บทที่ 404 เรื่องดี
งานเลี้ยงเริ่มคืนวันพรุ่งนี้ตอน 1 ทุ่มครึ่ง ผู้จัดงานและคุณ Bueler เป็นเพื่อนเก่า และมาจากสวิสเซอร์แลนด์เหมือนกัน
งานเลี้ยงส่วนตัวแบบนี้แฝงไว้ซึ่งความหมายว่าอะไร เฝิงหนานเข้าใจแจ่มแจ้ง และเพราะเหตุนี้หลังจากที่คุณ Bueler อนุญาต หล่อนจึงเริ่มเตรียมชุดล่วงหน้า
เดิมทีหล่อนได้จองชุดราตรีสีขาวเอาไว้แล้วเพื่อให้เข้ากับผู้ดูแลแบรนด์ E.B แต่หลังจากเห็นชุดสีน้ำเงินนี้ เฝิงหนานก็เปลี่ยนความคิด
ชุดนี้ไม่ด้อยไปกว่าชุดที่หล่อนสั่งซื้อไว้แต่แรกเลย หล่อนสังเกตเห็นถึงขนาดว่าชุดนี้คือ คอลเลคชั่นพิเศษฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีนี้ของ Givenchy ไม่ได้มีไว้สำหรับขาย และชุดนี้มีเพียงชุดเดียวเท่านั้น เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร
เฝิงหนานอยากได้ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์เครื่องสำอางของ E.B เลยต้องการจะสร้างความประทับใจต่อหน้าคุณ Bueler เป็นเรื่องธรรมดา
ยิ่งประกอบกับเป็นชุดที่เจียงเซ่อหมายตาด้วยแล้ว ด้วยความไม่ชอบขี้หน้าเลยยิ่งทำให้ชุดนี้มีค่าพอที่จะให้หล่อนลงมือแย่งชิงมันมา
“คุณเอาลงมาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?" เธอยิ้มพลางมองไปที่พนักงานของ Givenchy แล้วพูดเสียงแข็ง
"ฉันจะลอง"”
โม่อานฉีก้มหน้าลง เฝิงหนานมองเห็นสีหน้าหล่อนได้ไม่ชัด แต่กลับมองเห็นรอยยิ้มของเจียงเซ่อตอนที่เธอกำลังยกแก้วชาขึ้นดื่ม
ความรู้สึกภายในใจหล่อนปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หล่อนตวัดตามองเจียงเซ่อ
“ขอโทษนะ คุณเจียงอาจต้องเลือกชุดอื่นแล้วล่ะ”
เจียงเซ่อยักไหล่ ทำท่าทางเหมือนไม่ได้สนใจอะไร แล้วกลับไปนั่งที่นั่งของตนเอง
เมื่อเธอจากไป เฝิงหนานก็รู้สึกเหมือนตนได้รับชัยชนะ เกือบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ พนักงานร้าน Givenchy เตรียมชุดให้เธอเสร็จพอดี หางตาของเธอเหลือบเห็นเจียงเซ่อนั่งรินชาอยู่ที่โซฟาข้างๆ คิดถึงฉากที่เจียงเซ่อล่าถอยกลับไปแล้วก็ยกยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา ในใจคิดว่า ‘ทำเป็นเสแสร้ง’
ตรงโซฟาที่ใช้นั่งรอ โม่อานฉีมองดูที่เฝิงหนาน พูดเสียงต่ำกับเจียงเซ่อว่า
“งานเลี้ยงช่วงเย็นของวันมะรืน เป็นงานที่คุณนาย Federer จัดใช่ไหม”
เจียงเซ่อพยักหน้า กาน้ำชากานี้ไม่ได้ใหญ่นัก น้ำชาที่ชงสามารถเติมสองแก้วก็หมดแล้ว
หลังจากที่เฝิงหนานได้รับสิ่งที่หล่อนต้องการแล้ว จึงจากไปพร้อมกับพนักงานเจียงเซ่อก็พักดื่มชาอีกครั้ง
“เป็นไปได้มากเลย”
เธอค่อยๆ ผ่อนลมหายใจจิบน้ำชาเข้าปาก "อย่างไรเสียผู้ดูแลของแบรนด์ E.B ก็พาเธอไป"
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ความงามนิรันดร์อยู่ในระดับไฮเอนด์ เหมาะสมที่จะเข้าร่วมการจัดอันดับ 10 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำของโลก เหมือนกันกับ Federer ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าหรูหรา
และทั้งสองแบรนด์ล้วนมาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผู้ดูแลของทั้งสองแบรนด์ในหัวเซี่ยถ้าจะเคยไปมาหาสู่กันก็ไม่แปลก เฝิงหนานมีความสามารถเจราจาต่อรองกับผู้ดูแลของ E.B ได้ การจะเอาบัตรผ่านประตูงานเลี้ยงมาก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“ถ้าหากมาร่วมงานนี้จริง งั้นเธอสวมชุดนั้น......” โม่อานฉี พูดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกเห็นใจเฝิงหนานเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเจียงเซ่อตั้งใจขุดหลุมดักเฝิงหนาน เฝิงหนานประจบประแจงผู้ดูแลของ E.B ได้ก็จริงแต่สัญญายังไม่ได้มีการตกลงกัน ถ้า Bueler และ Federer มีการสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวจริงๆ ล่ะก็ งั้นถ้าเฝิงหนานสวมชุดสีน้ำเงินชุดนั้นและไปพบกับคุณนาย Federer ที่ชื่นชอบสีน้ำเงินเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ เกรงว่าถึงเวลานั้นคงมีละครสนุกๆ ให้ดูแน่
ทั้งสองคนไม่พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ต่ออีก ทางแบรนด์ Givenchy ได้เตรียมชุดให้เจียงเซ่อเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกันแล้วชุดกระโปรงสีดำชุดนี้ไม่ได้ดูน่าสนใจเท่ากับชุดสีน้ำเงินนั่น แต่หลังจากเจียงเซ่อสวมเข้าไปแล้วกลับดูไม่เลวเลย
ชุดราตรีสีดำสนิท ข้างหน้าประดับด้วยเลื่อมเพชร ขับให้ผิวเด่นขึ้นราวกับหิมะ ทำให้ส่วนหัวไหล่และส่วนลำคอชัดขึ้น เอวดูบางรับกับแขนและขา หลังจากนั้นสไตล์ลิสอย่างหลิวลี่จื้อ ก็มองไปที่รูปร่างของเจียงเซ่อแล้วจดบันทึกสัดส่วนรูปร่างของเธอไว้ พร้อมกับพนักงานของร้าน Givenchy ที่คอยจัดกระโปรงให้เธอ ตอนที่ออกมาจาก Givenchy ก็ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว
ดวงอาทิตย์ด้านนอกยังสาดแสงค่อนข้างแรง ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงเวลาเร่งด่วน ถนนสายนี้ล้วนเป็นย่านสินค้าฟุ่มเฟือย เวลานี้คนสัญจรไปมาไม่เยอะนัก
ถนนย่านธุรกิจถูกเงาแสงอาทิตย์พาดผ่าน ลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้าต่างเลือกสินค้าที่ตัวเองชื่นชอบอย่างเงียบๆ อยู่ภายในร้าน Givenchy โม่อานฉีลงไปที่จอดรถชั้นใต้ดิน เจียงเซ่อสวมแว่นตากันแดด นั่งรออยู่ตรงมุมหนึ่งกับหลิวลี่จื้อ ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็แผดเสียงก้องกังวาน
เบอร์โทรศัพท์แสดงเบอร์บริษัทที่โทรเข้ามา เจียงเซ่อเดินไปที่ห้องพักผ่อนถึงค่อยรับโทรศัพท์
เธอคิดว่าคนที่บริษัทโทรมาคงจะคุยธุระเรื่องงานกับเธอ ก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมไม่ใช่เซี่ยเฉาฉวินที่เป็นคนติดต่อมาหาเธอ พลันมีเสียงของผู้หญิงดังออกมาตามสาย
“คุณเจียงใช่ไหมคะ มีเพื่อนของคุณอยู่ที่ทำงานคะ เขาบอกแซ่เฉิน อยากจะพบคุณตอนนี้คะ…….” เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงอุทานขึ้น
“ต้องขออภัยด้วยคะคุณเฉิน......ทางเราไม่สามารถให้เบอร์ติดต่อกับคุณได้ค่ะ” ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงอื้ออึงดังมาจากปลายสาย เหมือนโทรศัพท์จะถูกคนยื้อแย่งกันไปมา ผ่านไปสักพักผู้หญิงที่คุยกับเจียงเซ่อก็เปล่งเสียงแหลมมา มีเสียงย่ำเท้าเดินไปมาดูวุ่นวายดังออกมาจากโทรศัพท์ “คุณเฉินคะ คุณรอสักครู่จะได้ไหมคะ”
เจียงเซ่อขมวดคิ้ว พยายามคิดว่า ‘คุณเฉิน’ ที่ก่อความวุ่นวายในโทรศัพท์นั้นคือใครกัน
อ้างว่าเป็นเพื่อนเธอ แต่ตั้งแต่เธอมาเกิดใหม่ ก็ไม่มีเพื่อนแซ่เฉินซะหน่อย เจียงเซ่อคิดไปถึงเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง
อีกฝั่งของโทรศัพท์มีเสียงดังเอะอะโวยวาย เธอฟังแล้วรู้สึกรำคาญ จึงวางสายลง ตอนบ่ายเธอไม่มีธุระ พยายามย้อนกลับไปคิดสักครู่ก็นึกถึงคนๆ หนึ่งที่แซ่เฉินขึ้นมาได้
งานเลี้ยงวันครบรอบ 30 ปี ของ Steinway วันนั้น เผยหรุ่ยได้นำเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อเฉินหมิ่นซูมาและจะพาตัวเผยอี้ไปต่อหน้าต่อตาเธอ แล้วยังคิดที่จะ ‘วางมวย’ กับเธอด้วย
คิดถึงโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ที่มาโต้เถียงและเสียงดังเอะอะโวยวาย คนที่สร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่พนักงานบริษัทซื่อจี้หยินเหอ คิดว่าคงจะเป็นเฉินหมิ่นซูแน่
ห้านาทีต่อมา เซี่ยเฉาฉวินก็โทรศัพท์มาหาเธอ อย่างที่เธอคาดไว้จริงๆ
หลังจากเฉินหมิ่นซูรู้ฐานะของเธอก็แจ้นไปที่บริษัทซื่อจี้หยินเหอแจ้งว่าต้องการพบเธอ เพราะตอนนี้ เจียงเซ่อเป็นดาราหญิงที่บริษัทซื่อจี้หยินเหอกำลังผลักดัน เป็นคนที่ประธานบริษัทให้ความสำคัญเป็นธรรมดาที่บริษัทซื่อจี้หยินเหอจะไม่มีทางยอมให้ข้อมูลติดต่อของเจียงเซ่อกับหล่อนไปง่ายๆ
แต่เด็กสาวคนนี้มีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา พ่อของหล่อนเป็นคนดัง มีเส้นสายมากมายในตี้ตู หล่อนยื่นนามบัตรที่กระทรวงวัฒนธรรมมอบให้แก่ครอบครัวออกมา คนในบริษัทต่างก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องโทรศัพท์หาเจียงเซ่อต่อหน้าหล่อน
ใครจะรู้ว่าเฉินหมิ่นซูต้องการคุยกับเจียงเซ่อด้วยตัวเอง หญิงสาวที่โทรศัพท์ก็ไม่กล้าที่จะส่งโทรศัพท์ให้หล่อน จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น พนักงานที่ถือโทรศัพท์ต้องการห้ามเฉินหมิ่นซู แต่กลับถูกหล่อนสะบัดล้มลงกับพื้นจนต้องเรียกรถพยาบาล
เพราะเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษ จึงไม่ได้แจ้งตำรวจ ทางเบื้องบนจึงได้พาเธอกลับไปแล้ว
เจียงเซ่อถึงกับนวดขมับ เซี่ยเฉาฉวินกล่าวว่า
“โม่อานฉีฝีมือไม่เลว อยู่ข้างตัวเธอไว้ ถ้าคนๆ นี้มาหาเธออีกก็ให้โม่อานฉีกันไว้ ”
เจียงเซ่อตอบรับคำ เซี่ยเฉาฉวินก็พูดถึงเรื่องงานขึ้นมาอีก
"ทางจางจิ้งอานได้ให้คำตอบกับฉันมาแล้วเมื่อบ่ายนี้ เขาจะส่งคนมาคอนเฟิร์มเวลาการคุยรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาอีกทีหนึ่ง ถ้าราบรื่น หลังจากช่วงปลายเดือนคิวเธอจะต้องว่าง”