webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

320

บทที่ 320 เล่นสกปรก

เรียวขาของเจียงเซ่อสวยมาก มันดูเรียวบางและยาวสวย ทรวดทรงได้สัดส่วน ที่สำคัญคือผิวของเธอดีมาก เนียนละเอียดราวกับกระเบื้อง บนผิวขาวบางจุดโดนยุงกัดไปหลายจุดจนเห็นได้อย่างชัดเจน

เผยอี้เพิ่งจะเกาให้ได้ทีสองที ก็เจอไปแล้วสองจุดแดงๆ เธอเกาะไหล่ของเผยอี้เอาไว้ แล้วชี้บอกเขาอีก

“ตรงด้านขวาอีกนิดนึง......”

เขาเอื้อมมือไป และพบว่าที่ขาด้านขวาก็เริ่มมีตุ่มขึ้นแล้วเหมือนกัน เขาช่วยเกา เธอเองก็ก้มมองเผยอี้ที่มีผ้าพันแขนพันเอาไว้ เมื่อกี้ก็ไม่ทันได้ถาม และตอนนี้เธอก็ทนไม่ไหวแล้ว

“มือเป็นอะไร?”

“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ”

เขาเกาอีกทีสองที รอบๆ นี่มียุงบินชุมไปหมด คงไม่อยากจะยืนอยู่ข้างนอกนี่นานๆ อีก เลยดึงเธอให้เข้าไปข้างใน

“ที่จริงกลับมาได้ตั้งนานแล้ว แต่เกิดอุบัติเสียก่อน เลยเสียเวลาไปหน่อยน่ะ”

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ได้พูดถึงรายละเอียดอะไรต่อ

ตอนนั้นมันค่อนข้างจะหนักทีเดียว เขาต้องพักฟื้นอยู่หลายวันถึงจะกลับมาได้ กลับมาอยู่ตรงหน้าเจียงเซ่อเหมือนในตอนนี้ และอาการก็ดีขึ้นมากแล้ว

มิน่าตอนที่เธอบอกว่าจะมาเอง เผยอี้ก็ไม่ได้ดึงดันที่จะมารับเองเหมือนเดิม เจียงเซ่อหลุบตามองแขนของเขาแวบหนึ่ง ท่าทางเขายังดูมั่นใจเหมือนเดิมเลย

“แต่ก็ถือว่าเป็นแผลที่โชคดี”

เขาสะบัดๆ มือ หน้าบานเป็นกระด้ง แถมเหมือนพวกมีแผนอะไรในใจแบบนั้น

“ผมได้หยุดหนึ่งเดือน เลยกลับมาอยู่กับพี่ที่ตี้ตูไงล่ะ”

เขาพูดออกมาแบบนี้ก็แสดงว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วจริงๆ เจียงเซ่อถอนหายใจออกมา

พอเข้ามาถึงข้างใน ก็พวกว่าพวกเนี่ยต้านเองก็อยู่ด้วย พอเห็นว่าทั้งสองคนเดินจูงมือกันเข้ามา พวกเขาก็พากันทักทายเจียงเซ่อ เจียงเซ่อนั่งลง เผยอี้ก็ยกขาเธอขึ้นมาทั้งสองข้าง แล้วเอาแต่มองหาตุ่มที่โดนยุงกัดแล้วเกาให้อยู่แบบนั้น

เกาไปได้ทีสองที ก็เผลอยกไปเกาที่หน้ากับบนตัวตัวเองบ้างเหมือนกัน

มืออีกข้างของเขาไม่ค่อยสะดวกนัก ใช้ได้แค่มือข้างเดียวในตอนนี้ เจียงเซ่อเลยช่วยเขาเกาหน้าและแขนเสียเลย

พอเนี่ยต้านเห็นแบบนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก

“พวกพี่ไปยืนคุยอะไรกันข้างนอก ถึงได้โดนกัดขนาดนี้?”

ตอนที่ทั้งสองคนเดินเข้ามา ก็เอาแต่เกากันไม่หยุด เผยอี้น่ะช่างเถอะ แต่เท่าที่จำได้เนี่ยต้านไม่เคยเห็นเจียงเซ่อต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน เลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“มีเรื่องคุยกันก็เข้ามาข้างในสิ พวกเราให้พื้นที่ส่วนตัวได้นะ? ทำไมต้องไปแอบคุยกันข้างนอกด้วยล่ะ? ใช่ป่ะพี่อี้?”

เผยอี้ไม่สนใจเขา พอเห็นขาเล็กๆ ของเธอที่ตัวเองกำลังเกาให้แดงไปหมด ก็ไม่กล้าจะเกาต่ออีก เลยให้คนไปหายาทามาให้ แล้วช่วยทาให้เธอแทน อาการถึงได้ดีขึ้นเยอะ

“เซ่อเซ่อ ยินดีกับหนังเรื่องใหม่ที่เพิ่งฉายไปด้วยนะ”

เซี่ยงชิวจี๋ยกแก้วแล้วเลื่อนมานั่งใกล้ๆ

“ยอดขายบรรลุเป้าที่ตั้งไว้ไปได้อย่างสวยงามเลยนี่”

ตลาดหนังรักภายในประเทศไม่ได้กว้างอะไรนัก และน้อยมากที่ยอดขายสักเรื่องจะโดดเด่นออกมา ส่วนมากก็แค่พอขายได้เท่านั้น

และตัวจ้าวร่างเองก็น้อยครั้งที่จะถ่ายหนังรักบริสุทธิ์อะไรแบบนี้ อีกทั้งยังไม่มีการใส่ลูกเล่นอะไรอื่นๆอีก ตอนแรกคนในวงการเองก็คิดว่าคงไปไม่รอด ยิ่งเพิ่งจะมาเปลี่ยนตัวนางเอกแบบนี้ด้วย

เซี่ยงชิวจี๋พูดต่อ

“ให้พวกเราช่วยหาคนอีกสักหน่อยไหม ให้พวกเขาไปปล่อยข่าวใหม่ๆ ของเธอ เผื่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีก?”

“ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วล่ะ”

ที่เซี่ยงชิวจี๋พูดออกมาไม่ใช่เพราะว่าเผยอี้อยู่ตรงนี้เลยพูดออกมา แต่เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้ร่วมกันลงทุนหนังเรื่อง ‘Evil’ ให้กับเจียงเซ่อ

จากครั้งก่อนที่พวกเขาได้ช่วยกันลงทุนหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ตามเผยอี้ไป ก็เริ่มลิ้มรสความหอมหวานของมันไปแล้ว เนี่ยต้านและคนอื่นๆ เลยช่วยกันตั้งบริษัทเล็กๆ ขึ้นมา เพื่อที่จะเอาเงินก้อนที่ได้มาไปลงทุนกับเรื่องอื่นต่อไป

และเป้าหมายของพวกเขาในตอนนี้คือการลงทุนกับหนังทุกเรื่องที่เจียงเซ่อจะแสดง เพราะว่าตอนนี้เจียงเซ่อเองก็มีชื่อเสียง มันต้องมีประโยชน์กับพวกเขาอยู่แล้ว

ตอนนี้หนังที่เธอแสดงนำเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ได้เข้าฉายไปแล้ว และตอนนี้เธอก็ได้ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงนำไปหนึ่งก้าวแล้ว ถ้าหากว่ายอดขายบัตรหนังมันประสบความสำเร็จ หนังเรื่องต่อๆ ไปของเธอก็จะได้ผลประโยชน์เรื่องยอดขายไปด้วยอย่างแน่นอน

“งานหนังรอบปฐมทัศน์ในคืนนี้ ผลตอบรับก็ถือว่าโอเคเลยนะ”

เจียงเซ่อไม่ได้กำลังเกรงใจเซี่ยงชิวจี๋ แต่แค่เมื่อลองมองดูเป้าหมายแล้ว การโปรโมทของหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ มันถือว่าเพียงพอแล้ว อีกทั้งหลังจากนี้ยังมีอีกหลายรายการที่ต้องไปออก ตอนนี้คงไม่จำเป็นให้เซี่ยงชิวจี๋ช่วย

เขาพยักหน้า แล้วกลับไปนั่งที่ตัวเองเหมือนเดิม แต่เพิ่งจะขยับตัวไปได้ไม่กี่ที เผยอี้ก็ยื่นขาออกมา แล้วเตะไปที่เก้าอี้

เก้าอี้ตัวนั้นหงายไปด้านหลัง แถมยังพาเซี่ยงชิวจี๋หมุนตัวไปอีกสองรอบ จนกระทั่งเซี่ยงชิวหรานต้องช่วยจับเขาเอาไว้ถึงจะกลับมานิ่งได้เหมือนเดิม เซี่ยงชิวจี๋นึกไม่ถึงว่าเผยอี้จะทำแบบนี้ น้ำที่อยู่ในแก้วกระฉอกใส่หน้าใส่ตัวเขาจนเปียกไปหมด แม้แต่เฉิงหรูหนิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็โดนลูกหลงไปด้วย

ถ้ามันแค่เปียกก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเมื่อกี้ล้มลงไป เซี่ยงชิวจี๋รู้สึกว่านี่มันน่าโมโหไปแล้ว

“เผยอี้ ทำบ้าอะไรวะเนี่ย?”

เสียงของเซี่ยงชิวจี๋ดังขึ้น เผยอี้เองก็ไม่พอใจอยู่แล้ว เขาลุกขึ้นแล้วพูด

“จะพูดก็พูดสิ จะมานั่งใกล้ๆ ทำไมล่ะ?”

มือข้างหนึ่งก็มีผ้าพันแผล อีกข้างก็ยังโอบเจียงเซ่อเอาไว้ และยังสั่นขาไปด้วย พูดกับเซี่ยงชิวจี๋ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังคุกคาม “ถ้าเข้ามาใกล้อีกละก็ ไม่ใช่แค่เตะเก้าอี้แน่”

“เออๆ พอแล้ว หยุดก่อความวุ่นวายกันสักที”

เนี่ยต้านเองก็โดนลูกหลงเหมือนกัน เขาดึงกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดหน้า เซี่ยงชิวจี๋ร้อง ‘เหอะ’ ออกมาคำหนึ่ง

“ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้มันดีต่างหาก ใช่ไหมเซ่อเซ่อ คืนนี้โจวเฉิงอู่โทรมาหาผม เขาฝากมาถามพี่อี้ว่า เซ่อเซ่อได้พิจารณาเรื่องจวี้เฟิงบ้างหรือยัง”

เขายืนมือไปรับผ้าเช็ดหน้าจากเซี่ยงชิวหรานมาเช็ดน้ำ พลางพูดไปเรื่อยๆ

“ฉันบอกแล้ว ถ้าเซ่อเซ่ออยากจะไป ไม่ว่าจะระดับไหนของบริษัทจวี้เฟิง ก็พร้อมที่ดูแลเธอทั้งนั้น สามารถทำให้เธอเป็นเจ้าหญิงเลยก็ได้ ส่วนเรื่องเพื่อนเธอที่เคยเกี่ยวข้องกับบริษัทนั่นก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว ส่วนเรื่องสัญญาของซื่อจี้หยินเหอก็ปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการ”

ตระกูลโจวเป็นคนที่ควบคุมจวี้เฟิงบันเทิงอย่างแท้จริง การที่โจวเฉิงอู่กล้าที่จะมาพูดโน้มน้าวเจียงเซ่อแบบนี้ แสดงว่าต้องมีผลประโยชน์อะไรให้เสี่ยงแน่ๆ

ข้อเสนอแรกเริ่มของเขาถือว่าไม่เลวเลย เซี่ยงชิวจี๋พูดต่อ

“สัญญาเธอกับซื่อจี้หยินเหอใกล้จะหมดสัญญาแล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ฉันตั้งใจว่าจะต่อสัญญา”

เจียงเซ่อส่ายหน้า

เซี่ยงชิวจี๋รู้สึกแปลกใจไม่น้อย

“ต่อสัญญาเหรอ?”

เธอมีสัญญากับซื่อจี้หยินเหอสามปี “เท่าที่ฉันรู้มา ในระยะเวลาสามปีนี้ นอกจากผู้จัดการส่วนตัวของเธอเซี่ยเชาฉวิน ทางซื่อจี้หยินเหอเองก็ไม่ได้ให้ค่าตอบแทนเธอคุ้มค่าเท่าไหร่นี่”

สำหรับเซี่ยงชิวจี๋แล้ว การที่อยากจะรู้เรื่องสัญญาระหว่างเจียงเซ่อและซื่อจี้หยินเหอไม่ใช่เรื่องยากสักนิด

“เงินที่เธอยังติดค้างซื่อจี้หยินเหอไม่ได้มากมายอะไร หนังที่เล่นไปก็ไม่ได้เยอะมาก”

ในสองสามปีที่เธอเซ็นสัญญากับซื่อจี้หยินเหอมานี้ ได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์แค่สองอย่าง หนังที่ได้ถ่ายจริงๆ จังๆ ก็มีแค่สองเรื่อง ซึ่งเรื่องที่ออกฉายอยู่ตอนนี้ก็มีแค่ ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ และรายได้ค่าตัวก็ดูจะไม่คุ้มกับเธอเอาเสียเลย

“ไม่ลองทบทวนว่าจะสร้างช่องทางด้วยตัวเองหน่อยหรือ?”

“ไม่นะ” เจียงเซ่อยิ้มๆ “ที่จริงเกี่ยวกับปัญหาเรื่องหนัง ทางบริษัทเองก็ช่วยฉันพูดมาเยอะแล้ว แต่แค่ฉันปฏิเสธไปเท่านั้นเอง”

เธอมีความชัดเจนในเป้าหมายและจุดยืนของตัวเองดี และรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เพราะงั้นเลยไม่คิดที่จะฉวยโอกาสนี้ในการดิ้นหนีออกมาทำเงิน แต่เป้าหมายคือการได้พัฒนาตัวเองและเป็นที่ยอมรับเท่านั้น

“ฉันไม่ได้มีแผนที่จะย้ายค่าย ฉันรู้ว่าบริษัทอื่นคงจะยื่นข้อเสนอที่หนักกว่าของซื่อจี้หยินเหอแน่ๆ แต่การที่ฉันเลือกซื่อจี้หยินเหอก็เป็นสิทธิ์ของฉันเอง ส่วนเรื่องของไต้เจีย ฉันก็ทำสิ่งที่ฉันควรทำไปแล้ว ไม่จำเป็นที่จะดึงเรื่องนี้ให้มาเกี่ยงโยงกันอีก”

พอเจียงเซ่อพูดถึงตรงนี้ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่ได้สนใจจวี้เฟิงเลยจริงๆ

เซี่ยงชิวจี๋ที่กะจะเกลี้ยกล่อมเธออีกสักนิดก็ไม่คิดจะพูดอะไรอีก แล้วทุกคนก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอแทน’