webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

340

บทที่ 340 ฮอต

คนที่เข้ามาอ้อมล้อมต่างก็พากันถามนู่นถามนี่ไม่หยุด กับครั้งแรกที่เหล่านักศึกษาอาจารย์ของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเจอกับสถานการณ์แบบนี้ มันก็ห้ามไม่ได้ที่จะให้มีนักศึกษาบางคนเผลอตอบคำถามออกไป และตอบออกไปตรงๆ ว่าครึ่งปีที่ผ่านมานี้พวกเขาได้ไปฝึกงานกัน

ถามนู่นถามนี่ไร้สาระก็มี อย่างเช่นว่าเจียงเซ่อมีทำนิสัยแย่ๆ ต่อเพื่อนนักศึกษาด้วยกันบ้างหรือเปล่า หรือว่าเข้ากับกลุ่มเพื่อนไม่ได้บ้างไหม ปฏิบัติตัวกับอาจารย์อย่างไร......

ถามจนต้องพากันวิ่งหนีถึงจะหยุดถามกัน

เหล่าแฟนคลับที่ยังคงสงสัยใคร่รู้และอยากจะถามถึงเรื่องราวต่างๆ ของไอดอลตัวเอง คอยตามเหล่านักเรียนไปแบบไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเลยด้วย จนกระทั่งพอกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ถูกไล่ตามจนทนไม่ไหวแล้ว ก็รีบขึ้นรถที่ทางมหาวิทยาลัยมารับกลับในทันที และนั่นก็ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเยอะ

ข้างนอกนั่นยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ตามเจียงเซ่อไม่ทันกำลังยกชูมือถือขึ้นมากันใหญ่ ศาสตราจารย์เถียนถอดหมวกปากเป็ดที่อยู่บนศีรษะออก แล้วจัดผมตัวเอง

“เด็กพวกนี้น่ากลัวจริงๆ เลย”

เขาก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ก็โดนจับไปถามอีก มีนักข่าวปะปนอยู่ในนั้นด้วย ถามถึงเรื่องเจียงเซ่อกันใหญ่

ศาสตราจารย์เถียนยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ แต่ก็โดนคนจับเอาไว้เสียแล้ว แต่ก็หลุดมาได้พร้อมๆ กับเหล่านักศึกษาที่โดนพวกนักข่าวและกลุ่มแฟนคลับจับตัวเอาไว้ด้วยเช่นกัน

ตอนแรกที่เหล่าอาจารย์และนักศึกษาของสาขาโบราณคดีโดนก่อกวนถามนู่นนี่ และคนของสาขาโบราณคดีก็เพิ่งเคยได้สัมผัสกับสถานการณ์แบบนี้ พอขึ้นรถกันแล้ว ก็มีนักศึกษาบางคนอดไม่ได้ที่จะลองค้นหาชื่อของเจียงเซ่อดู ตั้งแต่ออกมาจากสนามบินมาตอนนี้ก็เพิ่งจะครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่พอหญิงสาวลองหาชื่อเจียงเซ่อดู ข่าวใหม่ที่เกี่ยวกับเธอก็ออกมาเรียบร้อยแล้ว

“ศาสตราจารย์เถียนคะ......”

และหัวเซี่ยจือซวิ้นก็เป็นแหล่งข่าวแรกที่ได้ลงข่าวของเจียงเซ่อ ในข่าวเขียนเอาไว้ว่า : เจียงเซ่อเดินทางกลับเมืองหลวงรอบดึกอย่างลับๆ ดูเหมือนว่าเพิ่งจะกลับมาจากการฝึกงานกับเหล่าอาจารย์และเพื่อนนักศึกษา

ข้างล่างยังมีการพูดถึงสาขาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง และมีรูปภาพประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษาที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ต่างก็โดนถ่ายด้วยใบหน้าที่ดูเหวอๆ ส่วนเจียงเซ่อก็เหมือนว่าจะชินกับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ภาพที่ถ่ายออกมาได้จึงยังดูสวยเหมือนเดิม และดูมีสติมากๆ ด้วย

ข่าวก็เพิ่งจะออกไปได้แค่ไม่กี่นาที แต่คอมเม้นท์ต่างๆ กลับคึกคักเป็นอย่างมาก แค่ในระยะเวลาสั้นๆ ข่าวนี้ก็ถูกรีโพสไปเรื่อยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า และความฮอตฮิตของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย และดูท่าว่าคงจะได้เป็นหัวข้อข่าวในวันพรุ่งนี้ด้วย

นักศึกษาสาขาโบราณคดีล้อมวงกันเข้าไปดู และเป็นอีกครั้งที่ได้รู้ว่าดาราสาวที่กำลังโด่งดังมันเป็นอย่างไร

เจียงเซ่อหายไปจากวงการบันเทิงเกือบจะครึ่งปีแล้ว พอปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง มันก็ง่ายที่จะกลายเป็นที่ดึงดูดของเหล่าสื่อและกลุ่มแฟนคลับ

“เธอโด่งดังขนาดนี้ แล้วทำไปถึงยังต้องมาเข้าร่วมการฝึกงานศึกษาโบราณคดีกับเราอยู่อีกล่ะ?”

มีคนเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย หนุ่มใส่แว่นคนหนึ่งดันแว่นของตัวเองขึ้น

“ผมเองก็สงสัยนะ ผมได้ยินมาว่าเธอได้รับเล่นหนังเรื่องหนึ่งก็ได้ค่าตัวประมาณห้าสิบล้านแล้ว ดาราที่กำลังโด่งดังแบบนี้ทำไปถึงต้องละทิ้งเวลาแสดงหนังไปเสียล่ะ ใช้เวลาไปหมกตัวอยู่กับพวกเราที่อันหยางตั้งหลายเดือนเลยนะ?”

คนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับเจียงเซ่อมาตั้งหลายเดือนต่างก็รู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งตอนที่ได้ยินถึงค่าตัวต่อหนังหนึ่งเรื่องของเจียงเซ่อ นักศึกษาหลายๆ คนถึงกับช็อกไปในทันที

ตัวเลขห้าสิบล้านนี้สำหรับนักวิชาการทางด้านนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ตัวเลขที่เยอะอะไร โดยเฉพาะกับในระดับศาสตราจารย์เถียนนั้น นอกจากเวลาปกติที่เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแล้ว เขาก็ยังมีงานอื่นอีก อีกทั้งทางการเองก็พร้อมที่จะเปิดห้องแลปให้เขา เพื่อที่จะเชิญให้นักวิชาการชั้นยอดได้เข้ามาวิจัยวัตถุโบราณ และรักษามัน รายได้ที่สั่งสมนานหลายปีก็ได้ไปหลายสิบล้านแล้ว

แต่แค่ดาราเล่นหนังเรื่องหนึ่งแต่ก็ได้ตัวเลขที่มากขนาดนี้แล้ว ก็ถือว่ามากเป็นพิเศษสำหรับคนที่ยังเรียนไม่จบ

ที่สำคัญก็คือ เจียงเซ่อยังละทิ้งงานแสดงหนัง แล้วกลับมาเรียนอย่างเต็มที่ ไม่เลือกงานไม่เลือกทางลัด ในการฝึกงานในครั้งนี้ เธอเป็นคนที่ตั้งใจและพยายามที่สุดแล้ว

พอศาสตราจารย์เถียนที่กำลังจัดแต่งทรงผมตัวเองอยู่ได้ยินนักศึกษาพูดแบบนั้น ก็ขมวดคิ้วไม่เห็นด้วยทันที

“การค้นหาความรู้ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกนะ”

เขาตัดบทนักศึกษาที่กำลังพูดคุยกัน พร้อมกับสอนออกไป

“เวลาทำเงินในอนาคต ขึ้นอยู่กับตัวพวกเธอเอง หลังจากที่เรียนจบไปแล้วก็ยังมีโอกาสอีกหลายทาง แต่การเรียนทางใดทางหนึ่งนั้นมันมีเวลาจำกัด” เขาจัดๆ คอเสื้อ พยายามลูบรอยเสื้อที่ยับเพราะโดนพวกนักข่าวรุมทึ้งให้เรียบ

“เมื่อต้องเข้าสังคมในอนาคตอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้า ยากนักที่จะมีคนมาทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำอีกครั้ง หากอยู่ในโอกาสที่ได้เรียนก็จงเรียน ถึงเวลาทำงานหาเงินก็จงตั้งใจ สติปัญญาของเจียงเซ่อมันเหมาะสมที่จะเรียนเหมือนพวกเธอแน่นอน!”

ชายหนุ่มที่พูดถึงเรื่องค่าตัวของเจียงเซ่อเมื่อครู่นี้หน้าแดงขึ้นมาทันที ก่อนจะขอโทษออกมาด้วยความจริงใจ

“ครับศาสตราจารย์”

แต่เจียงเซ่อที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้กำลังโดนโม่อานฉีลากตัวมายังรถที่จอดเอาไว้ ตี้ตูในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ถือว่าหนาวไม่น้อย แต่ทั้งสองคนกลับวิ่งกันจนเหงื่อแตก นอกรถนั่นยังมีกลุ่มแฟนคลับยกมือถือขึ้นมาถ่ายกันให้วุ่น พลางร้องเรียกชื่อของเจียงเซ่อ โม่อานฉีหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดหน้าผาก ก่อนจะเริ่มออกตัวรถ

“นี่คือกระแสหลังจากที่หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ออกฉายไป”

เจียงเซ่อออกไปฝึกงานกับทางมหาลัยกว่าครึ่งปี แต่กระแสของเธอยังคงอยู่เหมือนเดิม ตอนที่เธอเดินทางออกจากตี้ตูไป หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ก็เพิ่งจะออกฉายไปได้ไม่นาน และมันก็ได้ขึ้นเป็นหัวข้อข่าวเด่นจนเป็นเรื่องปกติ ถ้าให้โม่อานฉีพูดละก็ ‘ถึงตัวเธอจะไม่ได้อยู่ในยุทธภพ แต่ยุทธภพก็ยังคงมีข่าวของเธอเสมอ’

ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ นั้นได้มีการออกฉายถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ และยอดขายก็ได้ทะลุหนังรักทุกเรื่องของหัวเซี่ย และยอดกว่าหนึ่งพันหนึ่งร้อยล้านก็เป็นข้อยืนยันให้หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ได้ดี ตอนนั้นสื่อข่าวของหัวเซี่ยก็ล้วนแล้วพูดถึงข่าวนี้กันให้ทั่ว

ก่อนหน้านี้ หนังรักของหัวเซี่ยที่ครองอันดับสถิติมาได้ตลอด ก็คือหนังรักของหนิงจ้านผิงที่ใช้เวลาถ่ายทำกว่าหกปีอย่างเรื่อง ‘รักครั้งที่สอง’ หนังเรื่องนี้ได้ออกฉายไปกว่าหนึ่งเดือน และยอดขายทั้งหมดก็ได้อยู่ที่เก้าร้อยล้าน จากนั้นก็ครองบัลลังก์หนังรักของหัวเซี่ยที่มียอดขายสูงสุดมาโดยตลอด

ตอนที่หนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ เข้าฉาย ก็มีหลายๆ คนที่คิดว่ายอดจะต้องทะลุสถิติที่มีอยู่แน่ๆ แต่ดันเจอกับปัญหาหลายๆ อย่างเข้า ทำให้หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ มีโอกาสได้เป็นผู้ทำลายสถิติแทน

และเพราะว่ายอดขายบัตรหนังของเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ขายดีมากๆ จึงทำให้โรงหนังใหญ่ต่างๆพากันเพิ่มรอบการฉายหนัง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ จากที่มีแค่สามสิบห้าวันก็ยาวไปจนถึงประมาณห้าสิบวัน

จนสุดท้ายยอดขายบัตรทั้งหมดก็ได้ไปกว่าสองพันสองร้อยล้าน และตัวเลขมันก็ตรงตามที่เหล่าคนในวงการคิดเอาไว้เลย

ถึงแม้ว่าหนังจะออกจากโรงไปแล้ว แต่ความฮอตของเจียงเซ่อก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลง

ตัวเธอไปฝึกงานไกลถึงอันหยาง ระหว่างนั้นก็ไม่ได้มีผลงานอื่นๆ เลย และยังไม่มีการเปิดเผยตัวในที่สาธารณะอีกด้วย แต่นั่นก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอแล้ว

ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพราะว่าหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากในประเทศ และความพร้อมใจกันพูดถึงความสำเร็จของหนังเรื่องนี้กันของเหล่าแฟนคลับก็ทำให้กลายเป็นที่ดึงดูดของบริษัทต่างประเทศอย่างฮว๋านเต่าบันเทิง และถึงขึ้นซื้อลิขสิทธิ์เรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ไปเลยด้วยซ้ำ พวกเขาสนใจที่จะนำหนังเรื่องนี้มารีเมคในแบบฉบับหนังฮอลลีวูด จึงทำให้ชื่อของเจียงเซ่อยิ่งเป็นที่พูดถึงของเหล่าสื่อภายในประเทศมากยิ่งขึ้น และเริ่มตั้งมั่นในหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ และในตัวเจียงเซ่อมากขึ้นด้วย

ทางด้านของผู้ลงทุนอย่างรุ่ยเหอเองก็ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ “ทางเหยียนชุนหัวของรุ่ยเหอถึงกับติดต่อมาทางซื่อจี้หยินเหอด้วยตัวเองเลยนะ เขาถามว่าเธอจะช่วยเลิกฝึกงานก่อนกำหนดได้หรือเปล่า”

โม่อานฉีขับรถไปพลาง หันหน้าคุยกับเจียงเซ่อไปพลาง

“บอกว่าหนังทุกเรื่องที่เธอจะรับเล่น พวกเขายินดีและสนใจที่จะลงทุนให้ ด้านผลตอบแทนจะสมน้ำสมเนื้ออย่างแน่นอน เหลือแค่รอให้เธอตอบตกลงเท่านั้น”

เหยียนชุนหัวกล้าพูดออกมาขนาดนั้นก็ใช่ว่าจะไม่ทำตามที่พูด เจียงเซ่อได้ใช้ศักยภาพของตัวเองในการยืนยันอิทธิพลทางด้านยอดขายบัตรหนังได้ และหนังเหล่านั้นก็ได้คำชมเชยอย่างล้นหลามอีกด้วย