webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

397

บทที่ 397 โอกาส

Chapman ผู้จัดการ Steinway ในหัวเซี่ยก็ได้ขึ้นไปกล่าวต้อนรับแขกทุกคนที่ถูกเรียงเชิญมาในคืนนี้ นอกจากจะมีผู้จัดการของแบรนด์ใหญ่ต่างๆ ที่เคยร่วมงานกับทาง Steinway แล้ว Steinway ก็ยังได้เชิญกลุ่มนักดรตรีของต่างประเทศจนรวมไปถึงนักเปียโนชาวเดนมาร์กที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

จากนั้น Chapman ก็ได้กล่าวถึงเปียโนที่ตั้งอยู่ในงานว่ามันเป็นเปียโนที่ถูกส่งมาเพื่ออวยพรให้กับการครบรอบสามสิบปี ที่แบรนด์เปียโน Steinway ได้เข้ามาในหัวเซี่ยอย่างเป็นทางการ และมันก็ถูกส่งมาจากเยอรมันเลยด้วย บนใบหน้าของ Chapman เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ตั้งแต่ที่ Steinway ก่อตั้งมา ก็ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ศิลปะมาโดยตลอด และทาง Steinway นั้นก็มีจุดมุ่งหมายเพียงสิ่งเดียวมาโดยตลอด ว่าไม่ว่าคนที่จะนั่งอยู่ตรงหน้าจะเป็นนักดนตรี หรือชาวนา ขอแค่เมื่อพวกเขานั่งอยู่ต่อหน้า Steinway พวกเขาก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะที่แสนงดงามได้แล้ว......”

ตอนที่พูด Chapman ก็ได้ ยกสัญญาณมือขึ้น จากนั้นบนหน้าจอใหญ่ยักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขา ก็มีภาพบุคคลมากหน้าหลายตาที่กำลังนั่งเล่นเปียโนของ Steinway อยู่

ในภาพเหล่านั้นมีทั้งนักดนตรี มีทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก แขกทั้งหลายที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างก็พากันจ้องมองไปที่หน้าจอนั่น ประมาณสิบสามวินาทีหลังจากนั้น ภาพๆ หนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงมุมๆ หนึ่งของหน้าจอ เจียงเซ่อที่กำลังจะหันไปคุยกับเซี่ยเชาฉวิน แต่จู่ๆ เผยอี้ที่ไม่รู้มาจากไหนก็โผล่มาอยู่ด้านหลังเธอพอดี และกระซิบเบาๆ

“นั่นรูปพี่นี่”

รูปของเจียงเซ่อที่โผล่ขึ้นมาเมื่อกี้นี้ เป็นรูปตอนที่เจียงเซ่อกำลังถ่ายหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ แต่มันไม่ใช่รูปในหนัง แต่เป็นรูปที่ถูกถ่ายมาจากด้านข้าง เป็นรูปถ่ายที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอกำลังดีดเปียโนอยู่ เห็นมือเรียวสวยของเธอคู่นั้นที่กำลังวางอยู่บนเปียโน เป็นรูปที่ดึงดูดสายตาของทุกคนไม่น้อย

นี่น่าจะเป็นตอนที่เธอกำลังฝึกซ้อมอยู่ และถูกแอบถ่ายเก็บเอาไว้แน่ๆ ในงานครบอรอบสามสิบปีของ Steinway ในคืนนี้ พวกเขาก็ได้เลือกที่จะเอารูปของเธอมาเผยให้ได้เห็นกันด้วย

ภาพของเจียงเซ่อค่อยๆ ถูกขยายใหญ่ขึ้น เธอหลับตาลง ท่าทางจดจ่อไม่น้อย บนหน้าจอนั่น ใบหน้าของเธอเหมือนกำลังสนุกและเพลิดเพลินไปตัวโน้ต ขนตาของเธอขยับไปมาราวกับผีเสื้อ ตอนที่เธอดีดเปียโนอยู่นั้น มุมปากของเธอก็ยกขึ้นเล็กๆ ด้วย ราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอกำลังล่องลอยและอยู่ในห้วงลึกของเสียงเปียโน

และตอนนี้นี่เอง ที่ทำให้เจียงเซ่อเข้าใจแล้วว่าทำไมทาง Steinway ถึงได้เชิญเธอมาที่งานนี้ด้วย เพราะว่าทาง Steinway ต้องการที่จะใช้รูปของเธอในงานคืนนี้ และได้ส่งบัตรรับเชิญมาเข้าร่วมงานเพื่อเป็นการตอบแทนที่ได้ใช้รูปของเธอไป การร่วมมือกันแบบนี้ก็ถือว่าได้รับประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

และแน่นอนว่างานในครั้งนี้ ฐานะและมูลค่าของเจียงเซ่อก็จะต้องเพิ่มขึ้นซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

เธอพยักหน้า และตอบเผยอี้กลับไป ข้างๆ กัน พอคุณนายคนหนึ่งที่สวมชุดราตรีสีน้ำเงินได้ยินเผยอี้พูดขึ้นมาแบบนั้น ก็หันไปมองเจียงเซ่อทันที พอเห็นว่าเธอก็คือเด็กสาวในรูปที่กำลังนั่งเล่นเปียโนจริงๆ คุณนายคนนั้นก็มองเจียงเซ่อตั้งแต่ใบหน้าถึงมือทั้งสองข้างของเธอ สุดท้ายก็ย้อนกลับมาจ้องที่ข้อมือของเธอ

เจียงเซ่อที่รู้สึกได้ว่ากำลังโดนคุณนายคนนั้นมองอยู่ ก็หันหน้าไปหาทันที เพียงแวบเดียวข้อมูลพื้นเพต่างๆ ของคุณนายคนนี้ก็ไหลเข้าในหัวของเธอทันที หล่อนคือผู้จัดการแบรนด์นาฬิกาข้อมือสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Federer ในหัวเซี่ย

นาฬิกาข้อมือ Federer นั้นเป็นแบรนด์นาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งร้อยเจ็ดสิบกว่าปีก่อน และอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ กับภาพลักษณ์ที่ดีงามจนได้เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของโลก

นาฬิกาข้อมือ Federer นั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและร่ำรวย และภาพลักษณ์ที่เลือกเดินนั้นก็คือความสง่าและความงดงาม นาฬิกาแต่ละเรือนนั้นมีราคาสูงถึงหลักแสนจนไปถึงหลักล้านหรือมากกว่านั้น และในทั่วโลกนั้นก็มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

คุณ Federer ที่เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Federer ขึ้นมานั้นเคยได้ประมูลขายสินค้าในการประมูล และราคาประมูลที่ได้มาถึงยี่สิบล้านนั้นก็ทำเอาทั่วโลกสั่นสะเทือนกันไม่น้อย

ดังนั้นแบรนด์แบรนด์นี้จึงไม่ค่อยมีใครติดต่อไปเท่าไหร่ และพวกเขาเองก็ไม่คิดจะข้องเกี่ยวกับพวกดาราในระดับทั่วไปด้วย

ดาราหลายๆ คนที่ออกงานสังคมแบบนี้ ถ้าอยากจะขอหยิบยืมสินค้าของพวกเขามาสวมใส่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะ Federer นั้นมีกลุ่มลูกค้าที่แน่นอนและเหนียวแน่นกันอยู่แล้ว แถมยังเป็นพวกคนชั้นสูงมีฐานะอีกต่างหาก

ก่อนหน้านี้ แบรนด์สินค้าแบบนี้ไม่ค่อยจะเป็นที่สนใจของพวกดาราสักเท่าไหร่ ดังนั้นคนที่จะได้เจอและได้พูดคุยกับหล่อนในงานครบรอบสามสิบปีของ Steinway คืนนี้ นอกจากจะเป็นนักเปียโนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง และคนที่มีกิจกรรมทางธุรกิจที่แตกต่างไปจากนั้นแล้ว ที่สำคัญก็คือ คนที่ทาง Steinway มีแนวโน้มจะร่วมงานด้วยเท่านั้น

สองแบรนด์ระดับสูงที่ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่นิดกำลังมีความคิดที่จะร่วมมือกัน กำลังเตรียมพร้อมที่จะออกซีรีส์นาฬิกาใหม่ที่ออกแบบโดยเน้นสีขาวและดำของเปียโนเป็นหลัก และตอนนี้เป้าหมายนั้นก็กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อม

และเพราะด้วยเหตุผลนี้ ถึงทำให้เจียงเซ่อได้เจอกับพบกับผู้จัดการของ Federer

ข้อมูลของคุณผู้หญิงที่เป็นผู้จัดการ Federer ของหัวเซี่ยคนนี้มีไม่มากนัก ข้อมูลที่เซี่ยเชาฉวินให้เจียงเซ่อมา อย่างมากที่สุดก็มีข้อมูลความเป็นมาของสินค้าแบรนด์ Federer และข้อมูลอ้างอิงต่างๆ เท่านั้น

ในข้อมูลที่มีน้อยนิด จึงรู้แค่ว่าผู้จัดการ Federer เป็นคนตระกูลเดียวกันกับ Federer และตอนนี้อายุสี่สิบหกปีแล้ว

หล่อนมีนิสัยที่ชอบเก็บความคิดต่างๆ เอาไว้ ไม่ค่อยจะออกงานสังคมแบบนี้สักเท่าไหร่ ในข้อมูลของหล่อนก็มีแค่รูปรูปเดียว เป็นรูปที่หล่อนสวมชุดราตรีสีน้ำเงิน ดวงตาดูลึกล้ำแต่อารมณ์กลับดูนิ่งสงบ ความรู้สึกเหล่านั้นมันเหมือนทะลุผ่านออกมาจากรูปให้ได้รู้สึก ดูๆ แล้วก็เหมือนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่น่าเข้าไปพูดคุยด้วยเท่าไหร่

แต่หลังจากที่ได้เห็นตัวจริงแล้ว ก็ดูมีชีวิตชีวามากกว่าที่เห็นมากทีเดียว

หญิงสาวที่มีนามสกุลว่า Federer คนนี้ น่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวและธุรกิจของ Federer แน่ๆ โครงหน้ามีสัดส่วนอย่างชัดเจน มีดวงตาสีเทาฟ้า ราวกับอัญมณี และเพราะว่าหล่อนมีสายตาที่ลุ่มลึกมาก ทำให้แววตาของหล่อนดูเฉียบคมไม่น้อย

เรือนผมสีทองยาวสวยของหล่อนถูกรวบไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าของหล่อนเต็มๆ ลำคอยาวระหง และถึงแม้ว่าจะดูมีอายุแล้ว แต่ก็ยังไม่สูญเสียบุคลิกและความงดงาม กลับกันเพราะว่าอายุที่มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้หล่อนมีเสน่ห์ของผู้หญิงมากขึ้นไปอีก

หล่อนเองก็สังเกตสายตาของเจียงเซ่อที่จ้องมองมาอยู่ได้ หล่อนก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วเริ่มพูดขึ้น

“ข้อมือของคุณสวยดีนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ คืนนี้ช่างโชคดีจริงๆ” เจียงเซ่อยิ้มพร้อมกับยกข้อมือที่ถูกชมขึ้น ที่จริงบนข้อมือของเธอนั้นมีสร้อยข้อมือเงินเส้นหนึ่งประดับเอาไว้ แต่เธอได้ปลดมันออกไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นกำไลที่ทาง Steinway แจกให้กับแขกผู้รับเชิญแทน นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่มีเครื่องประดับชิ้นอื่นอีก

คุณนาย Federer มองตามท่าทางของเธอ สายตาที่จ้องหน้าเธออยู่ก็มองไปที่ข้อมือของเจียงเซ่อแทน บางทีอาจจะเป็นเพราะงานที่ทำอยู่ก็ได้ ทำให้หล่อนเกิดสังเกตข้อมือของเจียงเซ่อมากกว่าสิ่งอื่น

เจียงเซ่อสวมชุดราตรีที่เผยเรียวแขนทั้งแขน ผิวพรรณที่เนียนละเอียดราวกับกระเบื้องเคลือบคือสิ่งที่งดงามและน่ามองที่สุดของเจียงเซ่อ แขนของเธอเรียวยาว ขนาดของข้อมือและฝ่ามือก็สวยและมีขนาดที่พอดิบพอดี โดยเฉพาะกับนิ้วเรียวๆ นั่น ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้กับคนที่ได้เห็นได้มองไม่น้อย ทำให้เหมือนว่ากำลังได้มองสิ่งที่น่าจรรโลงใจอยู่

คุณนาย Federer สังเกตเห็นได้แล้วว่าเธอไม่ได้มีการทาสีเล็บเลยแม้แต่น้อย และไม่มีแหวนสวมอยู่บนนิ้วเลยสักนิ้ว ดูสะอาดสะอ้านและสบายตา แต่ก็มีความสง่าและสวยงาม

กำไลธรรมดาๆ ที่อยู่บนข้อมือของเธอนั้น ก็เป็นเพราะว่าร่างกายและบุคลิกของตัวเธอเองนั่นแหละ ที่ทำให้ตัวเครื่องประดับมันดูมีค่าขึ้นมา

เธอยื่นมือออกมา เหมือนว่าต้องการที่จะจับมือกับ Federer มีรอยยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้า และไม่ได้มีความกังวลเลยว่าบางที Federer อาจจะไม่ยื่นมือออกมาจับตอบก็ได้ และการกระทำแบบนั้นก็เป็นที่ยอมรับสำหรับ Federer อยู่ไม่น้อย หล่อนยิ้มขึ้นอ่อนๆ แล้วยื่นมือออกไปจับเจียงเซ่อตอบ

และการจับตอบในครั้งนี้ก็ไม่ได้รีบชักกลับแต่อย่างใด แต่จับค้างไว้อย่างนั้นเกือบสามวินาทีเลยทีเดียว ถึงจะค่อยๆ คลายออก