webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

352

บทที่ 352 งานราตรี

ตอนนี้เถาเถาได้กลายเป็นนักข่าวที่โดนหัวหน้ากองบรรณาธิการให้ความสำคัญไม่น้อยในหลงสิง ทำให้หล่อนได้รู้ข่าวคราววงในก่อนใครเขาอยู่บ่อยๆ

เรื่องที่เจียงเซ่อจะไปเข้าร่วมงานการกุศลในเดือนพฤษภาคมได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว คนในสำนักข่าวหลงสิงเองก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน

เถาเถาที่ได้รับโอกาสให้ได้ไปสัมภาษณ์ในครั้งก่อน หน้าที่สำคัญที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านายหล่อนก็ทำได้ดี แน่นอนว่าหัวหน้าบรรณาธิการเองก็ต้องมีการตอบแทนกับความตั้งใจของหล่อนด้วย ในหลายครั้งที่เป็นงานสัมภาษณ์สำคัญก็จะให้เป็นหน้าที่ของหล่อน และบทความหัวข้อข่าวที่เถาเถาเขียนนับวันก็ยิ่งดีขึ้น

ในที่ทำงานทุกคนต่างก็รู้ดี ไอดอลของเถาเถาก็คือเจียงเซ่อ เมื่อปีที่แล้วที่หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ เข้าฉายไป ถึงแม้ว่าข่าวที่เกี่ยวกับเจียงเซ่อจะมีออกมาตลอด ถึงขนาดที่ว่าแทบจะกลายเป็นหัวข้อข่าวในทุกๆ วันที่มีการเข้าฉายหนังอยู่แล้ว แต่ว่าก็ยังน้อยครั้งที่เจียงเซ่อจะออกมาโชว์ตัวแบบนี้

นอกจากครั้งนั้นที่ตามจ้าวร่างออกมาโปรโมทหนัง แต่หลังจากนั้นก็หายต๋อมไปอีก

และครึ่งปีก่อนหน้านี้ก็ไม่มีวี่แววข่าวของเธอเลยแม้แต่น้อย ว่ากันว่าเธอไม่ได้อยู่ในตี้ตู เพราะได้ไปเข้าร่วมการฝึกงานกับทางมหาวิทยาลัย

“เจียงเซ่อจะมีการเข้าร่วมงานเลี้ยงการกุศลของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ เธอได้ยินเรื่องนี้บ้างไหมเถาเถา?”

เพื่อนร่วมงานค่อยๆ ล้อมวงเข้ามา การเลี้ยงการกุศลของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ในครั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคมงานเลี้ยงน่าจะเป็นถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครึกโครมมากแน่ๆ

ยังไม่ทันถึงเดือนเมษายน ทาง ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ก็ปล่อยรายชื่อออกมาแล้ว แค่เห็นรายชื่อที่ออกมาแต่ละคนก็รู้แล้วว่าเป็นเหล่าศิลปินดาราที่ได้รับความนิยมมากแค่ไหน อีกทั้งยังมีเหล่าเศรษฐีคนรวยต่างๆ ที่รวมตัวกัน ผู้ทรงอิทธิพลก็ถูกรับเชิญมาด้วย

งานเลี้ยงครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก เหล่าสื่อเล็กใหญ่ต่างก็พากันตื่นตัวและเริ่มครึกครื้น และทำทุกอย่างเพื่อหวังที่จะได้รับบัตรเชิญเข้าไปในงาน

เถาเถาพยักหน้า รู้สึกอารมณ์ดีและตื่นเต้นไม่น้อย หล่อนนั้นติดตามความเคลื่อนไหวของเจียงเซ่อตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ทาง ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ออกรายชื่อผู้ที่จะเข้าร่วมงานมา หล่อนก็มองหาชื่อของเจียงเซ่อเป็นคนแรกเลยด้วยซ้ำ และไม่ปิดบังว่ารู้สึกดีใจมาแค่ไหน

เจียงเซ่อไม่ค่อยออกงานโชว์ตัวสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ตอนที่เป็นดาราหน้าใหม่จนมาถึงตอนนี้ เถาเถาที่ถึงแม้ว่าชื่นชมและภูมิใจในผลงานของไอดอลตัวเองมากแค่ไหน แต่ก็ยังกลัวว่าชื่อเสียงของเธอมันจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอ

“ยากมากที่เธอจะเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ ครึ่งปีที่แล้วนี่ก็เหมือนออกจากวงการไปเลย จนกระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี่เองที่เธอกลับมา นอกจากครั้งก่อนนั้นที่เคยเข้าร่วมงานขายรถยนต์ของเยอรมนี ก็น้อยมากที่จะมีข่าวใหม่ๆ ของเธอออกมา”

เพื่อนร่วมงานที่ล้อมตัวกันอยู่ก็พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ มีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“ได้ยินมาว่าครึ่งปีก่อนที่เจียงเซ่อหายไปเพราะว่าเธอไปฝึกงานกับทางมหาวิทยาลัยนี่ เพิ่งจะกลับมาเมื่อเดือนกุมภา รู้สึกว่านักข่าวของหัวจือจะถ่ายเธอได้ที่สนามบินนะ คนที่ไปด้วยก็เป็นพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งล่ะ”

นักข่าวสาวอีกคนก็พูดขึ้น

“ฉันเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งสาขาประวัติศาสตร์นี่ แต่สนใจที่จะเข้าสาขาโบราณคดีด้วย ว่ากันว่านอกจากวิชาของประวัติศาสตร์แล้ว ก็ยังจะเพิ่มวิชาเสริมอีกด้วย”

เด็กสาวคนหนึ่งที่พิงตัวอยู่ข้างๆ เถาเถาก็พูดขึ้นมาอย่างสงสัย

“ตอนนี้ค่าตัวเจียงเซ่อก็ไม่ใช่น้อยๆ นี่นา หลังจากที่หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ เข้าฉายไป ค่าตัวของเธอก็พุ่งขึ้นสูงเป็นน้ำดันเรือเลยมั้ง เห็นว่าตอนนี้มีผู้สร้างหลายๆ คนในวงการก็พากันไปตีสนิทกับซื่อจี้หยินเหอกันหมด เพราะอยากจะเชิญให้เจียงเซ่อไปเล่นหนังของตัวเอง แล้วทำไมเธอถึงยังต้องไปฝึกงานกับทางมหาวิทยาลัยอีกล่ะ หรืออยากจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก?”

เพื่อนร่วมงานพากันถกเถียงกันไม่หยุด พากันเดาใจของเจียงเซ่อว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่จิตใจของเถาเถาในตอนนี้ลอยไปไกลแล้ว

ทางหัวหน้ากองบรรณาธิการยังไม่ได้มีการจัดนักข่าวที่จะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงการกุศลของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ในเดือนพฤษภานี้ แต่เธอก็ตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าถึงแม้รายชื่อของเธอจะอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วย แต่หล่อนก็จะต้องเป็นคนที่ได้ไปกับนักข่าวที่จะไปสัมภาษณ์ในรอบนี้ให้ได้

ตอนนี้เพิ่งจะเดือนเมษาเอง แต่หล่อนก็เอาแต่รอคอยให้เดือนพฤษภามาถึงเร็วๆ แล้ว

เพื่อที่จะเข้าร่วมงานการกุศลในเดือนพฤษภาคมนี้ เซี่ยเชาฉวินก็ได้เริ่มจัดหาชุดราตรีเอาไว้ให้เจียงเซ่อแล้ว งานเลี้ยงในครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก ทั้งดาราน้อยใหญ่ ผู้กำกับจนไปถึงผู้ทรงอิทธิพลต่างก็มาเข้าร่วมงานนี้ ในงานไม่ได้มีแค่สื่อต่างๆ แต่ยังมีกลุ่มคนที่จะมาพูดคุยเรื่องการร่วมงานกันอีกด้วย

ซึ่งเซี่ยเชาฉวินเองก็ให้ความสำคัญกับมันมากๆ และเธอก็ได้เริ่มเตรียมการทั้งหมดตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว

ชื่อเสียงและฐานะของเจียงเซ่อในตอนนี้ แน่นอนวาต้องมีเหล่าแบรนด์สินค้าใหญ่ๆ ส่งของมาสนับสนุนเธอแน่นอน และต่างก็เสนอตัวว่าอยากจะตัดเย็บชุดราตรีให้ และสุดท้ายเซี่ยเชาฉวินก็เลือกเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงแบรนด์หนึ่งของฝรั่งเศส

ในงานเลี้ยงการกุศลในครั้งนี้ นอกจากเจียงเซ่อจะต้องบริจาคของที่จะนำไปประมูลได้แล้ว ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องมีการประมูลของบางอย่างมาด้วย เพื่อที่จะเป็นการบริจาคเงินเอง และเงินก้อนนี้ก็จะขาดไม่ได้เด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของที่เจียงเซ่อจะต้องประมูลนั้นอยู่ที่แปดแสน ตอนที่หล่อนพูดแบบนั้นออกมา พร้อมกับเอกสารทรัพย์สินที่เธอมีอยู่ในตอนนี้นั้น สีหน้าของเจียงเซ่อก็ดูปวดหัวขึ้นมาทันที

ทรัพย์สินที่เจียงเซ่อมีอยู่ก็ไม่ได้มากมายอะไร หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่หกล้านกว่าเท่านั้น ยังไม่รวมกับเงินที่จะต้องบริจาคในคืนงานเลี้ยงการกุศลอีก

นอกจากนี้แล้ว เซี่ยเชาฉวินยังตั้งใจที่จะให้โม่อานฉีหาห้องที่ใหญ่กว่านี้ให้เจียงเซ่ออีก เพราฉะนั้นเงินค่าเช่าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็ต้องยิ่งแพงขึ้น ถ้าหากว่าเธอไม่รีบถ่ายหนังละก็ ทรัพย์สินของเธอต้องติดลบแน่ๆ

วันเวลาล่วงเลยมาถึงเดือนพฤษภาคม งานเลี้ยงการกุศลของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ถูกจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติใจกลางตี้ตู โดยใช้ชื่องานว่า ‘หัวเซี่ยเปล่งประกาย’

ผู้จัดงานนั้นได้ทำการเตรียมทางเดินเข้างานเอาไว้อย่างกว้างขวาง ตรงหน้าประตูมีป้ายเขียนตัวหนังสือที่มีเอกลักษณ์เอาไว้ว่า ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ สื่อมหาศาลนั้นก็ได้มายืนรอขนาบอยู่ทั้งสองข้างแล้ว

บริเวณงานมีหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และกึกก้องไปด้วยเสียงร้องเรียกของเหล่าแฟนคลับในตี้ตู ไม่สนใจว่าอากาศในเดือนพฤษภาคมจะเริ่มร้อนขึ้นแล้วก็ตาม แต่พอตกช่วงบ่ายก็เริ่มมีคนมาจับจองพื้นที่กันแล้ว เพื่อให้ได้ยืนจุดที่ดีที่สุด

รอจนกระทั่งหนึ่งทุ่มของวันนั้น ไฟนีออนก็ค่อยๆ สว่างขึ้น ผู้คนที่มายืนดูเริ่มส่งเสียงโห่ร้องอีกครั้ง จากนั้นรถของผู้ที่มีชื่อเสียงและรถของเหล่าดาราศิลปินก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามา

ผู้คนด้านหน้าพากันร้องเรียกดังสนั่น ทั้งเสียงกรี๊ดและตะโกนเรียกชื่อดาราที่ตัวเองชื่นชอบ เจียงเซ่อนั่งรออยู่ในรถ แน่นอนว่าไม่กล้าที่จะลดกระจกดูแม้แต่น้อย

“หลิวเย่......พี่เย่.....หลิวเย่......”

“ชุยซิ่ง ชุยซิ่ง......”

“รั่วจวิน......จ้าวรั่วจวิน......”

เสียงร้องเรียกดังขึ้นไม่ขาดตอน ชื่อของเหล่าดาราถูกเหล่าแฟนคลับกู่ก้องร้องเรียกออกมาดังสนั่นไปทั่ว

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นไปตามการจัดลำดับการเข้างาน โดยดูจากฐานะความนิยมและความเหมาะสม และแน่นอนว่ากลุ่มคนที่มีชื่อเสียงและเหล่ามหาเศรษฐีทั้งหลายคงไม่มีทางที่จะให้มาร่วมเดินพรมแดงธรรมดาแน่นอน แต่เป็นทางเดิน VIP ที่จะเข้าไปสู่งานต่างหาก

ลำดับการเดินเข้างานก็คือการเรียงความความน่าสนใจของแต่ละคนเท่านั้น เจียงเซ่อที่ถึงแม้จะมีบุคลิกที่ดี แต่ทว่ายังไม่ถึงจุดที่ทำให้ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ สนใจที่จะให้มาเป็นคนที่เดินในกลุ่มแรกๆ ได้

เซี่ยเชาฉวิน เจียงเซ่อและช่างแต่งหน้านั่งอยู่ในรถ ภายในรถยนต์นั้นเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้ ซึ่งก็ไม่ได้ร้อนอะไร กลับกันเป็นเพราะมันเย็นไปหน่อย ทำให้บนไหล่ของเจียงเซ่อต้องมีผ้าคลุมไหล่คลุมเอาไว้ผืนหนึ่ง

ในคืนนี้เธอสวมเป็นชุดราตรีเกาะอกสีขาว ชุดกระโปรงห่อปกคลุมทรวงอกขาวเนียนเอาไว้ ด้านบนเผยกระดูกไหปลาร้าสองเส้น ที่เนียนสวยราวกับถูกแกะสลักออกมาอย่างวิจิตร เผยลำคอระหงสวยสง่า

หลังจากที่ถ่ายหนังเรื่อง ‘Evil’ เสร็จ ร่างกายของเจียงเซ่อก็ได้นักโภชนาการดูแลจนกลับมาเหมือนเดิม

และหลังจากที่กลับจากฝึกการฝึกงานที่อันหยาง เซี่ยเชาฉวินก็เริ่มดูและร่างกายของเธอย่างเข้มงวดไม่แม้กระทั่งใบหน้าของเธอ ผิวกายของเธอเนียนขาวสวยและดูเปล่งปลั่ง เดือนสองเดือนที่ได้เรียนและฝึกซ้อมการเต้นบัลเล่ต์ มันทำให้ยิ่งเห็นผลได้เร็วไม่น้อย

แขนและเรียวมือของเธอได้สัดส่วนและดูลื่นเนียน ดูเฟิร์มและเนียนละเอียด แต่ความผอมนั้นก็ไม่ได้ดูเก้งก้างหรือนูนเด่นออกมา ชุราตรีชุดนี้ถูกตัดเย็บออกมาได้อย่างเพอร์เฟคด้วยช่างฝีมือของฝรั่งเศส Boateng อีกทั้งมันยังช่วยขับให้เรือนร่างของเธอยิ่งดูมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งเอวเล็กคอด คอระหง และเรียวแขนต่างก็ดูเป็นที่น่าดึงดูดไม่น้อย

ไข่มุกสีขาวยิ่งขับให้ผิวของเธอดูสว่างและเปล่งประกาย ยิ่งเธอแต่งหน้าก็ยิ่งดึงดูดสายตาผู้คนได้ดี ผมของเธอถูกรวบขึ้นเอาไว้หลวมๆ ใบหูสวมตุ้มหูเพชรห้อยระย้าลงมา มันกวัดแกว่งไปตามท่าทางของเธอ กระทบกับแสงจนหักเหวาววับ