บทที่ 293 คำวิจารณ์
“พูดบ้าพูดบออะไรกัน!”
โม่อานฉีที่ดูข้อความวิจารณ์หลายอันแล้วก็เริ่มจะทนอ่านไม่ได้อีกต่อไป หล่อนหันหน้าไปมองเจียงเซ่อ เธอกำลังถือบทหนังเอาไว้ในมือ ราวกับว่าไม่ได้รับรู้เรื่องที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงตัวเธอในตอนนี้เลย
แต่ก็ยังมีแฟนคลับของเธออีกกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนเจียงเซ่อต่อ แต่ว่าตอนนี้พวกชาวเน็ตเอาแต่ด่าทอกันเต็มไปหมด ทำให้ข้อความดีๆ มันถูกกดลงไปหมดแล้ว
เจียงเซ่อไม่ได้ดูพวกคำวิจารณ์เหล่านั้น แต่อารมณ์ที่ออกมาทางสีหน้าของโม่อานฉีนั้น ก็พอจะเดาได้แล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้มันตึงเครียดแค่ไหน เธอ ‘บังคับให้หลิวเย่มาเล่นหนัง ‘Evil’’ ข่าวพวกนี้ ต้องมีคนตั้งใจปล่อยออกมาแน่ๆ เพราะมันจะสามารถดึงดูดแรงโจมตีได้มากมาย ในใจของเจียงเซ่อรู้ดี
เซี่ยเชาฉวินเองก็โทรหาคนนู้นคนนี้อยู่หลายสาย เพื่อให้คนลบข้อความเหล่านั้นทิ้งซะ
เรื่องมันลามมาขนาดนี้แล้ว บนอินเทอร์เน็ตก็วุ่นวายกันไปทั่ว และยังมีการปล่อยหัวข้อข่าวต่างๆ ออกมาไม่หยุด แต่เรื่องที่มันเป็นเรื่องจริงกลับไม่มีสื่อไหนออกมาพูดถึงเลยแม้แต่น้อย แต่ก็มีสำนักข่าวหลายๆแห่งโทรไปที่ซื่อจี้หยินเหอ และก็มีโทรไปหาจางฉือผู้ช่วยของเซี่ยเชาฉวิน เพื่อหวังที่จะล้วงข่าวจากจางฉือนั่นเอง และหวังว่าจะมีการณ์แถลงข่าวหรือออกมาพูดอะไรบ้าง
ทั้งเซี่ยเชาฉวิน หยางป๋อซีและจ้าวร่างต่างก็ใช้การติดต่อทางอื่น ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นหล่อนก็กำมือถือเดินเข้ามา
โม่อานฉียังนั่งหน้าแดงหูแดงและนั่งขบเคี้ยวฟันอยู่อย่างนั้น แต่เจียงเซ่อกลับยังนิ่งเฉยอยู่ได้ นั่งเงียบๆท่องบทหนัง ‘Evil’ วนไปวนมา
“เรื่องพวกนี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเน็ตเวิร์คด้วย ส่วนที่อยู่เจ้าของ IP ฉันให้คนไปตามสืบแล้ว มันเป็นเซิร์ฟเวอร์จากต่างประเทศ”
เรื่องจริงๆ ทั้งหมดนี้ มองดูก็รู้แล้วว่าต้องมีการวางแผนเอาไว้ ทำเป็นปล่อยข่าวเรื่องที่หลิวเย่และเจียงเซ่อจะร่วมงานกันก่อน เพื่อดึงดูดพวกชาวเน็ตและสื่อทั้งหลายให้หันมาสนใจ และหลังจากที่ทำให้เรื่องมันเป็นกระแสขึ้นมาได้แล้ว ก็ปล่อยให้พวกบริษัทเน็ตเวิร์คออกมาโพสข้อความต่างๆ นาๆ ทับเข้าไปอีกที
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือเจียงเซ่อได้ร่วมงานกับหลิวเย่ และอย่างไรเสียจุดยืนของเธอในตอนนี้ก็ยังต่ำกว่าหลิวเย่ ทำให้ความคิดเห็นและการคาดเดาที่ไม่มีที่มาที่ไปดึงดูดให้คนอื่นๆ ต้องคิดแบบเดียวกันได้ง่าย
เรื่องแบบนี้จะส่งผลเสียต่อตัวเจียงเซ่อมากๆ คงคิดที่จะใช้ประโยชน์จากคำวิจารณ์ของมวลชน เพื่อที่จะทำให้การร่วมมือครั้งแรกระหว่างเจียงเซ่อและหลิวเย่ไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้
“ฉันคิดว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงจะเป็น......”
เซี่ยเชาฉวินเคาะๆ มือถือลงบนหน้าขาตัวเอง และในที่สุดสายตาของเจียงเซ่อก็ละออกมาจากบทตรงหน้า และจ้องตากับเซี่ยเชาฉวินแทน ราวกับว่าทั้งสองคนรู้ดีอยู่แล้วว่าใครคือคนทำ
“เฝิงหนาน”
เจียงเซ่อพูดต่อจากหล่อน เซี่ยเชาฉวินพยักหน้า
“ใช่”
หล่อนยกขาขึ้นไขว้ และเปลี่ยนเป็นท่านั่งสบายๆ
“ตอนแรกเจียงหนานบันเทิงเองก็อยากจะได้บทหนังเรื่อง ‘Evil’ ไป สุดท้ายก็ได้ยินมาว่าเฝิงหนานลงทุนเขียนบทหนังเองขึ้นมาด้วย ชื่อเรื่อง ‘Revenge’”
ตอนนั้นที่ต่งหมิงเซิงของหัวโถวถอนทุนออกจาก ‘The Occasion of Beiping’ ไป ก็เพื่อที่จะไปลงทุนกับหนังใหม่อีกเรื่องนั่นเอง
“ถึงแม้ว่าตั้งแต่ตอนนั้นมาถึงตอนนี้ จะไม่มีข่าวคราวเรื่องบทหนัง ‘Revenge’ ที่เฝิงหนานเขียนออกมาเลย แต่ฟังดูจากชื่อเรื่องแล้ว คงจะต้องเป็นหนังประเภทเดียวกับเรื่อง ‘Evil’ แน่ๆ เจียงหนานบันเทิงเองก็คงจะเตรียมการเรื่องนี้มาโดยตลอด ฉันได้ยินมาว่า พวกเขาก็จะเริ่มถ่ายทำกันในปีนี้เหมือนกัน”
หรือพูดได้ว่า หนังทั้งสองเรื่องนี้มีโอกาสที่จะได้ออกฉายในเวลาไล่เลี่ยกัน หรืออาจจะชนกันเลยก็ได้ และมันก็จะเป็นโอกาสที่เฝิงหนานจะได้ลงมือ
“ฉันสอบถามมาได้อีกนิดหน่อย ว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน หล่อนมีการติดต่อกับบริษัทแห่งหนึ่งของต่างประเทศเอาไว้”
พอเซี่ยเชาฉวินพูดออกมาแบบนั้น เจียงเซ่อก็ยิ่งมั่นใจต่อสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัยในตัวเฝิงหนาน
เธอวางบทหนังลง เพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันน่าสนใจขึ้นมาแล้ว ที่จริงเฝิงหนานเองก็เริ่มลงมือทำสิ่งต่างๆ มานานแล้ว อย่างเช่นไปยั่วยุจูพ่าน แนะนำให้เธอไปเซ็นสัญญากับจวี้เฟิงบันเทิงอะไรแบบนั้น และมันก็ล้วนแล้วเป็นแผนสกปรกทั้งนั้น มันทำให้เธอรู้สึกรำคาญ และรู้สึกอยากจะหัวเราะด้วยความสมเพช
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูไม่ควรเก็บเอามาคิดแบบนี้ มันก็ทำอะไรเธอไม่ได้นักหรอก แต่เป็นเพราะว่าตัวตนของเฝิงหนานต่างหาก ที่ทำให้เจียงเซ่อรู้สึกรังเกียจ
แต่ตอนนี้เฝิงหนานเริ่มจะแผนสูงขึ้นมาหน่อย หล่อนรู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อให้มันเกิดประเด็น ใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ ในการกดเธอลง ต้องการให้เธอถอยเพื่อที่ตัวเองจะได้สูงขึ้น และเจียงเซ่อก็คิดว่านี่มันชักจะมากไปแล้ว
“เฝิงหนานเล่นสกปรกงั้นหรือ?”
พอโม่อานฉีที่นั่งอยู่ข้างได้ยินแบบนั้น ก็เกิดความไม่สบายใจขึ้นมา
“หรือว่าจะเป็นเรื่องในงานหนังภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ เพราะหล่อนกับเจียงเซ่อได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงเหมือนกัน แล้วบทคุณหนูเอกุชิที่หล่อนแสดงกับบทโต้วโค่วของเจียงเซ่อก็ถูกเปรียบเทียบกัน เพราะงั้นเลยใช้จังหวะนี้ดึงเจียงเซ่อลง?”
หล่อนพูดแบบนั้น คิ้วขมวดกันแน่น
“หรืออีกอย่าง คือนอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ระหว่างหล่อนกับเธอยังมีความแค้นเรื่องอื่นอีก?”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอโม่อานฉีพูดขึ้นมาแบบนั้นแล้ว เจียงเซ่อก็รู้สึกได้ทันทีว่าสายตาของเซี่ยเชาฉวินที่มองเธอมันดูเหมือนจะล้วงความลับอะไรให้ได้
ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า เซี่ยเชาฉวินก็ตีมือลง แล้วลุกขึ้นยืน
“เอาเถอะ ฉันนัดพวกสำนักข่าวเอาไว้ว่าจะให้สัมภาษณ์ นอกจากสามสำนักข่าวที่สำคัญๆ แล้ว เธอก็ลองเลือกอีกสักสองสำนักที่จะให้สัมภาษณ์มาละกัน”
เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่มากในโลกโซเชียล แต่เซี่ยเชาฉวินก็ยังคงดูใจเย็นเหมือนเดิม ราวกับว่าก็แค่เจอปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ในสำนักงานของสำนักข่าวหลงสิง ทั้งหัวหน้าบริษัท บรรณาธิการใหญ่และนักข่าวเล็กใหญ่ต่างก็กำลังนั่งประชุมกันอยู่ในห้องประชุม และหัวข้อคือการพิจารณาถึงประเด็นร้อนที่กำลังเดือดอยู่บนอินเทอร์เน็ตอย่างเรื่องที่หลิวเย่และเจียงเซ่อกำลังจะร่วมมือกัน
ทางหลิวเย่และซื่อจี้หยินเหอยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เรื่องราวยังคงยุ่งอีนุงตุงนังไปหมด หัวหน้าบริษัทยื่นมือไปเคาะโต๊ะ
“เท่าที่ฉันรู้มา ตอนนี้เซี่ยเชาฉวินกำลังเลือกสำนักข่าวไปให้สัมภาษณ์ นอกจากหัวเซี่ยจือซวิ้น สือไต้บันเทิงและอีกสำนักเป็นสามสำนักที่จะได้เข้าไปสัมภาษณ์ ก็ยังมีอีกสองสำนักที่จะได้รับเลือกให้เข้าไปด้วย ทุกคนจะต้องพยายามคว้าโอกาสนี้มาให้ได้เข้าใจไหม”
ในขณะที่หัวหน้ากำลังคุยกันอย่างจริงจัง แต่เถาเถาที่นั่งอยู่แถวหลังกลับกำลังเหม่อ
หล่อนขมวดคิ้ว ตอนนี้สิ่งที่กำลังพูดกันอยู่บนโลกโซเชียลมันไม่มีอันไหนดีต่อเจียงเซ่อเลย และมันก็ทำให้หล่อนกังวลเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น จนมาถึงตอนนี้ที่หัวหน้าเรียกมานั่งประชุมกันตรงนี้ เถาเถาก็เอาแต่แอบนั่งตามข่าวอยู่เรื่อยๆ ทั้งสิ่งที่เกี่ยวกับเจียงเซ่อและแอคเค้าท์ส่วนตัวของเจียงเซ่อ เพราะกลัวว่าจะพลาดข่าวอะไรไป
และบนนั้นมันก็เต็มไปด้วยคำด่ากระทบกระทั่งกันจนหล่อนรู้สึกเจ็บปวดใจแทน หล่อนได้เคยเจอเจียงเซ่อตัวจริงมาแล้วสองครั้ง และหล่อนก็รู้สึกเชื่อในตัวเจียงเซ่ออย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ หล่อนเชื่อว่าเจียงเซ่อต้องไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ๆ คำวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตมันทำให้หล่อนรู้สึกโมโหจนต้องกัดฟันแน่น
หัวหน้ากองบก.ยังคงกำชับให้ทุกคนพยายามคว้าโอกาสนี้มาให้ได้ เถาเถาเองก็ยังคงอาศัยในช่วงที่ทุกคนไม่ได้สังเกต แอบเปิดมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แต่หล่อนก็ต้องตกตะลึงไป และเผลอตะโกนขึ้นมาทันที
“พี่ฟานคะ!”
หัวหน้ากองบก.ที่กำลังพูดอยู่ถูกพูดขัดขึ้นมา สายตาของเขาจดจ้องไปที่ตัวหล่อน แถมยังดูไม่พอใจเป็นอย่างมากด้วย
คนรอบๆ ห้องต่างก็มองไปที่หล่อนด้วยความแปลกใจและกังวล เพราะตอนนี้หัวหน้าคิ้วขมวดเรียบร้อยแล้ว ท่าทางดูเคร่งเครียดจริงจังไม่น้อย
เถาเถาเหมือนได้สติขึ้นมา และเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป ก็อดกลัวขึ้นมาเสียไม่ได้ หล่อนค่อยๆยกมือถือขึ้นมา
“หญิงสาวในฝันของหนูลงบทความแล้วค่ะ”
หล่อนยังสั่นๆ ท่าทางของหล่อนดูตื่นเต้นไม่น้อย จากนั้นก็เปิดไปที่แอคเค้าท์ของหลิวเย่อีก
“หลิวเย่เองก็เคลื่อนไหวแล้วค่ะ หญิงสาวในฝันของหนูบริสุทธิ์จริงด้วย!”
ตอนที่เถาเถาพูดแบบนั้นขึ้นมา หล่อนยืดหลังตรง ท่าทางเหมือนความกลุ้มที่มีอยู่ในใจมันได้ผ่อนออกไปแล้ว
“พวกคุณดูสิ หลิวเย่ออกมาเคลื่อนไหวในแอคส่วนตัวของเขาเลย!”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบเขยิบเข้าไปดูทันที หลิวเย่ลงข้อความลงบนนั้นจริงๆ
ในที่สุดข่าวลือก็จบลงสักที!