่
คิดถึงตรงนี้ เจียงเซ่อจึงถือกระเป๋าเดินขึ้นไปด้วยกันกับเซี่ยเชาฉวิน
เซี่ยเชาฉวินที่จริงแล้วเป็นเพื่อนเก่ากับ Bueler จริงๆ เมื่อทั้งสองพบกันต่างหอมแก้มกันพอเป็นพิธี แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์อยู่ในระดับที่ดีทีเดียวราวกับสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ช่วงที่ทั้งสองคนถือโอกาสทักทายกัน เจียงเซ่อก็ยิ้มแล้วโอบกอดเฝิงหนานชั่วครู่ สื่อให้เห็นถึงมิตรภาพ
“คุณเจียงนี่อยู่ทุกที่จริงๆ นะคะ” ไม่ว่าเฝิงหนานจะไม่ชอบเจียงเซ่อแค่ไหน ตอนนี้กลับต้องปั้นหน้ายิ้มทักทายให้กับเจียงเซ่อ
“ประโยคนี้ควรจะเป็นฉันมากกว่านะคะที่จะพูด คุณเฝิงเนี่ยอยู่ทุกที่จริงๆ นะคะ ไม่ว่าที่แบบไหนล้วนต้องเจอคุณ”
ในใจเฝิงหนานรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ตอนที่คุณ Bueler พาเธอมางานเลี้ยงคืนนี้ เขาบอกว่าเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวของเพื่อนชาวสวิตเซอร์แลนด์คนหนึ่ง แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเจียงเซ่อที่นี่ รู้สึกเพียงว่าคนๆ นี้ตามหลอกหลอนเธอไม่หยุดหย่อนจริงๆ ไม่มีสักที่ที่จะไม่เจอหล่อน
หล่อนอดกลั้นความเกลียดเอาไว้ในใจ ยิ้มพลางมองไปที่ชุดกระโปรงสีดำที่อยู่บนเรือนร่างของเจียงเซ่ออย่างเยาะเย้ยพร้อมพูดว่า
“ชุดสวยดีนะคะ”
ชุดกระโปรงที่เจียงเซ่อสวมใส่ก็เป็นชุดจาก Givenchy เหมือนกัน เพียงแต่สุภาพกว่า ไม่มีสีสันฉูดฉาดใดใดทั้งสิ้น
เฝิงหนานคาดว่า เหตุที่เจียงเซ่อปรากฏตัวในชุดนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับชุดกระโปรงสีน้ำเงินที่ตนฉวยเอามาตอนที่เธอดูอยู่ ในร้าน Givenchy วันนั้น
คิดถึงตรงนี้ เฝิงนานยิ่งรู้สึกว่าทั้งร่างของเธอมีความสุขอย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ขนลุกไปทั่วตัวจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ รู้สึกมีความสุขในความโชคร้ายของเจียงเซ่อ
ทั้งสองคนโอบกอดกันแผ่วเบา และต่างผละออกอย่างรวดเร็ว เมื่อเฝิงหนานพูดจบ เจียงเซ่อจึงพูดแบบมีนัยยะว่า
“คุณก็ด้วย ชุดสวยเหลือเกินค่ะ”
ตอนพูดเธอยิ้มแต่ก็เหมือนจะไม่ยิ้ม ท่าทางก็แปลกๆ เฝิงหนานรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องนิดหน่อย
ท่าทางแบบนี้ของเจียงเซ่อไม่เหมือนกับถูกหล่อนข่มขวัญ และเหมือนไม่ได้ชื่นชมหล่อนจากใจจริงด้วย ตรงกันข้ามเหมือนกับมีแผนอะไรสักอย่าง
เฝิงหนานคิดอย่างละเอียดแล้ว ก็รู้สึกว่าเจียงเซ่อก็คงแค่สร้างสถานการณ์ตบตาก็แค่นั้นเอง หลังจากที่ยืมชุดนี้กลับมา หล่อนก็เช็คกระโปรงเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาใดๆ และจะไม่ทำให้หล่อนอับอายต่อหน้าผู้คนหลังจากที่สวมเข้าไป
วันนั้นที่ร้าน Givenchy ต่อให้เจียงเซ่อใจกล้ากว่านี้ที่วัดจากใจกล้าของเจียงเซ่อ ก็คงไม่กล้าเล่นแง่ในร้านหรอก
เจียงเซ่อเซ็นสัญญาร่วมมือกับ Givenchy ยกเว้นหล่อนจะไม่ต้องการสัญญาฉบับนี้แล้ว ถึงกล้าลงมือกับชุดนี้แย่งชุดกระโปรงตัวนี้ในร้าน Givenchy มีแต่จะทำให้ตัวเองลำบากเปล่าๆ
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็เกรงว่าหลังจากนี้เจียงเซ่อจะไม่ได้รับการติดต่อจากแบรนด์หรูใดๆ อีก เฝิงหนานกลับหวังให้หล่อนโง่เขลาแบบนั้นจริงๆ อะไรขนาดนี้แต่ก็รู้ว่าเจียงเซ่อไม่มีทางทำแบบนั้นแน่
หล่อนไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอก ตอนนี้ยังจะมาสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา เฝิงหนานล่ะนึกดูถูกหล่อนจริงๆจนเฝิงหนานมองเธอไม่ออกแล้ว
คุณ Bueler กำลังคุยอย่างถึงพริกถึงขิงกับเซี่ยเชาฉวิน โดยไม่ได้สนใจเหตุการณ์ของสองคนที่อยู่ด้านนี้เลย เฝิงหนานยกกระเป๋าปิดบังริมฝีปากที่กำลังยิ้มอยู่พลางพูดออกมาว่า
“ในโอกาสแบบนี้ ทำไมคุณเจียงถึงได้สวมชุดเรียบๆ แบบนี้กันล่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีชุดที่เหมาะสมพอที่จะใส่หรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะรีบบอกสิคะ เห็นแก่ที่คุณประจบเอาใจปู่ของฉันเป็นอย่างดี ฉันพอจะให้คุณยืมได้นะคะดูเหมือนคุณจะเอาใจคุณปู่ของฉันได้เป็นอย่างดี ฉันคงต้องอาศัยคุณแล้วล่ะค่ะ”
เล็บสีทองของหล่อนที่กำลังถือกระเป๋าอยู่เด่นสะดุดตามาก รวมทั้งการปัดมาสคาร่าที่ดวงตา กลับทำให้ดวงตายั่วยวนอย่างมาก
พอจะดูออกเหมือนว่าเพื่อที่จะได้เป็นแอมบาสเดอร์ของ E.B เฝิงหนานต้องคอยเอาอกเอาใจ Bueler เป็นอย่างมาก การแต่งหน้าเข้มจัดของหล่อน ทำให้ภาพลักษณ์ของหล่อนเหมาะสมกับ Series เครื่องสำอางของ E.B มากกว่าลักษณะกับนิสัยเฉพาะตัวสวยเรียบร้อยของฟ่านจื่ออวิ๋นมาก แต่น่าเสียดายเจียงเซ่อเดาว่าหลังจากที่หล่อนทำให้ E.B สนใจได้แล้วกลับจะไม่มีทางได้สมหวังน่ะสิอยู่ว่าหลังจากเธอวางแผนที่ E.B และก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะสมปรารถนา
เมื่อเฝิงหนานพูดจบ เจียงเซ่อไม่โกรธกลับยิ้มและพูดว่า
“ฉันเป็นเพียงแขกค่ะ เลยไม่จำเป็นต้องสวมชุดที่สวยสะดุดตาแบบนั้น เพื่อที่จะขโมยซีนเจ้าภาพหรอกค่ะ”
คืนนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงเพื่อธุรกิจ เธอเลยไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้งดงามเฉิดฉายดึงดูดสายตาผู้คน